ทันทีที่กูเฟยเยี่ยนพูดจบหลินฟูเหรินผู้เฒ่าทั้งใและยินดี ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างไม่ลังเล “เช่นนั้นก็ใช้ตำรับยาของเ้า ทำไมเ้าไม่พูดั้แ่แรกล่ะ? พวกเรารักษาชีวิตเอาไว้ก่อนแล้วค่อยรักษาขาทีหลัง! ”
นางพูดแล้วหันไปมองซูไท่อีพร้อมกับถาม “ซูไท่อี ระยะเวลาหนึ่งเดือนเพียงพอใช่หรือไม่? ”
ทว่าซูไท่อีไม่ได้ให้คำตอบทันที เขาส่งสายตาซับซ้อนไปมองกูเฟยเยี่ยน
ขาทั้งสองข้างพิการแบบไหน? รักษาง่ายหรือไม่? เื่พวกนี้ล้วนเป็เื่ที่เขาไม่ทราบเลยสักนิด! หากว่ารักษาง่ายแพทย์หญิงกูจะรอจนถึงตอนนี้แล้วเสนอวิธีนี้ในสถานการณ์ที่คับขันหรือ?
ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่ก็คือความเสี่ยงเช่นกัน!
กูเฟยเยี่ยนทราบความหมายของซูไท่อี นางจึงรีบเอ่ยออกมา “ยานี้จะไปทำลายเส้นเอ็นกระดูกกับไขกระดูก ทำให้ไม่ได้มีเพียงแค่ขาที่พิการ แต่หลังจากที่ใช้ยาไปแล้วสิบวันต่อจากนี้จะประสบความทุกข์ทรมานจากความเ็ปของกระดูกทุกคืน ความาเ็นี้มาจากยาที่รุนแรง ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ยาได้อีก ทำได้เพียงฝังเข็มเท่านั้น เพียงแต่จากที่ข้ารู้มาว่าหลังจากที่ยาตัวนี้ออกมา คนที่เคยใช้ต่างก็ไม่หายเป็ปกติ และการฝังเข็มสามารถทำได้แค่บรรเทาความเ็ปกระดูกเท่านั้น”
กูเฟยเยี่ยนมีตำรายาสมุนไพรพื้นเมืองที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ มากมาย ทั้งหมดนี้ล้วนได้รับมาจากท่านอาจารย์อาภรณ์ขาว รวมไปถึงตำรับยาที่จะใช้ในวันนี้ด้วย นางเคยเห็นประสิทธิภาพของยากับผลลัพธ์ที่ตามมาของตำรับยามากมายด้วยตาของตนเอง ทว่าไม่เคยเห็นของยาตัวนี้มาก่อน แต่นางทราบดีว่าท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวจะไม่มีวันหลอกลวงนางในเื่ของใบสั่งยา
ที่แดน์ปิงไห่ เหล่าแพทย์อัจฉริยะที่เข้าตาท่านอาจารย์อาภรณ์ขาวล้วนเป็ผู้ที่ไม่ธรรมดา หากพวกเขารักษาไม่ได้แล้วแพทย์ยาของดินแดนเสวียนคงจะรักษาได้อย่างไร?
เดิมทีดินแดนเสวียนคงเป็โลกแห่งพลังลมปราณ ทุกคนต่างก็ฝึกฝนพลังปราณและใช้เม็ดยาเพื่อปกป้องร่างกาย โรคโดยทั่วไปนั้นไม่จำเป็ต้องไปพบแพทย์ เพราะเหตุนี้โลกของแพทย์ยาในดินแดนแห่งนี้จึงมีเพียงหุบเขาเสินหนงที่มีรากฐานของทักษะยาสมุนไพรที่มั่นคงและมีอาจารย์แพทย์มากมายที่คุ้นเคยสมุนไพร ทว่ามีแพทย์ไม่กี่คนที่สามารถฟื้นชีวิตคนกลับมาได้
กูเฟยเยี่ยนทราบดีว่าเื่นี้แทบจะไม่มีความหวัง แต่นางก็ยังคงคาดหวังเพราะนี่คือความหวังสุดท้ายแล้ว
นางเอ่ยด้วยความจริงจัง “ซูไท่อี แม้ว่าจะไม่เคยมีผู้ที่รักษาหาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรักษาให้หายขาดไม่ได้ บางทีท่านอาจลองดูก็ได้! ” ซูไท่อีไม่เคยได้ยินตำรับยาสร้างเม็ดเืที่ใช้โดยวิธีการแช่ตัวมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่เคยได้ยินว่าเมื่อใช้ไปแล้วจะมีผลข้างเคียงที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้
เขาลำบากใจ เขามองไปที่หลินฟูเหรินผู้เฒ่าพลางตั้งใจเอ่ยออกมาว่า “ยานี้ข้าน้อยไม่เคยได้ยินมาก่อน ข้าน้อยอาจจะไม่มีความสามารถที่มากพอ ฟูเหรินผู้เฒ่าโปรดตัดสินใจ”
สิทธิ์ในการตัดสินใจกลับคืนไปที่หลินฟูเหรินผู้เฒ่าอีกครั้ง หลินฟูเหรินผู้เฒ่าไม่ได้โง่เขลา นางฟังออกว่าซูไท่อีลำบากใจ
ทางที่กูเฟยเยี่ยนให้คือทางรอดชีวิต แต่ก็มีความเป็ไปได้สูงว่าจะเป็ทางที่มีชีวิตรอดไปวันๆ เท่านั้น
เมื่อขาทั้งสองข้างพิการแล้วจะขึ้นไปยืนอยู่บนสนามรบเพื่อสังหารศัตรูได้อย่างไร? เขาจะดูแลเหล่าทหารนับแสนนายได้อย่างไร? เขาจะต้องส่งมอบอำนาจทางการทหารไปให้คนอื่น! สำหรับบุตรชายของนางแล้วมันก็คือการมีชีวิตรอดไปวันๆ ไหนจะต้องทนทุกข์ทรมานต่อการเ็ปกระดูกทุกค่ำคืนอีก นี่เป็ทางรอดชีวิตที่ไม่ต่างอะไรกับการตายเลยสักนิด!
