Chapter 27
"ก็แบบ พี่กรีนหึงเค้า"
"รู้ว่าหึงก็อย่าทำตัวน่ารักมั่วซั่ว"
"เค้าเป็แมวดี ใคร ๆ ก็เอ็นดูทั้งนั้นแหละ" คนตัวเล็กพูดออกมาพร้อมกับทำท่าทางเชิดหน้าชูตา กรีนเองก็ได้แต่ส่ายหัวเอ็นดู
"ถ้ามีคนมาชอบพี่บ้างล่ะ"
"เค้าข่วนแน่!" ป๋ายพูดออกมาเสียงแข็ง และแทบจะะโไปกอดแขนกรีนไว้
"ไม่ได้จะทำจริงใช่ไหม?"
"ไม่ทำหรอก พี่กรีนสอนเค้าแล้วว่าห้ามทำคนอื่นเจ็บ" กรีนยกยิ้มทันทีที่เห็นว่าน้องจำคำของเขาได้
"เก่งมาก"
"จุ๊บ ๆ เร็ว ให้รางวัลเค้า เค้าเก่ง"
"ไปเรียนรู้ความเ้าเล่ห์มาจากไหนหนักหนาเนี่ย?" ถึงจะบ่นไป แต่หลังจากที่พูดจบกรีนก็โน้มหน้าลงไปฝั่งจมูกลงบนแก้มใส ๆ ของคนน้อง ที่พองแก้มรออยู่แล้ว คนโดนหอมก็ซุกหน้าลงที่ต้นแขนของกรีนทันที
"พอหอมแล้วก็เขิน ตัวแสบ"
เธอเขินพี่
แต่พี่เขินที่เธอเขินอีกทีเนี่ย
หลังจากที่เคอะเขินกันเสร็จเรียบร้อย กรีนก็พาคนตัวเล็กกลับมาบริเวณกลางตลาดอีกครั้ง สำหรับความตื่นตาตื่นใจของป๋าย ไม่ได้สิ้นสุดลงแต่อย่างใด เขายังคงตื่นเต้นกับอะไรใหม่ ๆ ที่ได้เห็นอยู่ทุกนาที เรียกได้ว่าเดินผ่านอะไรก็ตื่นเต้นไปเสียหมด
เดินมาได้สักพักคนตัวเล็กก็ชะงัก ทำให้คนที่จูงมือเค้าชะงักไปด้วย กรีนหันกลับไปดูว่าป๋ายเป็อะไร ก็เจอกับสายตาที่จ้องไปที่ร้านขายปลาแสนสวยด้านขวา ป๋ายมองไม่วางตาจนกรีนเรียกชื่อออกมา
"ป๋ายป๋าย"
"พี่กรีน สวยจัง" สายตาที่เป็ประกายยังคงจ้องมองอยู่ที่ปลาพันธุ์งามตรงหน้า
"หิวเหรอครับ?" พอกรีนพูดจบป๋ายก็ขมวดคิ้วแล้วหันไปตีเข้าที่แขนกรีนทันที
"จะกินน้องลงได้ยังไง! เค้าแค่มองเพราะน้องสวยต่างหากเล่า เค้าเป็แมวแต่เค้าก็เลือกกินแต่น้องที่หายใจไม่ได้แล้วเท่านั้นนะพี่กรีน!" คนน้องบ่นออกมายาวเหยียดจนกรีนแทบจะสำนึกผิดไม่ทัน
"โอ๋ ๆ พี่กรีนขอโทษครับ"
"ชิ!"
"ไปดูน้องใกล้ ๆ ไหม?"
