หลินอิ๋งที่ยืนร้องไห้อย่างเงียบๆ รีบเอามือที่เรียวงามออกมากุมปากของตัวเองไว้ทันที
ห่างออกไปประมาณเจ็ดพันหมี่ แมงมุมเงาดูดิญญาที่ถูกะเิจนขาขาดไปสี่ข้างและลำตัวขาดไปครึ่งหนึ่งจู่โจมด้วยเขี้ยวแมงมุมที่แหลมคมอย่างรุนแรงเข้าที่คอกว้างเจ็ดชุ่นของงูเหลือมเยือกแข็งที่เต็มไปด้วยาแ!
งูเหลือมเยือกแข็งเองก็ไม่คาดคิดว่าใน่เวลาที่าเ็สาหัสเช่นนี้ พวกเดียวกันจะหันมากัดข้างหลังตัวเองได้เหี้ยมโหดถึงเพียงนี้! แม้อยากจะต่อต้านแต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
แม้จะขัดขืนดิ้นรนอย่างสุดความสามารถแต่ก็ไร้ประโยชน์ ชะตากรรมของการถูกแทงที่จุดตายและพิษที่ทำให้เป็อัมพาตของอีกฝ่ายก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากดีดดิ้นอยู่ไม่กี่ครั้งแต่ก็ไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้กลายเป็อาหารของแมงมุมเงาดูดิญญาในทันที
แม้ว่าพลังิญญาสัตว์จะไม่บริสุทธิ์เท่ากับพลังิญญาของผู้บำเพ็ญเพียร และโอกาสในการพัฒนาก็น้อยกว่ามาก แต่ผลของการใช้รักษาาแนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการดูดพลังิญญาเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์อสูรขนาดใหญ่อย่างงูเหลือมเยือกแข็ง แม้ว่าจะได้รับาเ็สาหัส แต่พลังิญญาสัตว์ที่อยู่ในกายก็ยังคงน่าทึ่งมาก
ภายในเวลาเพียงสิบกว่าชั่วอึดใจ าแทั่วตัวก็หายเป็ปกติอย่างรวดเร็ว และหลังจากผ่านไปห้าสิบชั่วอึดใจ ขาแมงมุมใหม่ก็งอกออกมา
หลินอิ๋งที่อยู่บนเนินหิมะที่อยู่ไกลออกไป เมื่อเห็นขาแมงมุมใหม่งอกออกมา ก็เกิดความเย็นะเืขึ้นในใจทันที ไม่กล้าที่จะอยู่ต่อรีบหันหลังวิ่งหนีไปทันที
หลังจากผ่านไปเป็เวลาหนึ่งถ้วยชา แมงมุมเงาดูดิญญาก็ดึงปากที่แหลมคมของมันออกจากปากของเฉาหมั่งที่กลายเป็ศพไปแล้ว าแทั่วตัวของมันหายเป็ปกติ ขาแมงมุมทั้งสี่ที่ขาดหายไปก็กลับมาแข็งแรงเช่นเดียวกัน หนำซ้ำยังแข็งแรงกว่าเดิมอีกด้วย
ข้างศพของงูเหลือมเยือกแข็งนั้น มีหมาป่าหิมะห้าตัวกำลังกัดกินอย่างขยันขันแข็ง
“จี๊ด!” แมงมุมเงาดูดิญญาที่หายเป็ปกติส่งเสียงแหลมออกมา
หมาป่าหิมะทั้งห้าตัวสะดุ้งโหยงพร้อมกัน ทิ้งศพของงูเหลือมเยือกแข็ง วิ่งไปหาแมงมุมเงาดูดิญญาที่ส่งเสียงเรียกทันที
หมาป่าหิมะตัวหน้าก้มหัวและค้อมตัวให้ด้วยความเคารพ
ตัวอ้วนกลมของแมงมุมเงาดูดิญญาก็ะโขึ้นไปทันที
หมาป่าหิมะทั้งห้าตัวนี้ถูกแมงมุมเงาดูดิญญาสั่งให้วิ่งไปในทิศทางที่หลินอิ๋งกำลังหลบหนีอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งแมงมุมเงาดูดิญญาตัวนี้จากไป ลิงหิมะหกตัวกับแมงมุมเงาดูดิญญาอีกตัวก็โผล่มาพอดี
สิบกว่าชั่วอึดใจผ่านไป ลิงหิมะทั้งหกก็ไล่ตามไปยังทิศทางที่เด็กสาวคนหนึ่งกำลังหลบหนี
...
