หานโม่กำมีดสั้นในมือแน่นพร้อมโคจรพลังลมปราณไปทั่วร่าง การที่ได้มีชีวิตอีกครั้งก็ถือว่าไม่ขาดทุนแล้ว อย่างมากก็แค่ตาย ดังนั้นยังจะต้องกลัวสิ่งใดอีก
หานโม่กำจัดความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดออกไป สายตาฉายแววเยือกเย็น เวลานี้คงต้องสู้จนตัวตายเพียงเท่านั้น
เสียงะเิดังกึกก้องพร้อมแสงสว่างวาบ นางปามีดไปตรงไปที่งูชื่อเหลียน แต่ทว่างูชื่อเหลียนที่ขดตัวอยู่บนพื้นกลับดีดตัวขึ้นไปในอากาศแล้วพุ่งตรงเข้ามาหาหานโม่
หานโม่ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด ร่างกายหลบเลี่ยงการโจมตีของงูชื่อเหลียนว่องไวประดุจิญญา มีดสั้นในมือส่องแสงเป็ประกายเฉือนเข้าไปตรงลำตัวของงูชื่อเหลียนที่ตำแหน่งเจ็ดชุ่น [1]
แต่หานโม่ไม่คิดเลยว่าแรงทั้งหมดที่นางมีจะทำให้เกล็ดของงูชื่อเหลียนนั้นมีแค่รอยขีดข่วนเพียงเท่านั้น แต่ไม่สามารถทำให้งูชื่อเหลียนตายได้ และด้วยการกระทำนี้เองที่ทำให้งูชื่อเหลียนโกรธจัด มันตวัดหางที่เหมือนแส้เหล็กฟาดเข้าใส่ร่างของหานโม่อย่างรุนแรงและโเี้ ทันใดนั้นหานโม่ที่ถูกฟาดอย่างแรงพลันกระอักเืออกมาคำโตแล้วกระเด็นออกไปหลายหมี่
ดวงตาหานโม่แดงก่ำทอประกายโเี้ นางใช้แขนเสื้อเช็ดเืที่มุมปาก และถ่ายเทพลังงานทั่วร่างทั้งหมดให้มาอยู่ที่ฝ่ามือขวา ในตอนนี้ไม่มีหนทางให้ถอยได้อีกต่อไปแล้ว ถึงแม้จะต้องตายก็ต้องคว้านเนื้อของงูชื่อเหลียนมาให้ได้สักชิ้น
และตอนที่หานโม่กำลังจะได้ฟังบทสวดท่วงทำนองแห่งความตายนั้น แสงสว่างสายหนึ่งได้พาดผ่านเบื้องหน้าหานโม่ไป ฝ่ามือที่เปล่งแสงสว่างโจมตีเข้าที่คอของงูชื่อเหลียนที่ตำแหน่งเจ็ดชุ่นด้วยความรุนแรง
บุรุษในชุดขาวดุจหิมะ มือขวาถือหอกยาวหนึ่งเล่ม ดวงตาคมดุจพยัคฆ์ใต้คิ้วดาบเปล่งประกายแวววาวจางๆ มุมปากผุดรอยยิ้มขึ้นมาเพียงนิด ชายผู้นั้นมองมาที่หานโม่ด้วยรอยยิ้มที่ไม่คล้ายจะยิ้มมาให้นาง
งูชื่อเหลียนที่ดุร้ายเมื่อครู่ ในตอนนี้กลับไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ราวกับเป็แมลงตัวหนึ่ง
“นี่คือสตรีบริสุทธิ์ไร้เดียงสาที่ถูกเลือกรึ? ก็พอมีความกล้าอยู่บ้าง” มุมปากของบุรุษในชุดขาวเผยรอยยิ้มชั่วร้าย กวาดตาสำรวจหานโม่อย่างไม่สนใจนัก
“เ้าเป็ใคร?” หานโม่ไม่ลดความระมัดระวังตัวลงเพียงเพราะชายคนนั้นช่วยชีวิตนางเอาไว้
ถึงอย่างไรในที่แห่งนี้ มนุษย์นั้นอันตรายยิ่งกว่าสัตว์อสูรเสียอีก วีรบุรุษผู้ปกป้องหญิงงามอะไรนั่นล้วนแล้วแต่เป็คำพูดเหลวไหลทั้งสิ้น
ชายผู้นั้นมองหานโม่และหัวเราะออกมาเบาๆ เขาโบกมือซ้ายหนึ่งครั้ง ถุงน้ำดีสีแดงก่ำชิ้นหนึ่งก็ลอยออกมาจากตัวงูชื่อเหลียนแล้วตกลงมาบนมือของหานโม่ “ถุงน้ำดีงูชื่อเหลียนสามารถฟื้นฟูพละกำลังของเ้าได้อย่างรวดเร็ว มันเป็ยาบำรุงที่ดียิ่ง"
หานโม่มองถุงน้ำดีเปื้อนเืภายในมือ และโยนมันเข้าปากอย่างไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย
นางรู้ หากอีกฝ่าย้าจะทำร้ายนางล่ะก็ ไม่มีทางที่จะใช้กลอุบายที่น่าเบื่ออะไรเช่นนี้เด็ดขาด ในทำนองเดียวกัน ไม่รู้ว่าทำไมหานโม่จึงเชื่อว่าเขาจะไม่มีทางทำร้ายนางอย่างแน่นอน
สายตาของชายผู้นั้นฉายแววชื่นชมมากกว่าเดิม ยามที่มองไปที่หานโม่
หลังจากที่กินถุงน้ำดีงูเข้าไปแล้ว นางรู้สึกถึงรสชาติของความขมและคาวกระจายไปทั่วปาก แต่หานโม่ไม่ขมวดคิ้วเลยแม้แต่นิด เพียงไม่นานกระแสอุ่นร้อนก็ไหลออกมาจากช่องท้องลามไปยังทั่วทุกส่วนของร่างกาย
หานโม่มองไปที่ชายผู้นั้นด้วยสายตาเย็นเยียบไม่จางหาย และพูดอย่างเ็า “เพื่ออันใด?”
ทันใดนั้นเองเขาก็ก้าวเท้ามาข้างหน้าหนึ่งก้าว ดวงตาเรียวยาวทั้งสองข้างซ่อนความชั่วร้ายที่สามารถกระชากิญญาของผู้คนได้ ชายหนุ่มเชยคางหานโม่ขึ้นและขยับเข้าไปใกล้ ยามที่เขาขยับเข้ามา หานโม่ก็ััได้ถึงลมหายใจอันอบอุ่นของอีกฝ่ายและกลิ่นอายเ็าแต่กลับน่าหลงใหลจากกายเขา
“เปิ่นกงจื่อ [2] ชอบแววตาของเ้า”
เมื่อสิ้นเสียงพูด เขาก็หัวเราะออกมาดังลั่น ก่อนจะเดินหายเข้าไปในพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว โดยปล่อยให้หานโม่ยืนอยู่ที่เดิมด้วยความมึนงง
หานโม่ลูบใบหน้างามของตัวเองที่เห่อร้อนขึ้นมาเล็กน้อย "บ้าจริง จะเป็ไปได้เยี่ยงไร? ไม่ทำอะไรเลยรึ? ชายผู้นั้นเป็บุรุษหรือเปล่า หรือว่าเสน่ห์ของข้าลดลง?"
“คิดสิ่งใดกัน!” หานโม่ตบหัวตัวเอง มองไปยังทิศทางที่ชายผู้นั้นหายไป และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แต่ว่าเขาก็รูปงามไม่เบา แถมยังกล้าหยอกเย้าข้า รอก่อนเถอะ!”
หานโม่มีลางสังหรณ์ที่เด่นชัดว่านางจะได้พบกับชายหนุ่มรูปงามราวกับปีศาจผู้นี้อีกครั้งในอนาคต
แต่ว่า ในตอนนี้การกินผลชื่อหลิงเบื้องหน้านางเพื่อก้าวสู่ระดับถัดไปนั้นสำคัญกว่า
หานโม่เหลือบมองผลชื่อหลิงที่แกว่งไกวไปมาตามสายลม และเอื้อมมือออกไปเพื่อหยิบมันมา
ทว่าเมื่อตอนที่มือกำลังจะได้แตะผลชื่อหลิง หานโม่ก็ได้กลิ่นเหม็นคาวสายหนึ่งจนหัวคิ้วขมวดมุ่นอย่างลืมตัว
........................................................................
เชิงอรรถ
[1] ตำแหน่งเจ็ดชุ่น คือ ตำแหน่งของหัวใจงู จะวัดจากคองูลงมาเจ็ดนิ้ว ซึ่งเป็จุดที่สามารถทำให้งูตายได้
[2] เปิ่นกงจื่อ คือ คำที่ผู้ที่เป็คุณชายจากตระกูลใหญ่จะใช้เรียกแทนตัวเอง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้