ูเี่อันเป็คนความจำดีก็จริงแต่ถ้าเป็เหตุการณ์หรือคนที่ไม่ได้มีบทบาทสำคัญต่อชีวิตเธอมากนักเธอก็มักจะลืมเลือนไปตามกาลเวลา
เพราะฉะนั้นอย่างผู้ชายคนนี้ที่บอกว่าตนเองเคยตามจีบเธอสำหรับเธอแล้วก็แค่คุ้นหน้าเขาเท่านั้น ส่วนเื่ที่เขาตามจีบเธอตอนไหนเธอจำไม่ได้เลย
เห็นท่าทางงงงวยของูเี่อันแล้วสีหน้าคาดหวังของถังหยางิก็เปลี่ยนเป็เข้าใจอะไรบางอย่าง
“นั่นสินะตอนนั้นผู้ชายที่ตามจีบเธอนี่สามารถเอามายืนล้อมรอบตึกคณะเธอได้เลยเธอจะจำเด็กต่างคณะอย่างฉันไม่ได้ก็ไม่แปลก”
ูเี่อันได้แต่ยิ้มตอบ“ต้องขอโทษด้วย”
“ไม่เป็ไรๆ ใช่สิทำไมเธอถึงมาอยู่เมือง G ได้ล่ะฉันได้ยินมาจากเพื่อนเธอว่าั้แ่ที่เธอกลับประเทศมาเธอก็ไปทำงานที่เมือง A นี่นา” ถังหยางิยิ้มพลางพูด“่นี้ฉันกำลังยุ่งอยู่กับการยื่นเื่ขอย้ายไปทำงานที่บริษัทแม่ในเมือง A ยังคิดอยู่เลยว่าถึงเวลาจะต้องนัดรวมตัวเพื่อนเก่าๆ สักหน่อย”
“ฉันมาพักผ่อนไม่กี่วันกับ...”
“สรุปคือเธอมาเที่ยวที่นี่ใช่ไหม”ถังหยางิพูดขัดูเี่อันอย่างตื่นเต้น “ฉันเกิดและโตที่นี่ไม่ว่าจะเป็เื่กินเื่เที่ยวไว้ใจได้เลย เธอมากินข้าวที่นี่งั้นเหรอฉันก็เหมือนกัน ถ้าไม่ว่าอะไร เรานั่งกินด้วยกันไหมล่ะฉันจะได้ช่วยแนะนำเมืองนี้ให้เธอไปด้วยเลย”
ูเี่อันอยากจะบอกถังหยางิว่าเธอมากับลู่เป๋าเหยียนแต่เขาดันพูดขัดเธอขึ้นมาซะก่อนจนเธอไม่รู้จะพูดต่ออย่างไร
บางทีเขาอาจจะแค่อยากกินข้าวกับเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยคงไม่ได้คิดเื่อื่นเหรอละมั้ง?
ถังหยางิเห็นูเี่อันเงียบไปเลยถามขึ้นว่า “กลัวแฟนว่าเหรอ”
เอ่อเธอจะบอกถังหยางิอย่างไรดีว่า เธอไม่มีแฟนหรอก แต่เธอมีสามีแล้ว...
“หรือว่าเธอยังเหมือนตอนมหาวิทยาลัยยังไม่ได้เริ่มคบใครเลยสักคน?”
ถังหยางิพูดอย่างดีใจมากกว่าประหลาดใจ
เขามองูเี่อันพลางบ่นกับตัวเอง“เธอยังเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด”
หลังเรียนจบมาหลายปีบรรดาเพื่อนผู้หญิงชั้นเดียวกัน ไม่ทำแต่งาน ก็แต่งงานมีครอบครัวกันไปแล้วแต่ละคนต่างก็เริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้าให้เห็นอยู่บ้างไปตามกาลเวลา
มีแตู่เี่อันที่ไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีอะไรจึงสามารถเอาชนะกาลเวลาที่ล่วงเลยมาได้ใบหน้านวลแลดูอ่อนเยาว์ ดวงตาคู่งามใสแจ๋ว รอยยิ้มบริสุทธิ์สดใสเหมือนเดิมทุกอย่าง
“ขอเบอร์ติดต่อไว้หน่อยสิ!”หัวใจของถังหยางิเต้นรัวเหมือนตอนเจอเธอครั้งแรกไม่มีผิด “่ที่เธออยู่เมือง G ถ้ามีปัญหาอะไรก็ติดต่อฉันได้เลย!”
“คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกที่จริงฉันกับสามี...”
ูเี่อันยังพูดไม่ทันจบอยู่ๆ ก็มีมือคู่หนึ่งมาจับไหล่ของเธอ จากนั้นเสียงอันคุ้นเคยก็ตามมา
“อาหารที่เธอสั่งยังไม่ได้อีกเหรอหิวมากหรือเปล่า ให้พนักงานไปเร่งทางครัวให้ไหม”
เธอหันกลับไปมองลู่เป๋าเหยียนอย่างแปลกใจ“นายไปบริษัทแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ฉันจะกินข้าวเป็เพื่อนเธอก่อนแล้วค่อยไป”ลู่เป๋าเหยียนมองไปยังถังหยางิ “คนนี้คือ?”
“สวัสดีครับ”ถังหยางิยืนขึ้นพลางยื่นมือไปทางลู่เป๋าเหยียน “ผมแซ่ถังเป็เพื่อนมหาวิทยาลัยเดียวกันกับูเี่อันครับ”น้ำเสียงของเขาแสดงตัวเป็ศัตรูอย่างชัดเจน
ลู่เป๋าเหยียนจับมือกับถังหยางิแบบผ่านๆ
“ที่แท้คุณถังเป็เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยกับภรรยาผมนี่เองยินดีที่ได้รู้จักครับ”
การทักทายที่แสดงความเป็เ้าของอย่างออกนอกหน้าในครั้งนี้กำจัดมารหัวใจอย่างถังหยางิได้ในพริบตา
ถังหยางิยิ้มค้าง
“พวกคุณ...แต่งงานกันแล้ว?”
ลู่เป๋าเหยียนหันหน้ามองูเี่อันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่
“เจี่ยนอันเธอไม่ได้บอกคุณถังงั้นเหรอ”
ูเี่อันไม่แน่ใจว่าเขาโกรธหรือไม่“ฉันกำลังจะบอก นายก็เดินกลับมาพอดี...”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มพลางลูบผมเธออย่างอ่อนโยน
“คุณถังถ้าไม่รังเกียจจะมาร่วมทานอาหารด้วยกันไหมครับคุณจะได้ถือโอกาสนี้พูดคุยกับภรรยาถึงบรรยากาศเก่าๆ”
“ไม่เป็ไรดีกว่าครับพอดีผมมีธุระ” ถังหยางิพยายามรักษาสีหน้าท่าทางให้ปกติที่สุด“ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนพวกคุณสองคนแล้วดีกว่า เจี่ยนอัน ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งแล้วเจอกัน”
พูดจบถังหยางิก็เดินจากไป
ตอนที่เขาล้มเหลวจากการจีบูเี่อันเขาถึงกับเฟลไปพักใหญ่หลังจากนั้นก็ได้ยินมาว่าูเี่อันเป็คุณหนูรองของตระกูลซูแถมพี่ชายของเธอซูอี้เฉิงยังเป็คนดังในโลกธุรกิจเขาจึงตัดสินใจว่าจะต้องพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อจะเป็ผู้ชายที่เหมาะสมคู่ควรกับูเี่อันให้ได้สักวัน
ตอนนี้เขาเองก็ไม่ได้เป็รองใครอยากจะจีบสาวน่ารักเซ็กซี่สักคนก็ไม่ใช่เื่ยากอีกต่อไปเขานึกว่าตัวเองดีพอที่จะคบกับูเี่อันได้แล้ว ทว่าูเี่อันกลับเจอคนที่ดีกว่าเขาไปเสียแล้ว
ผู้ชายคนนั้น...ถึงแม้เขาจะไม่รู้จักแต่บรรยากาศรอบกายและลักษณะท่าทางของเขาดูไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
ถึงจะรู้สึกเสียดาย แต่เขาคงต้องยอมแพ้
