ิอวี่หลับตาลงตามสัญชาตญาณแล้วก็ตกเข้าไปในภวังค์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น
เดิมิอวี่จะฝึกฝนอะไรสักอย่างก็ช่างยากเย็นแสนเข็ญอยู่แล้ว เขาต้องกัดฟันอดทนมาตลอด แต่ตอนนี้เขาถึงพบว่าที่แท้การฝึกมันทำให้รู้สึกสบายขนาดนี้นี่เอง ทำให้เขาเข้าสู่สมาธิโดยไม่รู้ตัว
ด้วยพลังงานของโสมแก้วเคลือบทองนั้นค่อนข้างแรง หากิอวี่คิดจะดูดฤทธิ์ยาคงไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น ทั้งใน่เวลานี้ิเฉินเหยียนยังต้องออกโรงควบคุมสถานการณ์ในราชสำนักต้าิด้วย เพื่อเก็บกวาดจัดการสิ่งที่หลงเหลือเอาไว้หลังการต่อสู้ที่ดุเดือดรุนแรง
ดังนั้น ิเฉินเหยียนจึงมองไปที่ิอวี่ด้วยความชื่นชมอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินไปถ่ายลมปราณเข้าไปยังรูปภาพเหมือนเดิมก่อนจะหายออกไป
หลังจากิเฉินเหยียนไปแล้ว ในพื้นที่การฝึกแห่งนี้ก็เหลือิอวี่เพียงคนเดียวที่กำลังดูดซับพลังงานของโสมแก้วเคลือบทองอย่างบ้าคลั่ง
ถึงแม้ิอวี่จะดูดปราณหมื่นอสูรมาจากดินแดนอสูรว่านโซ่วและมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้ว ทำให้ร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่หลังจากที่มีระดับสูงสุดแบบนี้แล้วเขาก็ยังไม่ได้หยุดพักเลย เขาเร่งเดินทางกลับมายังราชวงศ์ต้าิตลอดสิบวันสิบคืนจากนั้นก็ต่อสู้กับขุนพลสร้างแผ่นดิน นักรบเืของหอว่านจง สุดท้ายก็ทำศึกใหญ่กับตี้หลิงเสวียนอีก
ถึงแม้ดูผิวเผินแล้วิอวี่จะใช้พลังงานบริสุทธ์ในร่างกายของเขาไปจนหมด แต่ในความเป็จริงแล้วพื้นฐานร่างกายของเขาสั่นคลอนอย่างที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ ซึ่งบริเวณเ่าั้คือาแที่ซ่อนอยู่ของิอวี่
ถึงแม้มันจะมีไม่มากนักแต่ก็เปรียบเหมือนแก้วที่มีรอยร้าว ที่โดยปกติแล้วจะไม่ส่งผลอะไรมากมาย แต่หากต่อไปิอวี่ทะลวงระดับขึ้นไปได้อีกเมื่อไหร่ รอยร้าวเหล่านี้ก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและจะแตกออกในท้ายที่สุด
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การที่ิเฉินเหยียนฝึกฝนวิชามากว่าสิบปีทำให้ประสบการณ์ของเขามีมากเหมือนขิงแก่ สามารถมองทุกอย่างได้ไกลมากจริงๆ
การฝึกวิชาพื้นฐานสำคัญมาก เร่งรีบเกินไปจะทำให้เสียเื่ การทำให้พื้นฐานตัวเองมั่นคงที่สุดถือเป็เส้นทางที่ถูกต้อง!
