ห้องหนังสืออันมืดมิดมีเพียงแสงสว่างเล็กน้อยจากสวนดอกไม้ที่ลอดผ่านมาทางหน้าต่าง
ใกล้รุ่งสางลู่เป๋าเหยียนไม่รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนที่เขี่ยบุหรี่ข้างกายเต็มไปด้วยเถ้าบุหรี่ที่ทับถมเป็กองสูง
ูเี่อันยอมรับว่าเธอชอบเจียงเส้าข่ายและขอหย่ากับเขามันเป็เื่ที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน
เขารู้ดีว่ารูปพวกนั้นเป็ฝีมือของเฉินเสวียนเสวียนที่คอยสะกดรอยตามเธอถ่ายเอาไว้และส่งไปให้กับทางนิตยสาร
แต่ถ้าไม่มีคำอนุญาตจากเขาไม่ว่าจะเป็นิตยสารฉบับไหนก็ไม่มีใครกล้าตีพิมพ์อยู่แล้วเขาจึงเป็คนแรกที่ได้รับภาพเ่าั้มา
วินาทีนั้นหัวใจของเขาปั่นป่วนไปหมดเขาอยากจะย้อนเวลากลับไปยังเมื่อวานหลังเลิกงานเขาจะไปรับูเี่อันกลับมาที่บ้านตัดขาดการติดต่อทุกอย่างของเธอกับเจียงเส้าข่ายซะ
แต่เขารู้อยู่แก่ใจว่าตลอดหกเจ็ดปีที่ผ่านมาคนที่อยู่เคียงข้างูเี่อันมาโดยตลอดคือเจียงเส้าข่ายรอยยิ้มและหยดน้ำตาของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมา เจียงเส้าข่ายเป็คนรับรู้ตลอดมาต่อให้เขาเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้แต่เขาคงกลับไปแก้ไข่เวลาเ่าั้ของเธอกับเจียงเส้าข่ายไม่ได้
เขาเคยพูดว่าถ้าูเี่อันชอบเจียงเส้าข่ายจริงๆเขาจะให้เธอเป็คนเลือก แต่เมื่อเห็นภาพพวกนั้นแล้วเขาก็ชักสงสัยว่าตัวเองจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า
เขาอยากจะขังูเี่อันเอาไว้ข้างกายต่อให้เธอจะโกรธจะเกลียดเขาก็ตาม
ทว่าเธอกลับยอมรับว่าชอบเจียงเส้าข่ายและพูดว่าจะหย่า
วินาทีนั้นเขารู้สึกราวกับหัวใจจะหยุดเต้น เขาไม่เคยอิจฉาใครมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเขาอิจฉาจนอยากให้เจียงเส้าข่ายหายจากโลกนี้ไปซะ
แต่ถึงเจียงเส้าข่ายจะหายไปก็ใช่ว่าูเี่อันจะเปลี่ยนใจเพื่อความฝันของเจียงเส้าข่าย เธอถึงขนาดยอมทนแต่งงานกับเขาแทน
เธอเคยสละตัวเองเพื่อเขาแบบนี้สักครั้งไหมนะ?
ดังนั้นเขาคงต้องทำตามสิ่งที่เธอ้าเซ็นใบหย่าแล้วปล่อยเธอไป ก่อนที่เจียงเส้าข่ายจะแต่งงานกับคนอื่นก่อนที่คังรุ่ยเฉิงจะพบความจริง เขาควรปล่อยเธอให้เป็อิสระให้เธอไปมีความสุขอย่างที่้า
ค่ำคืนนี้ลู่เป๋าเหยียนไม่อาจข่มตาหลับลงได้จนกระทั่งฟ้าใกล้สว่างถึงพักสายตาไปชั่วครู่
ระหว่างสะลึมสะลืออยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงล้อของกระเป๋าลากดังขึ้นจึงตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อผลักประตูห้องออกไป ก็พบว่าูเี่อันกำลังลากกระเป๋าเดินลงบันได
เขาใกับภาพตรงหน้าจนร่างกายขยับไปไวกว่าสมองสั่งเขารีบพุ่งเข้าไปขวางหน้าเธอเอาไว้
“เธอจะไปไหน? รีบร้อนอยากจะออกไปจากที่นี่ขนาดนั้นเลย?”
