EPISODE 05
“นี่ คุณจะพาฉันไปไหนเนี่ย ปล่อยฉันนะ”
“ช่วยตามมาเงียบๆ ไม่ได้หรือไง”
ให้ตายสิ ถ้าเธอยังโวยวายอยู่แบบนี้พวกเราสองคนต้องตกเป็เป้าสายตาของคนที่อยู่รอบข้างแน่ๆ มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่นักหรอก ถ้าหากมีคนเห็นว่าผมกำลังเดินลากผู้หญิงคนนี้อยู่กลางตลาด เพราะฉะนั้นผมควรต้องเร่งฝีเท้าพาผู้หญิงคนนี้เดินไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้รับความร่วมมือจากคู่กรณีของผมคนนี้ก็เถอะ แต่มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ไว้เราสองคนอยู่ในจุดที่ปลอดภัยและปลอดคนเมื่อไหร่ ผมจะอธิบายเื่ราวทุกอย่างให้เธอรู้เื่เอง
“บ้าหรือไง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเป็ใคร ทำไมฉันต้องไปกับคุณด้วย”
อ่า นี่ผมคิดถูกหรือว่าคิดผิดเนี่ยที่ตัดสินใจลากเธอมาด้วย
“เอ๊ะ หรือว่าคุณจะเป็พวกแก๊งลักพาตัว นี่คุณจะลักพาตัวฉันไปเรียกค่าไถ่ใช่ไหม”
นี่เธอคงดูละครหลังข่าวมากเกินไปสินะ ถึงได้คิดเพ้อเจ้อว่าผมเป็โจรลักพาตัวอะไรนั่น
“ช่วยด้วยค่ะ ผู้ชายคนนี้กำลังลักพาตัวฉันไปเรียกค่าไถ่ ใครก็ได้มาชะ..”
หมับ!
“อื้อ”
ก่อนที่เธอจะทำให้เราสองคนตกเป็เป้าสายตาไปมากกว่านี้ ผมจึงรีบหันไปปิดปากของเธอเอาไว้ทันทีเพื่อที่ไม่ให้เธอเปล่งเสียงร้องออกมาได้อีก แต่เมื่อผมเห็นใบหน้าของคู่กรณี ผมก็ต้องยกคิ้วขึ้นด้วยความรู้สึกแปลกใจทันที
“หืม เป็เธอได้ยังไง”
ผมเอ่ยถามเธอออกไปด้วยความรู้สึกแปลกใจ เพราะผมไม่คิดว่าผมจะบังเอิญมาเจอกับผู้หญิงคนนี้อีก จำผู้หญิงที่ผมเจอที่คอนเสิร์ตของผมเมื่อหลายวันก่อนได้ไหม สาวน้อยที่เป็ผู้โชคดีคนนั้นน่ะ เธอคือคนเดียวกันกับผู้หญิงที่ผมเดินชนล้มไปเมื่อกี้ ให้ตายสิ เพราะเมื่อกี้ผมคงมัวแต่สนใจเื่ที่แฟนคลับจะตามผมมาได้ทัน ผมเลยไม่มีเวลาที่จะมองหน้าเธอให้ชัดเจน บวกกับวันนี้เธอสวมหมวกใบใหญ่ที่ปกปิดใบหน้าของเธอไว้เกือบครึ่งมันเลยทำให้ผมจำไม่ได้ว่าเป็เธอ
อ่า อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นวะ ผมอุตส่าห์หนีแฟนคลับมาแท้ แต่ดันมาเจอกับแฟนคลับที่มีนิสัยแปลกๆ แทนซะงั้น โคตรซวยเลยว่ะ
“อื้อ”
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ผมจะมารู้สึกแปลกใจไร้สาระพวกนี้ เพราะตอนนี้ผมควรต้องรีบพาผู้หญิงคนนี้และตัวผมออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่พวกแฟนคลับจะตามหาผมเจออีก
“มากับฉัน”