ที่แท้ จากคุณสมบัติของร่างกายของิอวี่แล้วมันยากที่จะมีอะไรสามารถซ่อมแซมาแที่ซ่อนอยู่แบบนี้ได้ แต่โสมแก้วเคลือบทองเป็ยาวิเศษที่มีอายุถึงสามพันปี และยังมียาวิเศษอีกสี่อย่างเป็ยาพื้นฐาน มันจึงสามารถรักษาาแที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเขาให้หายได้
พลังงานสีทองเ่าั้พลุ่งพล่านเข้าสู่ร่างกายของิอวี่แล้วหลอมรวมไปกับเืของเขา แทรกซึมเข้าไปในกระดูกของเขา ในระหว่างการซ่อมแซมรักษาอาการาเ็ที่ซ่อนอยู่ในตัวของิอวี่นั้น พลังงานของมันยังช่วยชดเชยพลังที่เสียไปอีกด้วย ทำให้ร่างกายของเขามีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น!
ท่ามกลางการดูดซับพลังงานแบบนี้อย่างต่อเนื่องทำให้ความสามารถของเขามั่นคงมากยิ่งขึ้น!
ในสายตาของิอวี่ ความเร็วในการพัฒนาของเขาดูเป็เื่ปกติ แต่ในความเป็จริงแล้ว ความเร็วในการพัฒนาเติบโตของเขานั้นเรียกได้ว่าน่ากลัว!
ั้แ่ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หนึ่งถึงหกิอวี่ใช้เวลาแค่ครึ่งปี และใช้เวลาอีกครึ่งปีต่อมาก้าวไปถึงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับขั้วสูงสุด พูดได้เลยว่าความเร็วในการฝึกของเขานั้นมากกว่าคนปกติถึงสิบเท่า หรืออาจจะร้อยเท่า!
ความเร็วที่น่าทึ่งแบบนี้ ต่อให้เป็ผู้กล้าที่มีพร์อย่างมากในราชวงศ์ต้าิหรือแม้แต่ตี้หลิงเสวียนที่ตายไปแล้วก็สู้ไม่ได้!
แต่การพัฒนาและเติบโตที่รวดเร็วมันก็ไม่ใช่เื่เลวร้ายอะไร ตอนนี้ิอวี่มีเวลาที่เหมาะสมในการทำให้พื้นฐานของเขามั่นคงแล้ว ดูเหมือนจะเสียเวลาแต่ว่ามันเป็เื่ที่จำเป็อย่างมาก!
ิอวี่ดูดซับฤทธิ์ยาต่อเนื่องแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปหนึ่งวันแล้ว แต่เขาก็ยังอยู่ในสมาธิ น้ำสีทองในสระัหยกถูกดูดไปแค่หนึ่งส่วนห้าเท่านั้น
ิอวี่เข้าสู่สภาวะลืมตัวแล้ว เวลาผ่านไปห้าวันโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย
สีทองในน้ำค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ หากเทียบจากความเร็วของิอวี่แล้ว ภายในระยะเวลาห้าวันก็น่าจะดูดพลังงานจากโสมแก้วเคลือบทองได้หมดแล้ว แต่ว่า ร่างกายของเขาเหมือนเกิดสภาวะอิ่มตัว ความเร็วในการดูดพลังงานมันค่อยๆ ลดช้าลง
ดังนั้น เขาจึงต้องใช้เวลาอีกสองถึงสามวันในการดูดฤทธิ์ยาที่เหลือจนหมด
พลังงานที่เหลืออีกหนึ่งส่วนห้าซ่อนอยู่ในร่างกายของิอวี่ แต่เขายังไม่ได้ดูดซับมันในตอนนี้ เขาจะรอให้ถึงเวลาที่ระดับของเขาเติบโตขึ้นแล้วค่อยดูดซับพลังงานเหล่านี้อีกที
ิอวี่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แสงสีทองเปล่งประกายออกมาจากดวงตาของเขา ผ่านไปถึงสามวินาทีจึงได้จางหายไป
เมื่อได้รับการช่วยเหลือจากโสมแก้วเคลือบทอง ิอวี่ก็กลับมาอยู่ในสถานะสูงสุดอีกครั้ง เขารู้สึกได้ว่าแขนขาของเขานั้นเบาสบายเหมือนล่องลอยได้ และค่อยๆ แพร่กระจายไปยังหัวใจ
ถึงแม้ความรู้สึกแบบนี้จะเบาสบายตัว แต่มันก็เป็เื่จริง!
