“โอ้ จ้าวหงฮวามาแล้วหรือ ภรรยาเถียนเซิงก็มาด้วย รีบเข้ามานั่งเถิด ข้างในนี้อุ่น” หลิวซื่อต้อนรับอย่างมีน้ำใจ คนอื่นๆ ในห้องขยับที่ให้พวกนางนั่งด้วย
จ้าวหงฮวานั่งลงทักทายกับทุกคนเสร็จก็ถามหวางกุ้ยเซียง “ได้ยินว่าเ้ากำลังหาคนช่วยทำดอกไม้ผ้ากับดอกไม้ลูกปัดหรือ?”
หวางกุ้ยเซียงไม่ได้คิดกระไรมาก พยักหน้า “ใช่ ข้าคนเดียวทำไม่ทัน”
“เช่นนั้นให้พี่สะใภ้ข้าทำด้วยสิ หวั่นชิวให้ค่าแรงเ้าเท่าไร เ้าก็ให้นางเท่านั้น คิดว่าเ้าคงไม่เอาเปรียบพี่สะใภ้ข้าใช่หรือไม่?”
จ้าวหงฮวาอยากอวดภูมิต่อหน้าจางซื่อ แค่ประโยคแรกก็ทำให้หวางกุ้ยเซียงกับหลิวซื่อตาค้างปากค้าง
บรรดาสตรีที่อยู่ในห้องโถงบ้านหวางพากันหันไปมองหวางกุ้ยเซียงเช่นกัน เพราะพวกนางมาเพราะอยากทำดอกไม้ลูกปัดกันหมด
ฟังจากที่จ้าวหงฮวาพูด…เหมือนว่าหวางกุ้ยเซียงจะทำเงินได้ไม่น้อยจากการเป็คนกลาง?
ดูท่าคงต้องคุยกันให้ดี
“ดอกไม้ลูกปัดกับดอกไม้ผ้าได้ดอกละหนึ่งอีแปะ เหมือนกันทุกคน” หวางกุ้ยเซียงไม่ได้ไม่พอใจ นางนึกว่าจ้าวหงฮวาไม่รู้ราคา
พูดจบก็มองจางซื่อ “วันก่อนพี่สะใภ้มาหาข้าแล้ว ข้าลองให้ท่านลองทำแล้วเช่นกัน แต่ดอกไม้ลูกปัดกับดอกไม้ผ้าที่ท่านทำออกมาไม่ผ่านเกณฑ์ ข้าก็บอกไปแล้วมิใช่หรือ”
พี่สะใภ้มอบงานนี้ให้นางทำเพราะเชื่อใจ นางจะทำพังไม่ได้เด็ดขาด
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็ผู้ใดก็ตาม
ขนาดลูกพี่ลูกน้องสตรีของนางเองยังถูกปฏิเสธ
เห็นหวางกุ้ยเซียงไม่ไว้หน้า สีหน้าจ้าวหงฮวาจมลงทันที
“มีกระไรวิเศษวิโสกัน พี่สะใภ้ พวกเรากลับกันเถิด พี่สะใภ้บ้านเจียงให้ค่าแรงดอกไม้ลูกปัดดอกละสามอีแปะ แต่นางให้พวกท่านแค่อีแปะเดียว ต่างก็เป็เพื่อนบ้านกันทั้งนั้น ช่างละโมบโลภมากไร้มโนธรรมยิ่งนัก!”
