ค่ำคืนอันเต็มไปด้วยความเร่าร้อนนั้นช่างน่าจดจำ เสียงกระซิบกระซาบและเสียงหายใจที่แ่เบาของสตรีผู้งดงามที่นอนอยู่เคียงข้างแม่ทัพหยางเจี้ยนทำให้บรรยากาศลุกโชนไปด้วยแรงดึงดูดที่ไร้ขีดจำกัด นางเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งความปรารถนา สวมชุดนอนบางเบาที่เผยให้เห็นรูปร่างอันสมบูรณ์แบบ สายตาของนางเต็มไปด้วยความเย้ายวนชวนให้หลงใหล
ท่ามกลางแสงสลัวที่ส่องผ่านหน้าต่าง ท่านแม่ทัพได้ยอมปล่อยให้ความปรารถนากัดกินหัวใจเขาจนหมดสิ้น เขาเสพสุขกับเรือนร่างของนางอย่างไร้ขีดจำกัด หัวใจเต้นแรง เสียงหายใจของเขาและนางกลายเป็จังหวะเดียวกัน ความร้อนรุ่มท่วมท้นนำพาเขาสู่ความสุขสมที่ไม่อาจต้านทานได้
จนกระทั่งเวลาผ่านไป นางยังคงอยู่เคียงข้าง แต่แรงอ่อนเพลียได้ทวีความรุนแรงขึ้นในตัวเขา กระทั่งความรู้สึกหนักอึ้งเริ่มเข้าครอบงำและทำให้เขาเผลอหลับไปในอ้อมกอดของนาง บางทีความรักและความหลงใหลในค่ำคืนนี้อาจทำให้เขาหลงลืมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็การรบที่รออยู่ข้างหน้า หรือแม้แต่หน้าที่ที่สำคัญในฐานะแม่ทัพของแผ่นดิน
เมื่อแสงอรุณสางเริ่มส่องสว่างทั่วแผ่นดิน ท่านแม่ทัพหยางเจี้ยนรู้สึกถึงความกดดันในใจที่พาให้เขาต้องรีบเดินทางกลับไปยังจวนของตน เขาหลับตาในขณะที่รำลึกถึงค่ำคืนอันเร่าร้อน ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่ต้องพรากจากฮูหยินเหม่ยฟาง สตรีผู้อันเป็ที่รักของเขา แม้ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาจะหลงใหลกับเรือนร่างของสตรีอื่น แต่ในส่วนลึกของหัวใจ เขารู้ดีว่าฮูหยินเหม่ยฟางคือความรักและความอบอุ่นที่แท้จริง
เขารีบเก็บข้าวของและออกจากห้องที่เป็สถานที่แห่งความสุขอันชั่วขณะ หัวใจของเขาหนักอึ้งเมื่อคิดถึงภาพของฮูหยินที่นั่งรออยู่ที่จวน อาจมีร่องรอยของความกังวล หรือแม้แต่ความเสียใจ เพราะเขาไม่อยู่เคียงข้างเธอในค่ำคืนที่ผ่านมา
เมื่อเขาเดินทางกลับไปยังจวน ความคิดของเขามุ่งมั่นเพียงแค่การกลับไปพบหน้าฮูหยินเหม่ยฟาง การได้เห็นรอยยิ้มและความอ่อนหวานของนางนั้นเป็สิ่งที่เขา้าที่สุดในขณะนี้ ทุกก้าวที่เขาเดินคือความตั้งใจที่จะขอโทษและทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็ปกติ
ในที่สุดเมื่อเขามาถึงจวน ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ประตู เมื่อเปิดเข้าไป เขาเห็นฮูหยินเหม่ยฟางยืนอยู่ในชุดกี่เพ้าสีอ่อน รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของนางทำให้หัวใจของเขาเบาขึ้น แต่เขาก็รู้ว่าความรู้สึกผิดนั้นยังไม่หายไป
“ข้ากลับมาแล้ว” เขาพูดเสียงเบา แต่ชัดเจน ดวงตาของฮูหยินมองมาที่เขาเต็มไปด้วยความห่วงใย ทำให้เขารู้ว่าความรักของนางจะไม่เสื่อมคลาย แม้เขาจะทำให้ต้องกังวลในค่ำคืนที่ผ่านไป
“เ้าหายไปไหนมาหรือ?” เสียงของฮูหยินเหม่ยฟางเต็มไปด้วยความหวั่นใจ แต่ภายในนั้นยังมีความอบอุ่น เขารู้ว่าเขาต้องอธิบายและทำให้เธอรู้ว่าเธอคือคนเดียวในใจเขาเสมอ
“ขออภัยที่ทำให้เ้าห่วงใย ข้าจะไม่ทำให้เ้ากังวลเช่นนี้อีก” เขากล่าวและก้าวเข้าไปใกล้ รวบรวมความกล้าและความรักที่เขามีไว้เพื่อเธอ เขารู้ว่าต่อจากนี้ เขาต้องพิสูจน์ให้ฮูหยินเหม่ยฟางเห็นว่าเธอคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา
ฮูหยินเหม่ยฟางเป็สตรีที่ว่าง่ายและเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แม้ว่าจะมีเื่ราวมากมายในชีวิตที่เธอต้องเผชิญ แต่เธอก็ไม่เคยเป็คนที่ชอบหึงหวงหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับความรักของท่านแม่ทัพหยางเจี้ยน นางรู้ดีว่าหัวใจของเขานั้นมีเพียงเธอเท่านั้นที่เป็ที่หนึ่ง ทั้งในใจและชีวิตของเขา นั่นทำให้ท่านแม่ทัพหลงรักนางอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
การใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมาหลายปีทำให้ทั้งสองรู้จักกันดี ความเข้าใจซึ่งกันและกันนั้นเป็สิ่งที่ทำให้ความรักของพวกเขาเข้มแข็ง ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไร ฮูหยินเหม่ยฟางก็ยังคงเป็ที่พึ่งพาและเป็กำลังใจให้กับเขาเสมอ
