“ข้ามาแล้วเ้าค่ะ ท่านพี่ให้คนไปตามข้า มีเื่ใดรึเ้าคะ” หญิงสาวพูดพลางหันมองไปรอบ ๆ พบเหล่าทหารและคนใช้มาจับจ้องมองมาเป็สายตาเดียวกัน ก่อนนางจะหันไปยังโม่โฉวแล้วเอ่ยขึ้น
“ต้องเป็เื่สำคัญใช่หรือไม่เ้าคะ” นางถามพลางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ กลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจจับนางกรอกยาพิษให้ตายตกไปตามคนรักของเขา ก่อนโม่โฉวจะลุกขึ้นแล้วเดินมาหาเสี่ยวเฟย
“เื่ที่เ้าลงมือสังหารเซียนเยว่กับลูกในครรภ์นั้น เป็เื่ร้ายแรง” ก่อนเสี่ยวเฟยจะรีบสวนขึ้น
“ท่านสัญญาแล้วไง ว่าจะไม่ทำร้ายข้า พูดเช่นนี้จะกลับคำงั้นเหรอ”
“ไม่มีผู้ใด ที่ทำผิดแล้วจะไม่โดนลงโทษ” เสี่ยวเฟยกลืนน้ำลายด้วยความหวาดหวั่น พร้อมทั้งโม่โฉวหันไปยังทุกคนในที่นั้นแล้วประกาศขึ้นด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
“จากการที่เสี่ยวเฟยทำผิดร้ายแรงโดยการวางยาฆ่าเซียนเยว่กับลูกในครรภ์ แม้จะเว้นโทษตายเพราะเห็นแก่สกุลของนางที่สร้างคุณงามความดีให้กับแผ่นดินมากมาย แต่ในฐานะที่ข้าเป็สามีของนาง เมื่อนางทำผิด นางก็ต้องได้รับโทษ ข้าจะลดขั้นนาง จากภรรยาเอก เหลือเพียงแค่ภรรยาในนามเท่านั้น และนางจะไม่มีวันมีทางยาทให้กับตระกูลจ้าวเป็อันขาด” สิ้นเสียงประกาศ เหล่าทหารและสาวใช้ พากันปรบมือแสดงความดีใจออกมาอย่างเซ็งแซ่
“ในเมื่อพวกท่านดีใจกันเช่นนี้ ข้าก็จะไม่ขัดศรัทธา ข้ายินดีคืนตำแหน่งภรรยาเอกให้เ้าค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มิได้ใส่ใจตำแหน่งภรรยาเอกเท่าใดนัก
หากเป็เมื่อก่อนฮูหยินเสี่ยวเฟยคงแดดิ้นไม่ยอมให้โม่โฉวประกาศตัดสัมพันธ์ต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ เพราะศักดิ์ศรีและความอยากเอาชนะ ฝังรากลึกจนแก้ไม่ได้ เสี่ยวเฟยเดินฮัมเพลงกลับไปยังเรือนของตัวเองพร้อมมู่เลี่ยน ทว่านางเริ่มรู้ใจนายหญิงมากขึ้น จึงยิ้มกว้างออกมา
“เกือบไปแล้วนะเ้าคะ”
“เกือบอะไร”
“ท่านเกือบทำให้ทุกคน สงสัยว่าการถูกปลดจากตำแหน่ง ไม่ได้ทำให้ท่านเ็ปแม้แต่น้อย”
“ข้าว่าข้าเก็บอาการดีแล้วเชียว” เสี่ยวเฟยยิ้มแห้ง ก่อนมู่เลี่ยนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“โชคดีที่ไม่มีใครจับได้ แต่จะว่าไปสีหน้าของนายท่าน ดูจะผิดหวังไม่น้อยเหมือนกันนะเ้าคะ” เสี่ยวเฟยขมวดคิ้ว
“ใบหน้าเช่นนั้นรึ ที่แสดงความผิดหวัง หึ! ข้ามองไม่ออกหรอก ว่าเขารู้สึกเช่นไร กระทั่งเขาตวาดใส่ข้านั่นแหละ ถึงรู้ว่าไม่พอใจ” ทั้งสองเดินกลับเรือน พร้อมเสียงหัวเราะคิกคักไปตลอดทาง ไม่รอดพ้นสายตาของเจ่าเจา ที่ถูกสั่งให้จับตามองฮูหยินไว้ไม่ให้คาดสายตา
หลังจากกลับเข้าเรือนไป มู่เลี่ยนจัดการปิดประตู หน้าต่างอย่างแ่า ด้านในส่องสว่างด้วยโคมไฟและแสงเทียน บัดนี้ภายในเรือนเหลือเพียงหญิงสาวสองคน อยู่กันตามลำพังเท่านั้น มู่เลี่ยนเห็นว่าเหมาะแก่การเจรจา จึงค่อย ๆ รินชาใส่ถ้วย แล้วยื่นให้นายหญิงด้วยกิริยาอ่อนน้อม
“ข้าดีใจที่เห็นนายหญิงมีความสุข ตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านไม่เคยมีความสุขเช่นนี้มาก่อน นายหญิงเ้าคะ สัญญากับข้าได้หรือไม่ ว่าหากความจำทุกอย่างของท่านกลับคืนมา ท่านอย่ากลับไปเป็ฮูหยินเสี่ยวเฟยคนเก่าอีก เพราะมีแต่ความทุกข์ อ้างว้าง และโดดเดี่ยว ในทุก ๆ คืนท่านมักจะนอนละเมอ กลัวว่าใครต่อใครจะแย่งความรักของนายท่านไป” มู่เลี่ยนจับมือนายหญิงของตัวเองแน่น พร้อมสายตาสั่นไหวแสดงการขอร้อง
หลังจากเสี่ยวเฟยฟื้นจากความตาย มู่เลี่ยนก็ไม่เคยเห็นนางนอนละเมออีก ก่อนนายหญิงจะยิ้ม แล้วตอบรับด้วยถ้อยคำอ่อนโยน
“มู่เลี่ยน เ้าวางใจเถิด ชาตินี้ทั้งชาติ ข้าไม่สามารถจดจำเื่ราวเก่า ๆ ได้หรอก” เสี่ยวเฟยพูดพร้อมความคิด จะจำได้อย่างไร ในเมื่อจิตใจนี้คือจื่อหลาน ไม่มีความทรงจำของเสี่ยวเฟยหลงเหลืออยู่แม้เพียงนิด ก่อนนางจะพูดต่อ
“เสี่ยวเฟยคนเก่าตายไปนานแล้ว นับจากนี้ ข้าจะเป็เสี่ยวเฟยคนใหม่ ที่จะไม่มีวันทำร้ายผู้ใดอีก” คำพูดของนายหญิง ทำให้มู่เลี่ยนไม่อาจกลั้นน้ำตาแห่งความปลื้มใจไว้ได้
“สัญญากับข้านะเ้าคะ ว่าจะไม่ทำร้ายผู้ใดอีก”
“ข้าสัญญา” หญิงสาวยกมือขึ้นสัญญา ทว่าสาวใช้เอียงศีรษะเพราะไม่เข้าใจสัญญาณมือของนาง
“หากข้าทำแบบนี้ แสดงว่าข้ากำลังสัญญากับเ้า” พูดแล้วหญิงสาวก็เกี่ยวก้อยสัญญากับอีกฝ่าย พลางยกชาขึ้นดื่มอย่างสบายใจ
“มู่เลี่ยนเ้าคิดเช่นไร หากข้าอยากไถ่โทษ ที่ทำให้โม่โฉวต้องสูญเสียลูกเมีย” คำพูดประหลาดของนายหญิง ทำให้มู่เลี่ยนเอียงศีรษะอีกครั้งด้วยความแปลกใจ
“ไถ่โทษงั้นรึเ้าคะ”
“ใช่”
“ไถ่โทษเช่นไร เ้าคะ”
“ข้าจะออกจากจวน ไปตระเวนหาสาวงามมาให้เขาเลือกสักคนสองคน ถ้าเขาถูกชะตากับผู้ใด ข้ายินดีให้เขายกนางขึ้นเป็ภรรยาเอก หากเขามีรักใหม่ ก็อาจจะลบล้างความเ็ปในใจเขาได้บ้าง เ้าว่าดีหรือไม่” มู่เลี่ยนได้แต่อ้าปากค้างให้กับความคิดของนายหญิง
“ว่าไง เ้าคิดเห็นเช่นไร” นางถามย้ำ ก่อนสาวใช้จะส่ายศีรษะไปมา
“ข้าเกรงว่าความหวังดีของท่าน จะทำให้นายท่านโกรธ นายท่านเป็คนจริงจัง หากรู้ว่านายหญิงคิดแผนนี้ขึ้นมา ท่านจะโดนทำโทษเอาได้”
