ข้าตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเช้าก่อนจะเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันและสวมชุดใหม่เพื่อเตรียมตัวไปยังหอเก็บตำรา
ในตอนเช้าที่มีไอหมอกจางๆลอยวนอยู่บนพื้นหญ้าผู้ชนะทั้งสิบอันดับแรกต่างก็มาพร้อมหน้าพร้อมตาและเดินตามองครักษ์ของวิหารศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนายไปยังหอเก็บตำรา
เส้นทางบนเนินเขาที่คดเคี้ยวนั้นเต็มไปด้วยก้อนหินและต้นหญ้าที่มีน้ำค้างเกาะอยู่เต็มไปหมด
ซูเหยียนและถังเชวียหรานต่างสวมรองเท้าหนังที่ซื้อมาใหม่และกระโปรงสั้นที่คล้ายคลึงกันเรียวขาอวบอิ่มและเรียวยาวคู่นั้นช่างงดงามจริงๆแม่นางทั้งสองที่ปล่อยผมยาวสยายให้พัดพลิ้วไปตามแรงลมกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานซึ่งทำให้ถงจั๋วยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะถามขึ้น “สหายปู้ ปกติเ้าก็อยู่กับพวกนางแบบนี้น่ะเหรอ?”
ข้าพยักหน้ารับก่อนจะถามกลับ“อืม ทำไมเหรอ?”
เขาได้ยินแบบนั้นจึงทำสีหน้าเหมือนชอบใจก่อนจะพูดต่อ“เ้าอยู่แบบนี้มาเป็ปี ต่อให้ตายก็คุ้มแล้วล่ะ...”
ข้าปรายตามองเขาพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้น“เ้านี่มันจริงๆ เลย ฮ่าๆๆ”
“ฮ่าๆๆ”
พอหันกลับไปมองฟางชิงยวนมู้เซวี่ยนและคนอื่นๆ ก็ดูเหมือนว่าจะเงียบลงมากตอนนี้ฟางชิงยวนได้เปลี่ยนชุดใหม่เป็ชุดคลุมสีเขียวอ่อนและหลังจากที่ปราณิญญาถูกทำลายไปแล้วก็ดูเหมือนว่าพลังในร่างกายของเขาจะลดลงไปมากแถมยังจะดูเป็คนดีขึ้นกว่าเดิมเสียอีก สายตาที่เขามองข้าไม่ได้มีความรู้สึกที่โหดร้ายเหมือนเก่าแต่กลายเป็สายตาที่เคร่งขรึมแทนทว่าการที่เขามองแบบนี้กลับทำให้ข้ารู้สึกไม่เป็สุขมากกว่าเดิม
...
ณชายเขา
ตำหนักไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาบที่ทอดยาวออกไปเหมือนกระจกซึ่งมันเป็สิ่งที่พวกเราต่างก็นึกไม่ถึงว่าวิหารศักดิ์สิทธิ์จะสร้างหอตำราไว้กลางผืนน้ำแบบนี้ซึ่งผืนน้ำที่ใสเหมือนกระจกได้สะท้อนเงาของต้นหลิวที่อยู่รอบๆ อย่างสวยงาม
บริเวณชายฝั่งข้างผืนน้ำมีทหารองครักษ์ยืนเรียงรายห่างกันทุกๆสิบก้าวเดิน และเมื่อมองออกไปเป็ปลายหอกที่แหลมคมตั้งเรียงรายกันเป็แถวขนาดนี้ จึงรู้ได้ทันทีว่าที่นี่มีการอารักขาอย่างแ่ายิ่งกว่าวิหารหลักเสียอีก
“ถึงแล้ว พวกเ้าเข้าไปเถอะ”
องครักษ์ทั้งสองนายส่งพวกเราอยู่แค่หน้าประตูก่อนจะพูดขึ้น
แอ๊ด...
หลังจากประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกก็เผยให้เห็นร่างของชายแก่ในชุดคลุมยาวสีเทาขณะถือสมุดรายชื่อไว้ในมือพลางกับหรี่ตามองข้าก่อนจะพูดขึ้น“คนรุ่นใหม่นี่ช่างดูมีกำลังวังชากันดีจริงๆ เลยนะเข้ามาสิ...เอาสายรัดผูกิญญามาให้ข้าด้วยล่ะ”
“ขอรับ”
เมื่อมองดูชุดที่เขาสวมใส่แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาจะเป็หนึ่งในผู้าุโเช่นกันเพราะพลังในตัวบอกให้รู้ว่าเขามีพลังที่ลึกล้ำจนยากจะคาดเดาทั้งยังมี่การหายใจที่ยาวนานสิบห้าถึงสิบหกวินาทีเลยทีเดียวหลังจากที่เขามองสายรัดผูกิญญาของข้าแล้วก็พูดขึ้น “สามอันดับแรกขึ้นไปชั้นกลางส่วนคนที่เหลือก็แยกย้ายกันไปเลือกตำราอยู่ในชั้นนี้แหละ!”