“พลังของข้าในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก คิดว่าอีกไม่นานข้าก็น่าจะไปถึงขอบเขตอมฤตได้!” ิอวี่กำหมัดแน่น สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เมื่อไปถึงขอบเขตอมฤต เขาก็จะสามารถฝึกคัมภีร์ไท่กู่หยินหยางเคล็ดวิชาบทที่สอง เคล็ดวิชาหยินหยางไร้เทียมทาน!
ข้อแตกต่างของเคล็ดวิชาหยินหยางไร้เทียมทานกับเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูง อยู่ที่จะต้องฝึกกระบวนท่าต่างๆ ในเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงก่อนเท่านั้นถึงจะสามารถทะลวงระดับในแต่ละขั้นได้ แต่เคล็ดวิชาหยินหยางไร้เทียมทานจำเป็จะต้องไปถึงขอบเขตอมฤตก่อนถึงจะฝึกได้
อีกทั้งเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงยังเน้นไปที่หยินและหยางขั้นสูงสุดเป็การต่อสู้กันระหว่างหยินและหยาง แต่เคล็ดวิชาหยินหยางไร้เทียมทานนั้น้าให้หยินและหยางหลอมรวมเป็หนึ่งเดียว เพื่อแสดงให้เห็นถึงร่างกายหยินและหยาง
“คัมภีร์ไท่กู่หยินหยาง” แบ่งออกเป็เก้าบท บทที่หนึ่งคือเคล็ดวิชาหยินหยางขั้นสูงก็มีความน่ากลัวมากขนาดนี้แล้ว ทำให้ร่างกายของิอวี่เหมือนลอกคราบใหม่ทั้งหมด บทต่อไปอานุภาพของมันก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก
แม้แต่ตัวของิอวี่เองก็ยังไม่กล้าจินตนาการว่าหากฝึกบทที่สองเคล็ดวิชาหยินหยางไร้เทียมทานไปแล้วเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอีกแค่ไหนกัน
แต่เขาก็รู้ดี เร่งเรีบเกินไปไม่ใช่เื่ดี ในเมื่อตอนนี้เขายังไม่อาจทะลวงระดับได้ เขาก็ไม่รีบร้อนที่จะไปฝึกมัน ...
ในขณะที่ิอวี่กำลังคิดอะไรหลายอย่างอยู่ก็รู้สึกเหมือนว่าในพลังงานสีขาวในหัวของเขากำลังเคลื่อนไหว ...
“หือ?”
แสงสีขาวที่ว่านั้นเป็ความทรงจำที่าาอสูรถ่ายทอดเข้ามาในหัวของเขาก่อนตาย และในตอนนี้ ความทรงจำจากการถ่ายทอดพวกนั้นเหมือนจะมีการเคลื่อนไหวแล้ว
จากคำบอกกล่าวของาาอสูร ขอแค่ความสามารถของเขาไปถึงขอบเขตอมฤตแล้วก็จะสามารถเปิดความทรงจำการถ่ายทอดของเขาได้ แต่ตอนนี้ิอวี่ยังอยู่แค่ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้า แล้วจะเปิดมันได้อย่างไรล่ะ?
ช่างมัน ลองดูก็รู้แล้ว!
ิอวี่ใจเต้นแรงมาก เขาควบคุมพลังจิตแล้วค่อยๆ ดึงเอาพลังงานออกมาจากในกลุ่มแสงสีขาวเ่าั้ ...
พลังงานบางส่วนถูกดูดออกมาจากแสงสีขาวเ่าั้จริงๆ แล้วกลุ่มแสงสีขาวเดิมก็ค่อยๆ หดตัวลงเล็กน้อย
ทำได้จริงๆ ด้วย!
