อี้ไท่เฟยเป็หญิงสาวสบายๆ ไม่รีบร้อนแม้แต่น้อย นางรักความงามและรักความสะอาดอย่างมาก ทั้งห้องตกแต่งราวกับห้องดอกไม้ กลิ่นหอมของดอกไม้ที่โชยมากระทบใบหน้า ทำให้หานอวิ๋นซีเกือบลืมไปว่านี่คือถ้ำเสือที่เต็มไปด้วยความอันตราย
เมื่อเห็นอี้ไท่เฟยนั่งอย่างเกียจคร้านอยู่บนบัลลังก์ แม้ว่าจะมีพระชนม์พรรษาสี่สิบปีแล้ว แต่กลับดูแลตัวเองอย่างดี ดวงตาเฉี่ยวที่สวยงามคู่หนึ่ง พร้อมกับแววตาที่ลึกล้ำดูมีเสน่ห์ที่แข็งแกร่ง สูงส่งและเกียจคร้านราวกับราชินี
ทันทีที่หานอวิ๋นซีเดินเข้ามา นางก็จ้องมอง พลางคิดกับตัวเองว่าลูกสะใภ้คนนี้สวยจริงๆ มองไปก็ไม่ได้น่ารำคาญเหมือนแต่ก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะไท่เฮาที่ยัดเยียดให้เฟยเยี่ยละก็ บางทีนางอาจจะชอบก็ได้
อี้ไท่เฟยมองนาง หานอวิ๋นซีก็ก้มหน้าและเดินไปข้างๆ หลงเฟยเยี่ยอย่างรวดเร็ว
“เฟยเยี่ย เมื่อคืนกลับมาั้แ่เมื่อไร เหตุใดจึงไม่มาทักทายแม่เลยล่ะ แม่รอเ้ามาทั้งวัน” อี้ไท่เฟยเอ่ยปากพูดอย่างเกียจคร้าน
“มีเื่อะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?” หลงเฟยเยี่ยถาม ในที่สุดน้ำเสียงของเขาก็ดูมีความเป็มนุษย์
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ไม่ได้เจอเ้านาน แม่คิดถึงเ้า” อี้ไท่เฟยพูดพลางยิ้ม
หานอวิ๋นซีรู้สึกขัดใจเหลือเกิน เื่งานอภิเษกเมื่อวาน สองแม่ลูกไม่รู้เลยหรือไร? ดูเข้ากันเป็ปี่เป็ขลุ่ยสุดๆ
เดิมทียังมีความหวังเล็กๆ กับหลงเฟยเยี่ย แต่ตอนนี้คงสิ้นหวังอย่างสมบูรณ์ จะโชคดีหรือโชคร้าย หากเป็หายนะก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไปเถอะ ไม่ว่าเื่เล็กหรือใหญ่นางก็เคยผ่านมาหมดแล้ว
ทันใดนั้น หลงเฟยเยี่ยหยิบผ้าสีขาวออกมาจากแขนเสื้อของเขาและส่งมันด้วยมือทั้งสองข้าง “ผ้าตกสีแดง เชิญเสด็จแม่ดู”
ทันทีที่หยิบออกมา ทุกคนต่างมองดู หานอวิ๋นซีอยู่ใกล้ที่สุดและมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด นางเห็นว่าผ้าถูกพับเป็สี่เหลี่ยมหนา และ้าเป็สีขาวสะอาดบริสุทธิ์
มองแค่เพียงแวบเดียว นางก็ก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง และพร้อมที่จะยอมรับการซักถามของอี้ไท่เฟย มู่หรงหว่านหรูที่อยู่ข้างๆ ก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น นางรู้ว่าฉินอ๋องจะไม่แตะต้องหญิงสาวผู้นี้อย่างแน่นอน แต่เป็เพราะเขา้าเข้าวัง เช่นนั้นเลยมาพบกับอี้ไท่เฟยพร้อมกับนาง
มู่หรงหว่านหรูขยิบตา เหล่ามามาก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อรับผ้าตกสีแดงมาถือไว้ด้วยมือทั้งสองข้างแล้วส่งให้อี้ไท่เฟย
อี้ไท่เฟยเหลือบมองนางและก้มหน้าลงทันที “เ้าสาว นี่มันเื่อะไร? เมื่อคืนท่านอ๋องก็กลับมาแล้ว เ้าปรนนิบัติอย่างไรกัน?