น้ำตาของหลินฟูเหรินผู้เฒ่าไหลรินไม่หยุด นางไม่อาจตัดสินใจได้
จิตใจของกูเฟยเยี่ยนก็ทรมานเจียนตายเช่นกัน ทว่านางยังคงพูดด้วยความจริงจัง “ฟูเหรินผู้เฒ่า แทนที่จะพนันความเป็กับความตาย มันจะดีกว่าถ้าพนันมีชีวิตรอดกับมีชีวิตรอดอยู่ไปวันๆ ! ถึงอย่างไรก็มีชีวิตอยู่ต่อไป! ถึงอย่างไรก็ยังมีระยะเวลาถึงหนึ่งเดือน! ”
“แพทย์หญิงกู ใช้ตำรับยาของเ้าเถอะ! ข้าแค่หวังว่าหลังจากที่อี้เฟยฟื้นขึ้นมาจะไม่โกรธมารดาเช่นข้าคนนี้! ”
หลินฟูเหรินผู้เฒ่าพูดจบก็ฟุบศีรษะลงไปข้างเตียงแล้วร้องไห้เจียนขาดใจ นางทราบนิสัยของบุตรชายดี หากบุตรชายเป็ผู้ตัดสินใจด้วยตนเอง เขาจะต้องพนันชีวิตกับความเป็ความตายอย่างแน่นอน ทว่านางไม่อาจเสี่ยงได้
กูเฟยเยี่ยนมองอากัปกิริยาของหลินฟูเหรินผู้เฒ่าด้วยความทุกข์ทรมานมากกว่าเดิมเสียอีก นางไม่อาจจะจินตนาการได้เลยว่าเมื่อคนที่มีนิสัยพาลดื้อรั้นไม่ยอมคนและเด็ดเดี่ยวอย่างเฉิงอี้เฟยรู้เื่นี้เข้าแล้วจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร
นางไม่รอช้า รีบเขียนใบสั่งยาพร้อมกับให้บ่าวรับใช้ไปจัดเตรียมต้มยา จากนั้นจึงอธิบายให้ซูไท่อีกับใต้เท้าหนานกงฟังอย่างจริงจัง “แช่ตัวหนึ่งชั่วยาม จำไว้ให้ดีว่าห้ามยืดเวลานานกว่านั้น”
จิตใจของซูไท่อีกับใต้เท้าหนานกงต่างก็หนักอึ้ง พวกเขาพยักหน้าแต่ไม่พูดอะไร
ไม่ช้าเฉิงอี้เฟยก็แช่ตัวอยู่ในอ่างยาสมุนไพร ทุกคนล้วนคอยเฝ้ารอ มีเพียงกูเฟยเยี่ยนที่เลี่ยงออกมารอตรงหน้าประตู
นางหลับตาพิงกำแพงด้วยจิตใจที่ทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง นางทั้งเกลียดและโทษตนเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตำหนักไท่จี๋เป็เพราะนาง นางเกลียดอวิ้นกุ้ยเฟยพวกนั้นและเกลียดที่ตนเองไม่ยิ่งใหญ่มากพอ หากนางสามารถปฏิเสธคำเชิญนั้นได้เื่ในวันนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น!
