“...พวกนายไปสืบหาข้อมูลทั้งหมดของผู้อยู่อาศัยในบ้านพักเลขที่12 เมืองเทียนหยวนเดี๋ยวนี้เลย รีบไปเร็วเข้า ต้องทำให้เสร็จก่อนบ่ายวันนี้...เื่นี้ต้องตั้งใจทำมากๆ อย่าให้พวกเขารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่”
หยุนเฟิงวางสายโทรศัพท์ กำมือที่สั่นเล็กน้อยไว้แน่นและส่งเสียงร้องออกมาเบาๆด้วยความตื่นเต้น “เขานั่นเอง ใช่เขาแน่ๆ คนผู้เดียวในเวลานั้น ภายในเกม ‘เทียน ถู’ (ฟ้าสังหาร)ผู้ที่สามารถต่อสู้กับ ‘อีฟ’ ได้นานถึงครึ่งชั่วโมงและไม่พ่ายแพ้รูปร่างหน้าตาภายนอกอาจเหมือนกันได้... แต่แววตาเช่นนั้นไม่มีใครเหมือน! ยังไม่นับเื่ที่เขามีน้องสาวป่วยเป็อีสร็อคพอดี...”
“น้องสาวของพี่ผู้ซึ่งทำให้คนรอบข้างปวดหัวครั้งนี้พี่ชายจะมอบสิ่งที่ทำให้เธอต้องตกตะลึงสุดขีดเลย!”
สองชั่วโมงต่อมา...
“...ผู้ชายคนนั้นชื่อ ‘หลิงเฉิน’ส่วนเด็กผู้หญิงชื่อ ‘หลิงสุ่ยรั่ว’พวกเขาย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อสองปีก่อนจากเมืองจางโจวเนื่องจากเมืองนี้มีความเป็ไปได้สูงสุดที่จะทำให้อาการของโรคอีสร็อคดีขึ้นพวกผมไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบประวัติทางการแพทย์ของเธอ เราพบว่าเธอติดเชื้ออีสร็อคมานานกว่า3 ปี พ่อกับแม่ของเธอติดเชื้อใน่เวลาเดียวกันและเสียชีวิตหลังจากนั้นหนึ่งปีแต่เด็กหญิงยังมีชีวิตรอด ยืนหยัดต่อสู้มาจนถึงทุกวันนี้หมอบอกว่าเธอมีปณิธานอันแรงกล้าในการมีชีวิตอยู่...อย่างไรก็ตามไวรัสอีสร็อคได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอแล้วไม่ว่าเธอจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน สุดท้ายเธอก็มีชีวิตเหลืออีกแค่สามเดือนเท่านั้น...นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกว่าหลิงเฉินไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเืกับหลิงสุ่ยรั่วเขาเป็เพียงบุตรบุญธรรมที่คู่สามีภรรยาหลิงรับเลี้ยงเมื่อหกปีที่แล้ว ความถูกต้องของข้อมูลยังต้องได้รับการยืนยันครับนายน้อย...ทั้งหมดเป็ข้อมูลที่พวกผมสืบมาได้ในขณะนี้”
“เพียงพอแล้ว” หยุดเฟิงจบการสนทนาทางวีดิโอและมองดูเวลาเขาลุกขึ้นยืนและเดินไปรอบๆ ห้องอยู่ครู่หนึ่งก่อนเปิดประตูห้องแล้ววิ่งเหยาะๆออกไป ตอนนี้เขารอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว
เื่แบบนี้เป็ธรรมดาที่เขาต้องทำมันด้วยตัวเอง
นับเป็เื่ปกติเมื่อหลิงเฉินเข้ามาในบ้านเขาจะอุ้มร่างอันบอบบางของหลิงสุ่ยรั่วไปไว้บนเตียงขนาดเล็กพิเศษที่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่นอย่างแ่เบาเขาโน้มตัวลงเอามือบีบปลายจมูกของเธอแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “รั่วรั่วหิวไหม?อยากกินอะไร?”
“หนูเพิ่งกินไอศกรีมไปเมื่อกี๊ ยังไม่หิวเลยค่ะ”หลิงสุ่ยรั่วส่ายหน้า ก่อนกระพริบตาที่เหมือนดั่งอัญมณี แล้วอ้าแขนสวมกอดชายหนุ่ม“พี่คะ หนูร้อนมากๆ เลย พี่พาหนูไปอาบน้ำก่อนได้ไหม? ”
“ได้สิ” หลิงเฉินฉีกยิ้มเดินอุ้มร่างของสุ่ยรั่วไปทางห้องอาบน้ำอีกครั้งตอนนี้ไวรัสอีสร็อคได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอแล้วความแข็งแรงของร่างกายเธอแทบจะแย่กว่าเด็กอายุ 2-3 ปีนอกจากนี้เธอยังสูญเสียความสามารถในการเดิน การเคลื่อนไหวทั้งหมดต้องอาศัยรถเข็นและแขนของหลิงเฉินเธอชอบความรู้สึกที่ถูกอุ้มอยู่ภายในอ้อมแขนของชายหนุ่มทุกครั้งใน่เวลานั้นเธอจะหลับตาใช้พละกำลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดของเธอคลอเคลียแนบชิดกายเขา ฟังเสียงหัวใจเขาและสูดรับกลิ่นอายของเขา
หลิงเฉินทำงานบ้านทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งซักผ้าทำอาหาร หรือทำความสะอาด... งานบ้านทุกอย่างล้วนเป็หน้าที่ของเขาส่วนเวลาที่เหลือของหลิงเฉิน เขาใช้มันอยู่เป็เพื่อนสุ่ยรั่วแทบจะไม่ให้เธอห่างไปจากสายตา
เมื่อสองปีก่อนตอนที่ชายหนุ่มย้ายมาอยู่ปักกิ่งกับเธอเขาได้ตัดสินใจแล้วว่าก่อนที่เธอจะจากไป เขาจะใช้เวลาทุกนาที ทุกวินาทีอยู่เคียงข้างเธอก่อนหน้าที่เขาจะพบเธอเขาไม่เคยเชื่อว่าวันหนึ่งตัวเขาเองจะเป็ได้ถึงขนาดนี้เพื่อเด็กสาวคนหนึ่ง
ภายในห้องน้ำที่กว้างขวาง สะอาดสะอ้านหลิงสุ่ยรั่วหลับตา ขนตายาวของเธอสั่นไหวเล็กน้อย ปล่อยให้หลิงเฉินค่อยๆถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างนุ่มนวลต่อจากนั้นด้วยการเคลื่อนไหวอย่างชำนาญตะขอเสื้อชั้นในสีฟ้าของเธอถูกปลดออกความรู้สึกหนาวเย็นเข้าจู่โจมหน้าอกของเธอเธอลืมตาขึ้นมองไปที่หน้าอกขาวนวลซึ่งเผยออกมาภายนอก มันบริสุทธิ์ดุจดั่งชามหยกคว่ำสองใบส่วนยอดปทุมถันทั้งสองเป็สีชมพูอ่อนซึ่งทำให้แทบจะทนััไม่ไหว
สำหรับฉากอันสวยงามเช่นนี้มันเพียงพอที่จะทำให้ชายชาตรีทุกคนรู้สึกเืพล่านมีเพียงเธอและชายหนุ่มข้างหลังเท่านั้นที่สามารถชื่นชมภาพนี้ได้มือคู่หนึ่งโอบเธอไว้ในวงแขนจากนั้นจับหน้าอกขาวนวลของเธออย่างระมัดระวังแล้วเริ่มขัดพวกมันอย่างนุ่มนวล หลิงเฉินหยุดชะงักเชยชมลำคออันเพรียวบางและนุ่มนวลของเธอจากทางด้านหลังก่อนจะกล่าวอย่างอ่อนโยนกับเธอว่า “รั่วรั่ว เหมือนพวกมันจะใหญ่ขึ้นอีกแล้วนะ”
“เป็แบบนี้แล้ว... พี่ชอบมันไหมคะ?”หลิงสุ่ยรั่วเม้มริมฝีปากละมุนของเธอเบาๆ หน้าอกของเธอขยับขึ้นลงเล็กน้อยจากการคลึงของชายหนุ่มแก้มของเธอแดงระเรื่อ เสียงหายใจเหนื่อยหอบดังออกมาจากปากของเธอเบาๆสายตาของเธอพร่ามัวลงอย่างช้าๆ
“รั่วรั่วเป็ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกทุกส่วนบนร่างกายของเธอไร้ที่ติ แน่นอนว่าพี่ชอบมัน” หลิงเฉินยิ้มขณะพูดจูบอันอ่อนโยนของเขาัักับริมฝีปากบางและละมุน มันค่อยๆลื่นไหลไปที่แก้มอันเปล่งปลั่งของเธอ ผิวกายของเธอราวกับทำจากหยกอ่อน มันกระจ่างใสเรียบรื่น และอ่อนนุ่มเล็กน้อยดั่งผิวกายของเด็กทารก
มือของชายหนุ่มเคลื่อนจากหน้าอกของเธอลงไปด้านล่างอย่างช้าๆจากนั้นถอดกางเกงชั้นในสีน้ำทะเลออกอย่างนุ่มนวลเผยส่วนโค้งเว้าของร่างกายเด็กสาวอันน่าเคลิบเคลิ้มสองขาเรียวยาววาววับเงาใสดุจดั่งคริสตัล บั้นท้ายของเธอกลมกลึงและอ่อนนุ่มมันช่างน่าหลงใหลสุดจะพรรณนา หลิงเฉินอุ้มเธอขึ้นมาเบาๆแล้ววางเธอลงในอ่างอาบน้ำที่เติมน้ำอุ่นเรียบร้อยแล้ว
แม้ชายหนุ่มจะใช้เวลาทั้งหมดของเขาไปกับเธอจนรู้สึกคุ้นเคยกับทุกส่วนบนร่างกายของเธอ แต่ทุกครั้งที่เขาพบกับเธอเช่นในเวลานี้ความเชื่อมั่นของเขาจะตกอยู่ภายใต้บททดสอบอันหนักหน่วงอยู่เสมอ ชายหนุ่มสยบความคิดอันฟุ้งซ่านของเขาจากนั้นใช้นิ้วมือกวักน้ำอุ่นลูบไล้ไปตามร่างกายของเธออย่างอ่อนโยนลื่นไหลไปตามลำคอเรียวระหง ไหล่อันเรียบลื่น หน้าอกอันอ่อนนุ่ม เอวที่ผอมบางขาขาวเรียวยาว... เขาเคลื่อนไหวช้าๆและอ่อนโยนราวกับกำลังััตุ๊กตาแก้วซึ่งจะแตกหักเมื่อถูกัั
หลิงสุ่ยรั่วหลับตาคลอเคลียอยู่บนหน้าอกของชายหนุ่มเหมือนลูกแมวน่ารักตัวหนึ่งเขามีความสุขกับการััเรือนร่างของเธอด้วยความรัก เมื่ออุณหภูมิของน้ำลดต่ำลงเธอลืมตาขึ้นพูดอย่างไม่ร่าเริงว่า “พี่คะคุณหมอบอกหนูว่าหนูจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมากที่สุดแค่สามเดือนมันเป็เื่จริงหรือเปล่าค่ะ?”
มือของหลิงเฉินหยุดชะงักไปชั่วครู่จากนั้นจับมือเล็กๆ ของเธอแล้วยิ้ม “รั่วรั่วเชื่อหรือเปล่าล่ะ”
หลิงสุ่ยรั่วส่ายหัวอย่างแรง “หนูไม่เชื่อค่ะหนูยังทำตามคำสาบานที่ให้ไว้กับพี่ไม่สำเร็จ หนูจะตายได้อย่างไร”
สายตาของหลิงเฉินถูกบดบังด้วยหมอกอันพร่ามัวเขารีบหลับตาลงครู่หนึ่ง ทำให้หมอกที่ปรากฏขึ้นจางหายไป สุ่ยรั่วจึงมองไม่เห็นชายหนุ่มกอดเด็กสาวแน่นก่อนกล่าวออกไปอย่างอ่อนโยนว่า “นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมรั่วรั่วต้องพยายามอย่างหนักจนกว่าจะถึงวันแต่งงานของพวกเราโอเคไหม? ”
ชายหนุ่มไม่เคยลืมสัญญาที่สุ่ยรั่วให้กับเขาไว้เมื่อตอนเธออายุ12 ปี ด้วยน้ำเสียงของเด็กอันแ่เบา “พอหนูโตขึ้น หนูจะแต่งงานกับพี่ชายนะคะ...”คำสัญญาอันน่าใกลายเป็แรงจูงใจของเธอที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
แต่ทว่าตอนนี้อีสร็อคทำให้ความปรารถนาอันสวยงามของเธอกลายเป็ความจริงซึ่งเป็ไปไม่ได้การที่เธออดทนมาได้จนถึงทุกวันนี้เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าเธอแข็งแกร่งมากแค่ไหนแต่ตอนนี้เขารู้ว่าพละกำลังของสุ่ยรั่วอ่อนแอเหมือนกับใบหน้าอ่อนเยาว์นี้เพียงสายลมหรือหยาดฝนที่แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อยก็สามารถพรากชีวิตของเธอไปได้โดยไม่ตั้งใจหนึ่งชั่วโมงก่อน หมอได้ใช้น้ำเสียงที่ดูโหดร้ายบอกกล่าวกับชายหนุ่มว่า“เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมากที่สุดแค่ 3 เดือน... ภายใต้สภาวะต่างๆซึ่งมองในแง่ดีที่สุดแล้ว ทันทีที่เธอหลับไปมีโอกาสตลอดเวลาที่เธอจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยการที่เธอยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้นับเป็เื่มหัศจรรย์แล้ว ยอมแพ้เถอะนะ...”
ยอมแพ้? เขา... เขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร!
“อือ หนูจะพยายามต่อไปหนูจะพยายามให้มากที่สุดเท่าที่หนูจะทำได้ อดทนจนกว่าจะถึงวันนั้น...แต่พี่ช่วยทำตามคำขอร้องของหนูอย่างหนึ่งได้ไหมคะ?”สายตาของหลิงสุ่ยรั่วเป็ประกาย ขณะถามหลิงเฉินเบาๆ
หลิงเฉิน “...”
“หาก... หากหนูอดทนไม่ได้จนถึงวันนั้นพี่ห้ามเสียใจนานนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าอยู่คนเดียวพี่ต้องหาผู้หญิงสักคนที่งดงาม จิตใจดี และอ่อนโยน เหมือนกับพี่มาดูแลและอยู่เคียงค้างพี่ตลอดไปพี่ทำได้ใช่ไหมคะ?” หลิงสุ่ยรั่วซบอยู่บนอกของชายหนุ่มกล่าวคำพูดที่เหมือนดั่งฝันออกมา
หลิงเฉินกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรง... คำพูดเช่นนี้สุ่ยรั่วผู้เข้มแข็งไม่เคยกล่าวมาก่อนเห็นได้ชัดว่าเธอรู้ว่าตัวเธอเองไม่มีกำลังเหลือที่จะมีชีวิตอยู่ชายหนุ่มส่ายหัวใช้เสียงต่ำซึ่งสั่นเล็กน้อยะโออกไป “รั่วรั่วอย่าพูดอะไรเหลวไหลแบบนั้นพี่จะ...ไม่ปล่อยให้เธอจากพี่ไปอย่างแน่นอน”
หลิงสุ่ยรั่วไม่พูดอะไรอีกเธอซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของหลิงเฉิน มีความสุขกับเวลาทุกวินาทีอันมีค่ากับเขา
ท่านแม่เคยพูดว่าหลังจากเสียชีวิตพวกเราจะไปยังสถานที่ที่เรียกว่า ์ มันเป็สถานที่ที่แสนอบอุ่น สุขสบายและเงียบสงบยิ่ง มันทำให้ทุกคนมีความสุข แต่ถ้าไม่มีพี่อยู่ที่นั่น...
สถานที่ที่ไม่มีพี่ มันจะเป็์ได้อย่างไรกัน
หนู้ามีชีวิตอยู่ต่อไปจริงๆมีชีวิตอยู่ต่อไปจนถึงวันที่หนูสามารถแต่งงานกับพี่...และใช้ชีวิตทั้งหมดของหนูกับพี่ หนูไม่อยากเห็นพี่ต้องเ็ปหรืออ้างว้าง...
หลังจากป้อนอาหารกลางวันให้สุ่ยรั่วเรียบร้อยชายหนุ่มก็อุ้มเธอกลับไปที่เตียงนอนในห้องของเธอชายหนุ่มจูบหน้าฝากของเธออย่างนุ่มนวลและจากไปอย่างเงียบๆ ทุกวัน ณเวลานี้หลิงสุ่ยรั่วจะนอนหลับ ผู้ที่เป็พาหะของอีสร็อคต้องนอนหลับพักผ่อนมากๆเพื่อลดความเสียหายต่อพลังชีวิตลงในระดับหนึ่งมิฉะนั้นแล้วอาจทำให้เสียชีวิตเร็วขึ้น
หลิงเฉินเหลือบดูเวลาจากนั้นนั่งลงบนโซฟาและเปิดทีวี ปกติแล้วเขาไม่ดูทีวีและไม่ได้สนใจเื่อื่นใดมากนัก นอกจากเื่ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอีสร็อคเมื่อหลิงสุ่ยรั่วติดเชื้ออีสร็อค เขาได้ใช้เวลาและกำลังความสามารถทั้งหมดไปกับเธอ
“... โลกเสินเยว่จะเปิดให้เข้าเล่นในเวลาเดียวกันพร้อมกันทั่วโลกเดือนนี้วันที่ 7 เวลา 9 โมงเช้า ‘เสินเยว่’ จะกลายเป็สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลกเกมเสมือนจริง เสินเยว่จะเผยให้ผู้เล่นทุกคนได้เห็นโลกอันแสนลึกลับเหนือจินตนาการ...”
หลิงเฉินกดสุ่มช่องทีวีไปสองสามช่องเื่ราวทั้งหมดยังคงเกี่ยวกับโปรโมชั่นเกม “เสินเยว่” เขาปิดทีวีเอนตัวลงนอนบนโซฟา หยีตาและพ่นลมหายใจออกมาเบาๆตอนนี้ความคิดทั้งหมดของเขาเกี่ยวกับหลิงสุ่ยรั่วคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็เกม“เสินเยว่” หรือโลกเกมเสมือนจริงใดๆ ทุกสิ่งล้วนไม่เกี่ยวกับเขา
“พี่ชายคะ! พี่ชาย รีบตื่นได้แล้ว พี่ชายนอนบนพื้นแบบนี้จะโดนแดดเผาตายอย่างสยดสยองนะคะพี่ชาย...”
“อร่อยไหมคะ? ถ้าอร่อยก็ดื่มให้หมดเลยค่ะ...”
“อะ... แม่คะ พาหนูมาทางนี้ทำไม พี่ชายเขากระหายน้ำมากนะคะเขา้าดื่มน้ำจริงๆ...พ่อคะ แม่คะ ช่วยพี่ชายคนนี้ได้ไหม? พ่อคะพ่อเป็หมอที่สุดยอด พ่อจะต้องช่วยพี่เขาได้อย่างแน่นอน...”
รั่วรั่ว ในปีนั้นเธอได้เรียกพี่กลับมาจากินแดนแห่งความตายแต่เวลานี้พี่ควรทำอะไรเพื่อช่วยชีวิตเธอ
“ดิ๊ง ด่อง...”
“ดิ๊ง ด่อง...”
เสียงกระดิ่งหน้าประตูบ้านดังขึ้นในหูของหลิงเฉินทำให้เขาต้องลืมตาก่อนลุกขึ้นนั่งตัวตรง กระชับหน้าผากเล็กน้อย ในพื้นที่นี้ผู้อยู่อาศัยเกือบทั้งหมดรู้ว่ามีผู้ที่เป็พาหะของอีสร็อคอาศัยอยู่ในบ้านพักเลขที่12 บ้านของเขาแทบจะไม่มีแขกและไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขาไม่ได้ยินเสียงกระดิ่งดังมานานอย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาเป็กังวลมากกว่าคือเสียงกระดิ่งอาจทำให้สุ่ยรั่วซึ่งกำลังนอนหลับใหลสะดุ้งตื่น