ตระกูลหลินรวยแล้ว!
ข่าวนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในแถบบ้านใกล้เรือนเคียง ว่ากันว่าหลินเหม่ยเจวียนหย่ากับเฉินซีเหลียงได้เงินมาจำนวนหนึ่งแสนหยวน
มีคนอิจฉาตระกูลหลิน แต่แน่นอนว่าย่อมมีคนหัวเราะเยาะที่ตระกูลหลินช่างโง่เขลา
คนอิจฉาที่ตระกูลหลินได้เงินสดจำนวนหนึ่งแสนหยวน แต่คนที่หัวเราะเยาะก็เพราะรู้สึกว่าหลินเหม่ยเจวียนช่างโง่นักถึงปล่อยให้ผู้ชายที่หาเงินเก่งอย่างเฉินซีเหลียงหลุดมือไปได้นั่นเอง ตระกูลหลินได้เปรียบแล้วยังไม่วายทำตัวน่าสงสาร ป่าวประกาศไปทั่วว่าเฉินซีเหลียงคบชู้กับสาวอื่น ถูกหลินเหม่ยเจวียนจับได้คาหนังคาเขาถึงขอหย่าเช่นนี้
เดิมทีตระกูลเฉินนั้นไม่เห็นด้วยที่เฉินซีเหลียงหย่าร้าง เพราะหลานชายคนโตถูกหลินเหม่ยเจวียนพาไปด้วย
แต่พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ พ่อแม่ของเฉินซีเหลียงก็รู้สึกชาไปทั้งตัว
ถ้าเฉินซีเหลียงมีชู้จริง พ่อแม่ของเขาคงไม่ปล่อยเขาไปเช่นกัน แต่เฉินซีเหลียงเป็ฝ่ายถูกปรักปรำ เื่นี้เหอฉงเซิงสามารถเป็พยานได้ เื่ราวใหญ่โตเสียจนหุ้นส่วนของเฉินซีเหลียงขอถอนหุ้น หากบริษัทเสื้อผ้าต้องปิดตัวลง เงินที่เฉินซีเหลียงหามาได้ก่อนหน้านี้ก็เท่ากับเอาไปละลายแม่น้ำไม่ใช่หรือ
“คนเขาเป็สาวสวยยังไม่แต่งงาน แถมยังเป็นักศึกษามหาวิทยาลัย มีเงินพอๆ กับซีเหลียง แล้วจะอยากได้อะไรจากซีเหลียงหรือครับ หลินเหม่ยเจวียนพูดจาเหลวไหลทั้งเพ!”
พ่อแม่ของเฉินซีเหลียงเงียบไปทันที
หลินเหม่ยเจวียนคือคนที่แม่ของเฉินซีเหลียงแนะนำมาให้ เพราะเธออยากให้เฉินซีเหลียงรีบแต่งงานสร้างครอบครัว คนตระกูลเฉินอยากให้เฉินซีเหลียงมีชีวิตที่มั่นคง พ่อแม่จึงมักคิดเผื่อลูกชาย และไม่อยากให้ลูกชายขัดคำสั่ง ทว่าเดิมทีเฉินซีเหลียงมีความคิดออกนอกกรอบั้แ่เด็ก นิสัยของสองคนนี้เข้ากันไม่ได้ พออยู่ร่วมกันจึงเกิดปัญหาไม่หยุดหย่อน
หลินเหม่ยเจวียนได้ค่าเลี้ยงดูมาหนึ่งแสนหยวนก็ย้ายกลับไปอยู่บ้านแม่
ตระกูลหลินไม่รู้ตัวสักนิดว่า คนรวยไม่ควรโอ้อวด ตอนนี้เงินที่พวกเขามีในกลายเป็ที่หมายตาของผู้อื่นไปเสียแล้ว
ระแวกบ้านตระกูลหลินคือถิ่นของเคออีสฺยง เฉาลิ่วได้ยินข่าวของบ้านตระกูลหลินมาจากลูกน้องก็รู้สึกคันไม้คันมือ
เงินหนึ่งแสนหยวนไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ อีกทั้งลูกชายตระกูลหลินยังโง่เหมือนหมู หลอกล่อไม่เท่าไรก็คงได้เงินมาครอง และเขายังเป็ผู้ชายที่ไม่ทำงานทำการ แถมยังรักในการพนันอีกด้วย น้องชายของหลินเหม่ยเจวียนเดิมทีเป็พวกเล่นไพ่หนัก เฉินซีเหลียงให้เงินกับหลินเหม่ยเจวียนเช่นนี้ หลินเหม่ยเจวียนย่อมเอาเงินที่ได้ไปให้กับที่บ้าน น้องชายของเธอคิดเพียงว่ามีพี่เขยเป็บ่อเงินบ่อทอง เมื่อไหร่ก็ตามที่นั่งลงในวงไพ่ เขาจะไม่เคยถามสักครั้งว่าต้องลงเงินเท่าไร
แม้หลินเหม่ยเจวียนจะได้เงินค่าเลี้ยงดูมาหนึ่งแสน แต่ก็ยังอาละวาดที่บ้านไม่ยอมหยุด น้องชายของเธอรู้ทันทีว่าพี่สาวยังคงทำใจเื่ที่พี่เขยไปมีชู้นอกบ้านไม่ได้
ถ้าอยากใช้เงินของพี่สาว เขาก็ควรช่วยกำจัดความทุกข์ให้เธอน่ะสิ
เฉาลิ่วสั่งให้คนมาหลอกเงินเขา ส่วนเขาเองก็อยากขอให้พี่เฉาช่วยทำงานให้อยู่พอดี
“ให้ตาย ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนั้น เงินของพี่เขยก็คงเป็ของครอบครัวผมทั้งหมดแล้ว พี่เฉา พี่ช่วยเรียกพรรคพวกของพี่สักสองคนไปสั่งสอยนังโสเภณีคนนั้นได้ไหม!”