“ขอรับ”
ข้าซูเหยียนและฟางชิงยวนเดินตามบันไดขึ้นไปยังชั้นที่สองของหอเก็บตำราซึ่งเมื่อขึ้นมาถึงแล้วก็เจอท่านผู้าุโที่สวมชุดคล้ายคลึงกันยืนอยู่ด้วยสายตาที่เป็มิตร“อันดับที่หนึ่งขึ้นไปชั้นบนสุดได้เลย”
“ขอบคุณขอรับ ท่านผู้าุโ”
ข้าหันไปยิ้มให้กับซูเหยียนก่อนจะเดินตามบันไดขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งของหอเก็บตำราซึ่งมีกลิ่นอายเก่าแก่ของตำหนักไม้ลอยคลุ้ง พอขึ้นมาถึงก็เจอกับผู้าุโท่าทางงกๆเงิ่นๆ และถือไม้เท้ายืนอยู่เบื้องหน้าถึงแม้ว่าเขาจะมีหนวดเคราที่เปลี่ยนเป็สีขาวทว่าิักลับเปล่งปลั่งดุจวัยรุ่นหนุ่มสาวก็ไม่ปานเขาเห็นข้าขึ้นมาแล้วจึงพูดขึ้นด้วยแววตาที่เปล่งประกาย “เ้าหนุ่มเ้าคงจะเป็ผู้ชนะอันดับที่หนึ่งของการประลองที่ชื่อปู้อี้เชวียนสินะ?”
“ใช่ขอรับ ท่านผู้าุโ”
“ไปเลือกตำราสิ”
ท่านผู้าุโท่านนั้นเดินลากเท้าไปนั่งลงบนเก้าอี้หวายตัวใหญ่ช้าๆก่อนจะพูดขึ้น “ด้านซ้ายเป็ชั้นของตำราวรยุทธ์ิญญาลับขั้นสุดยอดที่หลายๆเล่มต่างก็ไร้ผู้สืบทอดและสูญหายไปจากโลกภายนอกมานานส่วนชั้นวางด้านขวาเป็ตำราขั้นสูงและขั้นหนึ่ง เ้าเดินไปเลือกดูเองแล้วกันแต่อย่าลืมล่ะว่าเอาออกไปได้แค่เล่มเดียวเท่านั้น”
“ขอบคุณท่านมากขอรับ ท่านผู้าุโ”
ข้าโค้งตัวคำนับและหันไปดูชั้นวางด้านซ้ายก่อนเพราะถึงอย่างไรก็ต้องดูฝั่งตำราขั้นสุดยอดก่อนอยู่แล้ว
ซึ่งชั้นนี้เป็ชั้นวางที่ทำจากต้นโอ๊คซึ่งเริ่มมีกลิ่นของความเก่าแก่แต่ก็ยังมีการทำความสะอาดบนชั้นวางมีม้วนตำราที่วางเรียงกันอยู่เจ็ดแปดเล่มและมีตัวอักษรเขียนอธิบายไว้ด้านล่าง
ตำราฝ่ามือขจัดเทพการฝึกฝนวรยุทธ์ฝ่ามือขั้นสุดยอดที่มีการเคลื่อนพลังด้วยการใช้พลังิญญาที่บริสุทธิ์ทรงอานุภาพ พลังทำลายล้างสูงเหมาะสำหรับจอมยุทธ์ระดับกลางของขั้นผู้พิทักษ์ระดับพิภพขึ้นไป
พลังราชันกายาทองตำราขั้นสุดยอดด้านการป้องกันที่มีการหลอมรวมมาจากพลังิญญานับร้อยดวงและจะทำให้ร่างกายของผู้ฝึกฝนไม่ย่อยสลายเมื่อฝึกฝนจนเข้าขั้นเซียนแล้วสามารถอยู่เป็ะเป็วรยุทธ์ที่ทำให้สูญเสียพลังิญญาค่อนข้างมากเหมาะสำหรับจอมยุทธ์ระดับกลางของขั้นผู้พิทักษ์ระดับดวงดาวขึ้นไป
เคล็ดวิชาัคชสารพลังภายในขั้นสุดยอด เป็วรยุทธ์ที่แฝงไปด้วยพลังของัคชสารโบราณเมื่อฝึกฝนจนเข้าขั้นเซียนแล้วจะแข็งแกร่งจนสามารถทำลายฟ้าดินได้เหมาะสำหรับจอมยุทธ์ระดับต้นในขั้นผู้พิทักษ์ระดับพิภพขึ้นไป
นอกจากนั้นก็จะเป็พวกหมัดทะลวงอากาศดาบขจัดเวท วิชาปืนไฟนักล่าและวรยุทธ์อื่นๆ ทว่าแต่ละเล่มล้วนไม่ใช่สิ่งที่ข้า้าเลยสักนิดเพราะข้ามีพลังของวิชาลมหายใจัเป็พลังภายในอยู่แล้วส่วนพลังการป้องกันก็มีพลังกายาทองคำซึ่งพลังของมันก็คงจะกล้าแกร่งไม่แพ้พลังในตำราราชันกายาทองนี้เลยเหมือนกันดังนั้นสิ่งที่ข้า้ามากที่สุดในตอนนี้ก็คงจะเป็ตำราเพลงกระบี่ที่ข้าสามารถนำมาได้อย่างไม่หมดไม่สิ้นมากกว่า!
