สมองหลี่อวี้จือกำลังจะะเิ
เธอนึกถึงตัวเองที่ทำคะแนนได้ไม่ดีตอนมัธยมต้น ทำให้สอบไม่ติด เมื่อออกจากโรงเรียนเธอไม่เต็มใจกลับไปทำไร่ทำนาที่บ้านเกิด แต่ไปทำงานทางใต้ จากนั้นก็มีโอกาสเจอกับครูใหญ่หลี่ที่มาตรวจสอบทางใต้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง…ในเวลานั้นเขายังเป็เพียงรองครูใหญ่หลี่
เด็กสาวสวยสดใสวัยสิบแปดปีกับชายแก่หัวล้านวัยสี่สิบกว่า นั่นถือเป็จุดเปลี่ยนชีวิตของเธอ เธอกลับไปบ้านเกิดพร้อมกับเหล่าหลี่ได้เป็ครูสอนเด็กประถมในชนบท ไม่ถึงสองปีก็ให้กำเนิดบุตรชาย จากนั้นหลังจากเหล่าหลี่ได้บุตรชาย ก็มีความคิดว่าจะย้ายเธอมาที่โรงเรียนทดลองแห่งนี้ ซึ่งทุกอย่างเป็ไปโดยราบรื่น
จนมาถึงวันนี้ก็เป็เวลาเกือบสิบปีแล้ว มีครูใหญ่หลี่คอยให้ท้าย ไม่ว่าจะเป็ใครในโรงเรียนทดลองต่างก็ปฏิบัติต่อเธอด้วยความเกรงใจ
ทุกครั้งที่มีการแบ่งห้องเรียน ้านักเรียนแบบใดก็จะเป็เธอที่ได้เลือกก่อนเสมอ จึงถึงคราวคนอื่นที่ได้เลือก
เมื่อถึงเวลาประเมินเลื่อนขั้น ก็มักจะเลือกเธอก่อน หากมีที่เหลือถึงจะเป็โอกาสของคนอื่นๆ
บรรดาของขวัญประจำปี การประเมินคุณครูที่ปรึกษาดีเด่น หรือพวกเื่เล็กๆ น้อยๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
อย่างไรก็ตามเธอไม่เคยที่จะเสียเปรียบมากขนาดนี้มาก่อน
ผ่านมาตั้งหลายปี นี่เป็ครั้งแรกที่ขายหน้าเช่นนี้ แถมยังเป็นักเรียนที่ทำให้เธอขายหน้า!
ตอนนี้เธอรู้สึกผูกใจเจ็บซูอิน เธอจะต้องจัดการเด็กคนนี้อย่างแน่นอน
เธอรู้สึกหงุดหงิดมาตลอด่วันหยุด พอเปิดเรียนวันจันทร์ เธอเดินอย่างผ่าเผยเข้าไปในโรงเรียนทดลอง เมื่อวันหยุดเหล่าหลี่รับปากแล้วว่าจะหาเหตุผลลงโทษซูอิน ให้มันติดตามซูอินไปตลอดชีวิต
เมื่อได้คำมั่นสัญญาจากเหล่าหลี่ หลี่อวี้จือจึงรู้สึกมั่นใจมากขึ้น
เธอไม่เชื่อหรอกว่าคนเป็ครูอย่างเธอ แค่เด็กนักเรียนคนเดียวจะจัดการไม่ได้
เมื่อเธอนำรถจักรยานยนต์คันใหม่ไปจอดที่จอดรถสำหรับครู หลี่อวี้จือก็โดนครูอีกคนหนึ่งเรียก
“คุณครูหลี่คะ ครูใหญ่เรียกให้คุณไปพบที่ห้องทำงานค่ะ”
หรือจะหาวิธีลงโทษได้แล้ว ใบหน้าของหลี่อวี้จือเต็มไปด้วยความคาดหวัง ยังไม่ทันที่จะได้ล็อกรถจักรยานยนต์ เธอก็ซอยเท้าเดินไปยังห้องทำงานของครูใหญ่ที่อยู่บนอาคาร
สิ่งที่เธอไม่ได้สังเกตคือ ที่จุดจอดรถด้านหลังของเธอ ครูที่มาทำงานแต่เช้าต่างพากันมองเธอด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