บางทีคงเป็อย่างที่พวกผู้ชายที่ตามจีบูเี่อันชอบพูดกันปากต่อปากว่าคงมีแต่ผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกเท่านั้น จึงจะเหมาะสมกับูเี่อัน
หลังจากถังหยางิเดินออกไปแล้วูเี่อันก็เริ่มรู้สึกกังวล แต่พอคิดดูอีกที เธอก็ไม่ได้นอกใจอะไรเขาสักหน่อยแล้วจะกังวลไปทำไม
“นายจะกินข้าวใช่หรือเปล่า”เธอเรียกพนักงาน “งั้นสั่งอาหารก่อนเถอะ”
ลู่เป๋าเหยียนสั่งสเต๊กเนื้อไปหนึ่งที่จากนั้นจึงมองูเี่อันด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน
ูเี่อันเริ่มนั่งไม่ติดเธอลังเลนิดหน่อยก่อนจะอธิบาย
“ฉันกับถังหยางิแค่บังเอิญเจอกันฉันจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ...”
“เขาเคยตามจีบเธอ?”
ดวงตาคู่เรียวรีของเขาหรี่ตามองเธออย่างไม่แสดงอารมณ์ชัดเจนว่าโกรธอยู่หรือไม่
ตาเธอเบิกกว้างอย่างใ“ทำไมนายถึงรู้ล่ะ?”
หลังนิ่งไปสักพักเธอจึงพูดขึ้นมา
“ที่จริง...ฉันก็เพิ่งรู้ตอนที่เขาบอกฉันเนี่ยแหละฉันลืมไปนานแล้ว...”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้ว“เธอลืมคนที่เคยตามจีบเธอ?”
ูเี่อันตอบเสียงเบา“ใครจะว่างจำได้หมดทุกคนกัน...”
หลายปีมานี้หัวใจเธออยู่ที่คนคนเดียว นั่นก็คือชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มมุมปาก“ดูท่าสมัยเรียนเธอจะฮอตไม่เบา”
ูเี่อันเบะปาก“คงสู้นายไม่ได้!”
ลู่เป๋าเหยียนมองเธอนิ่ง“เธอรู้ได้ยังไง?”
“ฉัน...”ูเี่อันเผลอหลุดปากออกไป จะแก้ตัวตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว จึงได้แต่บอกความจริง“ฉันได้ยินมาสมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียศาสตราจารย์บอกว่าไม่เพียงแต่พวกนักศึกษาจีน แต่สาวๆ ที่นั่นก็ชอบนายหลายคน เอ่อจะว่าไปนายก็นับเป็รุ่นพี่ต่างคณะของฉันนะ...”
ลู่เป๋าเหยียนไม่สนใจเื่รุ่นพี่รุ่นน้องอะไรนั่นเขาพูดตัดบท
“ทำไมถึงเลือกไปเรียนที่นั่น”
แน่นอนว่าเพราะนายจบจากที่นั่นไง...
แต่ให้ตายเธอก็ไม่คิดบอกเขาหรอก...
ว่าแล้วจึงยิ้มตอบไปว่า“ฉันชอบที่นั่น เรียนไปเกือบเทอมถึงจะรู้ว่านายก็เคยเรียนที่นั่นเหมือนกัน”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มบางสงสัยเขาจะคิดมากไป
สเต๊กเนื้อสองที่ถูกนำมาเสิร์ฟเป็ที่เรียบร้อยลู่เป๋าเหยียนไม่ได้พูดอะไรต่อ เขากินไปไม่กินคำพอให้อยู่ท้องก็วางมีดกับส้อมลงจากนั้นจึงวางมือถือของตนไว้บนโต๊ะ
“ถ้ามีเื่อะไรก็โทรหาเสิ่นเยว่ชวนไม่ก็โทรเข้าออฟฟิศฉัน”
“ทำไมนายต้องทิ้งมือถือตัวเองไว้ด้วยล่ะ”ูเี่อันถามอย่างไม่เข้าใจ
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้ว“ถ้าฉันไม่ทิ้งไว้ แล้วเธอจะใช้อะไรโทร?”
ูเี่อันนิ่งไปแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อเที่ยงเธอชาร์ตมือถือทิ้งไว้ที่บ้านลั่วเสี่ยวซีจากนั้นก็โดนเขาแบกออกมา เธอลืมมือถือเอาไว้ที่บ้านลั่วเสี่ยวซีอีกแล้ว...
ตอนนั้นเองลู่เป๋าเหยียนก็เดินออกจากร้านอาหารไปจนมองเห็นเพียงแผ่นหลังเขาอยู่ไกลๆูเี่อันมองเนื้อสเต๊กที่ถูกเขากินไปแค่ไม่เท่าไรเธอชักเริ่มสงสัยว่าเขากลับมาเพื่อกินข้าวจริงเหรอ?
หรือว่าเื่กินข้าวเป็แค่ข้ออ้าง ที่จริงเขากลับมาเพื่อเอามือถือมาให้เธอ...
คิดถึงตรงนีู้เี่อันก็ห้ามตัวเองไม่ให้คิดต่อ
ประสบการณ์ที่ผ่านมายืนยันแล้วว่าการคิดเองเออเองไม่มีข้อดี เพราะความสุขเพียง่คราวมักจะนำมาซึ่งความเ็ปในภายหลัง
แตู่เี่อันคงไม่รู้ว่าที่จริงเธอทายถูกต้องแล้ว
ตอนที่ลู่เป๋าเหยียนขึ้นรถไปแล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าูเี่อันไม่มีมือถือ เขาจึงเดินกลับไปโดยไม่สนว่างานจะรัดตัวมากแค่ไหน ทว่ากลับเห็นผู้ชายแปลกหน้าซึ่งไม่รู้มาั้แ่เมื่อไรกำลังนั่งอยู่กับเธอ
ผู้ชายด้วยกันดูกันออกว่าสายตาที่ชายคนนั้นส่งใหู้เี่อันกำลังสื่ออะไรแต่คนที่รู้ตัวช้าอย่างูเี่อันมีหรือจะเข้าใจ นี่ถ้าเขาไม่ได้เดินกลับไปอย่าว่าแต่เบอร์ติดต่อเลยที่ชายคนนี้จะได้ไปดีไม่ดีตัวเธอเองก็คงถูกเขาเอาติดตัวไปด้วย
ลู่เป๋าเหยียนเดินขึ้นรถอีกครั้งเขาหลับตาลงพลางยกมือนวดขมับอย่างอ่อนใจ
เขาชินแล้วกับูเี่อันที่เป็แบบนี้ั้แ่สิบขวบจนถึงปัจจุบัน เธอไม่เคยทำให้เขาวางใจได้เลย
ณ ร้านอาหารที่ชั้นบนูเี่อันกำลังมองสำรวจมือถือลู่เป๋าเหยียนอย่างละเอียด
เธอกับลู่เป๋าเหยียนใช้มือถือรุ่นเดียวกันเพียงแต่ของเธอเป็สีขาว ส่วนของเขาเป็สีดำ
แต่ที่สิ่งเธอสนใจมากที่สุดคือในมือถือของลู่เป๋าเหยียนมีความลับอะไรซ่อนอยู่หรือไม่แต่ขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกว่าไม่ควรไปล่วงล้ำความเป็ส่วนตัวของเขา
ความอยากรู้อยากเห็นกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเธอกำลังตีกันสุดท้ายก็ได้ผู้ชนะ ไหนๆ ลู่เป๋าเหยียนก็กล้าทิ้งมือถือไว้กับเธอเขาก็คงเตรียมใจไว้แล้วล่ะ
เธอลองเปิดมือถือของเขาและก็พบว่าเขาไม่ได้เข้ารหัส หลังปลดล็อกเข้าไปเธอก็พบว่าลู่เป๋าเหยียนช่างเป็คนน่าเบื่อจริงๆ
ข้างในมีแต่พวกแอปพลิเคชันที่ใช้ในการทำงานขนาดแอปที่คนทั่วไปมักมีติดมือถือไว้อย่าง Wechat ยังไม่มี วอลล์เปเปอร์หน้าจอก็เป็แบบเดิมที่ผู้ผลิตได้ตั้งค่าไว้ในอัลบั้มก็ไม่มีรูปสักรูป...
ูเี่อันไม่คิดจะเข้าไปดูในกล่องข้อความของเขาเพราะไม่ต้องบอกเธอก็เดาได้ว่าในนั้นคงมีแต่ข้อความแจ้งข้อมูลสายการบินอะไรเทือกนั้น
มิน่าถึงไม่ต้องเข้ารหัสแถมยังกล้าทิ้งมือถือไว้กับเธออีก
ก็เพราะว่าในนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลสักอย่าง!
หลังกินข้าวเสร็จูเี่อันก็เดินออกจากร้านอาหาร ผู้จัดการโรงแรมเดินเข้ามาบอกเธอว่า
“คุณนายลู่ครับถ้า้าออกไปเดินเล่นข้างนอก คนขับรถรอคุณอยู่ที่ชั้นล่างนะครับคุณอยากไปที่ไหนสามารถบอกเขาได้เลยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
เมื่อเธอเดินออกจากโรงแรมก็ััได้ถึงสายลมเย็นๆ ในยามค่ำคืนของเมือง G จนเท้าเธอเริ่มเย็นไปหมดในขณะที่กำลังลังเลว่าจะออกไปข้างนอกดีหรือไม่หญิงสาวในชุดทางการคนหนึ่งก็เดินหิ้วถุงช้อปปิ้งหลายถุงเดินมาหาเธอ
“สวัสดีค่ะ คุณนายลู่ดิฉันเป็เลขาชั่วคราวของผอ.ลู่ที่เมืองนี้ค่ะนี่คือของที่ผอ.ลู่สั่งให้ดิฉันจัดเตรียมมาให้คุณ”
ูเี่อันมองไปยังสัญลักษณ์บนถุงก็รู้ทันทีว่าข้างในคือเสื้อผ้าเธอรู้สึกแปลกใจอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงยื่นมือไปรับ
“ขอบคุณค่ะ”
เลขาสาวยิ้มอย่างเป็กันเอง“ไม่เป็ไรค่ะ ถ้าหากไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“พวกคุณต้องทำงานกันถึงกี่โมงคะ”ูเี่อันถาม
“ท่านผอ.อาจจะต้องทำงานถึงเที่ยงคืนกว่าค่ะถึงจะกลับโรงแรม” เลขากล่าว “เขามาถึงล่าช้ากว่ากำหนดอาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มจากที่วางไว้ค่ะ”
ูเี่อันนึกไปถึงภาพตอนที่เขารีบร้อนออกจากโรงแรมเพื่อไปบริษัทแต่ทว่าตอนหลังดันเดินกลับมากินข้าวเป็เพื่อนเธอ
ที่คุณเลขาบอกว่ากำหนดการล่าช้ากว่าเดิมคงเป็เพราะเื่นื้
แต่ถ้าเขากำลังยุ่งแล้วทำไมถึงต้องอยู่ต่อด้วยล่ะ?
หรือว่า...เขาแค่ไม่อยากเห็นเธออยู่กับถังหยางิ?
คิดถึงตรงนีู้เี่อันก็อดดีใจขึ้นมาไม่ได้
การที่เขาหึงเธออย่างน้อยก็อธิบายได้ว่าในหัวใจของเขาคงจะมีพื้นที่สำหรับเธออยู่บ้าง
