ความอ่อนนุ่มของฟูกที่มิได้ััมาเนิ่นนาน ทำให้หนีเจียเอ๋อร์ไม่อยากจะตื่นจากฝันหวานนี้เลยจริงๆ แต่จู่ๆ นางก็ลืมตาพรึบ เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้โจวชิงหวากำลังาเ็อยู่ และ้าคนดูแล
หญิงสาวผุดลุกขึ้น พลางกวาดตามองไปทั่วบริเวณด้วยความงุนงง... พบว่าตัวเองอยู่ภายในห้องอันเรียบง่าย ดูสบายปลอดโปร่ง จึงลุกขึ้น เดินออกจากห้องด้วยความระแวดระวัง
พอออกมาก็เจอลานขนาดกำลังพอเหมาะ ซึ่งขนาบไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ที่ส่งกลิ่นหอมสดชื่นไปทั่วบริเวณ
ตรงกลางสวน ยังมีศาลาเล็กกลางน้ำ สะพานเชื่อม ธารน้ำใส และไอหมอก ภาพตรงหน้าช่างดูงดงามดุจดั่งความฝัน
หนีเจียเอ๋อร์มองภาพตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยพึมพำอย่างตกตะลึง “เหมือนแดนแห่งเซียนเลย!”
“ตื่นแล้วหรือ?”
จู่ๆ น้ำเสียงทุ้มนุ่มก็ดังมาจากด้านหลัง
หญิงสาวหันขวับไปมองทันที ก็พบเข้ากับบุรุษที่มีรูปลักษณ์งดงามประหนึ่งหยกสลัก กิริยาท่าทางสง่า ราวกับเชื้อพระวงศ์ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาเป็อย่างดี ทำให้นางรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
อาภรณ์สีขาวสะอาดตา ยิ่งเสริมให้ภาพลักษณ์ของคนตรงหน้า เหมือนดั่งเทพบน์ชั้นฟ้า
หนีเจียเอ๋อร์ยืนตะลึงงัน ก่อนส่ายหน้าเพื่อเรียกสติตัวเอง เมื่อเห็นว่าบุรุษผู้นั้นกำลังเดินตรงเข้ามาหา “คุณชาย ท่านเป็คนช่วยพวกเราไว้หรือเ้าคะ?”
“ใช่!” ควงเหยายกยิ้ม พลางตอบ
“ขอบคุณเ้าค่ะ! แต่ว่าคุณชาย ท่านช่วยนำทางข้าไปหาพี่ชายหน่อยจะได้หรือไม่?”
“ตามมาสิ” ชายหนุ่มเอ่ย แล้วหันหลังเดินย้อนกลับไปทางเดิม
หนีเจียเอ๋อร์ลอบมองแผ่นหลังกว้าง ในใจพลันนึกไปถึงเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่ตนรู้จัก ทั้งฮ่องเต้แห่งแคว้นฉีหลานและองค์ชายสามมู่หรงจิ่งหลี... คนตรงหน้า ให้ความรู้สึกเหมือนกับพวกเขา
บุรุษผู้นี้เป็ใครกัน?!
นางสาวเท้าเดินเร็วขึ้น “คุณชายเ้าคะ นี่คือที่ใดหรือ?”
ควงเหยาตอบ “ที่นี่เป็ที่พำนักของข้า”
หญิงสาวเปลี่ยนคำถาม “ที่นี่คือทางตอนเหนือของดินแดน ใช่หรือไม่เ้าคะ?”
อีกฝ่ายพยักหน้า
หนีเจียเอ๋อร์จึงถามอีกว่า “แล้วคุณชายรู้หรือไม่เ้าคะ ว่าสำนักอิ้นเสวี่ยอยู่ที่ใด?”
ควงเหยาปรายตามองนางครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “ที่นี่ก็คือสำนักอิ้นเสวี่ยอย่างไรเล่า...”
หญิงสาวเบิกตากว้าง พลางถามด้วยความตื่นเต้น “แล้วท่านมีตำแหน่งใดในสำนักหรือเ้าคะ? ท่านเป็หมอหรือ? ช่วยพาข้าไปพบท่านเ้าสำนักหน่อยจะได้หรือไม่?”
ชายหนุ่มตอบ “ข้าชื่อควงเหยา เป็ศิษย์เอกของควงเยวี่ยโหลว”
เขาหยุดฝีเท้า แล้วหันกลับมามอง “สำนักอิ้นเสวี่ยนั้น ตัดขาดจากโลกภายนอกมานานแล้ว ไม่อาจช่วยอะไรเ้าได้หรอก พี่ชายของเ้าาเ็จากพิษฝ่ามือน้ำแข็ง แต่ถือว่าโชคดีนัก ที่ยังรอดมาได้จนถึงตอนนี้ ข้าว่าเ้าควรจะพาเขากลับบ้านไปเสียเดี๋ยวนี้จะดีกว่านะ”
หนีเจียเอ๋อร์ใจกระตุกวูบ แล้วโพล่งออกมาทันที “ไม่อาจช่วยได้อย่างนั้นหรือเ้าคะ? แล้วความสามารถของพวกท่านจะมีไว้เพื่อประโยชน์อันใด หากมิใช่เพื่อช่วยเหลือผู้คน?”
ควงเหยาเงียบไป หากจะว่ากันตามตรง เขาเองก็ไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดอาจารย์จึงตั้งกฎเช่นนั้นขึ้นมา กระนั้น ก็ไม่กล้าที่จะฝ่าฝืนหลักปฏิบัติที่อาจารย์ตั้งไว้เช่นกัน
ดังนั้นเขาจึงมิได้ตอบสิ่งใด เพียงเดินนำหญิงสาวไปยังห้องกว้างสะอาดตาที่อยู่ทางด้านซ้าย
หนีเจียเอ๋อร์รีบวิ่งเข้าไปข้างในทันที
บนเตียง โจวชิงหวากำลังต่อสู้กับพิษไข้อย่างหนัก แม้จะนอนหมดสติอยู่ แต่คิ้วได้รูปก็ยังคงขมวดแน่น มือใหญ่กำผ้าห่มจนยับยู่ยี่
หนีเจียเอ๋อร์เข้าไปช่วยคลายมือเขา ก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างอีกฝ่ายไว้
“ชิงหวา ไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะไม่ยอมแพ้แน่!”
คล้ายว่าชายหนุ่มจะรับรู้ได้ หนีเจียเอ๋อร์มองมือสั่นเทาที่ยื่นออกมาลูบมือของตน ด้วยดวงตาแดงก่ำ
นางเงยหน้า กลั้นน้ำตามิให้ไหลริน และพยายามผ่อนลมหายใจ เพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังตีกันวุ่นวาย
หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมาจากห้อง หมายจะไปหาควงเหยาเพื่อขอร้องอีกครั้ง แต่ไม่คิดว่าจะเจออีกฝ่ายที่หัวสะพานหิน
ดูท่า เขาเองก็กำลังรอนางอยู่เช่นกัน...
หนีเจียเอ๋อร์จึงเดินไปอยู่ตรงหน้าควงเหยา
“หลังรับประทานอาหารเสร็จ เ้าก็รีบกลับไปเถอะ ไม่ช้าพี่น้องของข้าจะกลับมาแล้ว”
หญิงสาวขมวดคิ้วแน่น ก่อนเอ่ยเสียงต่ำ “ในเมื่อท่านก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยพวกเราแล้ว ได้โปรดเถอะ ขอแค่ครั้งนี้เพียงครั้งเดียว กรุณาช่วยพี่ชายของข้าด้วย ใจคอท่านจะปล่อยให้เขาตายไปจริงๆ หรือเ้าคะ?”
ชายหนุ่มมองมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง “ควงเหยามิได้เก่งกาจปานนั้น...” เขาเอ่ย พลางหันไปมองกำแพงขาว “ที่นี่มีกฎเกณฑ์เข้มงวด ข้าไม่อาจรักษาพี่ชายของเ้าได้ กลับไปเถอะ!”
เพราะเป็คำสั่งของท่านอาจารย์ จึงไม่สามารถฝ่าฝืนได้...
“หากคนที่นอนอยู่บนเตียงนั่น คือคนที่ท่านรัก ท่านจะนิ่งนอนใจ ดูเขาตายได้จริงๆ หรือเ้าคะ?” หนีเจียเอ๋อร์ถามเสียงสั่น พยายามสะกดอารมณ์ของตนไว้
ควงเหยาตอบ “ข้าว่า เ้าควรไปจากที่นี่เสียเดียวนี้ หากน้องรองกลับมา ถึงตอนนั้น มันจะสายเกินไป”
กล่าวจบ ก็หมุนตัวเดินจากไป
แต่หญิงสาวไม่ยอมแพ้ รีบเข้าไปขวาง มือเล็กรั้งแขนเสื้อของเขาเอาไว้ เพื่อมิให้เดินหนี “ขอร้องท่านแล้ว ข้าจะจากไปแต่โดยดี แต่ท่านต้องพาข้าไปพบควงเยวี่ยโหลวก่อน!”
ควงเหยาปรายตามอง สตรีตรงหน้าผู้นี้ ดื้อรั้นกว่าที่คาด…
“ปล่อยมือ!”
ได้ยินเช่นนั้น หนีเจียเอ๋อร์ก็ถอนมือออก พลางเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาอ้อนวอน แต่พอจ้องลึกลงไปในม่านตา ก็เหมือนจิตหลุดไปชั่วขณะ
กว่าจะได้สติ ชายหนุ่มก็เดินห่างออกไปไกลเสียแล้ว
เกิดอะไรขึ้น?
… พลังเวท!
ไม่แปลกใจแล้ว ว่าทำไมบุรุษลึกลับที่ช่วยพวกนางไว้ ถึงได้แนะนำให้มาที่สำนักอิ้นเสวี่ย นั่นเป็เพราะ นอกจากพวกเขาจะเชี่ยวชาญด้านวิชาแพทย์แล้ว ยังเป็ผู้ใช้พลังเวทอีกด้วย!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้