เื่ต่างๆ ของหลี่อวี้จือและครูใหญ่ คนทั้งโรงเรียนแม้แต่คุณลุงที่ทำงานอยู่ในห้องหม้อไอน้ำต่างก็รู้ดี
แต่รู้แล้วจะทำอย่างไรได้
หลายปีมานี้ครูใหญ่หลี่ใช้มือเดียวปิดได้ทั่วฟ้า[1] เดิมทีการเป็ครูก็ไม่ได้มีประโยชน์มากมายอยู่แล้ว สวัสดิการที่น่าสงสารก็อยู่ในมือครูใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงสวัสดิการหรอก หากทำให้ครูใหญ่ไม่พอใจอาจจะทำให้ตารางสอนถูกเปลี่ยนจนไม่มีชั่วโมงสอน และเงินเดือนที่เดิมก็ไม่ได้สูงอยู่แล้วถูกหักออกเกือบครึ่งหนึ่ง ทำให้หลายครอบครัวที่พึ่งพารายได้ทางเดียวเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวอาจถึงขั้นประสบปัญหา
แต่ทำได้เพียงต้องอดกลั้น
เื่ที่ซูอินก่อความวุ่นวายแพร่สะพัดไปทั้งโรงเรียน มีเพียงครูไม่กี่คนในห้องสำนักงานเท่านั้นที่คิดว่าสาวน้อยคนนี้ทำผิด หากพูดตามความจริง พวกเขาไม่ค่อยจะชื่นชอบหลี่อวี้จือ เื่ที่เด็กสาวคนนี้ก่อขึ้นจึงถือว่าเป็การเกาจุดที่พวกเขารู้สึกคันยุบยิบได้อย่างเหมาะเหม็ง
หากเป็ไปได้พวกเขาก็อยากสู้สุดใจเช่นนั้นเหมือนกัน
แต่พวกเขาล้วนเป็ผู้ใหญ่แล้ว ในครอบครัวมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้พวกเขาไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรได้ตามใจชอบอีก
ในขณะนั้นหลี่อวี้จือเดินนวยนาดไปยังห้องครูใหญ่ที่ได้ให้คำมั่นสัญญากับเธอไว้ว่าจะจัดการเื่นี้ แต่เมื่อเธอไปถึงกลับต้องรับรู้สิ่งที่น่าใยิ่งกว่า
“ทางมณฑลจะส่งคนเข้ามาตรวจสอบหรือคะ”
“ใช่ เมื่อเช้าเพิ่งจะได้รับแจ้งฉุกเฉินเข้ามา อีกสักครู่เลขาธิการผู้อำนวยการกองก็คงจะมาถึง วันนี้ฉันจึงต้องรีบมาประชุม สั่งให้ทุกชั้นหยุดเรียนและทำความสะอาดให้เรียบร้อย”
ห้องทำงานครูใหญ่ปิดลงอย่างแ่า ครูใหญ่หลี่กอดเอวคอดของหลี่อวี้จือ มืออีกข้างหนึ่งจับหน้าอกที่อวบอั๋นของเธอ
“อวี้จือ เธอไม่ต้องสนใจเื่พวกนี้หรอก รีบกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อีกสักครู่เื่ดูแลเลขาธิการผู้อำนวยการกองที่มาจากมณฑลฉันมอบให้เป็หน้าที่เธอ”
“ป๋า ดีกับฉันจริงๆ เลยค่ะ”
นั่นเป็ถึงเลขาธิการผู้อำนวยการกองมณฑลเชียวนะ ขอเพียงได้เสนอหน้า ไม่แน่เธออาจจะได้ย้ายไปอยู่โรงเรียนทดลองในมณฑล เมื่อนึกถึงความเป็ไปได้เช่นนั้น หลี่อวี้จือก็กระตือรือร้นใหญ่ จนอดไม่ได้ที่จะจูบลานหน้าผากของคุณครูใหญ่หลี่หนึ่งที
