แน่นอนว่าหลงเหยียนต้องเข้าใจอยู่แล้ว ดินแดนที่น่าพิศวงต้องมีเื่แปลกประหลาดมากมายเป็ธรรมดา ปีศาจอสูรที่อยู่บนโลกและสัตว์เทพที่เหนือชั้น ในยุคแรกต้องเคยมีคนเห็นวิธีการใช้มันแน่ เหมือนอย่างราชสีห์หิรัณย์ที่เคยเห็นเทพัดูดโลหิตผู้อื่น วิธีการประสานจิตเช่นนั้นถูกนำมาใช้เป็จำนวนมาก เพียงแค่ไม่มีใครใช้เหนือชั้นมากกว่า
นึกถึงเหตุการณ์ที่พบหินวิเศษในวันนั้น เพราะเขาพบเซียวปิงหลานก่อน จากนั้นก็ถูกตนชิงมาครอง ก่อนหลงหลิงจากไป นางกลับบอกเขาว่านั่นคือธาตุพลังที่มอบให้เขา!
เมื่อก่อนหลงเหยียนไม่เข้าใจความหมายของนาง หากตอนนี้กลับเข้าใจอะไรขึ้นมากมาย
ที่แท้ก็เป็เช่นนี้ นับั้แ่ตอนที่ไป๋รั่วอีตกน้ำ ข้าเข้าไปช่วย นางบอกข้าว่าตนป่วยหนัก วินาทีนั้นก็มีลมพุ่งเข้ามาแล้วนางก็ฟื้นขึ้นอีกครั้ง
ตอนนั้นร่างกายของนางถูกควบคุมโดยหลงหลิงแล้ว แต่ไม่นานพวกเขาก็พบหลงเอ้าอวี บุตรของลุงสอง ข้าล้มเขา ตอนนั้นข้ายังสงสัยว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงรู้ที่อยู่ของข้าเร็วปานนั้น อีกอย่าง เป็ไปไม่ได้เลยที่หลงจ้านจะส่งข่าวให้บุตรชายของเขามาตามฆ่าข้าเร็วเช่นนั้น เจอเซียวปิงหลานที่ริมน้ำอีก ั้แ่นั้นมาข้างกายข้าก็มีหลงหลิงคอยอยู่เคียงข้าง เราทั้งสองเดินทางไปเทือกเขาหยุนหลัว เื่ประหลาดเกิดขึ้นตลอดทาง
หลายครั้งที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด จากนั้นก็รู้มาว่าหลงเอ้าอวีตายแล้ว แถมยังใส่ร้ายว่าข้าเป็คนปลิดชีพ ข้าหนีออกจากเมืองั เื่ประหลาดก็เกิดขึ้นไม่หยุด เซียวปิงหลานมาถึงเขาหยุนอู่เพราะตามหินวิเศษมา หลงหลิงแสร้งทำเหมือนใให้ข้ารีบตามไป... หรือที่จริงแล้ว หลงหลิงคือคนบงการอยู่เื้ัทั้งหมด ให้ข้าเจอปัญหามาโดยตลอด?
เมื่อนึกถึงหลงหลิงที่ลึกลับ นางสามารถส่งจิตของตัวเองออกมาได้ คาดว่าจิตที่แข็งแกร่งเช่นนี้ก็คงมีแต่เทพัเท่านั้นที่ทำได้อย่างที่ราชสีห์หิรัณย์พูด
“เสี่ยวหลิง เ้าเป็ใครกันแน่ เพราะเหตุใดต้องปรากฏตัวข้างกายข้า หรือเ้าอยากมาเพื่อสร้างความวุ่นวายแก่ข้า ทั้งหมดนี้เป็เพราะเ้าอยากให้ข้าแข็งแกร่งเร็วขึ้นอย่างงั้นหรือ?”
สิ่งที่ทำให้หลงเหยียนไม่เข้าใจยิ่งกว่าก็คือชายชราลึกลับที่แปลงกายเป็ั เขาเลือกตนเพราะอะไร เหตุใดตนเกิดมาถึงไม่มีิญญายุทธ์ เมื่อนึกเช่นนี้ได้ เขาก็พบว่ามีเื่มากมายที่ไม่เข้าใจ หากไม่ใช่เพราะได้ยินคำว่าชะตาชีวิตแปรเปลี่ยนจากปากของสัตว์เทพ
เกรงว่าชีวิตนี้หลงเหยียนคงไม่มีทางเชื่อ ในโลกนี้จะมีเื่น่าขันมากเพียงนี้เชียวหรือ หรืออาจเพราะชะตาของเขาถูกกำหนดไว้หมดแล้ว?
