ซ่งจื่อเฉินปรายตามองซ่งเป่าจู แล้วบอกให้นางยกบะหมี่ดำออกไป
“พี่ห้า ท่านนอนไม่หลับเช่นนี้ พวกเรามาคุยกันดีหรือไม่เ้าคะ” ซ่งเป่าจูไม่ชอบความเ็าของซ่งจื่อเฉิน นางรู้สึกว่าซ่งจื่อเฉินเ็า จนนางรู้สึกเหมือนเขาจะแช่แข็งนาง
“พี่ห้า พี่ซู่ซินรู้ว่าท่านจะแต่งงานเลยมาช่วยจัดงาน ท่านจะไปพบนางหรือไม่เ้าคะ” พอซ่งเป่าจูกล่าวถึงสตรีอีกผู้หนึ่ง ซ่งจื่อเฉินยิ่งไม่สบอารมณ์ เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อันใดกับโจวซู่ซิน ผู้คนต่างก็พูดกันเองไปทั้งนั้นว่าเขาชอบนาง น้องโง่โดนผู้อื่นหลอกใช้แล้วยังไปช่วยเขาอีก
จากนั้นไม่นาน ซ่งเป่าจูก็พูดขึ้น “พี่ห้า ข้าคิดว่าพี่ซู่ซินยังชอบท่านอยู่เ้าค่ะ”
“เ้าหลีกเลี่ยงคำครหาไม่เป็หรือ?ข้ากำลังจะแต่งงานแล้ว ข้าจะไปพบนางเพื่อสิ่งใด” ซ่งจื่อเฉินเกลียดน้องเล็กคนนี้ยิ่งนัก หากนางมิได้เป็ลูกสาวแท้ๆ ของซ่งผิง เขาคงจัดการนางไปแล้ว
พี่ห้าโกรธถึงเพียงนี้ต้องเป็เพราะมิอาจปล่อยวางพี่ซู่ซินลงได้แน่ๆ พี่ซู่ซินคือสาวงามเลื่องชื่อของหมู่บ้านสกุลโจว และเป็หลานสาวของโจวหลี่เจิ้ง ผู้คนที่คอยตามเกี้ยวนางจึงมีั้แ่ต้นหมู่บ้านไปยันท้ายหมู่บ้าน
ได้ยินท่านพ่อบอกว่าว่าที่พี่สะใภ้ห้างามนัก นางเลยอยากรู้นักว่าพี่ซู่ซินกับว่าที่พี่สะใภ้ห้า ผู้ใดจะงดงามกว่ากัน
“พี่ห้า ท่านอย่าโกรธไปเลย ข้าจะไม่พูดเื่นี้อีกเ้าค่ะ” ซ่งเป่าจูรู้สึกเบื่อ เมื่อเห็นใบหน้าูเาน้ำแข็งของพี่ชายไม่ยอมปริปากพูด จึงยกชามบะหมี่ดำเดินออกจากห้องนอนของซ่งจื่อเฉิน
“พี่ซู่ซินเ้าคะ” ซ่งเป่าจูรีบไปที่โถงหน้าเพื่อคุยเล่นกับโจวซู่ซินทันทีที่นางออกจากเรือนโม่อวิ้นเซวียน ในงานมงคลเช่นนี้ คนมาร่วมสนุกกันมากมาย บางคนถึงกับล้อมโต๊ะเล่นลูกเต๋า!