และทันทีที่ผมพูดจบ ผมก็ดึงร่างของเธอให้เดินตามผมมาอีกครั้งในขณะที่มือของผมยังคงปิดปากของเธอเอาไว้แน่นเหมือนเดิมเพราะตอนนี้ผมไม่้าให้เธอส่งเสียงร้องออกมาอีก
เมื่อผมเดินมาถึงบริเวณที่มีรถของผมจอดอยู่ ผมก็ไม่ลังเลที่จะยัดร่างของคู่กรณีเข้าไปนั่งในรถของผมเลยสักนิด ซึ่งสภาพของผมในตอนนี้มันทำให้ผมเริ่มคิดแล้วว่าผมกำลังทำตัวเหมือนกับโจรเรียกค่าไถ่อย่างที่ผู้หญิงคนนี้กล่าวหาผมก่อนหน้านี้อยู่จริงๆ หืม มันกลายมาเป็แบบนี้ได้ยังไงกันวะ
“อ๊าย จะพาฉันไปไหนไอ้โจรเรียกค่าไถ่ เอ๊ะ โจรเรียกค่าไถ่ทำไมมีรถหรูๆ ขับได้เนี่ย อ๋อ คุณคงทำอาชีพนี้มานานแล้วใช่ไหมถึงได้มีรถหรูขับแบบนี้ได้ ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันกรี๊ดจริงๆ ด้วย”
“ฉันไม่ใช่โจรเรียกค่าไถ่”
“แล้วคุณลากฉันมาด้วยทำไมเนี่ย”
เฮ้อ ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่รู้นะว่าคนที่เป็คนลากเธอมาด้วยคนนี้คือผม เพราะถ้าหากเธอรู้ เธอคงไม่โวยวายแบบนี้แน่ ตรงกันข้าม เธออาจจะดีใจซะด้วยซ้ำที่รู้ว่าเป็ผม เมื่อคิดได้อย่างนั้นผมจึงตัดสินใจถอดฮูดและหมวกของตัวเองออกทันที เพื่อเปิดเผยใบหน้าของตัวเองให้เธอได้เห็น เธอจะได้เลิกโวยวายแบบนี้สักที
“เอ๊ะ เป็คุณได้ไงเนี่ย”
“ฉันสิที่ต้องถามว่าเป็เธอได้ยังไง ให้ตายสิ ซวยชะมัด”
“ซวยอย่างนั้นเหรอ ฉันต่างหากที่ต้องพูดคำนั้น คุณเป็คนเดินชนฉันล้มเองนะ แถมคุณยังถือวิสาสะลากฉันมาที่นี่อีก ฉันนี่แหละที่เป็ฝ่ายซวย”
ก็เพราะว่าผมเป็สาเหตุที่ทำให้เธอล้มจนได้แผลแบบนั้นไง ผมถึงต้องลากเธอมาด้วยแบบนี้ ถ้าหากว่าเธอไม่ล้มหรือว่าได้แผลติดตัว ป่านนี้ผมคงไม่ต้องมาวุ่นวายเพราะเื่งี่เง่าพวกนี้หรอก
“เฮ้อ ฉันยอมรับว่ามันคือความผิดของฉัน ฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดเื่แบบนี้หรอก เพราะฉะนั้นเธอช่วยมากับฉันหน่อยได้ไหม”
ถึงแม้ว่าจุดที่พวกเราสองคนยืนอยู่ตรงนี้มันจะเป็จุดที่ปลอดคนแล้วก็เถอะ แต่มันก็ยังเป็พื้นที่สาธารณะอยู่ดี มันเสี่ยงเกินไป และผมเองก็ไม่อยากจะเพิ่มข่าวฉาวให้ตัวเองอีกด้วย แค่นี้ผมก็ตกเป็ขี้ปากให้ชาวบ้านพูดถึงกันทุกวันอยู่แล้วผม ผมไม่อยากเกิดเื่น่าปวดหัวพวกนั้นขึ้นอีก ผมคิดว่าผมควรพาผู้หญิงคนนี้ไปเจรจาต่อรองในที่เงียบๆ ที่เป็ส่วนตัวมากกว่าตรงนี้น่าจะดีกว่า
“ถอยออกห่างจากประตูรถเลยนะ ฉันไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น”
“ไม่ได้ ฉันปล่อยให้เธอไปไหนตอนนี้ไม่ได้”
“แต่ฉันไม่อยากไปกับคุณ”
“แต่เธอต้องทำแผล”
“แผลเหรอ?”