ิอวี่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารถดึงความทรงจำของาาอสูรออกมาได้แล้วจริงๆ
ที่จริงสิ่งที่ิอวี่ไม่รู้ก็คือ เมื่อเขามีพลังเทียบเท่าราชสีห์สองหมื่นตัว มันก็หมายความว่าเขามีพลังมากกว่าระดับขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าไปแล้ว และเมื่อิอวี่ดูดซับพลังงานจากโสมแก้วเคลือบทอง พลังฝีมือของเขาก็มั่นคงมากขึ้น และเหมือนจะเป็การทะลวงระดับแบบไม่ค่อยถูกต้องเท่าไรนัก
การทะลวงเล็กๆ แบบนี้เหมือนได้รับการยอมรับจากความทรงจำในแสงสีขาวของาาอสูรแล้ว ดังนั้น ิอวี่ถึงได้สามารถเปิดความทรงจำที่ได้รับถ่ายทอดมาได้
แสงสีขาวหมุนเคลื่อนที่และสั่นไหว จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเขา
ทันใดนั้นเอง ิอวี่ก็ััได้ถึงความเย็นสบาย จากนั้นในสมองของเขาก็ปรากฏตัวอักษรสีดำอมม่วงตัวใหญ่ขึ้นมาว่า “อสรพิษหลงทาง”!
อสรพิษหลงทางเป็ทักษะพลังกายเสวียนระดับต้น อสรพิษที่บ้าคลั่ง ดวงตาที่สามารถมอมเมาผู้คน เคลื่อนไหวไร้เงาไร้ลักษณ์ สังหารศัตรูได้ในพริบตา ...
ตัวอักษรแต่ละคำพุ่งเข้าสู่ความทรงจำของิอวี่ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์สีดำในหัวของเขาก็เริ่มดูดซับพลังงานแสงสีขาวเ่าั้อย่างบ้าคลั่ง
จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง เขาถึงได้ดูดความทรงจำเ่าั้จนหมด
ิอวี่เป่าปาก ดวงตาของเขาแสดงถึงความดีใจอย่างมาก เพราะคิดไม่ถึงเลยว่าทักษะการต่อสู้แรกที่าาอสูรทิ้งไว้ให้เขามันจะเป็ทักษะการต่อสู้เสวียนระดับต้น ิอวี่ไม่เคยฝึกมันมาก่อนเลย ราชวงศ์ต้าิก็มีแค่ิเฉินเหยียนเท่านั้นที่มีทักษะเสวียนระดับต้น!
เขาไม่ได้ลังเลใจอะไรเลย ิอวี่กำลังทำความเข้าใจวิธีการฝึกอสรพิษหลงทางอย่างต่อเนื่อง
อสรพิษหลงทางสมแล้วที่เป็ทักษะการต่อสู้เสวียนระดับต้น มันมีเนื้อหาที่ยากที่จะเข้าใจ ต่อให้ิอวี่จะมีพร์ในการเข้าถึงที่สูงมากแค่ไหน แต่เมื่อัักับมันเป็ครั้งแรกก็ยังมีหลายจุดที่เขาไม่เข้าใจอยู่ดี
เป็อยู่อย่างนี้ประมาณครึ่งวันเขาก็ลืมตาที่เป็ประกายขึ้นมา!
จากนั้นเขาก็เดินออกจากสระัหยก แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดและเริ่มทำการฝึก
อสรพิษหลงทางไม่ได้เน้นไปที่ความเร็วเป็เส้นตรงเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องมีความคล่องแคล่วว่องไวในการเปลี่ยนทิศทางด้วย มัน้าการะเิพลังที่แข็งแกร่งมาก และเคลื่อนที่ไปจากจุดต่างๆ ได้อย่างว่องไว ร่างกายเคลื่อนไหวไปมาราวกับไร้ร่องรอยจนทำให้ศัตรูไม่อาจป้องกันหรือตั้งตัวได้ทัน!