“ได้ เื่พวกนี้เข้าใจยากมากเกินไป คงต้องรอข้าไปเมืองหยุนจง หาหลงหลิงเพื่อถามทุกอย่างนี้ให้ชัดเจน สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการเปลี่ยนตนให้แข็งแกร่งขึ้น ต้องเป็ผู้ที่มีชื่อเสียง กลายเป็หนึ่งในสมาชิกของตระกูลอู่ตี้ให้จงได้”
ขณะที่พูดเขาก็หันหลังแล้วมองไปทางราชสีห์หิรัณย์ “นี่ เ้าสิงโตน้อย คิดว่าเมื่อก่อนเ้าคงไม่ได้อยู่ในสภาพนี้ใช่หรือไม่”
ราชสีห์หิรัณย์ยิ้ม “แน่นอน ร่างกายสิงโตเป็รูปร่างแรกของข้าเท่านั้น หากข้าแปลงกายเป็คนขึ้นมาคงหล่อกว่าเ้าอีกกระมัง ตอนนั้น...”
หลงเหยียนกลับหลังหันเดินจากไป...
“นี่ รอข้าก่อน ข้ายังพูดไม่จบ ตอนนั้นข้าหล่อเหลามากเลยละ ไม่รู้ว่ามีสตรีมากเท่าใดที่หลงใหลในตัวข้า...” ราชสีห์หิรัณย์คำรามด้วยความโมโหแล้วพุ่งตามหลงเหยียนไป
“ไม่โอ้อวดเ้าจะตายหรือ? เ้าคล้ายเสี่ยวหลิง ชอบอวดดีตลอด หรือคนในแดนัของพวกเ้าต่างก็ชอบโอ้อวดแบบนี้ทั้งนั้น? สิ่งที่ข้าไม่ชอบที่สุดก็คือได้ยินว่าผู้อื่นหล่อกว่าข้า!”
ราชสีห์หิรัณย์ตามทัน แล้วยังพูดอย่างหน้าไม่อาย “ตอนนั้นข้าหล่อเหลาเกินบรรยาย สตรีเ่าั้ต่างก็ยอมคุกเข่าเพื่อข้า...”
หลงเหยียนะเิพลังซัดออกไป! ขอบตามันเขียวคล้ำเป็วงกลม ราชสีห์หิรัณย์ใช้กรงเล็บปิดตาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอัดอั้น “ก็ได้ ถ้าเ้าไม่เชื่อว่าข้าหล่อกว่าเ้า งั้นคงต้องรอให้ข้าบำเพ็ญจนถึงระดับมายา กลายร่างเป็คน แล้วเราค่อยมาว่ากันใหม่”
“ระดับมายางั้นหรือ? นั่นเป็พละกำลังเทียบเท่าชีพ์ของพวกเราเลยนะ เป็ถึงระดับของเทพในตำนาน”
หลงเหยียนประหลาดใจมาก หยุดฝีเท้าลง “เ้าสิงโต เมื่อครู่ไม่เจ็บใช่หรือไม่ ความจริงข้าแค่หยอกเ้าเท่านั้น พลังของเ้าถูกคนอื่นชิงไป ต้องกลับมาเริ่มบำเพ็ญใหม่ั้แ่ต้น เ้ากลับไม่ท้อแท้ ข้าเป็ถึงชายชาตรี ควรตั้งใจฝึกมากกว่านี้ อีกหน่อยข้าจะดีกับเ้ามากยิ่งขึ้น”
ราชสีห์หิรัณย์นึกไม่ถึงว่าหลงเหยียนจะกล่าวเช่นนั้นออกมา กลับตื้นตันเพราะคำพูดของหลงเหยียน หางที่คล้ายแส้ของมันสะบัดไปมาบนพื้น เอาหน้าผากเข้าใกล้ตัวหลงเหยียน
หลงเหยียนใช้มือกดศีรษะมันเอาไว้ “์จัดสรรให้เรามาพบกัน ทั้งข้ายังช่วยเ้าไว้อีก แสดงว่าเรามีวาสนาต่อกัน ข้าเป็คนไร้เพื่อนมิตร หากเ้ายินดี ข้าจะทำเหมือนเ้าเป็เพื่อนคนหนึ่งของข้า วางใจเถอะ ข้า้าวิธีหาสมุนไพร ช่วยให้เ้าฟื้นฟูโดยเร็ว”