"ได้เหรอ?" คนที่ตั้งใจว่าจะงอนกลับตาเป็ประกายอีกครั้ง
กรีนพยักหน้ารับ ก่อนที่จะดึงแขนป๋ายให้ตามไปที่ร้านขายปลา ร้านเพาะพันธุ์ปลาตรงหน้า เป็ร้านขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ กรีนเห็นว่าคนในร้านไม่เยอะ เลยอยากพาคนตัวเล็กเข้าไปดู
"สวัสดีค่ะ เชิญดูได้ตามสบายเลยนะคะ ไม่ต้องอุดหนุนก็ได้ค่ะ ร้านเราอยากให้คนในเมืองได้เห็นปลาพันธุ์ใหม่ ๆ ที่อาจจะไม่เคยเห็นกันเฉย ๆ" พอนั่งลงที่เก้าอี้หน้าหน้าที่มีไว้สำหรับรองรับลูกค้าในร้าน เ้าของร้านก็เอ่ยทักทายกรีนและป๋ายทันที กรีนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสนใจคนตัวเล็กที่กำลังจ้องมองเ้าปลาตัวน้อยอยู่
"ชอบไหมครับ?"
"ชอบมาก ๆ เค้าเลี้ยงน้องได้ไหม?"
"ไม่เลี้ยงดีกว่านะตัวเล็ก" กรีนหันกลับไปตอบน้อง ยิ้มอ่อน ๆ กลับไปให้พร้อมกับคำปฏิเสธ
"ทำไม?" ป๋ายเบะปากคว่ำก่อนจะถามออกมาเสียงอ่อน
"ปลามันเลี้ยงยากครับ ต้องใส่ใจมาก ๆ ดูแลเป็ ต้องศึกษาอะไรอีกเยอะแยะเลย เธอต้องคอยเปลี่ยนน้ำ ทำความสะอาด ถ้าน้องป่วยทีก็จะรักษายากมาก ๆ เลยนะ"
"เค้าจะทำไม่ได้ใช่ไหม?"
"เอาเป็ว่าลองกลับไปศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่ค่อยถามเธออีกทีว่าเธออยากเลี้ยงจริงหรือเปล่า การเลี้ยงสัตว์ไม่ใช่ว่าเราจะทำตามใจตัวเองได้นะป๋ายป๋าย เธอต้องนึกถึงความรู้สึก ความเป็อยู่ของสัตว์ให้มาก ๆ ด้วย เพราะเธอตัดสินใจเอาเขาไปเลี้ยงแล้ว เข้าใจที่พี่พูดไหมครับ?" กรีนส่งมือไปลูบหัวน้องเบา ๆ
"ตามที่พี่เขาพูดน่ะ ถูกต้องแล้วนะคะ" เ้าของร้านเข้ามาเสริม
"ยิ่งปลาเป็อะไรที่เลี้ยงยากมาก สังเกตยากว่า้าอะไร เพราะเขาอยู่ได้แต่ในน้ำ ส่งเสียง แสดงท่าทางให้เรารับรู้มากไม่ได้"
"งั้นเค้าไม่เลี้ยงน้องแล้วนะ กลัวน้องเป็อะไรแล้วเค้าไม่รู้" หลังจากที่ฟังเ้าของร้านพูดจบ คนตัวเล็กก็หันกลับไปพูดกับกรีนทันที
"ครับ ถ้าวันไหนเธอศึกษาเื่ปลาดีจริง ๆ แล้ววันนั้นจะยังอยากเลี้ยงอยู่ พี่จะพาไปรับน้องมาเลี้ยง โอเคไหม?"
"เค้าโอเค"
"นี่ค่ะ วิธีการเลี้ยงปลาแบบละเอียด อันนี้จะเป็วิธีเลี้ยงของพันธุ์ที่เลี้ยงง่ายแล้วนะ ถ้าเป็พันธุ์หายากหรือพันธุ์อื่น ๆ จะเลี้ยงยากกว่านี้ ถ้าอ่านลองอ่านแล้วคิดว่ามันยากก็คงจะเลี้ยงไม่ได้ดีนะคะ แต่ถ้าอ่านแล้วคิดว่าทำได้ ไว้ค่อยให้พี่เขากลับมารับปลาสวย ๆ ไปเลี้ยงน้า" เ้าของร้านยืนกระดาษที่บอกวิธีการเลี้ยงปลาโดยละเอียดให้ป๋าย และพูดอะไรต่อเล็กน้อย แล้วมันก็ยิ่งทำให้คนตัวเล็กเข้าใจได้ง่ายขึ้น
"ป่ะ พี่พาไประบายสีดีกว่า"
หลังจากที่ออกจากร้านขายปลาเรียบร้อยแล้ว กรีนก็ตัดสินใจพาคนตัวเล็กเดินไปที่โซนกิจกรรมของตลาด ซึ่งโซนกิจกรรมในตลาด มีอะไรให้ทำเยอะแยะมากมาย ทั้งสำหรับมนุษย์ ครึ่งทาง และแมวเหมียว เป็เหตุผลที่ทำไมตลอด 2 เดือนของ่ท้ายปีคนในตลาดยังเยอะอยู่เสมอ เพราะเหมือนกับการได้มาเที่ยวเล่น กิจกรรมแต่ละกิจกรรมก็เป็อะไรที่สร้างสรรค์สำหรับแต่ละวัยมาก ๆ
อย่างกิจกรรมที่กรีนตั้งใจจะพาป๋ายไปในตอนนี้ ก็คือกิจกรรมวาดรูประบายสี ที่เหมือนจะเป็กิจกรรมสำหรับเด็ก แต่จริง ๆ แล้ว เ้าของร้านมีงานศิลปะแต่ละระดับให้ทุกคนได้ฝึกตามวัยและตามความสนใจของตัวเอง มีกระดาษหรืออุปกรณ์แทบจะทุกชนิดที่ใช้ระบายสี รวมถึงประเภทสีต่าง ๆ เช่น สีไม้ สีน้ำ สีน้ำมัน สีโปสเตอร์ และสีประเภทอื่น ๆ อีกเยอะแยะมาก กรีนเชื่อว่าป๋ายยังไม่เคยได้ลองใช้สีหรือกระดาษอีกหลายประเภท และอยากให้น้องได้ไปลองใช้มันทั้งหมด เผื่อจะเจออะไรที่ชอบมาก ๆ
"เค้าใช้สีอะไรได้บ้างพี่กรีน?"
"ใช้ได้หมดเลยครับ เธอเขียนไว้ พี่จะไปเอามาให้ อยากลองสีหรือกระดาษแบบไหนไหม?"
ข้อดีของกิจกรรมนี้ ก็คือทางร้านจะมีการแนะนำให้ทั้งหมดว่ากระดาษหรือสีแต่ละประเภทแตกต่างกันยังไง อธิบายวิธีการใช้ว่าเหมาะกับงานแบบไหน ทำให้คนที่ยังไม่เคยลองหรือไม่รู้จักกับสีหรือกระดาษประเภทนั้น ๆ ได้เข้าใจถึงประโยชน์ของมันและได้ลองใช้
กรีนอ่านคำแนะนำของทางร้านถึงคุณสมบัติของกระดาษและสีแต่ละประเภทให้น้องฟัง จากนั้นป๋ายก็ประเมินตนเองว่าอยากวาดงานแบบไหนออกมา แล้วก็เลือกกระดาษและสีที่อยากจะใช้ พอคนน้องเลือกเรียบร้อยแล้ว กรีนก็ไปเบิกอุปกรณ์และลงชื่อประกันไว้ให้ทันที
"เธอลองใช้สิ"
กรีนจัดการวางสีและกระดาษรวมถึงอุปกรณ์การขีดเขียนทุกชนิดไว้ตรงหน้าของคนตัวเล็ก เขาชอบมาก ๆ เวลาที่คนตรงหน้ามีสายตาที่เป็ประกายเหมือนกับที่เป็อยู่ตอนนี้ เหมือนกับได้ช่วยเขาขึ้นมาจากที่ที่มันไม่ใช่ที่ของเขา
คนที่สนุกกับศิลปะแบบป๋าย กลับได้ไปอยู่กับคนที่ดูถูกว่าสิ่งที่เขากำลังขีดเขียนอยู่มันเลอะเทอะ ทั้งที่ในสายตาของกรีน มันนับเป็ศิลปะชั้นยอด สายตาที่เปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่กรีนได้เจอ มันทำให้กรีนรู้สึกว่าการที่เขาพาคนตัวเล็กกลับมามันคุ้มค่าเป็ไหน ๆ
กรีนนั่งมองคนตัวเล็กขีดเขียนเื่ราวของเขาลงบนกระดาษอย่างไม่เบื่อ สายตาที่ดูมีความสุข รอยยิ้มที่ดูสดใสของป๋าย มันทำให้กรีนมีความสุขมาก ๆ ที่ค้นพบสิ่งที่น้องชอบและทำมันได้ดี
"กำลังวาดอะไรครับ? บอกพี่ได้ไหม"
"เค้าวาดรูปครอบครัว" หลังจากที่ได้ยินคำตอบของน้อง กรีนก็เลิกคิ้วขึ้นทันทีและทำท่าจะโน้มตัวไปดูสิ่งที่ป๋ายกำลังวาดอยู่ แต่น้องกลับยกกระดาษหนี
"ไม่ให้พี่ดูอีก"
"เซอร์ไพรส์ไง"
คนพี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและปล่อยให้น้องวาดต่อไป และในขณะที่รอน้องวาดเขาก็หันไปเห็นร้านขายเค้ก และคิดว่าจะลุกไปซื้อให้ป๋าย มือหนาล้วงกระเป๋าหยิบปลอกคอขึ้นมา
"ป๋ายป๋าย พี่กรีนขอข้อมือหน่อยครับ"
คนตัวเล็กที่นั่งวาดรูปอยู่ก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาแต่อย่างใด ทำเพียงแค่ยกข้อมือให้ตามที่กรีนขอ กรีนจัดการสวมปลอกคอใส่เข้าที่ข้อมือของคนน้องให้เรียบร้อย
"เดี๋ยวไปซื้อขนมให้แปปนึงนะครับ รอพี่ตรงนี้นะ" คนที่มัวแต่โฟกัสกับสิ่งตรงหน้าเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น
กรีนเดินมาที่ร้านเค้กที่เป็เป้าหมายในทันที เลือกรูปแบบเค้กอยู่สักพักและหันไปสั่งกับเ้าของร้าน โทนสีของเค้กก็จะเลือกเป็โทนที่คนตัวเล็กชอบ ส่วนรสชาติของเค้กในร้านนี้จะมีตามรสชาติของขนมแมวเลีย กรีนก็เลือกเป็รสโปรดของอีกคนโดยไม่ลังเล
"เรียบร้อยค่ะ"
"ขอบคุณครับ"
รออยู่สักพักเค้กที่กรีนสั่งก็เสร็จเรียบร้อย เ้าของร้านเค้กจัดการยื่นเค้กให้และกรีนก็ชำระเงินกลับไป จากนั้นก็รีบกลับมาที่ร้านระบายสีในทันที ก่อนที่จะเดินถึงโต๊ะ กรีนก็เห็นคนตัวเล็กที่ชะเง้อหน้าไปมาพร้อมกับปากที่เบะลง
"หาอะไรครับ?" พอเดินถึงโต๊ะ กรีนก็ถามน้องขึ้นมาทันที
"พี่กรีน ไปไหนมา?" คนตัวเล็กพูดขึ้นมาด้วยเสียงงอแง
"พี่บอกเธอแล้วไงว่าพี่จะไปซื้อขนมให้ ไม่ได้ยินเหรอครับ? เธอยังพยักหน้าให้พี่อยู่เลยนะ"
"เค้าไม่เห็นได้ยินเลย"
"แล้วก็พยักหน้าให้พี่เนี่ยนะตัวเล็ก" จากในตอนแรกที่กรีนนั่งฝั่งตรงข้ามของอีกคน ก็ย้ายมานั่งฝั่งเดียวกันทันที ลูบหัวปลอบน้องเบา ๆ เพราะรู้สึกว่าน้องกำลังกลัวเขาหาย
"ไหน แล้ววาดรูปเสร็จหรือยัง? พี่อยากเห็นแล้วนะเนี่ย" ใบหน้าเล็กที่งอแงในตอนแรก ก็ปกติขึ้นมาทันตาเห็นหลังจากที่กรีนพูดถึงรูปวาดที่เขาวาด
"พี่กรีนหลับตาก่อน" กรีนยกยิ้มและทำตามคำบอกของคนตัวเล็กทันที คนน้องก็ชูรูปที่ตัวเองเพิ่งจะวาดเสร็จเมื่อสักครู่ให้อยู่ในระดับสายตาของกรีน
"ลืมตาได้" เสียงเล็กพูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
กรีนลืมตาทันทีที่น้องอนุญาต ระดับสายตาพอดีกับรูปวาดที่น้องถือขึ้นในตอนนี้ ปากสวยของกรีนค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกหลังจากที่เห็นรูปวาด กรีนพอจะเดาได้ว่าในรูปมีใครบ้าง นั่นก็คือกรีนและป๋ายในร่างมนุษย์ และแมวด้านล่างก็คงจะเป็ตัวป๋ายในร่างแมว ถัดไป้า เป็รูปของท้องฟ้าจาง ๆ และหญิงชายคู่หนึ่งที่กำลังยิ้ม ในอ้อมกอดของหญิงผู้นั้น ก็กำลังอุ้มแมวสีขาวอยู่
"พี่กรีนชอบไหม?" คนตัวเล็กถามขึ้นด้วยความหวัง
"ชอบครับ ชอบมาก ๆ เลย"
"รู้ใช่ไหมว่ามีใครบ้าง?"
"ถ้าตามที่พี่เข้าใจ ก็คือพี่กับเธอยืนอยู่ด้วยกัน แมวด้านล่างข้าง ๆ เธอก็คือเธอตอนที่เป็เ้าสี่ขา ส่วนบนท้องฟ้ามีพ่อกับแม่พี่กำลังอุ้มคุณอีเนสแม่ของเธออยู่ ใช่ไหมครับ?"
"ใช่แล้ว พี่กรีนเก่งมาก"
กรีนเองก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้คนตัวเล็กวาดสิ่งสิ่งนี้ออกมา แต่มันเป็รูปวาดที่มีความหมายสำหรับเขามาก ความสมบูรณ์ของรูปวาด รวมทั้งการลงสี ลวดลายของเส้น มันทำให้รูปนี้พิเศษมากขึ้นไปอีกเท่าตัว และแน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้พิเศษมากกว่านั้น ก็คือรูปนี้ถูกวาดโดยป๋าย
ภายในเวลาไม่กี่นาทีที่คนตัวเล็กตั้งใจก้มหน้าก้มตาวาดรูป กรีนไม่ได้หวังจะเห็นอะไรที่มันพิเศษขนาดนี้เลย จากที่เห็นคนตัวเล็กวาดรูปมา แน่นอนอยู่แล้วว่ามันจะออกมาสวย แต่รูปวาดที่ป๋ายวาดออกมา มันไม่ใช่แค่สวยเพราะคุณภาพของรูปวาด แต่มันสวยเพราะความหมายต่างหาก
"ขอบคุณนะครับตัวเล็ก"
กิจกรรมถัดจากการวาดรูประบายสี ในรอบนี้ ป๋ายอยากจะตามใจกรีนบ้าง เพราะกิจกรรมก่อนหน้ากรีนเลือกสิ่งที่ป๋ายชอบ ส่วนตัวเองก็เอาแต่นั่งมองเฉย ๆ มาถึงคราวนี้ป๋ายก็อยากจะให้กรีนได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบบ้าง
และกิจกรรมที่กรีนเลือกทำก็คือการยิงปืน กิจกรรมยิงปืนในตลาดท้ายปีมีอยู่หลายประเภท มีั้แ่การยิงปืนโดยใช้ะุจริง มาถึงการยิงปืนเพื่อเอาตุ๊กตา แต่การยิงปืนโดยใช้ะุจริงจะถูกแยกออกไปที่สนามยิงปืนด้านข้างอย่างจริงจัง เพราะถือเป็กิจกรรมที่มีความอันตราย
ถึงแม้ว่าป๋ายจะให้กรีนได้เลือกทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ แต่กรีนก็ยังนึกถึงป๋ายอยู่ดี ใจเขาอยากจะไปยิงปืนโดยใช้ะุจริง ๆ ที่สนาม แต่ถ้าเอาอีกคนไปด้วยเขาก็อาจจะกลัว เลยเลือกที่จะยิงปืนเพื่อเอาตุ๊กตาสนุก ๆ ดีกว่า
"น่ากลัวไหมพี่กรีน?"
"ไม่น่ากลัวมากครับ เดี๋ยวพี่พาไปดูก่อน ถ้าเธอไม่โอเคพี่จะไม่เล่น"
กรีนจูงมือป๋ายเข้ามาที่หน้าบูธกิจกรรมการยิงปืนชิงตุ๊กตา กติกาก็คือต้องเล็งปืนให้แม่น จากนั้นก็ต้องยิงตุ๊กตาให้ล้มลงไปที่ตาข่ายด้านหลัง ถ้าหากยิงตุ๊กตาตัวไหนให้ล้มได้ ก็สามารถนำตุ๊กตาตัวนั้นกลับบ้านได้เลย
ป๋ายยืนดูอยู่สักพักจนเข้าใจกติกา กรีนเองก็โล่งใจที่ป๋ายไม่ได้มีท่าทีว่าจะกลัว แถมยังไปช่วยคนที่กำลังเล่นอยู่ตอนนี้ลุ้นอีกด้วยว่าจะยิงโดนตุ๊กตาหรือเปล่า
"เล่นไหมครับ?"
"ปืนหนักไหมพี่กรีน?"
"ไม่หนักครับ ไม่ได้กลัวใช่ไหม?"
"เค้าไม่กลัว ๆ น่าสนุกมาก ๆ เลย พี่กรีนเล่นให้ดูก่อนได้ไหม?"
"ได้สิ"
กรีนเดินไปที่หน้าร้านเพื่อจ่ายเงินแลกกับตะกร้าะุปลอมที่จะใช้ยิงตุ๊กตา ตุ๊กตาในร้านมีความหลากหลายให้ได้เลือกตามความชอบ รวมไปถึงขนาดที่แตกต่างกัน แบ่งโซนชัดเจนเพราะราคาของะุจะต่างกัน และสิ่งที่ต่างกันก็รวมไปถึงขนาดของพื้นที่ใช้ยิงด้วย ถ้าเป็ตุ๊กตาตัวใหญ่ ก็จะเป็โซนที่ใช้ะุและปืนขนาดใหญ่ขึ้นกว่าโซนของตุ๊กตาตัวเล็ก
"พี่ยิงตัวเล็กก่อนนะ"
"เอาเลย ๆ" คนน้องที่ะโด้วยความตื่นเต้นรีบตอบกลับคนพี่ทันที
ฟึบ!
กรีนตั้งท่าเพียงเล็กน้อยและยิงออกไปทันที ด้วยความที่มันคืองานอดิเรกของกรีนเวลาที่ว่าง มันก็ทำให้เขาเล็งได้อย่างแม่นยำ ตุ๊กตาที่โดนแรงกระแทกจากะุนัดแรกของปืนที่กรีนถือร่วงลงที่ตาข่ายด้านหลังทันที
"พี่กรีนเก่งมาก!" ป๋ายยังคงะโด้วยความดีใจ
กรีนเริ่มยิงนัดต่อไปเรื่อย ๆ ถึงส่วนใหญ่จะยิงโดน แต่ก็มีบางนัดที่กรีนยิงไม่โดน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความตื่นเต้นของคนตัวเล็กลดลงแต่อย่างใด
"เค้าลองได้ไหม?" หลังจากที่กรีนยิงจนะุหมดตะกร้า คนตัวเล็กก็เอ่ยถามขึ้น เพราะว่าอยากลองเล่นบ้าง
"ได้ครับ"
กรีนเดินไปหาเ้าของร้านและจ่ายเงินแลกตะกร้าะุมาอีกหนึ่งตะกร้าสำหรับตุ๊กตาตัวเล็ก กรีนให้ป๋ายลองยิงตุ๊กตาตัวเล็กก่อน เพราะน้ำหนักของปืนจะเบากว่าปืนที่ใช้ยิงตุ๊กตาตัวใหญ่ในส่วนถัด ๆ ไป
"เธอลองเล็งแล้วออกแรงกดตรงนี้ได้เลยครับ" กรีนสอนคนตัวเล็กจับปืนและวิธีการยิง
ฟึบ!
