หิวตาลาย แต่เมื่อขยับตัวเข้าไปบนเถียงนา สิ่งที่เห็น ผัดผัก ผักต้ม ผักดองผักสด
“ไม่กิน”
“บ้านเ้าคิดว่าเลือกได้หรือไร หลายวันมานี้บ่นแต่เื่กินทั้งที่ตัวเองอ้วนจนจะกลิ้งลงจากเขาเหลี่ยงซานได้อยู่แล้ว” เจ็บจี๊ด ยัยป้าพูดแทงใจดำ
“ไม่หิว”
“เช่นนั้นก็ไปโกยขี้หมูต่อได้แล้ว พ่อเ้าจะได้ไปต้องลำบากเพียงลำพัง แต่เดิม จูเจี่ยก็มักจะแอบขโมยไก่ในเล้าไปย่างกินอยู่แล้วนี่คงแอบกินไปแล้วจึงไม่หิว ไก่ในเล้ากลับไป นี่ข้าต้องไปนับว่าหายไปหรือไม่” ขโมยไก่เลยหรือจูเจี่ย เฮ้อร้ายกาจเสียจริง
“ท่านเ้าบ้านวันนี้ข้านำ คนงานใหม่มาให้ท่านใช้งานฟรี เขาเป็คนจรที่ข้าพบเขาระหว่างทาง แค่อาศัยได้ข้าวกินในแต่ละวันเขาก็พอใจแล้ว” แป๋มเหลือบตามองคนอะไรแค่ขอข้าวกิน มองเลยผ่านไปยัง ร่างสูงทว่าผอมบางใบหน้าขะมุกขะมอม หากเป็สมัยใหม่ก็คงเป็นายแบบได้สบายๆ แต่เป็สมัยนี้
“ผอมขนาดนี้ ข้าจะกล้าใช้งานเขาหรือ นายท่าน” นายท่านที่ว่าเป็พ่อค้าคนกลางที่ส่งผักเข้าไปขายในวังหลวง หัวเราะจนพุงกระเพื่อม
“น่า นึกว่าเอาบุญ ใช้งานหนักงานเบาได้ทั้งหมด ทีแรกข้าตั้งใจจะให้เขาทำงานกับข้า แต่ท่านเ้าบ้านโปรดเห็นใจ ที่พักอาหารข้าก็มีจำกัดท่านพ่อบ้านมีไร่กว้างขวางโรงเก็บพืชพันธุ์มากมาย ให้เขาได้อาศัยหลบหนาวยามค่ำคืน ผักหญ้าท่านก็เยอะแยะพอได้เป็อาหาร นึกว่าเอาบุญ” พ่อในโลกนี้ของแป๋มยิ้มอย่างคนที่ใจดี พยักหน้าน้อยๆ แต่ยายป้านี่สิ
“โอ๊ย มาอยู่น่ะมาอยู่ได้ แต่ต้องช่วยกันทำงานให้มาก ข้าไม่มีปัญญาจะเลี้ยงใครฟรีๆ หรอกนะ”
“ขอรับนายหญิง จะใช้งานข้าล้วนทำได้ทุกอย่าง” แป๋มเบ้ปาก ตัวผอมบางหุ่นสะโอดสะอง แป๋มตัวใหญ่เหมือนช้างน้ำยังไม่อยากทำเลยงาน
“จูเจี่ย มายืนยิ้มทำไม ไม่กินก็ไปโกยขี้หมูได้แล้ว” ท้องร้องจ๊อกๆ ะโขึ้นไปบนกระท่อมหรือเถียงนาน้อย ตักข้าวใส่ถ้วยใช้ตะเกียบพุ้ยข้าวกับผักใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ
“เสี่ยวซง อยู่ที่นี่ก็ตั้งใจทำงาน”
“ขอรับนายท่าน” นายท่านพ่อค้าผักหันไปเจรจากับท่านพ่อ ไม่สนใจเสี่ยวซงผู้นั้นอีกต่อไป เขาเดินไปที่กองขี้หมู โกยมันใส่ตะกร้าสาน แบกไว้บนหลังก้าวเดินไปยังแปลงผัก
แสงแดดสว่างแยงทะลุม่านตาที่กะพริบ ไล่ความแสบร้อนที่เปลือกตา อะไรกันเมื่อคืนรู้สึกเหมือนเพิ่งขับรถกลับบ้าน ทำไมวันนี้ถึงตื่นสายได้ขนาดนี้นี่นอนไปนานขนาดนั้นเลยหรือ เฮ้ย ขยับตัวเบาๆ เปิดปากหาวเปิดเปลือกตา
“จูเจี่ยแอบมานอน หลับใหลที่นี่อีกแล้วงานในไร่รอเ้าอยู่ แล้วยังมานอนสบาย” ใครวะมาเสียงดังข้างหู
“ตื่นได้แล้วจูเจี่ย” ลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบๆ
“ฮาวววว” บิดี้เีไปรอบตัว
