ข่าวเื่เซิ่งจื่อเกือบถูกสังหารกระจายไปทั่วเกาะเทพัภายในครึ่งวัน! ศิษย์ลัทธิมารไม่รู้กี่มากน้อยต้องเผยสีหน้าหวาดผวา ใครมันขวัญกล้าปานนี้!
เซิ่งจื่อเป็ผู้ที่มารอริยะแต่งตั้งมา ถ้าหากเปรียบเทียบสถานะของมันในราชวงศ์แดนมนุษย์ เซิ่งจื่อก็คือองค์รัชทายาท แล้วใครมันกล้าคิดฆ่าเซิ่งจื่อ? ทั่วเกาะเทพัพลันตกอยู่ในบรรยากาศหดหู่
ขณะเดียวกัน นามหนึ่งก็เลื่องลือไปทั่วเกาะเทพัในพริบตา นามนั้นคือหวังเค่อ!
หวังเค่อเคยช่วยชีวิตศิษย์ลัทธิมารไว้มากมายที่วังหลวงต้าชิง ไม่ต้องกล่าวถึงว่าครั้งนี้เพื่อช่วยชีวิตเซิ่งจื่อ มันถึงกับะโลงสระหมื่นอสรพิษโดยไม่ห่วงชีวิตตัวเอง ทั้งหมดนี้ผลักดันหวังเค่อจนกลายเป็ ‘ผู้เปี่ยมศีลธรรมเทียมฟ้า’ และ ‘เสาหลักแห่งลัทธิมาร’ ไปแล้ว
คนที่ได้ยินวีรกรรมของหวังเค่อมีใครบ้างไม่ยกนิ้วชื่นชม? ไพ่นกกระจอกที่หวังเค่อคิดค้นเองยังเป็ที่นิยมกระจายไปทั่วเกาะเทพัด้วย
หากในเวลานี้ ตัวหวังเค่อไม่ทราบว่าตนได้กลายเป็คนดังของเกาะเทพัไปแล้ว เมื่อยามบ่ายมาเยือน มันก็เดินตามศิษย์ลัทธิมารคนหนึ่งไปยังตำหนักของจูหงอีที่กลางเกาะ
ภายในห้องโถงใหญ่ มันเข้าพบกับเนี่ยชิงชิงที่อ่อนแรงอยู่
“ชิงเอ๋อร์ หวังเค่อมาแล้ว วันนั้นมันลงมือสังหารเ้า เ้ากลับไม่อยากให้มันตายหรอกหรือ?” จูหงอีขมวดคิ้ว
เนี่ยชิงชิงมองหวังเค่อไม่ไกลออกไปด้วยสีหน้าซับซ้อน วันนั้นนางคิดลากเหล่ามารตกตายไปด้วยกัน คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายทั้งนางกับจูหงอีกลับยังมีชีวิตอยู่
“ข้าไม่โทษมัน!” เนี่ยชิงชิงส่ายหน้า
“เพราะอะไร?” จูหงอีเอ่ยอย่างหม่นหมอง
เนี่ยชิงชิงมองจูหงอีด้วยแววตาเ็า ก่อนจูหงอีจะหุบปากทันที ชิงเอ๋อร์บังเกิดความคิดอยากตาย ไหนเลยจะโทษคนที่ลงมือสังหารตัวเองได้? เอ่ยปากขอบคุณตอนนี้ยังช้าไปด้วยซ้ำ!
“ได้ ได้ งั้นไม่คาดโทษแล้ว แต่เ้าห้ามทำเื่โง่เขลาแบบนั้นอีก!” จูหงอีเอ่ยอย่างกังวล
“หวังเค่อ? เ้าคิดเห็นอย่างไร?” เนี่ยชิงชิงมองหวังเค่อพลางยิ้มขื่น
จูหงอีเลิกคิ้วสูงด้วยสีหน้าแปลกใจ เื่แบบนี้เ้ากลับถามหวังเค่อ?