ถ้าเงินเฉินซีเหลียงเป็ของตระกูลหลินก็เท่ากับเป็เงินของเขา
น้องชายของหลินเหม่ยเจวียนกัดฟันกรอดด้วยความคับแค้นใจ เฉาลิ่วที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ จู่ๆ มือเท้าของเขาก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา นี่ก็ผ่านไปปีกว่าแล้ว แผลที่แขนขาเขาหายนานแล้ว แต่ทำไมยังรู้สึกเจ็บ? อาจเพราะเหตุผลด้านจิตใจ จิตใต้สำนึกของเขายังรู้สึกหวาดกลัวต่อเทพแห่งความตายอย่างพานซาน
หากไม่มีโอกาสขจัดปมในใจทิ้งไป ความกลัวที่เขามีต่อพานซานคงไม่มีวันจางหายอย่างแน่นอน
ความกลัวลักษณะนี้สามารถส่งต่อไปให้ผู้อื่นได้
“พูดอีกรอบสิ สั่งสอนใคร?”
น้องชายของหลินเหม่ยเจวียนไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติแม้แต่น้อย “คนที่จะเปิดบริษัทกับพี่เขยผม แซ่เซี่ย!”
ใช่ แซ่เซี่ยนี่เอง
ตอนนี้เฉาลิ่วเกลียดคนแซ่เซี่ยเป็ที่สุด เขาเคยเสียหน้าครั้งใหญ่ก็เพราะคนแซ่เซี่ย หากพูดให้เจาะจงกว่าก็คือ ต้นเหตุเกิดจากหุ้นส่วนของเฉินซีเหลียงคนนั้น เซี่ยเสี่ยวหลาน!
เฉาลิ่วจ้องหน้าน้องชายของหลินเหม่ยเจวียนเขม็ง ไอ้โง่คนนี้ต้องเสียเวลาวางแผนหลอกเอาเงินด้วยหรือ จับมันมัดแล้วซ้อมสักรอบ ก่อนจะบอกให้ตระกูลหลินเอาเงินมาไถ่ตัวจะดีกว่าหรือไม่?!
เฉาลิ่วข่มใจอยู่นานถึงไม่ปล่อยหมัดอัดหน้าอีกฝ่าย
เขาตบไหล่น้องชายของหลินเหม่ยเจวียน “น้องรัก พี่มีอะไรอยากจะเตือนด้วยความหวังดี อย่ามีเื่กับผู้หญิง โดยเฉพาะกับผู้หญิงสวยๆ ”
คำพูดดูดีมีน้ำใจเช่นนี้ เกิดขึ้นได้เพราะหมายตาเงินหนึ่งแสนหยวนนั่นเอง
น้องชายของหลินเหม่ยเจวียนฟังไม่ออกถึงความหมายแฝงที่เฉาลิ่วมอบให้ และคิดว่าตนยังไม่ได้ให้ค่าจ้างกับพี่เฉาจึงกลับบ้านไปขอเงินพี่สาวมาหนึ่งหมื่นหยวน เขาเอาเงินมาให้เฉาลิ่วห้าพันหยวนเพื่อเป็ค่าจ้างสั่งสอนเซี่ยเสี่ยวหลาน ความจริงแล้วเขาอยากพาคนไปสั่งสอนเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยตัวเอง แต่นักเลงที่ไม่มีแก๊งเป็หลักเป็แหล่งอย่างพวกเขา คงไม่อาจเทียบกับพวกเฉาลิ่วที่เป็นักเลงอาชีพได้ อีกทั้งน้องชายของหลินเหม่ยเจวียนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ที่ไหน
รับเงินมาแล้วก็ต้องทำงาน เป็นักเลงก็ต้องมีจรรยาบรรณ ไม่อย่างนั้นอนาคตใครจะมาจ้างเขาเล่า?
เื่นี้ต่างจากการหลอกให้น้องชายของหลินเหม่ยเจวียนเสียเงินพนัน การต้มตุ๋นผู้อื่นเป็เื่หนึ่ง การรับจ้างขจัดปัญหาให้ผู้อื่นก็เป็อีกเื่หนึ่ง
เฉาลิ่วไม่กล้ารับเงินที่วางอยู่บนโต๊ะ และดันเงินห้าพันหยวนกลับไป
“พี่บอกแล้วว่าไม่ต้องเกรงใจ เอาอย่างนี้ พี่จะสืบข้อมูลของอีกฝ่ายก่อน แล้วจะบอกว่าสามารถช่วยได้หรือไม่”
น้องชายของหลินเหม่ยเจวียนรู้สึกดีใจมาก เขาเอ่ยปากชมเฉาลิ่วไม่หยุดปาก และคิดว่าพี่เฉาช่างให้เกียรติกันเหลือเกิน แม้คืนเดียวกันเขาจะเสียพนันไปสามพันหยวน แต่ตอนกลับก็ยังคงรู้สึกอารมณ์ดีไม่หาย
สติปัญญามีแค่นี้ คิดจะสู้กับคนฉลาดอย่างเฉินซีเหลียงอย่างนั้นหรือ?
เฉินซีเหลียง้าสลัดคนตระกูลหลินทิ้ง แต่เป็เพราะหลินเหม่ยเจวียนมีลูกชายอีกหนึ่งคน เฉินซีเหลียงถึงได้ยอมให้เงินหนึ่งแสนหยวนสินะ
เฉาลิ่วกระสับกระส่าย สุดท้ายเขาก็ยอมเล่าเื่นี้ให้เคออีสฺยงฟัง
เคออีสฺยงเมื่อได้ฟังดังนั้นก็นิ่งเงียบอยู่นาน
“สั่งสอนเซี่ยเสี่ยวหลาน?”
หลังเกิดเื่คราวนั้น เขาเคยเจอเซี่ยเสี่ยวหลานที่ร้านขายอาหารเช้า เขาถามเซี่ยเสี่ยวหลานว่ากลัวหรือไม่ ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานกลับตอบมาว่า ความปลอดภัยที่หยางเฉิงของเธออยู่ในความรับผิดชอบของเคออีสฺยง
คำพูดที่ไร้เหตุผลออกจากปากเซี่ยเสี่ยวหลานแต่กลับไม่น่ารังเกียจแม้แค่น้อย แถมยังทำให้เคออีสฺยงจำไม่ลืม
ทั้งที่เขาควรรู้สึกไม่พอใจที่เซี่ยเสี่ยวหลานพาคนมาหักหน้าเขา แถมต่อมายังจะขอให้เขาช่วยคุ้มครองเธออีกด้วย
เดิมทีเคออีสฺยงนึกว่าความรู้สึกพวกนั้นหายไปหมดแล้ว แต่พอเฉาลิ่วกล่าวเช่นนี้ กลับกระตุ้นมันขึ้นมาอีกครั้ง “เธอยังอยู่ที่หยางเฉิงหรือ?”
เฉาลิ่วพยักหน้ารับ “อยู่หยางเฉิงครับ ผมให้คนสืบที่อยู่เธอมาแล้ว”
น้องชายของหลินเหม่ยเจวียนคิดไม่ผิด หาก้าหาตัวคนที่หยางเฉิง ก็ต้องมาหาแก๊งนักเลงที่มีระบบอย่างแก๊งของเคออีสฺยง
—-----------------------------------------------
เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ที่หยางเฉิงต่อ เพราะเธอกำลังรอให้เฉินซีเหลียงมาหา
ทว่าคนที่มาขอพบกลับไม่ใช่เฉินซีเหลียง แต่เป็คนที่ไม่ได้เจอกันมานานอย่างเคออีสฺยง
เซี่ยเสี่ยวหลานจำได้ว่าเคออีสฺยงชอบในความงามของเธอ พอคิดถึงสภาพของตนในปัจจุบันก็รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้นเธอจึงไปเจอกับเคออีสฺยงอย่างเปิดเผย เคออีสฺยงเห็นสภาพย่ำแย่ของเธอแล้วก็มีอาการใตามคาด
“นี่เธอ?”
หากหลับตาลงยังพอนึกภาพใบหน้างดงามของเซี่ยเสี่ยวหลานออก แต่ถ้าเอามาเทียบกับใบหน้าบวมช้ำของเธอในตอนนี้ ช่างต่างกันราวกับคนละคน
เซี่ยเสี่ยวหลานยกมือขึ้น “ก็เป็อย่างที่เห็น ฉันเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย”
เคออีสฺยงเป็นักเลงมานาน พอมองให้ละเอียดก็รู้ว่าแผลที่หน้าเกิดจากแรงกระแทกและเสียดสี อีกไม่นานคงหายดีเป็ปกติ
เคออีสฺยงโล่งอก แน่นอนว่าเขารู้สึกสงสาร ใบหน้าที่งดงามเช่นนั้นไม่ควรเจอกับเื่แบบนี้
“ไม่ได้เจอกันนาน หัวหน้าเคอยังคงมีสง่าราศี ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรที่ยากจะเอ่ยปากหรือไม่”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่กลัวเขาเลยสักนิด เคออีสฺยงแย้มยิ้มอย่างเป็มิตร
“มันก็พูดยากจริงอย่างที่ว่า พอดีมีคนจ่ายเงินให้ฉันมาสั่งสอนเธอ เธอว่าฉันควรรับเงินนี้ไว้หรือเปล่า”