ไม่นาน ิอวี่ก็เข้าสู่สภาวะลืมตัวอีกครั้ง
เมื่อระดับของิอวี่เพิ่มสูงขึ้น น้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งเยอะมากขึ้น พลังการเรียนรู้ของเขาเองก็แข็งแกร่งมากกว่าเดิม
แรกเริ่มเดิมที เขายังคงทุลักทุเลนิดหน่อย แต่เมื่อผ่านไปห้าวันเขาก็เริ่มเข้าใจพื้นฐานของอสรพิษหลงทางได้!
พลังของิอวี่แข็งแกร่งอย่างมาก เขามีความรวดเร็วอย่างยิ่ง แต่ว่ายังไม่สามารถควบคุมสมดุลของร่างกายได้เท่าที่ควร ทำให้ิอวี่รู้สึกว่าเขาไม่สามารถควบคุมพลังกายของเขาได้
และอสรพิษหลงทางก็สามารถช่วยเสริมความคล่องแคล่วว่องไวของร่างกายเขาได้อย่างไม่มีปัญหา
อสรพิษหลงทางมันทำให้ร่างกายอยู่ในจุดที่ดีมากกว่าเดิม สามารถปล่อยพลังโจมตีไปในจุดที่ดีและเหมาะสมกว่าเดิม แบบนี้แล้วเมื่อหมัดของเขาพุ่งออกไป ร่างกายก็จะสามารถปล่อยพลังของเขาออกมาได้เต็มที่กว่าเดิม!
ิอวี่ยิ้มอย่างพอใจ เขาฝึกมาประมาณสิบสามวันแล้วในที่สุดก็ควรออกจากที่นี่ไปสักที
พอคิดได้แบบนี้ิอวี่ก็เดินลมปราณไปที่ภาพหงส์และัที่อยู่บนพื้น มีแสงสีทองปรากฏขึ้น แล้วเขาก็ออกไปในตำหนักิหุนอีกครั้ง
วินาทีที่ออกมาิอวี่รู้สึกว่ารอบตัวนั้นมืดไปหมด ตำหนักิหุนถูกปิดสนิท เขาััได้ว่ามันไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว!
“แอ๊ด ... ”
ิอวี่สงสัยและเดินขึ้นไปเปิดตู้ไม้สีดำขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า แสงแดดส่องเข้ามาทำให้เขาแสบตาอย่างมาก
“เที่ยงหรือเนี่ย?”
ิอวี่สูดอากาศที่ร้อนผ่าว และมองออกไปบนลานกว้างนอกตำหนักิหุน แต่เขากลับพบว่าไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียวเช่นกันกัน
เขาจึงเปิดััแห่งิญญาขึ้นมาแล้วปล่อยพลังจิตออกไปในระยะสิบลี้ ก่อนจะพบว่าวังหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลยังคงมีขุนนางใหญ่อยู่ มีทหารองครักษ์ มีนางกำนัล เพียงแต่พวกเขาทำงานในตำหนักของตัวเอง ทางเดินในวังไม่มีใครเลย มันทำให้เกิดความรู้สึกค่อนข้างที่จะวังเวง
ิอวี่ขมวดคิ้วหนักมาก เขาใช้พลังจิตสำรวจต่อไปแต่กลับพบว่าไม่มีลมปราณของิเฉินเหยียนในรอบรัศมีสิบลี้เลย!
ลมปราณขององครักษ์หน้าพระที่นั่งก็ไม่มีเหมือนกัน ...
ดูผิวเผินแล้ววังหลวงต้าิเหมือนจะสงบ แต่ในความเป็จริงแล้วมันเหมือนเสือกระดาษ ภายนอกแข็งแกร่งแต่ภายในว่างเปล่า ศูนย์กลางพลังไม่มีอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
ระยะเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ!