โจวซู่ซินกำลังรินชาให้ทุกคน เหล่าชายหนุ่มหลงใหลในทุกอากัปกิริยาของนาง
“น้องซู่ซินช่างมีความสามารถนัก หากชายใดได้แต่งกับเ้าคงเป็โชคดีของเขาแล้ว” ชายหนุ่มวัยใกล้ยี่สิบผู้หนึ่งยิ้มแย้มและรับถ้วยชาจากมือโจวซู่ซิน พวกเขากับโจวซู่ซินเป็สหายรุ่นเดียวกันจึงไม่กล้าหยอกแรง
“พี่ซู่ซินงดงามถึงเพียงนี้ มิต้องกลุ้มใจเื่แต่งงานเลยเ้าค่ะ” ที่จริงซ่งเป่าจูอิจฉาโจวซู่ซิน พวกนางสวมชุดสีชมพูเหมือนกัน แต่กลับดูดีกว่าเมื่ออยู่บนตัวโจวซู่ซิน
โจวซู่ซินเป็สาวงามมีชื่อเสียง ไม่เพียงรู้หนังสือยังเย็บปักถักร้อยเป็ บุคลิกนุ่มนวลอ่อนโยนดุจสายน้ำ เมื่อชายส่วนใหญ่เห็นจึงอยากปกป้องนาง คนในหมู่บ้านละแวกนี้มาสู่ขอนางจนหัวกระไดไม่แห้ง แต่โจวซู่ซินกลับไม่ชอบผู้ใดสักคน
“เป่าจู ข้าได้ยินท่านย่าเฉียวบอกว่าพี่สะใภ้ห้าของเ้างามยิ่งนัก เป็เื่จริงหรือไม่?” ข้างหลังซ่งเป่าจูมีเด็กสาวชุดเขียวเดินยิ้มแย้มเข้ามาคุยด้วย เด็กสาวผู้นี้คือโจวซู่อิงลูกพี่ลูกน้องโจวซู่ซิน นางเกลียดท่าทีเสแสร้งของโจวซู่ซินเสมอ โจวซู่อิงต้องทำงานหนักทั้งหมดในบ้าน และครอบครัวนางก็รับหน้าที่หาเงินเลี้ยงดูคนบ้านใหญ่มานานจึงเป็ธรรมดาที่โจวซู่อิงจะขุ่นเคืองใจโจวซู่ซิน
“คงสวยไม่เท่าพี่ซู่ซินหรอกเ้าค่ะ” เพื่อเอาใจโจวซู่ซิน ซ่งเป่าจูเลยลังเลครู่หนึ่งแล้วยิ้มเยาะ “อิงจื่อ เ้าอย่าไปฟังที่ท่านย่าเฉียวพูดจาเหลวไหล พี่สะใภ้ห้าชื่อเสียงร่ำลือเช่นนั้นที่ใดกัน นางก็แค่อาศัยบารมีจากปู่ที่ร่ำรวย ถือตนเหนือกว่าผู้อื่น”
โจวซู่ซินเสียศูนย์เล็กน้อย นางคิดว่าจิ่นเซวียนคือภรรยาที่ซ่งจื่อเฉินซื้อมาแต่งงานด้วย แต่งเข้ามาโดยไม่มีสถานะใดๆ
“ข้าได้ยินว่าตอนนางเกิด ดอกท้อที่ลานบ้านนางบานสะพรั่งชั่วข้ามคืน คนในหมู่บ้านซย่าต่างบอกนางคือเทพบุปผากลับชาติมาเกิด” โจวซู่อิงรู้ สีหน้าญาติผู้พี่สงบนิ่งแต่ที่จริงนางกำลังสนใจอยู่ อย่างไรซ่งจื่อเฉินก็คือคนที่ญาติผู้พี่ของนางชอบ
“อิงจื่อ พวกนั้นคือข่าวลือ บางคนยังบอกนางเป็ตัวซวยเลย” ซ่งเป่าจูกับโจวซู่อิงไม่มีผู้ใดยอมกัน นางไม่เชื่อเื่การกลับชาติมาเกิดของเทพบุปผา คิดว่าทุกคนปั้นแต่งเื่โกหกเพื่อเอาใจซย่าซิ่วไฉ
“เป่าจู เ้าอย่าพูดเช่นนี้ หากนางเป็ตัวซวยจริง พี่จื่อเฉินจะแต่งกับนางได้อย่างไร” โจวซู่อิงเอ่ยขัดซ่งเป่าจู นางรู้ว่าซ่งเป่าจูหวังดี แต่นางมิควรพูดคำว่าตัวซวยในโอกาสอันดีเช่นนี้
“พี่ซู่ซิน พี่ห้าแต่งงานกับผู้อื่นแล้ว ท่านไม่เสียใจหรือเ้าคะ?” ซ่งเป่าจูคิดมาตลอดว่าโจวซู่ซินชอบพี่ห้า นางเลยถามโจวซู่ซินต่อหน้าทุกคน จนโจวซู่ซินหน้าแดง ทำตัวไม่ถูก
คนในหมู่บ้านโจววิจารณ์ว่านางเป็สตรีใฝ่สูง เมื่อเกิดเื่กับซ่งจื่อเฉินแล้วก็ไปเลือกคนมีฐานะบ้านอื่น ความจริงนางคิดว่าตนเองไม่ผิด หากซ่งจื่อเฉินแข็งแรงดังเดิม นางยังกล้าเดิมพันต่อ แต่นี่เขามิอาจให้ความสุขแก่นางได้ เหตุใดนางต้องเอาทั้งชีวิตของนางมาจมปลักกับซ่งจื่อเฉินเล่า