พูดจบก็ดึงจากซื่อลุกออกไป
หวางกุ้ยเซียงโมโห จ้าวหงฮวามาหาเื่ให้นางลำบากใจั้แ่เปิดปีใหม่
ดวงตาสตรีสาวแดงพร่า
หวงซื่อรีบปลอบโยน ใช้ผ้าเช็ดหน้าช่วยเช็ดน้ำตา “คนผู้นี้ไม่รู้จักดีชั่ว วันหน้าเ้าไปมาหาสู่ให้น้อยหน่อยเถิด”
หวางกุ้ยเซียงพยักหน้า
“กุ้ยเซียง เ้าควรเพิ่มค่าแรงให้พวกข้าหรือไม่ หลินหวั่นชิวให้ค่าแรงดอกไม้ลูกปัดเ้าตั้งดอกละสามอีแปะ แต่เ้ากลับให้พวกข้าแค่อีแปะเดียว ดอกไม้ผ้าก็เช่นกัน นางให้เ้าสองอีแปะ เ้าให้พวกข้าอีแปะเดียว นี่มันจะใจดำเกินไปหน่อยกระมัง” จังหวะนี้อีก ฟู่เหรินนางหนึ่งพูดขึ้น
“นั่นน่ะสิ เ้าแค่จัดหาคนแต่กลับกินเงินเกินครึ่ง…พวกเราเป็คนบ้านเดียวกันนะ”
“กุ้ยเซียง เอาแค่พอเหมาะก็พอ เงินหนึ่งพวงเ้าเอาแค่สิบอีแปะก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ไม่ควรละโมบเกินไป”
สตรีสองสามคนพากันพูดเช่นกัน คนที่เหลือไม่ได้พูดกระไรแต่มองหวางกุ้ยเซียงกันหมด รอรับผลประโยชน์ตาม
หวางกุ้ยเซียงไม่ใช่จะยอมคน นางยิ้มเยาะ “ได้สิ ถ้ารังเกียจที่ข้าให้เงินน้อยก็ไม่ต้องทำ ข้าไม่ได้จำเป็ต้องเชิญคนอยู่แล้ว แค่เห็นแก่ที่เป็คนบ้านเดียวกัน อยากแบ่งปันสิ่งดีๆ แต่ในเมื่อพวกท่านไม่อยากได้ เช่นนั้นหลังวันที่สิบห้าก็ไม่ต้องมาแล้ว งานพวกนี้ไม่เพียงพอให้ครอบครัวข้าทำด้วยซ้ำ!”
นางไม่มามัวอธิบายเหตุผลกระไรทั้งนั้น อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไสหัวไป
“เด็กคนนี้นี่มันยังไง ไม่ซื่อตรงเลยสักนิด คนบ้านเดียวกันทั้งนั้น ต้องตัดไมตรีขนาดนี้เชียวหรือ?” ฟู่เหรินคนหนึ่งที่พูดก่อนหน้านี้กล่าวอย่างไม่พอใจ
หลิวซื่อไม่พอใจเช่นกันที่เจอเื่ไม่สบอารมณ์ั้แ่เปิดปีใหม่
นางพูดด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “ไม่ใช่ว่ากุ้ยเซียงของพวกเราไม่ซื่อตรง แต่มีคนบางคนหน้าใหญ่เกินไปต่างหาก บ้านพวกเรารับไม่ไหว!”
หวางกุ้ยเซียงลุกขึ้นพูดเสียงดัง “อย่ามาบอกว่าข้าไม่ซื่อตรง พี่สะใภ้บ้านเจียงไม่ได้ให้งานข้าทำแค่คนเดียว แต่ยังให้จ้าวหงฮวาด้วย หากรู้สึกว่าข้าไม่ซื่อตรงก็เชิญไปของานจากจ้าวหงฮวา ดูว่านางจะยินดีให้ค่าแรงสองสามอีแปะหรือไม่ แค่พูดปากเปล่าผู้ใดก็พูดได้ ข้าคงปรนนิบัติพวกท่านทั้งหลายไม่ไหว เชิญกลับไปเถิด พวกท่านเองก็ด้วย หากยินดีทำงานก็มาที่นี่ในวันที่สิบหก แต่หากไม่ยินดีก็ไม่เป็ไร หนึ่งอีแปะก็เป็เงิน ครอบครัวข้าจะได้เงินเพิ่มอีกอีแปะ”
เรียกได้ว่านางพูดแบบไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
ทำเอาสตรีที่สองสามคนที่เริ่มพูดหน้าม่อยคอตก ได้แต่จากไปอย่างด้วยความอับอาย
คนที่เหลือยังจะอยู่ต่อทำกระไรอีกเล่า อยู่ให้ตัวเองอึดอัดหรือ อีกอย่าง พวกนางก็คิดจะไปถามที่บ้านจ้าวเช่นกัน
ทุกคนบอกลา บ้านหวางกลับสู่ความสงบ
“เ้าทำงานกับหวั่นชิว วันหน้าจะเจอสถานการณ์ที่รับมือยากยิ่งกว่านี้ แค่เื่วันนี้ก็ตาแดงร้องไห้เสียแล้ว วันหน้าเจอสถานการณ์ลำบากยุ่งยากกว่านี้จะทำอย่างไร?” หลังจากแขกกลับไปหมด หลิวซื่ออบรมหวางกุ้ยเซียง
หวางกุ้ยเซียงส่ายหน้า “พี่สะใภ้หวั่นชิวอยากให้พวกเรามีรายได้ ถึงมือพวกเราจะคล่องเพียงใด แต่ละวันก็ทำได้อย่างจำกัด ทว่าหากหาคนมาทำจะต่างออกไป ทำหนึ่งพันดอก พวกเราจะได้เงินพันกว่าถึงสองพันอีแปะ เวลาพวกเรามีเวลาว่างก็ทำได้เยอะเช่นกัน ท่านแม่ พี่สะใภ้ วัสดุที่หวั่นชิวให้ข้า่หลังได้ค่าแรงดอกละยี่สิบตำลึงเชียวนะ! ครอบครัวเราทำอันที่แพง แบบถูกให้คนอื่นทำ วางใจเถิด เหตุนี้สอนให้ข้าได้รู้ถึงใจคน พวกเราทำตามระเบียบและข้อบังคับเป็พอ”
หลิวซื่อพยักหน้าอย่างปลื้มใจ “ได้ เ้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำกระไรก็ดีแล้ว แม่จะช่วยเ้าด้วย”
“พี่สะใภ้ก็ช่วยด้วยเช่นกัน” หวงซื่อได้ยินหวางกุ้ยเซียงพูดเช่นนี้ก็โล่งอก มีเงินแต่ไม่คว้าก็โง่แล้ว หรือหากน้องสามีรู้สึกเสียหน้า จะไม่เอาเงินส่วนนี้ก็ไม่เป็ไร
หวงซื่อค่อนข้างใจกว้าง
บ้านจ้าว
คนกลุ่มหนึ่งเฮโลกันมา จ้าวหงฮวาใเล็กน้อย
ฟู่เหรินที่เป็คนนำถามจ้าวหงฮวาว่า “หงฮวา ได้ยินว่าเ้ามีงานจากบ้านนายพรานเจียงเช่นกัน พอจะแบ่งให้พวกข้าทำด้วยได้หรือไม่?”
จ้าวหงฮวาพอใจ “พวกท่านจะทำกับหวางกุ้ยเซียงไม่ใช่หรือ?”
“ปัดโธ่ นางขี้เหนียวเกินไป ให้แค่อีแปะเดียว”
“นั่นน่ะสิ เป็คนบ้านเดียวกันแท้ๆ”
“ใจดำมากอีกต่างหาก”
คนพวกนี้พูดถึงหวางกุ้ยเซียงในทางไม่ดี จ้าวหงฮวามีความสุข ผู้ใดใช้ให้หวางกุ้ยเซียงไม่ไว้หน้านางกันเล่า
นางตอบว่า “ได้สิ ข้าจะให้สองอีแปะต่อดอกไม้ลูกปัดหนึ่งดอก แต่ข้าไม่ได้มีเงินเหมือนหวางกุ้ยเซียง ไม่มีเงินจ่ายทดให้พวกท่านก่อน ต้องรอให้ทุกท่านทำเสร็จแล้วนำไปขายก่อนจึงจะจ่ายค่าแรงให้”
นางมองว่ารอบนี้หลินหวั่นชิวให้ลูกปัดมาค่อนข้างเยอะ ทำคนเดียวก็ทำไม่หมดอยู่ดี สู้จ้างคนอื่นทำดีกว่า แค่ดอกละสองอีแปะยังพอจ่ายให้ได้
อีกอย่าง คนพวกนี้หันมาทำงานกับนางแทน นี่ไม่ต่างกับตบหน้าหวางกุ้ยเซียง!
หึ สมน้ำหน้า กล้าไม่ไว้หน้านางดีนัก
เสียแรงที่นางเห็นเป็พี่น้อง!
หลายคนได้ยินว่าได้สองอีแปะก็พากันดีใจ ตอบตกลงว่าจะมาช่วยงานหลังวันที่สิบห้า
มีส่วนน้อยที่รู้สึกว่าได้ค่าแรงหลังขายของเสร็จไม่ค่อยมั่นคง ตัดสินใจไปหาหวางกุ้ยเซียงดีกว่า เพราะบ้านหวางจ่ายค่าแรงให้ในวันที่ส่งมอบงานทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้