“...แล้วแต่นายจะคิด”ูเี่อันจ้องหน้าลู่เป๋าเหยียนอยู่ชั่วอึดใจ ต่อให้เธออธิบายไปก็คงไร้ประโยชน์
“หนึ่งอาทิตย์นายคงเตรียมเอกสารการหย่าทันใช่ไหม”
ลู่เป๋าเหยียนกุมมือเธอไว้อย่างแรง
“ถ้ายังไม่ได้เซ็นใบหย่าเราก็ยังเป็สามีภรรยากัน เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!”
เขาควบคุมสติของตัวเองไม่ได้อีกต่อไปขณะนี้จึงมีเพียงความไร้เหตุผล
“ฉันต้องไปทำงานที่เมือง Z”ูเี่อันสะบัดมือลู่เป๋าเหยียนออก “นายจะได้สงบสติอารมณ์ระหว่างนี้ช่วยเตรียมเอกสารให้พร้อม ฉันกลับมาเมื่อไรจะได้เซ็นเลย”
“ูเี่อัน”ั์ตาของเขาเหมือนกำลังเย้ยหยันตัวเอง แต่ที่มีมากกว่าคือความขุ่นเคือง
“เธอพูดแต่เื่ใบหย่าอยากจะหย่าขนาดนั้นเลย?”เขาถามคำถามเดิมเป็ครั้งที่สอง
คราวนีู้เี่อันให้คำตอบเขาอย่างชัดเจน
“ใช่ อยากมากนายเองก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง? หย่าๆ กันไป พวกเราจะได้เป็อิสระสักที”
“แล้วเธอก็จะได้ไปหาเจียงเส้าข่ายงั้นสิ?”ลู่เป๋าเหยียนยิ้มเย็นก่อนจะะเิอารมณ์ออกมา “ออกไปซะ!”
ูเี่อันไม่พูดอะไรอีกเธอเดินหิ้วกระเป๋าลงไปข้างล่างโดยไม่หันหลังกลับ
ลู่เป๋าเหยียนมองตามเธอไปมือที่อยู่ข้างกายขยับอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ยื่นมือไปรั้งเธอไว้
เขาเบือนสายตาหนีก่อนจะหลับตาลงและเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ูเี่อันก็จากไปแล้ว
เธอจากไปทั้งๆ แบบนี้
ตอนนี้ที่เขาตัดสินใจแต่งงานกับเธอเขารู้ว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องมาถึง แต่ไม่นึกเลยว่ามันจะมาถึงไวขนาดนี้เหมือนกับที่เขาไม่คิดว่าคังรุ่ยเฉิงจะกลับมาที่นี่เร็วขนาดนี้เช่นกัน
เขารู้ดีว่าหากตามูเี่อันไปตอนนี้แล้วอธิบายเื่ทุกอย่างว่าเขาไม่ได้ตั้งใจมันก็ยังไม่สาย แต่ถ้าเธอกลับมาแล้วจะทำอย่างไรต่อ? สุดท้ายเขาก็ต้องปล่อยเธอไปอยู่ดีปล่อยเธอให้ไปใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ขาวบริสุทธิ์
ถ้าต้องเป็แบบนั้นสู้เขาปล่อยให้เธอจากไปแบบนี้เสียยังดีกว่าเขาควรทำใจยอมรับความจริง มันก็เหมือนกับตอนที่พ่อจากเขาไปเพราะอุบัติเหตุไม่มีผิด
ลู่เป๋าเหยียนรู้สึกอ่อนล้าเหลือเกินเขาไม่ได้กลับห้องตัวเอง แต่เดินไปยังห้องของูเี่อันแทน
หลังตกลงแต่งงานกับูเี่อันเขาก็ให้ลุงสวีจัดเตรียมห้องนี้เอาไว้ เครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เขาตกแต่งใหม่ทุกอย่างให้เป็สไตล์เรียบง่ายที่เธอชอบสีผ้าม่านก็เปลี่ยนเป็สีเบจสีโปรดของเธอพรมใต้เตียงก็เป็สีเขียวของต้นหญ้าแบบที่เธอถูกใจ