เพราะเหตุนั้นข้าจึงถอยออกจากชั้นวางตำราขั้นสุดยอดแล้วหันไปทางชั้นวางตำราขั้นสูงและขั้นหนึ่งแทน
“หืม?”
ท่านผู้าุโที่สวมชุดสีเทาท่านนั้นเงยหน้ามองข้าพักหนึ่งก่อนจะก้มลงไปอ่านตำราในมือเล่มนั้นต่อแต่สิ่งที่มากไปกว่านั้นเมื่ออยู่ดีๆ เขาก็กระตุกยิ้มอย่างน่าสงสัย
...
ข้ากวาดตามองตำราหลายๆม้วนที่วางอยู่บนชั้นทีละเล่มดูเหมือนตำราของวิหารศักดิ์สิทธิ์จะมีมากกว่าที่ร้านหอเจ็ดเทพอย่างมากเพราะแค่ตำราขั้นหนึ่งก็มีถึงร้อยกว่าม้วนจนไม่สามารถไล่ดูได้อย่างละเอียดแต่เมื่อมองเผินๆแล้วกลับพบว่าในร้อยกว่าเล่มนี้ไม่มีตำราที่เป็เพลงกระบี่เลยสักม้วน!
ดูเหมือนว่าตำราวรยุทธ์ิญญาเกี่ยวกับเพลงกระบี่จะหายากมากๆเลยสินะ!
ข้าหันกลับไปมองชั้นหนังสือด้านหลังด้วยความผิดหวังซึ่งชั้นที่ข้ากำลังมองอยู่ตอนนี้คือชั้นของตำราขั้นสูงที่มีวิชากลืนเมฆาวิชาเมฆาเหมันต์ เคล็ดวิชาสังหารั เพลงดาบทะลวงหิน และวิชาอื่นๆที่เป็วรยุทธ์ทางด้านร่างกาย กำลังภายใน พลังดาบและวรยุทธ์อื่นๆ อีกมากมายแต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีวรุยทธ์ที่ข้า้าอยู่ดี
แต่ในตอนนี้เองสายตาของข้าก็ไปสะดุดอยู่ตรงชั้นวางโล่งๆซึ่งม้วนตำราไม่ได้อยู่้าแต่เหลือไว้เพียงข้อมูลของตำราที่เขียนไว้อย่างชัดเจนก็เท่านั้น
เพลงกระบี่ดินแดนหิมะเคล็ดวิชาวรยุทธ์ขั้นสูงที่เคลื่อนพลังด้วยพลังไอเย็นของพลังิญญาธาตุน้ำแข็งอันแข็งแกร่งเมื่อฝึกฝนถึงขั้นสูงก็จะมีพลังที่น่าเกรงขามจนสามารถแยกูเาได้เหมาะสำหรับจอมยุทธ์ระดับกลางของขั้นผู้พิทักษ์ระดับพิภพขึ้นไป
ในที่สุดข้าก็หาสิ่งที่ตัวเอง้าเจอจนได้แต่...แต่ทำไมถึงไม่มีม้วนตำราวางอยู่บนชั้นนี้ล่ะ มันหายไปไหนกัน!?