ราชสีห์หิรัณย์เงยหน้าขึ้นทันที “จริงหรือ พี่ พี่เหยียน แต่เท่าที่ข้าััได้ สถานที่เล็กๆ แห่งนี้ไม่มีหญ้าวิเศษที่ช่วยให้ข้าฟื้นฟูได้หรอก”
“แต่เ้าอยู่กับข้าเช่นนี้ ข้าจะกลับบ้านอย่างไร สภาพเ้าในตอนนี้กลับไปคนในเมืองัต้องกลัวแน่”
ราชสีห์หิรัณย์ยิ้ม “ที่จริงแล้วเ้ากังวลเื่นี้เองหรือ ง่ายมาก!” ขณะที่พูดนั้น รอบตัวของราชสีห์หิรัณย์ก็ปรากฏรังสีที่ส่องสว่างชั้นหนึ่ง หลงเหยียนอยากเข้าใกล้แต่แสงสว่างนั้นแยงตาเหลือเกิน เขาจึงต้องรอให้แสงจางลง
จากนั้นหลงเหยียนก็พบว่าร่างขนาดใหญ่ของราชสีห์หิรัณย์หายไปแล้ว เขาพบราชสีห์หิรัณย์ที่มีความสูงเพียงเข่าเท่านั้น แม้มันยังคงสภาพที่ดุร้าย แต่กลับไม่ให้ความรู้สึกน่ากลัว
ราชสีห์หิรัณย์หัวเราะ การเปลี่ยนไปแบบนี้ทำให้หลงเหยียนเองก็รู้สึกขัน...
“ฮ่าๆๆๆ น่าสนใจมาก น่าสนใจ”
“สิงโตน้อย สภาพเ้าในตอนนี้คาดว่าคนในเมืองัหรือต่อให้จะเป็เมืองหยุนจงที่พูดถึง คงไม่มีใครเคยเจอเช่นนี้มาก่อน ต้องมีคนชอบเ้ามากแน่”
หลงเหยียนอุ้มมันขึ้นมา ขนสีทองแข็งๆ ของมันกลายเป็ขนที่นุ่มขึ้นมาก
ระยะเวลาที่พวกเขาทั้งคู่อยู่ร่วมกันไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ แต่พวกเขาทั้งสองกลับคุ้นเคยกันมาก ตอนนี้หลงเหยียนได้พลังการประสานจิตที่แข็งแกร่ง ทั้งยังได้สัตว์เทพที่น่าเอ็นดูเช่นนี้กลับมา ทำให้เขาอารมณ์ดีมาก
ตอนนี้หลงเหยียนเริ่มฝึกพลัง สร้างความมั่นคงให้กับระดับพลังของตน ราชสีห์หิรัณย์เป็เหมือนผู้คุ้มกัน ปกป้องข้างกายหลงเหยียน พลังปราณที่แข็งแกร่งแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย กายสุริยะเพิ่มพลังป้องกันให้หลงเหยียน หลงเหยียนวางมือไว้ที่จุดรวมปราณ ขณะที่พลังปราณพุ่งไปถึงรอยต่อของเส้นพลัง มีเสียงดังแกรกๆๆ ได้ยินอย่างชัดเจน
เวลานี้ท้องฟ้ามืดมิด ดวงจันทร์กลมโตอยู่บนท้องฟ้า แสงจันทร์ส่องลงมาทำให้เห็นมนุษย์และสัตว์ที่อยู่เบื้องล่างหน้าผาตัด
บรรยากาศเงียบสนิท บางครั้งลิ้นอ้วนๆ ใหญ่ๆ ของราชสีห์หิรัณย์ก็ยื่นออกมาเลียปาก แต่มันกลับไม่กล้าจู่โจมเข้าไปกินหลงเหยียน เพราะมันกลัวว่าในวินาทีนั้น ดวงตาที่ดุร้ายของหลงเหยียนจะจับจ้องมา
ความคิดนี้แวบผ่านไป หลงเหยียนลืมตาขึ้นมามอง มันรู้สึกหนาวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก
“ยังดีที่ข้าไม่วู่วาม...”
-------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้