พวกผ้าปูเตียงและของทุกอย่างเขาเป็คนไปเลือกด้วยตัวเองเมื่อได้ยินมาว่าเธอชอบสีอ่อนและของนุ่มๆเขาจึงเลือกของเซตนี้มาเพื่อให้เธอพักผ่อนได้อย่างสบาย
ั้แ่เด็กูเี่อันก็ชอบนอนบนเตียงนุ่มๆเธอบอกว่ามันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังนอนอยู่บนก้อนเมฆ ดังนั้นเขาจึงเลือกฟูกที่นอนที่อ่อนนุ่มที่สุด
แต่นี่เพิ่งผ่านไปแค่ครึ่งปีเธอก็จะจากเขาไปเหลือไว้แต่กลิ่นอายของเธอในห้องนี้
ลู่เป๋าเหยียนเอนตัวลงนอนบนเตียงของูเี่อันเขาสูดกลิ่นหอมประจำตัวของเธอที่ยังติดอยู่ ห่มผ้าห่มที่เธอเคยใช้ความอ่อนล้าที่สะสมมานานทำให้เขาค่อยๆ เข้าสู่นิทรา
ก่อนจะหลับไปหยดน้ำตาใสก็ไหลออกมาจากหางตาก่อนจะซึมลงไปใต้หมอนไม่นานมันก็คงเหือดแห้งไปโดยไม่มีใครรู้
รถบิวอิคก์สีขาวกำลังเคลื่อนไปตามท้องถนนในยามเช้าแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ ส่องสว่างไม่ได้ทำใหู้เี่อันรู้ดีขึ้นแม้แต่น้อย
เมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากเขตหมู่บ้านภาพตรงหน้าก็เริ่มพร่ามัว สุดท้ายเธอจึงจอดรถและฟุบหน้าลงกับพวงมาลัย
ลู่เป๋าเหยียนไล่เธอออกมาเขาไม่แม้แต่จะรั้งเธอไว้
ครั้งนั้นที่เขาไปทำงานที่อเมริกาเธอร้องไห้ตอนคุยโทรศัพท์ เขายังบอกเธอว่าอย่าร้องไห้อีกเลยตอนที่เธอฝันร้ายก็เป็เขาที่คอยปลอบใจว่า เจี่ยนอัน ไม่ร้องนะ
ถ้าตอนนี้เขาเห็นน้ำตาบนใบหน้าของเธอเขาจะรู้สึกสงสารบ้างหรือเปล่า? คนที่เคยโอ๋เธอขนาดนั้น ทำไมถึงกลายเป็แบบนี้ไปได้
ปี๊น ปี๊น
เสียงแตรจากรถด้านหลังดังขึ้นูเี่อันหันกลับไปมองก็พบว่าตัวเองกำลังจอดรถขวางทางคนอื่นอยู่เธอจึงรีบเช็ดน้ำตาก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังที่ทำงาน
เธอไปถึงสถานีตำรวจตอนแปดโมงสิบห้านาทีพอดีหลังตรวจเช็กสัมภาระว่าไม่หลงลืมอะไรอีกเธอก็เดินไปที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อรวมตัวกับทุกคน
เมื่อสารวัตรเหยียนเช็กชื่อของทุกคนเรียบร้อยูเี่อันก็เดินขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปพร้อมกับคนในทีมเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองเป้าหมาย
ูเี่อันนั่งอยู่ที่เบาะหลังสุดเธออ่านแฟ้มคดีตลอดเวลาขณะที่สารวัตรเหยียนกับคนอื่นกำลังพูดคุยหยอกล้อกันอยู่ข้างๆเสียงของพวกเขาราวกับอยู่ไกลจากเธอออกไป
“เจี่ยนอันพอถึงที่ตำบลซานชิงแล้วพวกเราต้องไปประชุมที่โรงพักท้องถิ่นกันก่อนข้อมูลที่อยู่ในเอกสารพวกนี้ เดี๋ยวตอนประชุมพวกเขาคงบอกเราอีกที” เสียวอิ่งดึงเอกสารในมือของูเี่อันออกมา“ฉันนึกว่าเจียงเส้าข่ายจะมาเสียอีกผอ.ลู่ของเธอยอมให้เธอไปที่กันดารแบบนั้นด้วยเหรอเนี่ย...”