“เดี๋ยวฉันไปสั่งงานในห้องก่อน แล้วจะรีบกลับบ้านนะคะ”
หลี่อวี้จือเดินบิดเอวออกจากประตู ก่อนออกไปเธอไม่ลืมที่จะหันกลับมา ขยิบตา และส่งจูบให้ครูใหญ่หลี่อีกหนึ่งที
ฤดูร้อนเป็่ที่เครื่องดื่มเย็นๆ ได้รับความนิยม ่วันหยุดบนถนนเต็มไปด้วยผู้คน ธุรกิจร้านชานมก็ดีตามไปด้วย
ซูอินยุ่งอยู่กับการทำงานถึงสองวัน ั้แ่เช้าจดเย็นเธอยุ่งจนหัวหมุนเหมือนลูกข่าง หมุนตัว ก้มศีรษะ หันซ้ายหันขวาอยู่หน้าเคาน์เตอร์ไม่หยุด เพื่อเป็การชมเชยผลงานดีเด่นใน่สองวันนี้ พี่หงจึงได้มอบรางวัลให้เธอ รวมกับเงินค่าแรงแล้วเป็เงินทั้งสิ้นห้าสิบหยวน
หากลองนับดู เงินค่าแรงที่เธอได้ในหนึ่งสัปดาห์นี้เกินหนึ่งร้อยหยวน
รายได้ครั้งนี้ เทียบเท่ากับรายได้ของพนักงานรัฐวิสาหกิจทั่วไป หากนับแค่รายได้วันหยุดสุดสัปดาห์สองวันนี้ เงินค่าแรงแค่วันเดียวสูงกว่าข้าราชการเสียอีก
ซูอินจึงไม่ได้แค่รู้สึกพอใจ แต่ยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ชาติก่อนเคยแต่พึ่งพาคนอื่น ยืมจมูกคนอื่นหายใจในวันที่อัดอั้นตันใจ เงินเหล่านี้ที่เธอได้รับจากการทำงานอย่างหนักทำให้เธอรู้สึกสบายใจมาก เหงื่อทุกหยาดหยดที่เสียไปทำให้จิตใจของเธอสงบและกล้าหาญมากขึ้น
แต่ความพอใจนั้นก็ไม่อาจหนีพ้นความเหนื่อยล้าทางกาย ทำให้วันจันทร์เธอนอนหลับเป็ตาย ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงนาฬิกาปลุก
จนเมื่อเธอตื่นหลังจากนอนหลับเต็มอิ่ม ก็สายจนตะวันส่องก้น
เธอขยี้ตาดูนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังก็พบว่าใกล้จะเก้าโมงแล้ว
จบกัน สายแล้ว
เมื่อวันศุกร์ทะเลาะกับหลี่อวี้จือ ถึงแม้เธอจะคิดไว้แล้วอย่างดีว่าจะสู้จนปลาตายตาข่ายขาด[2] และไม่เข้าเรียนในสัปดาห์สุดท้าย อยู่ทำงานที่ร้านชานมกับอ่านหนังสือทบทวนไปด้วย
ทว่าสุดท้ายเมื่อครุ่นคิดจนเข้าใจ คนที่ทำผิดไม่ใช่เธอเสียหน่อย ทำไมเธอต้องเป็คนที่ยอมเดินออกมา
หากมีใครที่ต้องถอย ตามหลักการแล้วก็ควรเป็หลี่อวี้จือ คนธรรมดาที่แย่จนเกินเยียวยา แพ้พนันแต่ก็หนีออกไปหน้าตาเฉย ทำเป็ไม่รู้ไม่ชี้
ซูอินค่อนข้างยอมรับในคุณภาพของโรงเรียนทดลอง โดยเฉพาะสัปดาห์สุดท้ายที่กำลังโถมเข้ามา ครูผู้สอนวิชาต่างๆ พากันแจกอาวุธลับออกมาอย่างไม่ลังเล หากไม่ยอมไปฟังคงต้องเสียดายอย่างแน่นอน
จำเป็ต้องไป!
