เหล่านักประเมินที่ได้ยินเสียงนั้นมารวมตัวด้านหน้าของเขาอย่างแตกตื่น สิ่งที่พวกเขา้าที่สุดไม่ใช่เงินแต่เป็การเพิ่มระดับของทักษะประเมินที่มาจากการประเมินไอเทม ตอนนั้นในที่สุดเมื่อได้เห็นไอเทมชิ้นหนึ่งที่สามารถประเมินได้ปรากฏออกมา พวกเขาจะไม่รุมทึ้งอย่างบ้าคลั่งได้อย่างไร
และเพราะการรวมตัวกันของพวกเขาทำให้เงาร่างบอบบางของเฉินซินที่ยืนอยู่ดูโดดเด่นขึ้นมาจนทำให้เขาสามารถมองเห็นเธอได้ ชายคนนั้นเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่ได้อยู่บนที่สูง และเมื่อเขาบังเอิญหันมาเจอเฉินซินโดยไม่ตั้งใจเขาก็อึ้งไป หลังจากนั้นดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็ปรากฏประกายแห้งความโลภและความตื่นเต้น
ชุดมือใหม่ที่ไร้ความสวยงามไม่อาจปิดบังส่วนเว้าส่วนโค้งที่เธอมีไว้ได้ ท่าทางที่ชวนให้คนคิดไปไกลและใบหน้าของเธอก็งดงามจนหาจุดบกพร่องไม่พบ เธอเป็หญิงงามที่ราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด.......... แต่คนงามเช่นนี้กลับสวมเสื้อผ้าที่แสนธรรมดาและยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโดดเดี่ยว เฝ้ารอคอยเหมือนคนอื่นๆอีกมากมาย ในดวงตาของเธอนั้นมีความเศร้าและความปรารถนาอย่างชัดเจน
ชายที่หยิบไอเทมเงินออกมาเหมือนจะรู้สึกได้ถึงน้ำลายของตัวเองที่ไหลออกมา แทบไม่อยากเชื่อว่า์จะส่งของแบบนี้มาอยู่ตรงหน้าเขา เขาเห็นสาวสวยมาก็บ่อย แต่สวยจนถึงระดับนี้นั้นหายากมากๆ และหญิงสาวที่มีหน้าตาราวกับนางฟ้าเช่นนี้กลับไม่ใช่หญิงสาวที่มีสายเืและชาติกำเนิดอันสูงส่ง แต่กลับเหมือนคนไม่มีเงินที่สามารถใช้วิธีการล่อล่วง ข่มเหงและแย่งชิงมายังไงก็ได้ ซึ่งผู้หญิงแบบนี้มีน้อยมาก............... จนแทบจะไม่ปรากฏออกมาให้เห็นเลย
ดังนั้นถ้าเขาปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปจากมือของตัวเอง คาดว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็คงจะได้ดูถูกตัวเองแน่นอน
ทันใดนั้นเขาก็เดินตรงไปตรงหน้าเฉินซินพร้อมกับพูดออกมายิ้มๆ “คนสวย เธอเป็นักประเมินเหรอ?”
น้ำเสียงท่าทางและดวงตาของเขาทำให้เธอหวาดกลัว เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัวแต่เธอก็ตอบออกไปอย่างซื่อสัตย์ “คือฉัน............มีอะไรที่ฉันสามารถช่วยนายประเมินได้ไหม?”
“มีสิ!” เขาลูบไล้ไอเทมระดับสูงในมืออย่างพอใจเนื่องจากกลัวว่าคนอื่นจะมองไม่เห็นไอเทมเงินของเขา แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังก็คือเขาไม่เห็นท่าทีใ แปลกใจหรือชื่นชมจากสาวสวยคนนี้เลยแม้แต่น้อย........ เขาคงคิดไม่ถึงแน่ว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีเธอเพิ่งจะได้เห็นและประเมินไอเทมทองกองใหญ่และไอเทมเซียนหนึ่งชิ้นไป เทียบกันแล้วเธอไม่มีความรู้สึกอะไรกับไอเทมเงินชิ้นนี้เลย
เหล่านักประเมินโดยรอบได้แต่นิ่งอึ้ง สาวงาม ไม่ว่าเมื่อไรก็มักจะได้ผลประโยชน์ก่อนเพื่อนเสมอ แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้ว่าชายผู้ไอเทมเงินนั้นมีแผนอะไร มือของเขาที่เพิ่งจะยื่นออกไปหดกลับมาจากนั้นใบหน้าของเขาก็เผยยิ้มประหลาดออกมา “คนสวย เรียกฉันว่าพี่ชายก่อนสิแล้วฉันจะให้เธอประเมิน”
เฉินซินขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าของเธอปรากฏความเกลียดและความสับสนเล็กน้อย เธอถอยหลังไปอีกก้าวแล้วส่ายหน้า “ขอโทษด้วย ฉันไม่ประเมินแล้ว นายไปหาคนอื่นให้เขาช่วยแล้วกัน”
ชายคนนั้นขมวดคิ้วแล้วยิ้มออกมาอย่างมืดมน “เรียกพี่ชายดีๆน่า แล้วฉันจะให้ค่าประเมินกับเธอ 100 เหรียญทอง! ต่อไปถ้าได้ไอเทมระดับสูงอะไรมาเดี๋ยวฉันจะเอามาให้เธอประเมินให้หมดเลย แบบนี้เป็ไง?”
ตัวเขาคิดว่าหากมอบสิ่งล่อใจชิ้นโตให้หญิงสาวที่ขาดแคลนเงินจะต้องทำให้เธอเชื่อฟังเขาได้แน่ แต่สิ่งที่ได้รับยังคงเป็การส่ายหัวและการปฏิเสธอย่างมีมารยาทจากเธอ ความอดทนที่มีจำกัดของเขาทำให้เขาไม่ปล่อยเวลาให้เสียงเปล่าต่อไป เขาลูบจมูกเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น “เอาล่ะ ฉันจะบอกความจริงกับเธอ ฉันเข้าใจเธอแล้ว พวกเราไปหาที่แลกเปลี่ยนกันดีๆเถอะ........ หึ รู้ไหมว่าฉันเป็ใคร? รู้จักโบสถ์จิติญญาแห่งาไหม? ฉันคือหัวหน้าลำดับที่สามของโบสถ์จิติญญาแห่งา.... เหลยเป้า! หึ แล้วสมาคมการค้าเหลยจื่อล่ะรู้จักหรือเปล่า? นั่นเป็ของครอบครัวของฉันเอง”
ชายที่ชื่อว่าเหลยเป้าพยายามที่จะทำอะไรผู้คนโดยรอบต่างก็เห็นกันชัดเจน แต่เมื่อชื่อโบสถ์จิติญญาแห่งาและสมาคมการค้าเหลยจื่อหลุดออกมาเหล่าคนที่พยายามจะทำตัวเป็วีรบุรุษช่วยสาวงามก็ลังเลและยอมหดหัวกลับไป
พวกเขาไม่กล้าลองดี และคงลองดีกับครอบครัวที่มีพลังอำนาจทั้งในโลกแห่งเกมและในโลกแห่งความจริงเช่นนี้ ไม่ไหว มันคงเป็การแกล้งหยอกกันของหญิงชายล่ะมั้ง? ในโลกความจริงพวกเขาไม่จำเป็ต้องหวาดกลัวกฎหมายอะไรเพราะกฎหมายเ่าั้จะถูกฉีกเป็ชิ้นๆเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขา และในโลกแห่งเกมก็ไม่มีคนธรรมดาที่ไหนกล้าลองดีกับเขาเช่นเดียวกัน
“ขอโทษนะ ฉัน......ฉันจะออฟไลน์แล้ว”
เพราะเคยถูกทำร้ายมาก่อน ดังนั้นในใจของเธอจึงเต็มไปด้วยความหวาดกลัวมาขึ้นทุกที ในตอนที่เธอยังเด็กจากที่เธอไม่เคยต้องกลัวสิ่งใดเพราะมีคนคอยปกป้องเธอ และด้วยครอบครัวที่เธอเคยมีจึงไม่มีใครกล้าทำเื่ไม่ดีต่อเธอ แต่ตอนนี้เธอสิ้นไร้ไม้ตอก ไม่มีอะไรเหลือแล้ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้เธอจึงไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้เธอนึกเสียใจแล้วว่าทำไมถึงไม่หาหน้ากากมาปิดบังใบหน้าเอาไว้
เหลยเป้าไม่ปล่อยให้เธอหนีไป เมื่อเขาได้ยินว่าเธอจะออฟไลน์เขาก็ยื่นมือออกไปคว้าเธอไว้ เฉินซินถูกการกระทำของเขาทำให้ใอย่างชัดเจน เธอรีบถอยหลังไปอย่างสะเปะสะปะจนกระทั่งถอยไปติดผนัง เธอลืมเลือนการออฟไลน์ไปทันทีท่ามกลางความตื่นตระหนกที่เผชิญอยู่ เพราะใน World of Fate ผู้เล่นหญิงจะได้รับการปกป้องที่เข้มงวด ถ้าผู้ชายคุกคามร่างกายของฝ่ายหญิงระบบจะทำการประเมินระดับความรุนแรงของการคุกคามและจัดการลงโทษกับผู้ที่ละเมิดตามความยินยอมของฝ่ายหญิง สำหรับคนที่ไม่ได้รุนแรงอะไรก็จะโดนฟ้าผ่าอย่างรุนแรงและทั้งร่างจะติดสถานะอัมพาตเป็เวลานาน ส่วนคนที่ทำอะไรร้ายแรงก็จะถูกลดระดับลง
ในเมืองไม่สามารถ PK ได้ ดังนั้นถ้าเฉินซินออฟไลน์ไปั้แ่ตอนนี้ก็ไม่มีใครหยุดเธอได้ เหลยเป้าขบฟันแน่นแล้วพูดออกไปอย่างเศร้าสร้อย “อยากจะออฟไลน์เหรอ? เอาเถอะ...... ฉันจะให้คนเฝ้าอยู่ที่นี่รอเธอออนไลน์ทุกวัน แบบนี้ล่ะเป็ไง?”
เฉินซินกัดริมฝีปากน้อยๆ มือเล็กของเธอกำชายเสื้อแน่นอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้นอกจากน้องสาวแล้วเธอก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว คนที่สามารถปกป้องเธอได้มีแค่ตัวเธอเองเท่านั้น แต่ด้วยร่างกายและนิสัยอันอ่อนแอของเธอ อย่างนี้เธอจะปกป้องตัวเองยังไงล่ะ ดังนั้นที่เธอเลือกจะอยู่ในแหล่งเสื่อมโทรมก็เพราะที่นั่นสงบเงียบไม่น่าจะมีคนน่ากลัว ปกติเวลาไปโรงพยาบาลหรือไปซื้อของให้น้องสาว เธอก็จะใส่หมวกอยู่ตลอด เธอรู้ว่าความสวยของตัวเองและรู้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกเช่นนี้อันตรายแค่ไหนต่อคนที่สิ้นไร้ไม้ตอกอย่างเธอ
แต่แม้ว่าจะอาศัยอยู่ในเขตเสื่อมโทรมเธอก็ยังคงพบเื่ยุ่งยาก และจากที่เธออยู่ในโลกนี้ได้ไม่นานเธอก็ต้องมาพบเื่ยุ่งยากอีกแล้ว
หรือว่าเพื่อหลีกเลี่ยงคนแบบนี้ ต่อไปเธอก็ไม่ควรมาปรากฏตัวในโลกแห่งเกมอีกงั้นเหรอ? เธอทำไม่ได้.........การเป็นักประเมินทำให้เธอได้รับความหวัง เธอได้มองเห็นความเป็ไปได้ในร่างน้องสาวของเธอ และเธอก็ยังมีความหวังในการหาเงินเยอะๆมารักษาน้องสาวของเธอ เธอไม่อยาก.........
แต่เธอในตอนนี้ยังจะสามารถพึ่งพาใครได้อีก..........
ทันใดนั้นเธอก็คิดถึงคนที่มอบกำลังใจและความหวังให้เธอ เธอราวกับได้คว้าฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ซึ่งมาพร้อมกับความปรารถนาลึกๆและทำให้เธอส่งเสียงออกไป
“หน้าด้าน!”
ทันใดนั้นเสียงเย็นๆก็ดังขึ้นมาท่ามกลางกลุ่มคนที่มุงดูโดยรอบ เสียงนั้นพุ่งเข้าหูของเหลยเป้าและก็เห็นได้ชัดเลยว่าคำๆนั้นพูดกับเขาโดยตรง เหลยเป้าหันกลับมาอย่างโกรธเคืองแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาคมกล้าคู่นั้นตรงๆ
ชายคนหนึ่งในชุดนักรบธรรมดามีใบหน้าแข็งกระด้างและมืดมน แต่การแสดงออกของเหลยเป้าในตอนนี้ดูพยายามมากราวกับว่าเขาก็สงบนิ่งและไร้รอยยิ้มเช่นนี้อยู่แล้ว แต่ทว่าสายตาของเขากลับเต็มไปด้วยความความก้าวร้าวที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นถี่ขึ้นเล็กน้อย ร่างกายของเขารู้สึกไม่สบายขึ้นมาแล้วทันใดนั้นเขาก็ยิ้มเย็นออกมา “หึ! คนที่รนหาที่ตายนี่มันมีเยอะจริงๆเลยนะ ไอ้ลูกหมา รีบไปให้พ้นๆหน้าฉันซะ อย่าทำให้ิญญาบรรพชนของแกต้องร้องไห้เลย ถ้าที่นี่เป็ข้างนอกล่ะก็......... ฉันจะสับแกให้เป็ชิ้นๆไปซะ!!”
เขาเริ่มด้วยรอยยิ้มเย็นจากนั้นก็เป็เสียงตะคอกรุนแรง นิสัยเลวร้ายของเขาถูกแสดงออกมาอย่างไม่ปิดบังทำให้คนขี้ขลาดอย่างเธอใกลัว
และคำพูดของเหลยเป้าก็ทำให้สีหน้าของนักรบมืดมนลงทันที ดวงตาของเขาสาดประกายคมกริบราวกับมีดเล่มหนึ่งเขาขมวดคิ้วแน่นแล้วพูดออกมาทีละคำ “แกนี่.........วอนหาที่ตายซะแล้ว!!”
เปรี้ยง!!
แสงเย็นเยียบเหมือนน้ำแข็งสว่างวาบเข้าตาทุกคน ดาบคู่สองมือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาในมือของชายนักรบ.........บนตัวดาบเล่มนั้นส่องประกายแสงสีเงินออกมา
“อ.....ไอเทมเงิน!”
ทันทีที่ดาบสีเงินปรากฏออกมาเสียงผู้คนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นก็อุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ร่างของเขา ในบรรดาสายตาเ่าั้เต็มไปด้วยความตกตะลึงและความอิจฉา แม้กระทั่งเหลยเป้าก็มีใบหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมาทันที
ทั้งสองคนเป็นักรบดาบเหมือนกัน ดาบคือิญญาของนักรบดาบ เป็สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาและยังเป็ไอเทมที่ขาดไม่ได้อีกด้วย ดาบที่เหลยเป้ามีเป็เพียงดาบระดับทองแดงเท่านั้น และเมื่อดาบสีเงินเล่มนั้นปรากฏออกมาก็ทำให้ออร่าและบรรยากาศโดยรอบกดดันขึ้นทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไป....... คนที่สามารถไอเทมเงินได้จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่! มิน่าล่ะคนๆนี้ถึงกล้าเข้ามาแส่เื่ของเขา
เหลยเป้าหันกลับไปด้วยท่าทีที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแล้วยกยิ้มเย็น “ทำไม? อยากจะฆ่าฉันรึไง? ฮ่าๆๆๆๆ งั้นแกก็เข้ามาฆ่าฉันซะเลยสิ ฉันยืนอยู่ตรงนี้ไง มาดิ เข้ามาฟันฉันเลย!”
คำพูดอวดดีของเหลยเป้าเพิ่งจะจบลงหูของเขาก็ได้ยินน้ำเสียงลึกลับเสียงหนึ่งดังขึ้นมาทันที “หัวหน้าลำดับที่สาม คนๆนั้นคือหลิงหยุนดาบเดียวที่เป็อันดับที่เจ็ดของรายการจัดอันดับเลเวล! อย่าไปท้าทายเขา!”
ใบหน้าของเหลยเป้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง
ผู้เล่นปกติสามารถเลือกที่จะซ่อนข้อมูลของตัวเองไว้ได้ทำให้ผู้เล่นคนอื่นไม่อาจมองเห็นข้อมูลของพวกเขา แต่นักฆ่าที่เดินบนเส้นทางไร้เงาและนักล่าที่เดินทางสายกับดักจะมีทักษะหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบข้อมูลของคนและมอนสเตอร์ มันมีความเป็ไปได้ที่จะตรวจสอบข้อมูลของมอนสเตอร์ระดับสูงและตรวจสอบข้อมูลของผู้เล่นและ NPC ได้ ข้อมูลที่เหลยเป้าได้รับมาจากการตรวจสอบของเพื่อนร่วมทีมที่มีอาชีพเป็นักล่าที่ยืนอยู่ในฝูงชน
หลิงหยุนดาบเดียว ชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อของคนแปลกหน้า และคนที่สามารถไปถึงสิบอันดับต้นๆของรายการจัดอันดับเลเวลได้และยังอยู่ในนั้นได้เป็เวลานานไม่มีทางที่ใครจะไม่รู้จัก เพราะสิบอันดับแรกก็คือสิบอันดับแรกท่ามกลางกลุ่มผู้เล่นมากมายหลายล้านคน ทุกคนที่เป็หนึ่งในหลายสิบล้านจะได้รับการยกย่อง หากพูดว่าพวกเขาเป็คนธรรมดาแล้วจะมีใครเชื่อ? คนที่มีความสามารถก้าวไปอยู่ในรายการจัดอันดับเลเวลสิบคนแรกได้หากไม่มีความสามารถส่วนตัวอันแข็งแกร่งก็ต้องมีพลังและปูมหลังอันแข็งแกร่งไม่ธรรมดา หรืออาจจะมีทั้งสองอย่างก็ว่าได้ ไม่ว่าพวกเขาจะขึ้นไปอยู่ในรายชื่อสิบอันดับแรกโดยอาศัยสิ่งใดก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า.........พวกเขาทุกคนไม่ใช่คนที่จะไปหาเื่ด้วยได้