ูเี่อันนิ่งไปก่อนจะพยายามฝืนยิ้ม“เขารู้ดีว่างานฉันก็เป็แบบนี้”
“อย่างนี้นี่เอง”เสียวอิ่งมองูเี่อันอย่างสำรวจก่อนจะพูดว่า “ตาเธอดู...บวมๆ นะ”
“อ้อ”ูเี่อันยิ้มก่อนจะนวดตาเบาๆ “เมื่อคืนก่อนนอนฉันดื่มน้ำเยอะไปหน่อยน่ะขอไปล้างหน้าก่อนนะ”
พูดจบูเี่อันก็ลุกไปเข้าห้องน้ำเสียวอิ่งยังไม่ทันได้พูดอะไรสารวัตรเหยียนก็ดึงตัวเธอไว้
“ั้แ่เมื่อวานเจี่ยนอันก็ดูแปลกๆฉันว่าคงทะเลาะกับลู่เป๋าเหยียนแน่ๆพวกเธอเลิกถามเื่ลู่เป๋าเหยียนกับเจี่ยนอันได้แล้ว”
“มิน่าล่ะตาของเจี่ยนอันถึงได้บวม”เสียวอิ่งพูดจบก็ถูกสารวัตรเขกหัวไปหนึ่งที
หลังล้างหน้าเสร็จูเี่อันก็ยืนอยู่ในห้องน้ำสักพักก่อนจะออกมา นอกจากตาที่ติดจะบวมอยู่นิดหน่อยที่เหลือเธอก็ดูเหมือนูเี่อันคนเดิมแล้ว
เสียวอิ่งยื่นเอกสารกลับคืนมาให้เธอ“เจี่ยนอัน เธอดูเอกสารต่อเถอะ ไม่ต้องคิดมากนะ”
“ไม่เอาไหนเลย!”สารวัตรเหยียนเขกหัวเสียวอิ่งไปอีกรอบ เสียวอิ่งร้องโอ๊ยก่อนจะมองหน้าสารวัตรเหยียนอย่างตัดพ้อแต่ก็ไม่กล้าเถียง
“ฉันไม่เป็ไร”ูเี่อันยิ้มให้กับทุกคน “ฉันไม่เอาเื่ส่วนตัวมาปนกับเื่งานหรอกค่ะจริงสิ เื่คดีนี้ทุกคนคิดเห็นยังไงกันบ้าง”
ทุกคนรีบคุยหัวข้อทีู่เี่อันเปิดเอาไว้อย่างเต็มใจยิ่งคุยยิ่งวิเคราะห์กันไปมากเท่าไร ูเี่อันก็ค่อยๆ ลืมเื่ระหว่างเธอกับลู่เป๋าเหยียนไปได้บ้างเธอฟังความคิดเห็นของทุกคน บ้างก็ให้คำตอบในแง่มุมของคนอาชีพเธอกับพวกเขาพลางดื่มด่ำบรรยากาศของการทำงานเป็ทีม
แต่มีสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้บรรยากาศช่างมาคุเสียเหลือเกินนั่นก็คือที่ห้องทำงานของเสิ่นเยว่ชวน
ลู่เป๋าเหยียนไม่มาทำงานอีกแล้ว!เขาโดดประชุมอีกครั้ง แถมยังไม่ยอมรับโทรศัพท์เขาด้วย!
“ผอ.ลู่ของพวกเรามีภรรยาต้องดูแลนี่นา”ผู้ช่วยอีกคนพูดพลางยิ้มขณะยื่นเอกสารมาให้ “วันนั้นคุณยังบอกให้พวกเรารีบๆ ชินซะแล้วทำไมมาหงุดหงิดซะเองล่ะ”
“เฮ้อ”เสิ่นเยว่ชวนถอนหายใจ “ถ้าเื่มันง่ายแบบนั้นก็ดีสิ”
เขารู้ดีว่าที่ลู่เป๋าเหยียนไม่มาคงมีสาเหตุมาจากูเี่อันแต่คราวนี้คงไม่ใช่เพราะนอนกอดเธออยู่จนลืมเวลาแน่ๆ
สุดท้ายเสิ่นเยว่ชวนจึงตัดสินใจขับรถไปที่บ้านของลู่เป๋าเหยียนแค่เขาก้าวเข้าประตูบ้านไปก็ััได้ถึงบรรยากาศสุดแสนจะอึมครึมจึงเอ่ยถามลุงสวี
“เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย?”
“คุณผู้หญิงเก็บกระเป๋าออกจากบ้านั้แ่เช้าเลยครับ”ลุงสวีพูดพลางส่ายหน้าเบาๆ“บ้านนี้อุตส่าห์เริ่มเป็บ้านที่สมบูรณ์ขึ้นมาบ้างแล้วแท้ๆแต่กลับต้องมาเป็แบบนี้”
เสิ่นเยว่ชวนรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องของลู่เป๋าเหยียนทว่าไม่เห็นเ้าของห้องอยู่ในนั้นว่าแล้วเขาก็ฉุกคิดอะไรขึ้นได้จึงเปิดประตูเข้าไปในห้องของูเี่อันลู่เป๋าเหยียนกำลังนอนอยู่ในนั้นจริงตามที่คาด
เสิ่นเยว่ชวนถอนหายใจก่อนจะเดินไปเขย่าตัวเขา
คนที่กำลังหลับใหลเริ่มขมวดคิ้วน้อยๆ
“เจี่ยนอัน อย่าน่า”
เสิ่นเยว่ชวนชักจะมีน้ำโห
“เจี่ยนอันอะไร? เธอไปแล้ว!”
ทันใดนั้นลู่เป๋าเหยียนก็ลืมตาโพลงสายตาที่มามองยังเสิ่นเยว่ชวนดูสั่นนิดๆ ผ่านไปชั่วอึดใจเขาจึงมั่นใจว่าูเี่อันจากเขาไปแล้วจริงๆวันนี้ตอนเช้าเขาเห็นเธอเดินออกไปกับตา
เขายกแขนขึ้นมาปิดตา“นายออกไปก่อน อีกชั่วโมงฉันค่อยไปที่บริษัท”
“ทำไมนายปล่อยให้เธอไปแบบนั้น?”เสิ่นเยว่ชวนหงุดหงิดจนแทบคลั่ง “นายไปพูดอะไรกับเธอ?”
“...เธอบอกกับฉันว่าเธอชอบเจียงเส้าข่ายให้ฉันเตรียมเอกสารหย่า” ลู่เป๋าเหยียนยกแขนออกก่อนจะยิ้มหยัน“นี่เป็โอกาสดีที่จะทำให้เธอจากไปโดยไม่ต้องรู้เื่อะไรและไม่ต้องหาวิธีอื่นให้เธอเกลียดฉัน”
“...”
เสิ่นเยว่ชวนเงียบไปนานูเี่อันชอบเจียงเส้าข่าย? ทำไมเขารู้สึกว่ามันไม่เข้าท่าสักนิด!
“ไม่แน่อาจจะมีเื่เข้าใจผิดก็ได้ที่ฉันเคยพูดไว้ก็แค่ล้อเล่นเฉยๆ” เสิ่นเยว่ชวนพูดอย่างร้อนใจ“นี่นายตกลงจะหย่ากับเธอแล้วเหรอ? จะยอมปล่อยให้เธอไปกับเจียงเส้าข่ายเนี่ยนะ?”
“ถ้าพวกเราจัดการซูหงเยวี่ยนได้เจียงเส้าข่ายก็ดีพอที่จะปกป้องเธอ” ลู่เป๋าเหยียนเอ่ย “ถ้าเธออยู่กับฉันนายเองก็รู้ว่าจะอันตรายแค่ไหน”
เสิ่นเยว่ชวนรู้ดีเขารับรู้ได้ถึงความเ็ปของเื่นี้ ว่าแล้วจึงถอนหายใจก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ลู่เป๋าเหยียนนอนอยู่สักพักก่อนจะสะบัดผ้าห่มลุกขึ้นมา
แสงอาทิตย์ลอดผ่านผ้าม่านสีเบจที่เขาเลือกเองกับมือเขามองไปรอบห้องที่กว้างขวางด้วยหัวใจอันว่างเปล่า เหมือนห้องนี้ที่ดูขาดอะไรไป
สิ่งที่ขาดหายคือเ้าของห้องที่เคยอยู่ที่นี่
คนที่อาจจะไม่กลับมาอีกแล้ว...