หลังจากที่ครบหนึ่งชั่วยามซูไท่อีก็ออกมา กูเฟยเยี่ยนจึงรีบร้อนไปถาม “สถานการณ์เป็อย่างไรบ้าง? ”
ซูไท่อีถอนหายใจออกมา “ชีพจรคงที่แล้ว จากแนวโน้มนี้พรุ่งนี้ก็จะสามารถเริ่มทานอาหารกับยารักษากระเพาะได้”
“ข้ารู้เื่พวกนี้! ”
กูเฟยเยี่ยนะโเสียงดังอย่างหมดความอดทน “ที่ข้าถามคือขาของเขาเป็อย่างไรบ้าง! เ้ามีวิธีบ้างหรือไม่? ”
นางพูดจบแล้วก็ตระหนักได้ถึงความหงุดหงิดของตนเอง นางจึงรีบก้มหน้าเอ่ยเบาๆ “ซูไท่อี ข้าขอโทษนะ”
ซูไท่อีตบไหล่กูของเฟยเยี่ยนเบาๆ ก่อนจะกระซิบเกลี้ยกล่อม “นังหนู ตระกูลฉีกับตระกูลเฉิงสองตระกูลนี้ต่อสู้กันมานาน เื่เมื่อค่ำวานนี้อวิ้นกุ้ยเฟยไม่ได้พุ่งตรงมาที่เ้าทั้งหมด เื่นี้ไม่ใช่ความผิดของเ้า ขาทั้งสองข้างของท่านแม่ทัพเฉิง…”
ซูไท่อีถอนหายใจออกมาอีกครั้งแล้วพูดต่อว่า “เส้นเอ็นกับไขกระดูกขาของท่านแม่ทัพเฉิงได้รับความเสียหายอย่างหนัก อย่าว่าแต่ไม่สามารถรักษาด้วยศิลาโอสถได้เลย ต่อให้สามารถใช้ศิลาโอสถได้เกรงว่าก็ไม่มียาสมุนไพรที่รักษาได้! เหล่าฟู…เฮ้อ…เหล่าฟูอยากจะช่วยแต่ไร้ความสามารถ! ”
ทักษะทางการแพทย์ของซูไท่อีสามารถนับได้ว่าเป็บุคคลที่โดดเด่นของดินแดนเสวียนคง ขนาดเขายังพูดขนาดนี้แล้วก็ไม่ต้องนึกถึงคนอื่นเลย
อันที่จริงเมื่อสักครู่นี้กูเฟยเยี่ยนก็รู้แล้วว่าเื่นี้แทบจะไม่มีความหวัง ทว่านางยังคงดึงดัน
“ซูไท่อี ท่านยังมีแพทย์รักษาคนอื่นแนะนำบ้างไหม? ”
ซูไท่อีลูบเคราแล้วพูดด้วยความจำใจ “แพทย์รักษาที่เหล่าฟูรู้จักเกรงว่าก็อาจจะช่วยไม่ได้”
กูเฟยเยี่ยนถามไปตามตรง “ซูไท่อี ภายในดินแดนเสวียนคงแห่งนี้ผู้ที่มีทักษะทางการแพทย์ที่เก่งที่สุดคือใครกัน? ท่านบอกข้ามา ข้าจะไปเชิญเอง! ”
ซูไท่อีทั้งลำบากใจทั้งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่ถ่อมตนอีกต่อไปแล้วพูดความจริงออกมา “แพทย์หญิงกู สำหรับทักษะในการฝังเข็มนั้น หากเหล่าฟูรักษาไม่ได้ แพทย์คนอื่นก็รักษาไม่ได้อย่างแน่นอน! นอกจากว่าเ้าจะสามารถตามหาแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นเจอ
กูเฟยเยี่ยนประหลาดใจ “แพทย์รักษาที่ซ่อนเร้น? ”
หลังจากที่ซูไท่อีอธิบาย กูเฟยเยี่ยนก็ได้รู้ว่าที่แท้เมื่อหลายพันปีก่อน การบำเพ็ญเพียรพลังลมปราณของดินแดนเสวียนคงยังไม่ได้แพร่หลายอย่างกว้างขวาง แพทย์กับยามีการพัฒนาไปอย่างเท่าเทียมกัน และใน่ของยุคนั้นก็มีแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย ต่อมาเมื่อการบำเพ็ญเพียรพลังลมปราณแพร่หลายอย่างกว้างขวาง แพทย์รักษาก็ค่อยๆ ตกต่ำลง มีตระกูลแพทย์รักษาจำนวนไม่น้อยที่ละทิ้งการเป็แพทย์แล้วไปบำเพ็ญพลังลมปราณแทน และบางตระกูลก็ซ่อนตัวอยู่อย่างสันโดษ ตระกูลที่ซ่อนเร้นเหล่านี้ยังคงมีการสืบทอดกันโดยเฉพาะทักษะการฝังเข็ม
“แพทย์หญิงกู แพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นตามหาไม่ง่ายเลย ยิ่งไปกว่านั้นคือยากที่จะเชิญมาได้”
ซูไท่อีหันกลับไปมองภายในห้อง เมื่อเห็นว่าคนด้านในไม่ได้คิดจะออกมาเขาจึงดึงกูเฟยเยี่ยนไปด้านข้างพลางกระซิบแ่เบา “แพทย์หญิงกู แพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นต่างก็ไม่ได้พบได้ง่ายๆ และยากที่จะเชิญมา เ้าก็รู้อาการประชวรของฝ่าาดี จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยตามหาแพทย์รักษาที่ซ่อนเร้นมาโดยตลอด ฝ่าาก็ตามหาด้วยเช่นกัน ทว่าจวบจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีเบาะแสใดๆ ! ”
กูเฟยเยี่ยนดึงดันไม่หยุด “ข้าไม่เชื่อว่าจะหาไม่พบ! ”
ซูไท่อีไม่มีทางเลือก “แพทย์หญิงกู หากเ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยดูได้”