“จูเจี่ย วันนี้ต้องส่งผักเข้าวังหลวง ยังไม่ได้ตามที่กำหนดเ้ายังกล้ามานอน” เถียงนาน้อย เอ้ย ...ไม่ใช่ ที่นี่มันที่ไหน สวนผักกว้างใหญ่ แล้วยังมีเพิง ไม่สิแถวบ้านเรียกเถียงนา เคยสงสัยไหมไปเถียงทำไมนา
“เ้านี่แย่จริงๆ นอนจนน้ำลายไหลแล้วยังหลับสนิทจนงุนงง”
“เอ่อๆๆ คือๆๆๆ ”
“ไปโกยขี้หมูใส่ผักเดี๋ยวนี้เลย” หญิงวัยกลางคนมองอย่างไงอย่างไงก็น่าจะเป็คนที่มีพาวเวอร์ที่สุดในที่นี้ ชี้มือไปที่กองขี้หมูกองมหึมาข้างเถียงนา
“ต้องไปใช่ไหม”
“หญิงบ้านป่าเกียจคร้านเช่นเ้า ใครกันจะรับเป็ภรรยา ไร้คนสู่ขอข้ามิต้องเลี้ยงเ้าจนตายหรือไร” ร่างอ้วนตุ๊ต๊ะของแป๋ม ขยับตัวอืดอาด วันๆ เคยทำอะไรกันนอกจากนั่งกดแป้นพิมพ์พิมพ์นิยายกับขนมและของว่างข้างโต๊ะคอม แล้วนี่ฉันมาที่นี่ได้อย่างไรกัน
“จูเจี่ย อย่าลืมยกผักพวกนั้นไปรวมกันไว้ด้วย เ้าแข็งแรงที่สุดในบ้าน” แป๋มเหลือบตามองคนสามคน ที่มีชายวัยกลางคนหญิงกลางคนและเด็กชายตัวกระเปี๊ยกนั่งลงช่วยกันขุดมันในร่อง
“ข้ามภพ ข้ามภพแน่นๆ เป็อย่างอื่นไปไม่ได้ในเมื่อเมื่อคืนขับรถมาจากห้างสรรพสินค้าเพื่อหอบเสบียงกลับบ้าน ่นี้เกิดโรคระบาดการออกมาจับจ่ายจึงค่อนข้างลำบาก แล้วจะนั่งกินก็ต้องกดแอลกอฮอลล์ที่มีกลิ่นน้ำหอม ทำเอารสชาติอาหาร
ด้อยลงไปเพราะฉะนั้นทำกินเองดีที่สุด สะอาดปลอดภัยว่าแต่ย้อนอดีตมาทำไมกลางไร่ผักแบบนี้ แล้วนี่เขาพูดภาษาจีนกัน ตายล่ะย้อนมาเสียไกลเลย แล้วมาเป็ชาวไร่ชาวสวนนี่นะ จะบ้าเหรอฉันจะทำอะไรเป็ ยายป้านั่นก็คงรู้ว่าแป๋มทำอะไรไม่เป็เลยใช้ให้ไปโกยขี้หมูใส่แปลงผัก
แล้วจะกลับอย่างไรวะนั่นจะโวยวายก็ใช่ที่ ที่นี่ที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วยังมาปลูกผักอิหยังวะ เป็เื่แน่คราวนี้ จะอยู่อย่างไรกันต้องมีสตอรี่แน่ต่อจากนี้ กลิ่นขี้หมูเหม็นจนจะอ้วก เบ้ปากมองมือตัวเอง
“ยี้”
“จูเจี่ย อย่าอ้อยอิ่ง ข้าหิวข้าวแล้วเสร็จจากใส่ปุ๋ยจะได้มากินข้าวกัน” เ้าเด็กชายตัวกระเปี๊ยกส่งเสียงมาจากข้างหลัง
“เรียกพี่..ได้ยินไหมเ้าตัวกระเปี๊ยก” เบ้ปากใบหน้าเชิดหยิ่ง
“จูเจี่ย จูเจี่ย จูเจี่ย” วิ่งหันหน้าหันหลัง
“นี่เ้า เ้า “วิ่งไล่เด็กชายตัวน้อยอายุคงไม่เกินหกขวบจนหอบแฮ่กๆ ก็ไม่เคยออกกำลังกาย
“จูเจี่ย โตแล้วยังทำตัวเหมือนเด็ก ใส่ปุ๋ยเสร็จหรือยัง” เ้าน้องชายแลบลิ้นใส่ก่อนจะวิ่งไปหามารดา
“ท่านแม่พี่สาวจูเจี่ยรังแกข้า” ฟ้องฟ้อง เ้าบ้า!
“เ้าบ้า”
“จูเจี่ย น้องยังเด็กห้ามพูดจาหยาบคาย” หานี่ยังเด็กเหรอ บอกตามตรงดิฉันไม่ชอบเด็กค่ะ โดยเฉพาะเด็กนรก
“ไม่ต้องแล้วบ่ายค่อยไปโกย มากินข้าวก่อน” เสียงชายกลางคนที่ไม่มีปากเสียงคงเป็พ่อ อ๋อนี่คือครอบครัวใหม่เหมือนกลับมาเป็นักเรียนแลกเปลี่ยน เลยมีพ่อแม่แล้วก็น้องนรก พาร่างตุ๊ต๊ะตุ้มตุ๊ยเดินกลับไปยังเถียงนา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้