ข้ารู้สึกผิดหวังอย่างที่สุดเพราะชั้นวางตำราทั้งสามชั้นมีตำราวรยุทธ์ิญญาเกี่ยวกับเพลงกระบี่เพียงแค่ม้วนเดียวเท่านั้น!และมันยังเป็ถึงเพลงกระบี่ขั้นสูงเมื่อใดที่ข้าฝึกฝนสำเร็จก็จะทำให้พลังของข้ามีมากกว่าพลังของเพลงกระบี่โลกชิตของฟางชิงยวนและพลังกระบี่เวหาเหมันต์ของหยู่เหวินชิงอีกต่างหากซึ่งถือเป็สิ่งที่สำคัญต่อข้ามากๆ เพราะถ้าไม่มีเพลงกระบี่ขึ้นสูงก็คงไม่ต้องพูดถึงอนาคตที่ข้าอยากจะเป็าากระบี่แห่งแผ่นดินหลงหลิงนี้เลยก็ว่าได้!
พอคิดได้แบบนั้นข้าก็อยากจะเปิดหน้าต่างแล้วะโลงน้ำตายให้รู้แล้วรู้รอด
ทว่าในตอนนี้เองท่านผู้าุโท่านนั้นก็หันมามองข้าด้วยสีหน้าที่สับสนและไม่เข้าใจ
ข้าขมวดคิ้วเข้มก่อนจะดึงแผ่นกระดาษที่มีชื่อเพลงกระบี่ดินแดนหิมะออกมาแล้วเดินไปถามท่านผู้าุโอย่างนอบน้อม“ท่านผู้าุโขอรับข้าน้อยอยากทราบว่าทำไมตำราม้วนนี้ถึงหายไปล่ะขอรับ...ข้า้าแค่ตำราม้วนนี้จริงๆ!”
“หืม?”
เขาเงยหน้าขึ้นมองข้าอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้น“เ้าหนุ่ม ตรงนั้นมีตำราวรยุทธ์ิญญาขั้นสุดยอดตั้งมากมายเ้ากลับไม่้าแต่กลับมาถามหาตำราที่เป็แค่วรยุทธ์ิญญาขั้นสูงเนี่ยนะ?”
ข้าได้ยินแล้วก็ตอบกลับไป“ถึงแม้วรยุทธ์ิญญาพวกนั้นจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่เหมาะกับข้าเลยสักนิดและต่อให้ตำราม้วนนั้นที่ข้า้าจะเป็เพียงวรยุทธ์ิญญาขั้นสูงแต่ก็เหมาะกับข้าที่เป็ผู้ฝึกฝนิญญาแขนงการใช้กระบี่มากที่สุดและข้าเองก็คิดว่าขั้นของวรยุทธ์ไม่ได้สำคัญไปกว่าความเหมาะสมของผู้ฝึกฝนอีกด้วยขอรับ”
“ดี!”
ท่านผู้าุโมองข้าด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความชอบใจก่อนจะพูดขึ้น“ทั้งที่ยังเด็กแต่กลับรู้จักแบ่งแยกและเลือกหาสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองและไม่ละโมบอย่างเ้าหาได้ยากนัก ข้ายอมรับเลยว่าชอบคนอย่างเ้ามากจริงๆถึงแม้วิหารศักดิ์สิทธิ์จะจัดการประลองขึ้นทุกๆสามปีและมีผู้ชนะอันดับหนึ่งมาแล้วมากมาย แต่ในที่สุดครั้งนี้ก็มีผู้ชนะที่เหมาะสมจริงๆเกิดขึ้นสักที!”
ข้าชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดก่อนจะถามต่อ“ตำราเพลงกระบี่ดินแดนหิมะม้วนนี้ไม่มีอยู่แล้วจริงๆ เหรอขอรับ ท่านผู้าุโ?”
เขายิ้มบางๆก่อนจะถามกลับ “เ้าอยากจะได้แค่ตำราม้วนนั้นจริงๆ เหรอ?”
“ถูกต้องขอรับ ข้ารู้ตัวดีว่าตัวเองอยากได้อะไร”
“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นก็ตามข้ามาได้เลย”
“ขอรับ...”
เขาค่อยๆลุกขึ้นช้าๆก่อนจะเดินไปพร้อมกับไม้เท้าที่ค้ำยันร่างเอาไว้แล้วเดินตรงไปยังส่วนลึกของห้องเก็บตำราแห่งนี้ถึงแม้จะมีเสียงของไม้เท้าที่กระทบไปบนพื้นดัง ต๊อก ต๊อก ต๊อก ข้ากลับไม่รู้สึกรำคาญแต่รู้สึกว่าเป็เสียงที่ทำให้จิตใจสงบและตัดขาดจากโลกภายนอกที่แสนวุ่นวายแทนแม้จะเป็ความรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ทำให้จิตใจมุ่งเน้นไปที่มันอย่างบอกไม่ถูก
แอ๊ด...
เมื่อท่านผู้าุโเปิดประตูไม้ออกก็เผยให้เห็นโต๊ะไม้สีแดงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีกลีบไม้ไผ่เล็กๆถูกแกะสลักเป็รูปไพ่นกกระจอกอยู่ตรงกลาง และมีเก้าอี้ไม้สี่ตัวตั้งเรียงอยู่รอบๆ
ฮึๆ...
เขาหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะก้มตัวลงไปหยิบตำราวรยุทธ์ิญญาที่มีผ้าห่อเอาไว้และรองขาโต๊ะไม้ตัวนั้นขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่ไร้ซึ่งพิษภัย“วันก่อนข้ากับผู้าุโอีกสามท่านมาเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกันจึงเอาตำราเพลงกระบี่ดินแดนหิมะมารองขาโต๊ะเอาไว้เ้าเองก็อย่าได้ถือสาเลยนะ...”
ข้าเกือบจะกระอักเืเมื่อได้ยินก่อนจะรับตำราม้วนนั้นมาด้วยมือที่สั่นเทาพอเปิดออกดูก็พบว่าด้านในมีพลังิญญาที่แข็งแกร่งลอยวนเวียนอยู่และเมื่อข้าคลี่มันออกมาจนสุดพลังิญญาที่อยู่ด้านในตำราก็พุ่งทะยานขึ้นมาด้วยพลังกระบี่ที่แข็งแกร่งและชนเข้ากับยอดหลังคาของหอเก็บตำราจนทะลุแล้วสลายกลายเป็ไอเย็นปกคลุมไปทั่วบริเวณ
ซีด...
ข้าถึงกับตัวสั่นและหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อได้รับพลังของมันก่อนจะรู้ว่าแขนทั้งสองข้างได้กลายเป็น้ำแข็งไปแล้วพลังไอเย็นที่ออกมาช่างแข็งแกร่งยิ่งนักนึกไม่ถึงเลยว่าพลังเพียงแค่กระจุกเดียวจะทำให้ร่างกายของข้าแข็งไปกว่าครึ่งท่อนแบบนี้
เมื่อเป็แบบนั้นข้าจึงรีบเคลื่อนพลังลมปราณเพื่อสร้างไอร้อนให้แก่ร่างกายซึ่งจะสลายไอเย็นที่จับอยู่ทั่วตัว ก่อนจะกลับมาขยับได้อย่างอิสระอีกครั้ง
ท่านผู้าุโเงยหน้าขึ้นมองยอดหลังคาที่เป็รูโหว่ก่อนกลับมามองหน้าข้าแล้วถามขึ้น“เ้าหนุ่ม จะทำยังไงล่ะทีนี้?”
ข้าลูบหัวแก้เขินก่อนจะเก็บตำราของเพลงกระบี่แดนหิมะไว้ในแหวนกระดูกจักรภพแล้วพูดขึ้น“ข้าจะช่วยซ่อมหลังคาให้ท่านเดี๋ยวนี้แหละขอรับท่านผู้าุโ...ว่าแต่ท่านมีบันไดหรือเปล่าขอรับ?”
ท่านาุโยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะถาม“ถ้าใช้บันไดแล้วเ้าจะมีวิชาตัวเบาไว้ทำไมล่ะ?”
ก็จริงอย่างที่ท่านว่า!
...
หลังจากเปิดหน้าต่างรับลมแล้วข้าก็ะโขึ้นไปบนยอดหลังคาที่กระเบื้องได้แตกออกจนกลายเป็รูโหว่กว้างกว่าครึ่งเมตร
ข้าลงมาเอาแผ่นไม้และกระเบื้องด้านล่างแล้วกลับขึ้นไปอีกครั้งและเริ่มซ่อมแซมยอดหลังคา ซึ่งตอนนี้เองก็มีร่างของหญิงงามที่อยู่ในชั้นกลางของหอตำรายื่นหน้าออกมาถามข้าด้วยความสงสัย“เ้าขึ้นไปสูงขนาดนั้นทำไมฮะ เ้าคนกินจุ?”
“ซ่อมหลังคาไงล่ะ เ้าไม่เห็นหรือไง?”
ซูเหยียนถึงกับพูดไม่ออก
คนที่อยู่ชั้นล่างสุดอย่างถงจั๋วถังเชวียหรานและหวังซงต่างส่งเสียงร้องออกมาพร้อมๆ กัน “ฮะ!?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้