ทำหน้างงแบบนั้น นี่อย่าบอกนะว่า..
“เฮ้ย ทำไมมือฉันเยินแบบนี้เนี่ย”
นี่เธอพึ่งรู้ตัวอย่างนั้นเหรอว่าตัวเองมีแผล แผลมันก็ไม่ใช่เล็กๆ เลยนะ เธอก็น่าจะรู้สึกเจ็บบ้างไม่ใช่เหรอ แล้วนั่นในมือเธออีกข้างกำลังถืออะไรอยู่ เครปอย่างนั้นเหรอ ในสถานการณ์แบบนี้เธอยังคงถือเครปไว้แน่นแบบนั้นได้ยังไงกัน เป็คนอื่นถ้าหากถูกคนแปลกหน้าลากมาแบบนี้คงทิ้งของที่อยู่ในมือเพื่อที่จะใช้มือนั่นมาป้องกันตัวเองแทน แต่เธอคนนี้กลับใช้มือข้างนั้นถือเครปไว้แทนซะอย่างนั้น แบบนี้ไม่เรียกว่าแปลกได้ไหม
“ฉันจะพาเธอไปทำแผล”
ผมบอกจุดประสงค์ของตัวเองให้เธอได้รับรู้ เผื่อว่ามันอาจจะทำให้เธอสงบลงได้บ้าง เพราะการที่เธอต่อต้านความหวังดีของผมแบบนี้มันทำให้ความอดทนของผมเริ่มที่จะหมดลงไปเรื่อยๆ มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่นักหรอกถ้าเธอเห็นผมในสภาพที่ไร้ซึ่งความอดทนที่ว่านั่น
“เฮ้ย ไม่ต้อง แผลนี้ฉันจัดการเองได้ เพราะฉะนั้นทางใครทางมันเถอะ”
“ขอปฏิเสธ”
“เอ๊ะ”
“เพราะนอกจากเื่ทำแผลฉันยังมีเื่อื่นที่จะต้องเจรจากับเธออีก”
“เื่อะไร”
“เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้ฟังอีกที ตอนนี้เธอช่วยไปกับฉันก่อนได้ไหม ฉันไม่อยากตกเป็ข่าวหน้าหนึ่งกับเธอน่ะ”
หลังจากที่ผมเอ่ยพูดกับเธอไปแบบนั้น เธอก็จ้องเขม็งมาที่ผมพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็ปมยุ่ง ถึงเธอจะมองผมมาด้วยสายตาไม่พอใจแบบนั้น แต่เธอก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรผมกลับมา ในเมื่อเธอเงียบแบบนี้แสดงว่าเธอยอมไปกับผมแต่โดยดีแล้วใช่ไหม เฮ้อ ยอมง่ายๆ แบบนี้ั้แ่แรกก็จบ
เมื่อเห็นว่าเธอยอมนั่งนิ่งๆ อยู่ที่เบาะด้านข้างคนขับแบบนั้นแล้ว ผมก็ปิดประตูรถให้เธอ ก่อนที่ผมจะเดินอ้อมตัวรถเพื่อที่จะขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับแล้วเคลื่อนตัวออกจากตรงนั้นทันที
กร๊อบ!แกร๊บ!
ในระหว่างที่ผมกำลังตั้งใจขับรถอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมาจากที่นั่งข้างๆ ผม ซึ่งตลอดระยะทางที่ผ่านมาผมไม่ได้ให้ความสนใจที่เธอเลยสักนิด ถึงแม้ว่าเธอจะนั่งอยู่ข้างๆ ผมมาโดยตลอดก็เถอะ แต่เสียงดังนั่นมันกลับเรียกร้องความสนใจของผมได้เป็อย่างดี มันเลยทำให้ผมต้องปรายตาหันไปมองที่เธออีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้
และทันทีที่ผมหันไปมองหน้าเธอ ผมก็เห็นได้ว่าผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่บนเบาะที่นั่งข้างๆ กับผม ตอนนี้เธอกำลังนั่งทานเครปด้วยความเอร็ดอร่อยอยู่ หืม ในสถานการณ์แบบนี้เธอยังมีอารมณ์กินได้อีกอย่างนั้นเหรอ ผู้หญิงคนนี้เป็คนแบบไหนกันเนี่ย แต่ที่ผมรู้แน่ชัดก็คือพฤติกรรมของเธอทำให้ผมรู้สึกแปลกใจได้ตลอด
“ฉันหิวน้ำ คุณมีน้ำเปล่าบ้างไหม”
เธอหันมาเอ่ยถามผม ในขณะที่ปากของเธอยังคงเคี้ยวเครปที่เธอพึ่งกัดเข้าไปเมื่อกี้ไปด้วย ผมมองใบหน้าของเธอไปด้วยสายตาเรียบนิ่ง และมันก็เป็จังหวะเดียวกันที่สัญญาณไฟแดงฉายขึ้นมาพอดี ผมเลยใช้โอกาสนั้นเอี้ยวตัวไปหยิบเอาขวดน้ำดื่มขนาดพกพามาจากเบาะหลังแล้วยื่นมันส่งไปให้เธอทันที
แต่...
“มือฉันไม่ว่าง มืออีกข้างก็เจ็บ ถ้าหากว่าคุณมีน้ำใจพอช่วยเปิดขวดน้ำให้ฉันด้วยได้ไหม”
อ่า ั้แ่เกิดมา ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนใช้ให้ผมเปิดขวดน้ำมาก่อนเลย ผู้หญิงคนนี้ถือว่าเป็คนแรกที่กล้าเอ่ยปากใช้ผม แล้วนี่..ผมต้องเปิดขวดน้ำให้เธอใช่ไหม เฮ้อ ก็ได้วะ
“ขอบคุณ”
เธอเอ่ยขอบคุณผมมาเสียงเบาก่อนที่จะยื่นมือมารับขวดน้ำไปจากผม แล้วยกมันขึ้นดื่มทันที ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำที่แสนเรียบง่ายและไม่ห่วงภาพพจน์ของเธอมันอยู่ในสายตาของผมตลอด มันค่อนข้างแปลกตาสำหรับผมเลยทีเดียวเพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ทำตัวเหมือนกับผู้หญิงคนนี้มาก่อนเลยสักครั้ง อ่า ถ้าอย่างนั้นแบบนี้คงเป็เื่ปกติสินะ ถ้าหากผมคิดว่าผู้หญิงคนนี้มีนิสัยที่ค่อนข้างแปลก
“แล้วนี่คุณกำลังจะพาฉันไปที่ไหน”
หลังจากที่เธอดื่มน้ำเสร็จ เธอก็เอ่ยปากถามถึงข้อสงสัยของเธอทันที แต่..เธอมาถามคำถามนี้กับผมตอนนี้มันสายเกินไปไหม เพราะตอนนี้ผมขับรถจวนจะถึงที่หมายอยู่แล้ว นี่ถ้าหากผมเป็โจรเรียกค่าไถ่จริงๆ ละก็ป่านนี้ผมคงเรียกเงินค่าไถ่จากครอบครัวของเธอจนเสร็จแล้วล่ะ เฮ้อ นี่ครอบครัวของเธอปล่อยให้เด็กอย่างเธอออกมาเดินเพ่นพ่านคนเดียวมืดๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน
“...”
ผมเลือกที่จะเงียบแทนคำตอบ เพราะตอนนี้รถของผมมันได้เลี้ยวเขามายังหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งเป็ที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้รถของผมก็ได้เคลื่อนที่มาจอดเทียบอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็สถานที่ที่ผมค่อนข้างคุ้นเคยเป็อย่างดีอยู่ก่อนแล้ว
“ที่นี่ที่ไหน”
“ที่ที่ฉันจะพาเธอมาทำแผลยังไงล่ะ”
ผมตอบเธอไป ก่อนที่จะเปิดประตูลงจากรถในเวลาต่อ ซึ่งจริงๆ แล้วผมก็อยากจะพาเธอไปทำแผลที่โรงพยาบาลนั่นแหละ แต่ถ้าหากผมทำแบบนั้นมันคงได้กลายเป็เื่ใหญ่แน่ๆ และอีกอย่างแผลเธอมันก็ไม่ได้หนักหนาถึงขั้นที่จะต้องถึงมือหมอ เพราะฉะนั้นผมจึงตัดสินใจพาเธอมาที่นี่แทน
“บ้านหลังนี้เนี่ยนะ บ้านใคร? บ้านคุณเหรอ”
อ่อ ผมยังไม่ได้บอกไปไหมว่าที่ที่คือที่ไหน มันคือบ้านที่ผมซื้อเอาไว้ตั้งนานแล้วน่ะ แต่ที่นี่มันไม่ได้เป็แค่บ้านหรอก มันคือทั้งที่ทำงาน ทั้งห้องซ้อม และเป็แหล่งกบดานของสมาชิกในวงของผมนั่นเอง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าถ้าจะหาตัวพวกผมเจอแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เลยก็คงจะเป็ที่นี่แหละ เพราะพวกผมมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่กันน่ะ
แต่ไม่ใช่ว่าพวกผมไม่มีบริษัทต้นสังกัดอยู่หรอกนะ ไอ้มีมันน่ะมีอยู่แล้ว แต่นานๆ ทีพวกผมถึงจะเข้าไปที่นั่นน่ะ ส่วนใหญ่ก็เข้าไปประชุมนั่นแหละ แต่ถ้าหากการประชุมไม่ใหญ่หรือว่าสำคัญพอพวกผมก็จะทำงานกันที่นี่แทนน่ะ เพราะที่นี่มันค่อนข้างเป็ส่วนตัวกว่า และเป็ที่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แถมคนภายนอกยังเข้ามาในนี้ได้ยากอีก มันเลยเป็ที่ที่ค่อนข้างเหมาะกับการเก็บตัวของอย่างสงบของผมยังไงล่ะ
“นี่คุณคงไม่ได้พาฉันมาทำอะไรแปลกๆ ที่นี่หรอกนะ”
อะไรแปลกๆ ที่ว่ามันคืออะไร นี่ผู้หญิงคนนี้กำลังคาดหวังอะไรจากผมอยู่หรือเปล่าเนี่ย
“ฉันเอาเื่คุณแน่ถ้าหากว่าคุณทำเื่พิลึกกับฉัน”
พิลึกอย่างนั้นเหรอ เฮ้ นี่เธอคิดว่าผมกำลังพิศวาสเธออยู่อย่างนั้นเหรอ บ้าไปแล้ว ผมไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นกับเธอเลยสักนิด ที่พามาที่นี่ก็เพราะว่าผมไม่อยากสร้างปัญหาให้กับตัวเองยังไงล่ะ และอีกอย่างผมคงทำเื่พิลึกอย่างว่านั่นกับเธอไม่ได้หรอก ถ้าขืนผมทำ ผมคงได้ถูกตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์แน่ๆ ผู้หญิงคนนี้ยังเด็กอยู่ เลิกคิดว่าผมจะทำอะไรแบบนั้นกับเธอไปได้เลย
“ไม่ต้องห่วง ที่นี่ไม่ได้มีแค่ฉันกับเธอแค่สองคน”
“เอ๊ะ ยังมีคนอื่นๆ อยู่ด้วยเหรอ”
ถือว่าเป็ความโชคดีของเธอแล้วล่ะที่ผมเดินชนเธอ เพราะในฐานะคนที่เป็แฟนคลับของวงพวกผมอย่างเธอคงต้องถูกใจมากแน่ๆ ถ้าหากว่าเธอได้เจอกับสมาชิกคนอื่นๆ ในวงแบบใกล้ชิดในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ เธอควรขอบคุณความโชคร้ายของผมในครั้งนี้นะ
“ตามฉันมา”
ฉันหันไปเอ่ยกับเธอเสียงเรียบก่อนที่จะเปิดประตูรั้วแล้วเดินเข้าในพื้นที่ของบ้านโดยที่ผมไม่ลืมที่จะยืนรอให้เธอเดินมาสมทบกับผม เพราะเธอพึ่งเคยมาที่นี่เป็ครั้งแรกแถมเธอยังเป็แฟนครับของพวกผมด้วย ผมคงปล่อยให้เธอเดินไปไหนมาไหนเพ่นพ่านคนเดียวไม่ได้หรอก
“คุณบอกว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย แล้วทำไมถึงได้เงียบแบบนี้ล่ะ”
นั่นสิ ทำไมวันนี้มันถึงได้เงียบแปลกๆ ไอ้พวกนั้นหายหัวไปไหนกันหมด
กึก!
แต่ในระหว่างที่ผมกำลังกวาดสายตามองหาสมาชิกคนอื่นๆ ในวงอยู่นั้น จู่ๆ สายตาของผมมันก็ไปสะดุดของเขาสิ่งมีชีวิตหนึ่งอย่างที่กำลังยืนลิ้นห้อยจ้องมาที่ผมอยู่อย่างไม่วางตา ไม่สิ สิ่งมีชีวิตนั่นมันกำลังจ้องผู้หญิงที่เดินตามหลังผมมาอยู่ต่างหากล่ะ
“ฉิบหาย!”
ผมสบถออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าสิ่งมีชีวิตนั่นคือไอ้หลง สัตว์เลี้ยงประจำบ้านที่พวกผมเลี้ยงเอาไว้ ซึ่งมันเป็หมาพันธุ์อเมริกันบูลลี่ที่กำลังตัวโตเต็มวัยสีดำขาวแถมยังมีรูปร่างกำยำและใบหน้าที่เรียกว่าโหดนั่นอีก แต่ประเด็นที่ทำให้ผมต้องสบถออกมาแบบนั้นมันไม่ใช่เพราะไอ้หลงมันออกมาทักทายผมหรอกน่ะ มันเป็เื่ปกติที่มันทำแบบนี้อยู่แล้ว แต่ที่ไม่ปกติก็คือ ไอ้หลงมันไม่ชอบคนแปลกหน้า และตอนนี้คนแปลกหน้าที่ว่านั่นก็ยืนอยู่ข้างหลังผมแล้วด้วย
“ไอ้ภีม!”
ผมะโเรียกไอ้ภีมทันทีเพื่อที่จะให้ไอ้ภีมรีบมาลากไอ้หลงไปเก็บเข้ากรงก่อนที่มันจะวิ่งมาขย้ำคนแปลกหน้าที่ผมพามาด้วยในวันนี้
“เธอ หลบ!”
“มีไรเฮีย ะโซะดังเชียว”
ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมควรมองอะไรก่อนดี ทั้งไอ้หลง ทั้งคนแปลกหน้าที่ไอ้หลงไม่เคยเจอที่ยืนอยู่ด้านหลังของผมตอนนี้ และไอ้ภีมที่พึ่งเดินลงมาจากชั้นสองเพราะเสียงเรียกของผมเมื่อกี้ อ่า ความวุ่นวายนี่มันคืออะไรวะ
“หึ อะไร หลบอะไร”
เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยถามมาจากคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของผมนั่นเอง ผมจึงรีบใช้ตัวของผมมายืนบังร่างของเธอจากไอ้หลงทันทีเพื่อกันไม่ให้สัตว์เสียงประจำที่นี่ทำร้ายแขกได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรงขึ้นที่นี่ ผมยอมเสียสละร่างกายของตัวเองแทนก็ได้วะ
“เอ๊ะ นั่นเฮียพาใครมาด้วย เหี้ย! ไอ้หลงหลุด!”
ไอ้ภีมอุทานออกมาด้วยความใหลังจากที่มันอ่านสถานการณ์ในตอนนี้ออก
“แฮ่ๆ โฮ่ง!”
แต่ดูเหมือนว่ามันจะช้าไปแล้วเพราะตอนนี้ไอ้หลงมันกำลังพุ่งตรงมาทางนี้เป็ที่เรียบร้อยแล้ว อ่า ไม่ทันแน่ งานนี้ได้ไปโรงพยาบาลจริงๆ แน่
“อ๊าย น้องหมา”
“หงิงๆ!”
ในระหว่างที่ผมกำลังยืนทำใจต่อสถานการณ์ร้ายแรงที่ไอ้หลงกำลังจะกลายเป็ผู้ก่อเหตุอยู่นั้น จู่ๆ สถานการณ์มันก็พลิกผันซะอย่างนั้น เมื่อผมหันไปเห็นว่าไอ้หลงที่วิ่งพุ่งตรงมาโดยมีเป้าหมายที่จะเข้ามาขย้ำคนแปลกหน้าเมื่อกี้ ตอนนี้มันได้นอนหงายท้องบนพื้นด้วยท่าทางอ้อนๆ เป็ที่เรียบร้อยแล้วโดยมีคนแปลกหน้าที่ผมคิดว่าจะโดนไอ้หลงจะวิ่งเข้าไปกัดเมื่อกี้นั่งลูบท้องให้อยู่
หือ อะไรว่านั่น ทำไมจู่ๆ สัตว์เลี้ยงที่ไม่เป็มิตรต่อคนแปลกหน้าอย่างไอ้หลงถึงได้เชื่องแบบนั้นได้วะ
“อ้าว”
ดูเหมือนไม่ใช่แค่ผมที่รู้สึกงงกับท่าทีของไอ้หลงที่เปลี่ยนไป เพราะหลังจากที่ไอ้ภีมมันเดินมาเห็นว่าตอนนี้ไอ้หลงมันกำลังนอนอ้อนคนแปลกหน้าที่มันพึ่งเจอต่อหน้าเ้าของที่เลี้ยงมันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาอย่างไอ้ภีมก็งงไม่แพ้กัน
“อยากให้พี่สาวเกาพุงให้เหรอ”
“หงิง!”
หรือว่าวันนี้ไอ้ภีมมันให้ไอ้หลงกินอะไรแปลกๆ เข้าไปหรือเปล่านะ ความดุร้ายของไอ้หลงมันถึงได้หายไปหมดแบบนี้
“เกิดอะไรขึ้น เสียงดังไปถึงบนบ้านเลย”
ในระหว่างที่ผมกำลังยืนงงอยู่นั้น เสียงแหบที่เป็เอกลักษณ์ของไอ้แรมก็ดังขึ้นมา ผมเลยหันไปมองที่ต้นเสียงก็เห็นว่าตอนนี้เพื่อนของผมมันกำลังเดินลงมาจากชั้นสองพร้อมกับไอ้โปรด อ๋อ ที่เงียบๆ ก็เพราะไปคลุกกันอยู่บนบ้านสินะ
“เอ๊ะ ทำไมไอ้หลงมันไปนอนอยู่ตรงนั้น แล้วนั่น...”