“ควงจื่อ ร่างกายผอมบางของนายทำไมถึงได้กินจุจังนะ เ้าเขมือบขาหมาป่าทีเดียวครึ่งขา แต่กลับไม่เห็นท้องป่องเลย ข้ากินไม่ถึงครึ่งก็อิ่มแล้ว!” ถังเซียวมองไปที่เฉียนหม่านควง และพูดด้วยความอิจฉา
ปริมาณการกินของเฉียนหม่านควงใน่ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ร่างกายยังคงผอมแห้งเหมือนลิงเช่นเดิม ถึงอย่างนั้นพละกำลังกลับเพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งในจุดนี้ถังเซียวที่เป็พวกคลั่งต่อสู้และชื่นชอบวรยุทธ์นั้นรู้เป็อย่างดี
ถ้าหากพูดถึงเมื่อไม่กี่วันก่อน ตัวเขายังสามารถเอาชนะเฉียนหม่านควงในการประลองหมัดมวยได้อยู่เลย แต่เมื่อครึ่งชั่วยามก่อน ทั้งหมัดและเท้าของถังเซียวกลับอยู่ในสถานะเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง และตกเป็ฝ่ายถูกเฉียนหม่านควงกดดันแทน
ซึ่งสิ่งนี้ทั้งทำให้ถังเซียวรู้สึกยินดีและหดหู่ในเวลาเดียวกัน ตัวเขาดีใจที่ความแข็งแกร่งของสหายนั้นเพิ่มขึ้นมาก แต่หดหู่ที่เขาไม่สามารถตามทันความเร็วในการพัฒนาของอีกฝ่ายได้ ผู้ใช้พลังิญญาขั้นสูงที่สามารถเปิดขดพลังิญญาได้เก้าขด กลับพ่ายแพ้ให้กับผู้ใช้พลังิญญาขั้นกลางที่เปิดขดพลังิญญาได้แค่เพียงสี่ขดในด้านพละกำลัง
“หึๆ ข้าเปลี่ยนอาหารไปเป็พละกำลังหมดแล้วน่ะ!” เฉียนหม่านควงหัวเราะเบาๆ แล้วใช้มือชี้ไปที่ฉินหรูเยียนแล้วพูดเสียงค่อย “แต่คนที่สุดยอดจริงๆ คือศิษย์พี่หญิงฉินต่างหาก กินครั้งละสามขาหมาป่า พลังจะต้องน่ากลัวมากๆ แน่!”
“ทำไมข้าถึงไม่มีสายเืโบราณบ้างนะ!” ถังเซียวพูดอย่างหดหู่
“สายเืโบราณคงจะหมดหวัง แต่ถ้าเป็สายเืสัตว์อสูรก็อาจจะได้อยู่ เอาไว้คราวหน้าข้าจะลองจับหมาป่าหิมะตัวเมียเป็ๆ ให้เ้า!” อูเสี่ยวหมินพูดพลางหัวเราะ!
“ศิษย์พี่อู หมาป่าหิมะตัวเมียข้าคงต้องขอผ่าน ท่านเก็บไว้คนเดียวเองเถอะ!” ถังเซียวตอบกลับไป
ฮ่าๆๆ! บทสนทนานี้ทำให้ชายหนุ่มหลายคนต้องหัวเราะทันที!
หม่าิฮุ่ยก็สบถเบาๆ “พวกสัปดนทั้งสองนี่!”
แทบจะในเวลาเดียวกัน เซียวหลิงอวิ๋นกับฉินหรูเยียนต่างก็พูดออกมาพร้อมกัน “มีผู้ใช้พลังิญญาตรงมาทางนี้!”
ทั้งสองผุดลุกขึ้นพร้อมกัน เสียงของเซียวหลิงอวิ๋นดังขึ้น “เก็บข้าวของให้เรียบร้อย!”
“ข้าจะไปดูเอง!” จ้าวหนีอิ่งพูดทิ้งไว้ประโยคหนึ่ง แล้วก็ใช้วิชาตัวเบารีบตามพวกเซียวหลิงอวิ๋นไปอย่างรวดเร็ว
“เร็วๆๆ!” ในเวลานี้ หม่าิฮุ่ยและอูเสี่ยวหมินก็ได้ยินเสียงการโจมตีด้วยพลังิญญาดังขึ้น หม่าิฮุ่ยเองก็อดไม่ได้ที่จะเร่งเร้า
บนธารน้ำแข็งที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน หลินอิ๋งกัดฟันแน่น เหงื่อออกชุ่มเต็มเสื้อผ้า เมื่อลมหนาวพัดมาก็จะกลายเป็น้ำแข็งติดอยู่ตามตัว ร่างกายเย็นเจี๊ยบ จากเดิมที่เสื้อผ้าสะอาดสะอ้านกลับสกปรกไปหมดแล้ว ขณะที่พยายามวิ่งไปข้างหน้าอย่างสุดชีวิต นางก็โยนลูกไฟที่เกิดจากพลังิญญาออกไปข้างหลังเป็ระยะๆ บางครั้งก็เป็มีดไฟหนึ่งถึงสองเล่ม
‘ลูกไฟิญญา’ วิชาิญญาระดับเหลืองขั้นล่าง
‘มีดเพลิงไฟ’ วิชาิญญาระดับเหลืองขั้นกลาง
ด้วยวิชาธาตุไฟทั้งสองนี้ หลินอิ๋งจึงสามารถวิ่งหนีมาได้หลายสิบลี้ ท่ามกลางหมาป่าหิมะหกตัวและแมงมุมเงาดูดิญญาอีกหนึ่งตัว
แต่ในเวลานี้ ‘ยาฟื้นฟูิญญา’ เม็ดสุดท้ายได้หมดฤทธิ์ลงไปแล้ว หลังจากที่นางวิ่งหนีมาได้อีกสองพันหมี่ พลังิญญาในกายก็จวนใกล้จะหมดแล้ว
“จี๊ด!” ใยแมงมุมไร้สีพุ่งมาจากทางด้านหลัง
เมื่อได้ยินเสียงใยแมงมุมพุ่งผ่านอากาศมาจากด้านหลังอย่างชัดเจน จิตใต้สำนึกก็บอกให้หลบหลีกในทันที แต่ร่างกายนั้นเหนื่อยล้าจนถึงขีดจำกัดแล้ว อีกทั้งพลังิญญาก็เหือดแห้งลงไป ทำให้การหลบหลีกของหลินอิ๋งช้าลงไปครึ่งก้าวอย่างเห็นได้ชัด
‘ฟิ่ว!’ ใยแมงมุมยิงไปถูกเอวของนาง ทันใดนั้นใยแมงมุมก็ราวกับงู เลื้อยผ่านทะลุเสื้อผ้าเข้าไปหลายชั้น ‘ฉึก’ กระดูกสันหลังเกิดอาการด้านชา เจาะทะลุเสื้อผ้าไปถูกิับริเวณเอวของหลินอิ๋งแล้ว
ความเศร้าสลดปรากฏขึ้นในใจของหลินอิ๋ง ความพยายามอย่างยาวนานในเวลานี้ได้ถูกทำลายลงอย่างป่นปี้ ร่างที่วิ่งหนีอย่างรวดเร็วโซซดโซเซไปข้างหน้าทันที ก่อนที่ร่างกายอันอ่อนแรงจะล้มลงไป
ที่ด้านหลัง หมาป่าหิมะตัวหนึ่งพุ่งไปข้างหน้า ร่างหมาป่าะโลอยขึ้นสูง พุ่งเข้าหาหญิงสาวที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังและโศกเศร้า
เมื่อได้ยินเสียงแหวกผ่านอากาศมาจากหมาป่าที่พุ่งมาจากทางด้านหลัง หลินอิ๋งก็หลับตาลง เมื่อหันหน้าไปด้านหนึ่ง น้ำตาก็ไหลลงมาเป็สาย พร้อมด้วยความคิดผุดขึ้นมาในใจ: เฉาหมั่ง เสี่ยวฉิน (ชื่อของเด็กสาวหน้าตกกระ)...ข้าจะได้ไปพบกับพวกเ้าแล้ว!
“ฉัวะ!” ของเหลวร้อนๆ สองสามหยดกระทบลงมาที่ใบหน้าด้านหนึ่งของหลินอิ๋งที่กำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนหิมะ จากนั้นก็ได้ยินเสียงดัง “ตุบ!” คล้ายกับเสียงของวัตถุบางอย่างตกลงมาจากที่สูง เสียงนี้ดูเหมือนจะอยู่ตรงหน้านาง
หมาป่าลงมายืนบนพื้นหรือ?
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หมาป่าที่กำลังจะถึงตัวนางอยู่รอมร่อ เหตุใดถึงยังไม่กัดคอของนางอีก หรือมันอยากจะเล่นกับเหยื่อของมันก่อน เมื่อเล่นจนเบื่อแล้วจึงค่อยลงมือฆ่าอย่างโเี้อย่างนั้นหรือ?
ภายในชั่วพริบตา ความคิดมากมายผุดขึ้นในหัวของหลินอิ๋ง! ภาพต่างๆ มากมายที่ผ่านเข้ามาในหัวเป็ภาพหมาป่าที่กำลังรุมฉีกกระชากร่างของนางอย่างโเี้
ไม่ ข้าไม่อยากตายแบบนั้น
มาสิ รีบมาฉีกคอข้าเดี๋ยวนี้เลย
หลินอิ๋งที่กรีดร้องอย่างเงียบๆ ในใจลืมตาขึ้นมา สิ่งที่ปรากฏตรงหน้านางคือหมาป่าตัวหนึ่ง แต่ในเวลานี้หมาป่าตัวนั้นกำลังนอนอยู่บนหิมะ ดวงตาทั้งสองข้างของมันเบิกกว้าง แต่ไร้ซึ่งแววใดๆ สายตาค่อยๆ เลื่อนขึ้นไป จากนั้นจึงพบว่าที่หัวของหมาป่ามีรูเืขนาดเท่าไข่ไก่อยู่
หมาป่าตายแล้ว!
จากนั้นเปลวไฟสีแดงก็สว่างวาบขึ้นในดวงตา นั่นคือมีดเพลิงไฟ! ตามด้วยเสียงะโของมนุษย์และเสียงการต่อสู้ของเคล็ดวิชาิญญาดังขึ้นข้างหู
มีคนมาช่วยแล้ว! จิตใต้สำนึกสุดท้ายของหลินอิ๋งคือประโยคนี้ จากนั้นภาพทั้งหลายก็มืดดำสนิท และหมดสติลงไป