เมื่อเขามองไปที่นางในตอนนี้ ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ ความอ่อนโยนและการดูแลของนางเป็สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่า ทุกคำพูดและการกระทำของนางสามารถปลอบประโลมใจเขาได้ในทุกสถานการณ์ เขารู้สึกโชคดีที่มีฮูหยินเหม่ยฟางอยู่เคียงข้าง นางเป็ทั้งคู่ชีวิตและเพื่อนคู่ใจที่ไม่เคยละเลยการสนับสนุนเขาในทุกด้าน
ท่านแม่ทัพรู้สึกถึงความรักอันลึกซึ้งที่นางมีต่อเขา และเขาไม่สามารถปล่อยให้ค่ำคืนที่ผ่านมาเป็อุปสรรคต่อความรักนี้ได้ เขา้าที่จะพิสูจน์ให้ฮูหยินเหม่ยฟางเห็นว่าเธอเป็ทุกสิ่งที่เขา้า นางเป็แรงบันดาลใจและความสุขในชีวิตของเขา และเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาความรักนี้ไว้
“ฮูหยิน ข้าต้องบอกให้เ้าทราบว่าาในแดนเหนือกำลังทวีความรุนแรงขึ้น องค์ฮ่องเต้ได้ไว้วางใจให้ข้าไปยุติความขัดแย้งนี้” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เสียงของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับ “พรุ่งนี้ทั้งตัวข้าและกำลังคนจะต้องออกเดินทางกันไปแต่เช้า”
ความเงียบเข้าปกคลุมในห้องเมื่อคำพูดของเขาถูกส่งไปถึงฮูหยินเหม่ยฟาง นางรู้ว่าท่านแม่ทัพต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในการรบ ซึ่งทำให้ใจของนางเต้นแรงด้วยความวิตกกังวล แต่ในขณะเดียวกัน นางก็เข้าใจดีว่าหน้าที่ของเขาเป็สิ่งที่สำคัญต่อแผ่นดิน
“ท่านพี่ ท่านจะว่าอะไรหรือไม่หากข้าจะขอติดตามท่านไปด้วย” ฮูหยินเหม่ยฟางเอ่ยออกมาเสียงเบา แต่แฝงไปด้วยความหวัง แววตาของนางเต็มไปด้วยความออดอ้อน ในใจของนางรู้ดีว่าการออกไปรบครั้งนี้อาจใช้เวลานานหลายเดือน นางไม่้าที่จะต้องทนเหงาและกังวลใจหากเขาต้องจากไปไกล
ท่านแม่ทัพหยางเจี้ยนมองดูสีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของนาง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจอ่อน นางคือความรักและกำลังใจของเขา แม้จะรู้ว่าการนำฮูหยินไปด้วยในสนามรบเป็เื่ที่อันตราย แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธความ้าของนางได้
“ได้ ถ้าหากเ้าอยากที่จะติดตามข้าไปด้วย ข้าจะเป็ผู้ปกป้องเ้าเอง” เขากล่าวตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ รู้สึกอบอุ่นในใจเมื่อเห็นรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง
“ท่านจะไม่ต้องห่วงอะไรเลย ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี” ฮูหยินเหม่ยฟางกล่าวด้วยความกระตือรือร้น เสียงของนางแสดงถึงความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นที่มีต่อเขา
ท่านแม่ทัพรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ความรักและการสนับสนุนซึ่งกันและกันนั้นคือแรงผลักดันที่ทำให้เขาสามารถเผชิญหน้ากับอุปสรรคในอนาคตได้ แม้จะต้องไปเผชิญความท้าทายที่รออยู่ แต่เมื่อมีฮูหยินเหม่ยฟางเคียงข้าง เขาก็มั่นใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี
“ถ้าอย่างนั้น เ้าก็เตรียมตัวให้พร้อมนะ เราจะออกเดินทางแต่เช้า” เขากล่าวพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน ความรักที่มีต่อกันนั้นยิ่งทำให้การเดินทางครั้งนี้มีความหมายยิ่งขึ้น
“ข้าจะเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ท่านพี่” นางตอบกลับด้วยความตั้งใจ ความรู้สึกของนางตอนนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ฮูหยินเหม่ยฟางนั้นหาได้หวาดกลัวในสนามรบ นางกลับยืนหยัดด้วยความมั่นใจในตัวเอง เพราะถึงอย่างไร นางก็เป็บุตรสาวของจอมโจรที่มีชื่อเสียงในอดีต ผู้ซึ่งเคยทำให้ศัตรูต้องหวาดกลัว การเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการผจญภัยและความท้าทาย ทำให้ฮูหยินเหม่ยฟางมีจิตใจที่เข้มแข็งและมีสติปัญญาในการแก้ปัญหาต่าง ๆ
เมื่อได้ยินเสียงเล่าขานเกี่ยวกับการรบที่กำลังจะมาถึง และแม้จะมีความตื่นเต้นอยู่ในใจ แต่ในลึก ๆ นางรู้ว่าตนเองมีความสามารถพอสมควรในการรับมือกับสถานการณ์เ่าั้ ด้วยความสามารถในการใช้ดาบและการฝึกฝนที่เคยได้รับจากบิดา ทำให้นางมีความมั่นใจในความสามารถของตนเองในการช่วยเหลือและสนับสนุนท่านแม่ทัพหยางเจี้ยน