“เฮีย มาคุยกันหน่อย”
ไอ้ภีมกวักมือเรียกผม ผมเลยเดินไปรวมตัวกับสมาชิกในวงทันที โดยปล่อยให้ไอ้หลงอยู่กับผู้หญิงคนนั้นสองคน เพราะตอนนี้มันคงไม่มีอะไรน่าหวงแล้วล่ะ แต่สิ่งที่ผมต้องห่วงตอนนี้ก็คือ สายตาจากสมาชิกในวงที่กำลังจ้องเขม็งมาที่ผมตอนนี้น่ะสิ เฮ้อ พวกมันไม่พูดผมก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้พวกมันกำลังจะถามอะไรผม
“นั่นใคร”
ทันทีที่มายืนรวมตัวกันได้ ไอ้แรมมันก็เอ่ยถามถึงข้อสงสัยนั่นมาทันที
“อุบัติเหตุนิดหน่อย กูเลยจำเป็ต้องพามาด้วย”
“ผมว่าวันนี้น้ำต้องท่วมกรุงเทพแน่เลย”
“ทำไมวะ”
“ก็เฮียโซ่พาผู้หญิงมาที่นี่เป็ครั้งแรกไง ปกติเฮียเขาสนใจเื่อื่นนอกจากเื่เพลงซะที่ไหนกันล่ะ ผมว่างานนี้มีลุ้น”
“ไอ้ภีม”
“แฮ่ๆ หยอกๆ น่ะเฮีย อย่าทำหน้าั์แบบนั้นสิ เค้ากลัวนะ”
สถานการณ์เสี่ยงเป็เสี่ยงตายแบบนี้มันยังจะมาพูดเล่นอยู่ได้
“ว่าแต่ทำไมครั้งนี้ไอ้หลงมันไม่กัดละ ปกติมันวิ่งกัดแขกที่มาที่นี่ทุกคนเลยไม่ใช่เหรอ”
“เออ นั่นสิ เื่นี้กูก็ว่าแปลก มันไม่เคยไปนอนให้คนแปลกหน้าเกาพุงให้แบบนั้นมาก่อนเลย ไม่สิ อย่าว่าแต่คนแปลกหน้าเลย กับพวกเรามันก็ไม่เคยทำ วันนี้มึงเอาอะไรแปลกๆ ให้มันกินหรือเปล่าวะไอ้ภีม”
“ผมเปล่านะ เอ๊ะ หรือว่า ที่ไอ้หลงมันเป็แบบนั้นเพราะมันไม่เคยเจอผู้หญิงหรือเปล่า พวกเฮียๆ อย่าลืมสิ ที่ผ่านมาไม่เคยมาผู้หญิงมาที่นี่เลยสักคน ไอ้หลงมันก็เป็ตัวผู้ด้วย ผมว่ามันก็น่าจะชอบผู้หญิงสวยๆ เหมือนกันกับคนนั่นแหละ แถมผู้หญิงที่เฮียโซ่พามาก็น่ารักมากขนาดนั้น ถ้าผมเป็ไอ้หลงก็คงอยากให้เกาพุงให้เหมือนกับที่ไอ้หลงมันทำนั่นแหละ”
ถึงแม้สิ่งที่ไอ้ภีมพึ่งพูดออกมาจะเป็เหตุผลที่ไร้สาระ แต่มันก็ทำให้ผมอดที่จะคิดตามกับสิ่งที่มันพึ่งพูดเมื่อกี้ไม่ได้ เพราะมันเป็ครั้งแรกที่มีผู้หญิงมาที่นี่จริงๆ
“ว่าแต่ทำไมเฮียถึงพาเธอมาที่นี่อะ”
“มาทำแผล กูเดินชนเขาล้ม”
“โห่ เฮีย จิตใจทำด้วยอะไรเนี่ย”
ผมตั้งใจที่ไหนกันล่ะ เฮ้อ ให้ตายสิ นี่ไอ้ภีมมันไม่เข้าใจคำว่าอุบัติเหตุที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้เลยสินะ
“เลิกพูดมากได้แล้ว มึงช่วยไปทำแผลให้ผู้หญิงคนนั้นแทนกูที”
“อ้าว ทำไมต้องเป็ผมอะ”
“ก็กูสั่งมึง”
“ไม่เอา นั่นคนของเฮีย เฮียก็ดูแลเองสิ ผมขอบาย”
“เธอไม่ใช่คนของกู”
“ไม่รู้ไม่ชี้”
ไอ้นี่ ให้ตายสิ
[โปรดติดตามตอนต่อไป]
มันเอ๊ะมันทุกเื่เลยเหรอเฮีย น้องทำให้เฮียรู้สึกเอ๊ะขนาดนั้นเลยเหรอ
เฮียพาน้องไปเปิดตัวก็บอก อย่าอ้างเหตุผลอื่นเลย 5555
ส่วนยัยน้องของเรา ไม่ว่าจะเจอกับเื่อะไรก็ตาม น้องก็ไม่เคยทิ้งของกินในมือเลย
ปล.เอ็นดูไอ้หลงสัตว์เลี้ยงหน้าโหดของเฮียจัง
หนึ่งคอมเม้นเท่ากับหนึ่งกำลังใจงับ