่นี้คุณชายหวังในเมืองตามเกี้ยวนาง นางกำลังคิดอยู่ว่าจะตอบรับดีหรือไม่ คุณชายหวังผู้นั้นคือลูกคนเดียวของเศรษฐีหวัง ต้องได้สืบทอดกิจการตระกูลในภายภาคหน้าแน่ หากนางแต่งให้เขา นางจะกลายเป็นายหญิง ติดเพียงภูมิหลังของนางเท่านั้น ตระกูลหวังไม่มีทางแต่งสตรีบ้านนอกอย่างนางแน่
“เป่าจู ข้ากับพี่จื่อเฉินคือสหายกัน ข้าไม่เคยคิดกับเขาในแง่นั้น เ้าอย่าไปพูดมั่วซั่ว หากคุณหนูซย่าได้ยินเข้า นางอาจจะน้อยใจพี่จื่อเฉินเอาได้” ซ่งเป่าจูอยากพูดบางอย่างแต่โดนซู่ซินขัด
เป็ครั้งแรกที่ซ่งเป่าจูเห็นโจวซู่ซินจริงจังเช่นนี้เลยไม่กล้าพูดอีก
“อิงจื่อ พวกเรากลับกันเถิด” โจวซู่ซินไม่อยากนอนดึก นางใส่ใจกับการดูแลตนเองเสมอ กลัวนอนดึกแล้วผิวของนางจะหยาบกร้าน
กลางดึก ซ่งจื่อเฉินนอนนึกถึงความฝันที่เขาฝันเมื่อหลายวันก่อนบนเตียง ั้แ่เกิดอุบัติเหตุ เขาก็ฝันเช่นนี้มาตลอด ในความฝันมักพบสตรีแปลกหน้านางหนึ่ง อาศัยอยู่ในห้องประหลาดและทำกิจวัตรประจำวันเหมือนพวกเขาเสมอ
คิดไปคิดมาซ่งจื่อเฉินก็ผล็อยหลับไป เช้าวันรุ่งขึ้น ซ่งจื่อเฉินสวมชุดแต่งงานสีแดงไปรับเ้าสาวพร้อมเหล่าพี่ชายสามคนและหลานชาย เกี้ยวเ้าสาวที่พวกเขาเชิญมาจากในเมือง รวมกับคนตีกลางตีฆ้องทั้งหมด 28 คนมุ่งหน้าสู่หมู่บ้านสกุลซย่า
.......
ขณะที่บ้านซ่งกำลังยุ่งนั้น บ้านจิ่นเซวียนเองก็มิได้นิ่งเฉยเช่นกัน ซย่าหลี่จวินสั่งให้คนนำสินสมรสออกมากจัดวางหน้าเรือนฝั่งตะวันออก รอคนบ้านซ่งมายกไป
สินสมรสนั้นนอกจากตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะแปดเซียน เก้าอี้ รวมทั้งหมดสิบหกคนหาม ชาวบ้านละแวกนั้นเห็นแล้วล้วนอิจฉา
ซย่าหลี่จวินฟังคำชมต่างๆ ด้วยใจเปี่ยมสุข เขาคิดว่าเขามีลูกสาวที่โดดเด่นเช่นนี้ วันหน้าคงเข้ากับสหายร่วมเรียนได้ง่ายขึ้น
“พ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ขอบคุณที่สละเวลามาร่วมงานแต่งลูกสาวข้า ข้าซย่าหลี่จวินขอคารวะทุกท่านขอรับ” ซย่าหลี่จวินมองญาติพี่น้องทุกคนในลานบ้านและประสานมือคำนับทักทายทุกคน
ห้องส่วนตัวจิ่นเซวียน!
ซย่าชุนอวิ๋น สวี่ติ้งหรง จินซื่อรวมถึงเกาซื่อต่างพากันร้องไห้ จิ่นเซวียนรู้สึกหดหู่เล็กน้อยเมื่อเห็นพวกนางเศร้าเช่นนี้ ทว่าที่จริงแล้วจิ่นเซวียนมิรู้สึกอะไรเลย นางอยากออกจากสถานที่ที่อันตรายแห่งนี้ให้เร็วที่สุดเสียด้วยซ้ำ เพราะผู้เดียวในบ้านที่รักนางได้จากไปแล้ว นางเลยไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์คนบ้านนี้อีก
“เซวียนเซวียน แหวนหยกวงนี้ไม่เข้ากับชุดแต่งงาน เ้าถอดออกชั่วคราวเถิด” ซย่าชุนอวิ๋นร้องไห้สักพักและให้จิ่นเซวียนถอดแหวนออกไปก่อน
“พี่จิ่นเซวียน ให้ข้าดูแลให้ท่านเถิดเ้าค่ะ เดี๋ยวข้าค่อยเอาให้ตอนท่านกลับมาบ้าน” ซย่าจิ่นอวิ๋นอยากสวมแหวนหยก นางจึงยิ้มมองจิ่นเซวียน นางหวังว่าจิ่นเซียนจะมอบแหวนให้นางดูแล
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้