ขณะที่กำลังซักถาม ก็หยิบผ้าตกสีแดงขึ้นมาตรวจสอบ ทว่าทันทีที่หยิบผ้าตกสีแดงที่มีสีขาวราวกับหิมะขึ้นมา ก็พบรอยเปื้อนสีแดงอยู่
“อ๊าย!” อี้ไท่เฟยอดไม่ได้ที่จะกรีดร้อง เมื่อยกขึ้นดูใกล้ๆ ก็พบว่ามันเป็เืจริงๆ!
หานอวิ๋นซีเงยศีรษะขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเห็นรอยสีแดงนั้น ผ้าตกเป็สีแดง!
พระ...พระเ้าช่วย!
นางมองไปที่หลงเฟยเยี่ยอย่างเหลือเชื่อ ชายคนนั้นยังคงไม่แสดงสีหน้า สายตาเต็มไปด้วยความเ็า ทว่าหัวใจของหานอวิ๋นซีกลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
หลงเฟยเยี่ย ท่านมันสุดยอดจริงๆ ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณจริงๆ!
“มู่เฟยเองก็เห็นแล้ว ทหาร ส่งนางเข้าวัง”
แม้แต่คนของอี้ไท่เฟยก็ยังไม่กล้าขัดคำสั่งของหลงเฟยเยี่ย ดังนั้นเหล่ามามาจึงรีบนำถาดไปเก็บ แววตาของอี้ไท่เฟยฉายแววประหลาดใจและปล่อยมันไปอย่างไม่เต็มใจ
นางส่งสายตามองมู่หรงหว่านหรูอย่างมีนัย ราวกับว่ากำลังถามว่าหานอวิ๋นซีคงไม่ได้ใช้คาถามนต์ดำอะไรเพื่อทำให้บุตรชายของนางสับสนใช่หรือไม่? บุตรชายของข้าไม่เคยหลงใหลในความงามใดๆ มาก่อน!
รอยเปื้อนสีแดงนั้นราวกับหนามทิ่มแทงเข้ามาในสายตาของมู่หรงหว่านหรู มันทิ่มแทงนางจนเ็ปเหลือเกิน นางไม่อยากจะเชื่อ และจะไม่มีวันเชื่ออย่างเด็ดขาด!
เก็บผ้าตกสีแดงออกไป และนำชาร้อนเข้ามา
“เชิญหวังเฟยยกน้ำชาให้ไท่เฟย” เหล่ามามาพูดเสียงดัง
ด้วยการยืนยันของหลงเฟยเยี่ย ทำให้หานอวิ๋นซีมีความมั่นใจไม่น้อย นางหยิบถ้วยชาขึ้นอย่างมั่นคงและโค้งคำนับด้วยความเคารพ “หานอวิ๋นซี ถวายบังคมมู่เฟย ขอทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน พันปี พันพันปี!”
อี้ไท่เฟยกลอกตาและชำเลืองมองหลงเฟยเยี่ย แม้ว่านางจะไม่เต็มใจและไม่เข้าใจ แต่ก็ยังไว้หน้าบุตรชาย นางรับชาและดื่มลงไปในอึกเดียว ให้รางวัลเป็ปิ่นหยกสีฟ้า หานอวิ๋นซีใส่มัน และพูดอย่างใจเย็นว่า “ข้าไม่มีอะไรจะบอกเ้า แต่เ้าจำไว้อย่างหนึ่ง ไม่ว่าเ้าจะพูดหรือทำอะไร อย่าได้ทำอะไรให้ข้าและฉินอ๋องขายหน้าเด็ดขาด”
“เพคะ หม่อมฉันจะจำไว้” หานอวิ๋นซีตอบอย่างจริงจัง
“ทำตัวตามสบายเถอะ” อี้ไท่เฟยพูดพร้อมกับกวักมือเรียกหว่านหรูให้เข้ามา “หว่านหรู เ้าเป็รุ่นน้อง ยกชาให้พี่สะใภ้สักถ้วยสิ”
“เพคะ” เสียงของมู่หรงหว่านหรูนุ่มนวลและอ่อนโยน ฟังแล้วน่าสงสารอยู่ตลอดเวลาราวกับว่ามีใครรังแกนาง นางยกชาขึ้นมาและเดินไปหาหานอวิ๋นซี ภายใต้แววตาที่อ่อนแอก็แฝงไปด้วยความเกลียดชัง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้