ถึงแม้ว่าการยิงครั้งแรกของป๋ายจะไม่เฉียดตุ๊กตาแม้แต่น้อย แต่ป๋ายก็สนุกกับมันมาก ๆ ยิงเสร็จก็ยิ้มกว้างออกมา แล้วรีบใส่ะุนัดถัดไปเพื่อยิงต่อทันที
ฟึบ!
ฟึบ!
คนตัวเล็กยิงจนะุหมดตะกร้า แต่ก็ไม่โดนตุ๊กตาให้ล้มลงไปที่ตาข่ายเลยสักนัดเดียว ในตอนแรกกรีนกลัวว่าอีกคนจะเสียใจหรือเปล่าที่ยิงไม่โดน แต่ถ้ามองจากรอยยิ้มของป๋ายในตอนนี้ ก็คงยืนยันได้ว่ามันไม่เป็แบบนั้น เพราะอีกคนดูสนุกเอามาก ๆ ถึงคราวที่ยิงไม่โดนก็หัวเราะออกมา
"เค้าลองอันใหญ่ ๆ ได้ไหม?" พอเริ่มสนุก คนตัวเล็กก็ขอเล่นปืนที่ขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อชิงตุ๊กตาตัวใหญ่
"ได้ครับ แต่ว่ามันจะดีดแรงขึ้นนะ ระวังด้วย เข้าใจไหม?"
"เค้ารับทราบ!"
ป๋ายตอบรับออกมาด้วยความตื่นเต้นที่คนพี่อนุญาตให้เล่น ทั้งคู่ขยับมาโซนที่มีตุ๊กตาตัวใหญ่มากขึ้น กรีนเดินไปจ่ายเงินเพื่อแลกกับการะุอีกครั้งสำหรับปืนใหญ่
ฟึบ!
ฟึบ!
คนตัวเล็กเล็งแล้วยิงอย่างสนุกสนาน พอยิงพลาดก็หันขึ้นมาหัวเราะกับคนพี่ทันที จนมาะุนัดสุดท้าย
ฟึบ!
"อื้อ!"
เสียงะุกระทบตุ๊กตา ทำให้ตุ๊กตาตัวใหญ่หล่นไปที่ตาข่ายด้านหลัง มาพร้อมกับเสียงร้องของคนตัวเล็ก กรีนไม่ได้สนใจตุ๊กตาที่หล่นลงไปแต่อย่างใด เพราะพอได้ยินน้องร้อง กรีนก็รีบคว้าปืนในมือน้องวางลงที่โต๊ะด้านหน้าทันที มือหนาจับคางมนให้เชิดหน้าขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาที่กรีนพอจะมองเห็น และพบว่ามันมีรอยช้ำที่บริเวณใต้คาง
"เจ็บไหม?"
"เจ็บ" พอได้ยินคำตอบ กรีนก็รีบร้อนคว้ามือน้องออกไปทันที แต่คนโดนดึงกลับไม่ได้เดินตาม
"ป๋ายป๋าย"
"พี่กรีน รอตุ๊กตาเค้าก่อน"
"เธอเจ็บอยู่นะครับ"
"แต่เค้าอุตส่าห์ยิงได้นะ" พอเห็นคนตัวเล็กหน้างอ กรีนก็ยอมที่จะรอให้เ้าของร้านไปหยิบตุ๊กตาจากตาข่ายมาให้ป๋ายก่อน พอได้ตุ๊กตาเรียบร้อยแล้วก็รีบพาน้องออกไปจากร้านทันที
เป้าหมายของกรีนก็คือร้านยาใกล้ ๆ ที่ตลาดท้ายปีจะมีร้านยาอยู่แค่ร้านเดียว แต่มีหน่วยปฐมพยาบาลประจำอยู่ทุกจุดในตลาดเสมอ แต่โชคดีที่วันนี้ร้านยาคนไม่เยอะ กรีนเลยได้ยามาให้ป๋ายแทบจะในทันที
"เงยหน้าให้พี่ดูหน่อย" คนตัวเล็กเงยหน้าตามคำบอกของพี่ทันที รอยช้ำที่เห็นจากที่ร้านยิงปืนมันชัดเจนมากยิ่งขึ้นในตอนนี้ นั่นก็ทำให้คิ้วกรีนขมวดแน่นขึ้น
"พี่ทายาให้นะ ถ้าเจ็บรีบบอกนะครับ" พอคนตัวเล็กพยักหน้า กรีนก็รีบแกะยาที่ซื้อมาทันที มือหนาบีบหลอดเจลบรรเทาอาการฟกช้ำใส่นิ้วของตัวเล็กน้อย จากนั้นก็ป้ายมันลงบริเวณใต้คางของน้องที่ช้ำ พอกรีนป้ายมันลงคนตัวเล็กก็สะดุ้งทันที
"เจ็บเหรอคนดี?"
"หึ มันเย็น" หลังจากที่ได้ยินว่าป๋ายไม่เจ็บ กรีนค่อย ๆ วนเจลที่ใต้คางของอีกคนเบา ๆ
"พี่กรีนอย่าทำหน้าเครียดแบบนั้น เหมือนเค้ากำลังโดนดุเลย"
"พี่ไม่ได้ดุครับ เธอไม่ได้ผิด แต่พี่แค่เป็ห่วง เห็นเธอเจ็บแล้วพี่ก็เจ็บไปด้วย"
"โอ๋ ๆ น้า เค้าเจ็บแค่จิ๊ดเดียว" นิ้วเรียวของป๋ายถูกส่งขึ้นไปวางไว้ที่หว่างคิ้วของกรีนก่อนจะออกแรงคลึงเบา ๆ
"เค้าเจ็บจิ๊ดเดียวจริง ๆ น้า พี่กรีนไม่เครียดสิ เดี๋ยวก็ไม่สนุก พาเค้าไปกินเค้กที่ซื้อมาดีกว่า" รอยยิ้มปรากฎที่หน้าป๋ายในขณะที่พูด กรีนมองหน้าอีกคนค้างไว้ก่อนจะสวมกอดไปแน่น ๆ
"ยิ้มปลอบพี่หรือไง?"
"ก็พี่กรีนเครียด ใกว่าเค้าอีก เค้าไม่เป็อะไรจริง ๆ" คนน้องกอดปลอบคนพี่กลับไป
"ป่ะ พี่พาไปนั่งกินเค้ก"
"ก่อนไปนั่งกิน เค้าขอไปซื้อให้พี่กรีนบ้างนะ"
"ซื้ออะไรครับ?" กรีนถามขึ้นในขณะที่มือก็เกลี่ยที่คางของน้องไม่หยุด
"เค้กไง พี่ซื้อให้แต่เค้า ไม่เห็นซื้อให้ตัวเองเลย"
"โอเคครับ งั้นเดี๋ยวไปซื้อให้พี่ แล้วไปนั่งกินด้วยกัน"
ทั้งคู่ส่งยิ้มให้กัน จากนั้นกรีนก็จูงมือป๋ายไปที่ร้านเค้กสำหรับคน จากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ มันยิ่งทำให้รู้สึกได้ว่าทั้งสองคนต่างก็เป็ห่วงความรู้สึกของกันและกันมากขึ้น อาจจะเพราะได้สารภาพความรู้สึกออกไปแล้ว ว่าความรู้สึกที่มีต่อกันมันเป็ลักษณะแบบไหน ก็เลยทำให้แสดงออกไปมากกว่าเดิมได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมากเท่าที่ผ่านมา กรีนเองก็รู้สึกว่าเป็แบบนี้มันก็ดีแล้ว เพราะการกระทำบางอย่าง เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันสมควรหรือเปล่า ที่จะกระทำออกไปโดยที่ไม่ได้บอกน้องว่าเขารู้สึกแบบไหน แต่ในตอนนี้ อะไร ๆ มันก็ลงตัวมากขึ้น เลยทำให้ทั้งคู่ไม่ต้องกักเก็บความรู้สึกบางส่วนไว้ แสดงออกต่อกันได้มากกว่าที่เคยเป็มา