จูหงอีมองหน้าหวังเค่อเขม็ง พลางส่งสัญญาณไม่ให้อีกฝ่ายพูดจาเหลวไหล
“์เมตตาสรรพชีวิต ข้าคิดว่าหากท่านยังมีชีวิตอยู่ ทำไมถึงต้องตายด้วย?” หวังเค่อเกลี้ยกล่อม
เนี่ยชิงชิงมองหวังเค่อก่อนจะยิ้มเจื่อน
“ชิงเอ๋อร์” จูหงอีกังวล
“ข้าอยากคุยกับหวังเค่อเป็การส่วนตัว!” เนี่ยชิงชิงสูดหายใจลึก
“ตามลำพังรึ?” จูหงอีขมวดคิ้วอย่างไม่ยินยอม
“ทำไม? คิดว่าข้าจะสนใจในตัวเ้าหนูนี่หรือไง?” เนี่ยชิงชิงมองจูหงอีด้วยสีหน้าเ็า
“จะเป็แบบนั้นได้ยังไง ข้าแค่ แค่…” จูหงอีได้แต่ยิ้มแห้ง
จูหงอีมั่นใจว่าตนรับรู้ความรู้สึกของเนี่ยชิงชิงได้ นางย่อมไม่ได้มีความคิดแบบนั้น ตนทำได้เพียงมองหวังเค่อ ปล่อยให้มันช่วยเกลี้ยกล่อมเนี่ยชิงชิงให้ล้มเลิกความคิดอยากตาย
“ห้ามแอบฟังด้วย!” เนี่ยชิงชิงมองหน้าจูหงอีอีกครั้ง
“ไม่ต้องห่วง เ้าคุยกับหวังเค่อไปก่อน ข้าสัญญาว่าจะไม่มีใครรับรู้ทั้งนั้น!” จูหงอีในที่สุดก็พยักหน้ารับ
จูหงอีออกไปจากห้องโถงอย่างหดหู่ เนี่ยชิงชิงสะบัดมือกางกำแพงสัจปราณป้องกันเสียงเล็ดรอดออกไป
ภายในห้องโถงเหลือเพียงหวังเค่อกับเนี่ยชิงชิง
หวังเค่อยิ้มแห้ง “เ้าตำหนักเนี่ย ข้าคิดไม่ถึง…ต้องขออภัยในเื่เข้าใจผิดก่อนหน้านี้ด้วย!”
เนี่ยชิงชิงมองหวังเค่อก่อนถอนหายใจบาง “สุดท้ายั้แ่วันนั้นเ้าก็ยังหาทางหนีไปไม่ได้!”
“ข้าจะหนีไปไหนได้? พวกมารคิดว่าข้าลงมือสังหารท่าน เลยพากันขอบคุณข้าอย่างกระตือรือร้น ข้า…!” หวังเค่อยิ้มแห้งต่อ
“เ้ารอดมาได้ถึงวันนี้นับว่าโชคดีนัก!” เนี่ยชิงชิงถอนหายใจบาง
“โชคดี? ก็นิดหน่อย! แต่ว่าในเมื่อเ้าตำหนักเนี่ยฟื้นแล้ว ข้าเองก็อยู่รอดปลอดภัย เช่นนั้นพวกเรารีบหาโอกาสกลับพรรคเทพหมาป่า์กันดีหรือไม่?” หวังเค่อเอ่ยอย่างคาดหวัง
“กลับพรรคเทพหมาป่า์? เฮ้อ ข้ากลับไม่ได้ ข้าไม่มีวันกลับไปได้!” เนี่ยชิงชิงยิ้มอย่างขื่นขม
“เพราะเหตุใด? แค่เพราะท่านกลายเป็มาร? ข้าเห็นว่าหัวใจของท่านยังอยู่ในวิถีธรรม ท่านไม่ใช่มารร้ายเสียหน่อย! ท่านอาจารย์จะต้องเชื่อท่านแน่!” หวังเค่อเกลี้ยกล่อม
เนี่ยชิงชิงส่ายหน้า “เ้าไม่เข้าใจ เ้ายังไม่เข้าใจ! มาร? เ้ารู้หรือเปล่าว่ามารคืออะไร? ฝ่ายธรรมะกลายเป็มารได้อย่างไร? เส้นแบ่งอยู่ที่ตรงไหน?”
“มาร? ความรู้ข้ายังไม่พอจริงๆ!” หวังเค่อขมวดคิ้วอย่างสับสน
“ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า ‘เมล็ดพันธุ์มาร’ อยู่ เมล็ดพันธุ์มารที่ถูกฝังเข้าร่างมนุษย์จะพยายามหลอมรวมกับดวงิญญาเ้าของร่าง หากคนผู้นั้นยินยอมหลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์ มันก็จะกลายเป็มาร! ถ้าหากยังเป็มนุษย์แล้วบังเกิดจิตไม่ยินยอม เมล็ดพันธุ์มารก็ไม่มีวันชนะ สุดท้ายเป็ฝ่ายสูญสลายไปเอง! ดังนั้น เส้นแบ่งการเป็มารจึงอยู่ที่ความคิด!” เนี่ยชิงชิงอธิบาย
“เมล็ดพันธุ์มารหลอมรวมกับดวงิญญามนุษย์? ถึงค่อยกลายเป็ร่างมาร? แล้วเมล็ดพันธุ์มารมาจากไหน?” หวังเค่อถามอย่างใ
“เมล็ดพันธุ์มารทั่วไปล้วนกลั่นมาจากเหล่ามารรุ่นก่อน!” เนี่ยชิงชิงอธิบาย
หวังเค่อขมวดคิ้วขบคิด นี่ฟังดูคล้ายหนังแวมไพร์บนดาวโลกอยู่บ้าง ถ้าหากมนุษย์โดนแวมไพร์กัดแล้วฉีดเืเข้าใส่ร่าง มันก็จะกลายเป็แวมไพร์รุ่นต่อไป?
“จะกลายเป็มารหรือไม่ขึ้นอยู่กับเ้าของร่างที่ถูกฝังเมล็ดพันธุ์มารเข้าไป? แสดงว่าศิษย์ที่เข้าร่วมลัทธิมารเหล่านี้ล้วนเลือกที่จะหลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์มาร? เป็พวกมันเต็มใจ?” หวังเค่อสีหน้าแปรเปลี่ยน
“เฮ้อ ใครเล่าจะเต็มใจ? ข้าบอกได้เลยว่าหลังจากเมล็ดพันธุ์มารหลอมรวมเข้ากับดวงิญญา มันจะเปลี่ยนแปลงปณิธาณความคิดของเ้าไปทีละน้อย เปลี่ยนเ้าให้กลายเป็อีกคน! เป็เ้าจะเต็มใจหลอมรวมิญญาตัวเองกับเมล็ดพันธุ์มารหรือเปล่าล่ะ?” เนี่ยชิงชิงถาม
หวังเค่อหน้าแข็งทื่อ ท่านล้อข้าเล่นหรือไง? หลังหลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์มาร ข้าจะไม่ใช่ตัวข้าเองอีกต่อไป? แล้วมีหรือข้าจะยอม?
“เมื่อเมล็ดพันธุ์มารผสานกับร่างกาย มันจะมอบพลังชีวิตอันกล้าแกร่งให้ มีหลายกรณีที่ถึงขนาดช่วยชีวิตคนใกล้ตายให้ฟื้นกลับมาได้! พวกรักตัวกลัวตายมักยอมหลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์มารด้วยตัวเอง!” เนี่ยชิงชิงอธิบาย
“ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมเนี่ยเทียนป้าหลานทวดของท่านถึงฟื้นกลับมาจากความตายได้ เพราะตัวมันยังไม่ทันตายสนิท ก็ถูกเมล็ดพันธุ์มารแทรกซึมเข้าสู่ร่าง พอมันหลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์มาร เมล็ดพันธุ์มารก็เลยช่วยให้มันฟื้นคืนชีพ?” หวังเค่อสีหน้าแปรเปลี่ยน
“มิผิด มาร? เมื่อกลายเป็มารแล้ว เ้าก็ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ฮ่าฮ่าฮ่า เนี่ยเทียนป้าไม่ใช่มนุษย์แล้ว ข้าเล่า? ข้าเองก็ไม่ใช่มนุษย์เหมือนกัน!” เนี่ยชิงชิงเผยสีหน้าเศร้าสร้อย
“เ้าตำหนักเนี่ย ข้าไม่เห็นว่าท่านจะเปลี่ยนไปตรงไหน? ท่านก็ยังเป็ท่านอยู่!” หวังเค่อถามอย่างสงสัย
“ข้ายังเป็ข้า?” ฮ่าฮ่า อีกไม่นานก็ไม่ใช่แล้ว!” เนี่ยชิงชิงส่ายหน้า
“ไม่ถูกต้อง ข้าเห็นจูหงอีเป็มารมานับร้อยปี ไม่ใช่มันยังเป็ตัวเองอยู่?” หวังเค่อแปลกใจ
“ยังเป็ตัวเองอยู่? ไม่เลย มันไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว!” เนี่ยชิงชิงส่ายหน้า
“จริงหรือ?”
“มันเคยช่วยเหลือผู้คน ตอนนี้มันกลับกินคน! กินคน เ้ารู้จักไหม?” เนี่ยชิงชิงตัวสั่น
“กินคน? งั้นก็ไม่ต้องกินสิ!” หวังเค่อเอ่ยอย่างกังขา
“ฮะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า นี่เป็เื่ชวนหัวที่สุดที่ข้าเคยได้ยินมา! ไหนเลยจะมีมารที่ไม่กินคนอยู่ด้วย?” เนี่ยชิงชิงยิ้มขื่น
“ทำไมท่านถึงต้องอยากกินคนด้วย?” หวังเค่อยังไม่เข้าใจ
“ไม่ใช่ว่าพวกเราอยากกิน แต่มันเป็สัญชาตญาณ สัญชาตญาณจากก้นบึ้งดวงจิตมาร พวกเราควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนอย่างตอนนี้ พอข้าเห็นข้า ข้าก็อยากกินเ้า ร่างกายข้าร้อนรุ่มจนแทบทนไม่ไหว ข้าอยากกินคน ข้าจะกินเ้า โฮก!” เนี่ยชิงชิงพลันงอกเขี้ยวออกมาใส่หวังเค่อ
ใบหน้าอัปลักษณ์ดุร้ายและเขี้ยวสีโลหิต เสียงคำรามทำให้หวังเค่อต้องเผลอถอยกรูด มือเรียกกระบี่บินขึ้นมาขณะมองเนี่ยชิงชิงอย่างระแวงระวัง
เนี่ยชิงชิงสองตาแดงฉาน นางสะกดข่มแรงปรารถนาในใจลง ก่อนเขี้ยวยาวสองข้างจะหดหายไป
“เ้าเห็นหรือยัง? นี่ก็คือวิสัยของมาร วิสัยมารร้ายดำรงอยู่เพื่อกินคน ดื่มเืกินเนื้อ! เป็สัญชาตญาณของเผ่าพันธุ์ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า วันหนึ่งข้ากลับกลายเป็มาร? ข้าทำได้เพียงรู้สึกอยากกินคน” เนี่ยชิงชิงตาแดงก่ำเปียกชื้น
“กินคน? หากท่านคุมตัวเองไม่อยู่ก็ทำได้แค่กินคน?” หวังเค่อถามด้วยสีหน้าบูดเบี้ยว
“มิผิด ข้าสะกดตัวเองมานาน อีกไม่ช้าก็จะถึงคืนจันทร์เต็มดวงแล้ว ข้าจะไม่อาจสะกดสัญชาตญาณของตัวเองได้อีกต่อไป ข้าจะถูกความเป็มารกลืนกิน ในหัวหลงเหลือเพียงความกระหายอยากกินคน! หลังกินคนแล้วจึงค่อยคืนสติ นี่เป็สิ่งที่มารทุกตนต้องประสบ หลังกินคนแล้วข้าจะได้สติอยู่พักใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความกระหายนี้ก็จะหวนคืนมาอีกครั้ง ทุกคืนจันทร์เต็มดวง จะเป็คืนที่ความปรารถนาของมารร้ายกล้าแข็งที่สุด อยากกินคนที่สุด! ทุกครั้งที่กินคนจะก่อบาปกรรม สัจปราณจะเริ่มกลายเป็ไอมารทมิฬเพราะผลกรรม นี่ก็คือมาร ตัวตนขั้วตรงข้ามกับมนุษย์ เผ่าพันธุ์ใหม่ที่ดำรงอยู่ด้วยการกินคน นี่ก็คือมาร! มารอสูร!” เนี่ยชิงชิงเผยสีหน้าสิ้นหวัง
พอได้ยินคำอธิบายของเนี่ยชิงชิงแล้ว หวังเค่อกลับเผยสีหน้าพิกล ทำไมพวกมารเหล่านี้ถึงได้อาการฟังดูคล้ายคนติดยาในโทรทัศน์นัก? คนติดยาที่ของขาดจะลงแดงชักกระตุกทุกครั้ง ต้องเสพยาเพิ่มเข้าไปถึงอาการดีขึ้น พวกมารเองก็คล้ายกัน ไม่สิ เลวร้ายกว่าเพราะพวกมันกินคนนี่นา?
“กินคน? ดื่มเืดูดพลังปฐมจนหมดตัว เมื่อเหยื่อตาย ดวงจิตมารถึงค่อยสงบให้เ้าของร่างได้สติกลับคืน พลังบำเพ็ญก้าวหน้าว่องไว นี่ก็คือมาร! มารทั้งหลายต่างลุ่มหลงในความรู้สึกนี้ พวกมันถึงได้นิยมกินผู้ฝึกตนฝ่ายธรรมะ! ส่วนฝ่ายธรรมะก็ปราบมารเพื่อกุศล! ดังนั้นธรรมะอธรรมไม่อาจอยู่ร่วม ไม่ข้าอยู่ก็เ้าตาย! เ้ายังจะบอกให้ข้ากลับพรรคเทพหมาป่า์อยู่อีกไหม?” เนี่ยชิงชิงยิ้มอย่างขมขื่น
หวังเค่อขมวดคิ้วครุ่นคิดสักพัก
“เ้ายังคิดว่าจูหงอีกับข้าเป็มนุษย์อยู่อีก?” เนี่ยชิงชิงยังคงยิ้มเจื่อน
หวังเค่อขบคิดชั่วครู่ค่อยส่ายหน้า “ข้าคิดว่าเส้นแบ่งที่ทำให้ธรรมะอธรรมไม่อาจอยู่ร่วมก็คือมาร้ากินคน! หากมารสามารถห้ามใจไม่กินคนได้ เช่นนั้นก็จะบังเกิดมารเที่ยงธรรม! อย่างไรเสีย ฝ่ายธรรมะยังมีคนชั่วได้ ก็ต้องมีคนดีอย่างท่านในฝ่ายอธรรมได้!”
“เป็มารจะไม่กินคนได้ยังไง?” เนี่ยชิงชิงส่ายหน้า
“การกินคนก็เป็แค่อาการเสพติดอย่างหนึ่งไม่ใช่หรือ? ทำไมท่านไม่ลองทำใจหักดิบเลิกดูเล่า?” หวังเค่อถาม
“เลิก? จะให้เลิกอย่างไร? พวกเรานับวันยิ่งมายิ่งคุมตัวเองไม่อยู่! นี่ก็คือธรรมชาติของมาร! เ้าคิดว่าข้าอยากเป็มารนักหรือ?” เนี่ยชิงชิงตาแดงก่ำ
“ข้ามีความคิดอยู่ ท่านอยากลองดูหรือไม่?” หวังเค่อมองเนี่ยชิงชิง
“เ้า?” เนี่ยชิงชิงไม่อยากเชื่อ
“ลองดูก่อน ข้าเคยเห็นในโทรทัศน์!” หวังเค่อว่า
“โทรทัศน์?” เนี่ยชิงชิงถามอย่างงุนงง
“อืม ยังไงก็มีวิธีแล้ว ท่านอยากลองหรือไม่?” หวังเค่อถามต่อทันที
เนี่ยชิงชิงไม่เชื่อหวังเค่อ จนถึงเมื่อครู่เ้ายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมารสักนิด แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าจะช่วยข้าให้หลุดพ้นความกระหายอยากกินคน? เ้าล้อข้าเล่นหรือยังไง?
แต่ไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยก็มีประกายแห่งความหวัง เนี่ยชิงชิงย่อมต้องอยากลอง
“เอาเถอะ ต้องทำอย่างไร?” เนี่ยชิงชิงขมวดคิ้ว
“เมื่อใดที่ท่านมีอาการลงแดง ก็จับท่านมัดเอาไว้ไม่ให้ท่านไปไล่จับคนกิน! จากนั้นค่อยหาอย่างอื่นที่ใกล้เคียงกันมาให้ท่านกินแทน เปลี่ยนอาการเสพติดกินคนของท่านให้เป็เสพติดอย่างอื่น!” หวังเค่อว่า
“เป็ไปไม่ได้ เป็ไปไม่ได้!” เนี่ยชิงชิงไม่ยอมเชื่อ
“ท่านไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไร?” หวังเค่อตะล่อม
เนี่ยชิงชิงขมวดคิ้วมองหวังเค่อ ก่อนจะยอมพยักหน้าในที่สุด
“ให้จูหงอีล่ามท่านเอาไว้เป็อย่างไร? ข้าพอมีโลหิตพลังปฐมอยู่บ้าง ถึงจะเป็โลหิตพลังปฐมที่รีดมาจากศิษย์พรรคฝ่ายธรรมะ แต่ก็ไม่ได้่ชิงชีวิตคน! ท่านสมควรทำใจยอมรับได้ใช่หรือไม่?” หวังเค่อกล่าว
“ดื่มเืมนุษย์?” เนี่ยชิงชิงทำสายตาลังเล
“เทียบกับการจับคนดูดเืจนแห้งตายแล้ว สำหรับข้าถือเสียว่านี่เป็การบริจาคเื!” หวังเค่อเกลี้ยกล่อม
เนี่ยชิงชิงยังมีสีหน้าลังเล อย่างไรเสีย นางก็ทำใจยอมรับไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับการจับคนกินแล้วก็ชวนให้ทำใจยอมรับได้มากกว่าเล็กน้อย
หวังเค่อรีบเรียกจูหงอีเข้ามาอีกครั้ง
จูหงอีพอได้ยินว่าเนี่ยชิงชิง้าดื่มโลหิตพลังปฐมเพื่อลดความกระหายกินคนของตน มันก็เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ แต่ในเมื่อเนี่ยชิงชิงยืนกรานหนักแน่น จูหงอีก็ได้แต่ต้องยอมทำตาม
ไม่นาน เนี่ยชิงชิงก็ถูกจูหงอีล่ามโซ่เอาไว้
“ชิงเอ๋อร์ เ้าไม่ต้องทรมานตัวเองแบบนี้ก็ได้!” จูหงอีกล่าวอย่างคับข้อง
“อย่าพูดเหลวไหล จูหงอี ฟังข้าให้ดี เ้าต้องทำตามที่หวังเค่อพูดหลังจากนี้ หากเ้าปล่อยข้าออกไปกินคน ข้าขอสาบานว่าสิ่งแรกที่ข้าจะทำหลังได้สติก็คือฆ่าตัวตาย ข้าสาบาน!” เนี่ยชิงชิงะโใส่จูหงอี
จูหงอีทำหน้าหดหู่ ใครใช้ให้ข้ารักนางขนาดนี้เล่า? เ้าตำหนักลัทธิมารผู้สูงส่ง กลับถูกสตรีนางนี้งับเสียหมดท่า! เฮ้อ!
“หวังเค่อ เ้าคิดเื่บัดซบอะไรออกมาอีก หา!” จูหงอีได้แต่ระบายโทสะใส่หวังเค่อ
“เ้าตำหนักจูอภัยให้ข้าด้วย ข้าต้องเกลี้ยกล่อมเ้าตำหนักเนี่ยอยู่นานกว่านางจะยอมไม่คิดฆ่าตัวตายนะ!” หวังเค่อรีบอธิบาย
จูหงอีพลันหดหู่ไม่รู้ควรเอ่ยอะไรต่อ
“เอาละ เ้าตำหนักเนี่ย ตอนนี้เ้าตำหนักจูมัดตัวท่านไว้แล้ว ท่านไม่ต้องห้ามใจตัวเองไว้อีก ปลดปล่อยความกระหายของท่านออกมาให้หมด ไม่สิ ปลดปล่อยความกระหายในฐานะมารของท่านออกมา!” หวังเค่อกล่าวกับเนี่ยชิงชิง
เนี่ยชิงชิงไม่หักห้ามใจไว้อีก ดวงตาของนางพลันกลายเป็แดงก่ำ เขี้ยวสีแดงงอกออกมาจากปาก ปีกขนาดั์สองข้างกางออกจากแผ่นหลัง
“โฮกกกกกก~~~~~~~~~!"
เนี่ยชิงชิงคำรามลั่น ทั้งเกาะเทพัต่างได้ยินเสียงคำรามดุจสัตว์ร้าย พวกมันต่างมีสีหน้าหวาดผวา
“ข้าอยากกินคน ข้าอยากกินคน โฮกกกกก!” เนี่ยชิงชิงเปล่งเสียงดุร้าย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้