เมื่อเข้าใจแล้วเธอจึงรีบลุกขึ้น ล้างหน้าล้างตาอย่างเร็วก่อนจะรีบสะพายกระเป๋าหนังสือไปโรงเรียน
เมื่อซูอินมาถึงหน้าประตูโรงเรียนก็พบว่าเกือบจะเก้าโมงครึ่งแล้ว
ั้แ่เก้าโมงเป็ต้นไป ครูใหญ่หลี่ที่สั่งให้ทั้งโรงเรียนรวมถึงนักเรียนที่จะจบการศึกษาหยุดเรียน และทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมของโรงเรียนก็กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเองเพื่อเปลี่ยนชุดสูทอย่างเป็ทางการ เป็ผู้นำคุณครูและนักเรียนมายืนรอ “ต้อนรับ” อยู่หน้าโรงเรียน
ด้านข้างของเขาคือตำแหน่งทองคำ แน่นอนว่าเป็หลี่อวี้จือที่ยังคงยืนเชิดหน้าอยู่ตรงนั้น
หลี่อวี้จือเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็ชุดที่เธอใส่ไปร่วมการประเมินตำแหน่งในเขตมณฑล ครูใหญ่หลี่ใช้เงินส่วนกลางซื้อชุดเดรสสีดำแบรนด์เนมให้เธอ บนหน้าอกมีเข็มกลัดคริสตัลของสวารอฟสกี้ติดอยู่
พื้นฐานของเธอไม่ได้แย่ หากไม่ใช่เพราะในปีนั้นเธอถูกตาต้องใจครูใหญ่หลี่ ตัวเขาก็คงไม่พยายามพาเธอเข้าสู่ระบบการศึกษาเช่นนี้อย่างแน่นอน
แต่งหน้าสักหน่อย เธอไม่เพียงมีท่าทีเคร่งขรึมในแบบที่คุณครูควรมีแล้ว เธอยังมีความสง่างามในแบบที่หญิงสาววันนี้ควรมีอีกด้วย สองอารมณ์ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันรวมเป็หนึ่ง เป็ที่สะดุดตาผู้คนอย่างมาก อย่างน้อยก็มีครูใหญ่ที่อยู่ข้างๆ เธอนี่แหละที่รู้สึกตกตะลึง
แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
ยืนตากแดดนานราวๆ ครึ่งชั่วโมงแล้ว เหงื่อจึงท่วมตัว ผมหน้าม้าที่ชุ่มเหงื่อแนบไปกับหน้าผาก อายแชโดว์ไหลออกมาพร้อมเหงื่อทำให้หลี่อวี้จือดูคล้ายกับผีอย่างไรอย่างนั้น
“เธอ…ยังไงก็…ไปจัดการตัวเองในห้องน้ำก่อนเถอะ”
คุณครูหลี่มองท่าทีของเธอที่เหมือนผี จึงรีบพูดเตือน
ทว่าในเวลานั้น รถติดธงสีแดงสองสามคันได้เลี้ยวเข้ามาที่มุมถนนแล้ว เมื่อมองป้ายที่แขวนอยู่ ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเดินทางมาจากในตัวมณฑล
หากไปตอนนี้ผู้บริหารจากมณฑลจะต้องเห็นเข้าแน่ๆ
ขบวนรถหยุดที่หน้าประตูโรงเรียน ครูใหญ่หลี่นำคุณครูทุกคนให้ยืนตรง เพื่อเตรียมต้อนรับทีมตรวจสอบ
และในเวลานั้นอีกเช่นกัน ซูอินซึ่งใช้เช่นทางลัดได้วิ่งเหยาะๆ โดยสะพายกระเป๋าหนังสือเอาไว้ข้างหลัง ในที่สุดเธอก็มาถึงหน้าประตูโรงเรียน
--------------------------------------------------------------------------
[1] มือเดียวปิดได้ทั่วฟ้า หมายถึง อาศัยอิทธิพลและเล่ห์เหลี่ยมเพื่อปกปิดอำพราง
[2] ปลาตายตาข่ายขาด หมายถึง สู้กันอย่างเอาเป็เอาตาย สู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง