เสี่ยวเมิ่งสาวเท้าอย่างรวดเร็ว ใบหน้างามเต็มไปด้วยความกังวล หยวนจุนตามหลังนางจนมาถึงป่าไผ่บนูเา
หลังจากใช้เวลาเดินทางประมาณสองก้านธูป หยวนจุนก็ได้กลิ่นไอของพลังปราณที่หนาแน่น เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยควันหนาทึบ
“ท่านปู่!”
เสี่ยวเมิ่งมีสีหน้ากังวลเพิ่มขึ้น หยวนจุนที่สังเกตเห็นความผิดปกติ จึงพุ่งเข้าไปกอดเสี่ยวเมิ่งที่มีพลังยุทธ์ขั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตกลงไปในลำธาร
ระหว่างทางหยวนจุนได้เห็นร่องรอยการต่อสู้ ในอากาศคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเื
“ให้ตาย ตาเฒ่านี่ทนใช้ได้เลย ถูกมีดฟันตั้งหลายครั้งแล้วยังไม่ตายอีกหรือ? ไม่คิดว่าเมืองเทียนอวิ่นจะมีผู้มากความสามารถดาษดื่นเช่นนี้ แม้แต่ขอทานที่นั่งตามตรอกไปวันๆ ยังมีพลังจิตที่แข็งแกร่ง!”
“หากข้ามิใช้อุบายเล็กๆ น้อยๆ ก็คงจับเขาไม่ได้ แต่ไม่ว่าเขาจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่มีทางหนีพ้นเงื้อมมือของข้าเจียงเฮ่อไปได้หรอก! ฮาฮา!”
เจียงเฮ่อยิ้มกริ่มแล้วเก็บพัดในมือ เขาหยิบมีดใหญ่จากนักยุทธ์ตระกูลเจียง จากนั้นก็ฟันไปที่ชายชราจนนอนหายใจหอบอยู่บนพื้น
เห็นเพียงเืที่กระฉูดออกมาจากมือทั้งสองของปู่เสี่ยวเมิ่ง หลังจากแยกขาดจากแขน มันกระเด็นไปไกลกว่าห้าหกเมตร
ชายชรากัดฟันทน จ้องมองเจียงเฮ่อด้วยแววตาเกลียดชังอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้เส้นโลหิตบนหน้าผากปรากฏ
“ตาเฒ่า เ้ามองข้าด้วยสายตาเช่นนั้น มิกลัวข้าจะเอาชีวิตของเ้าหรืออย่างไร?”
ชายชรายังคงจ้องมอง เจียงเฮ่อจึงใช้หางตามองอย่างไม่สนใจและกล่าวว่า “ตาเฒ่า ไม่ควรเลยจริงๆ เ้าไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับไอ้หน้าขาวหยวนจุน ในเมื่อเป็เช่นนี้ เ้าจะโทษข้าไม่ได้นะ”
เมื่อนึกถึงหน้าหยวนจุน แววตาของเจียงเฮ่อก็ปรากฏความชั่วร้ายออกมาทันที
“ท่านปู่!”
เมื่อได้ยินเสียงเสี่ยวเมิ่งที่ร้องดังมาแต่ไกล นักยุทธ์ตระกูลเจียงที่อยู่รอบๆ เจียงเฮ่อไหวตัวทันที เพียงครู่เดียวก็มีเงาปรากฏอยู่ด้านหลังพวกเขาราวกับผี
จากนั้นอาวุธมีคมสีดำสนิทห้าชิ้นก็ทะลุผ่านช่องว่างระหว่างคิ้วของพวกเขา
ร่างของนักยุทธ์ทั้งห้ามิได้ล้มลง แต่ศีรษะกลับแยกออกจากกันและตกลงบนพื้น โดยที่ยังมิได้ส่งเสียงร้องออกมา
หยวนจุนสะบัดนิ้ว กระสวยเสวียนหลงทั้งห้าอันที่วนอยู่รอบเขาจึงพุ่งออกไป หนึ่งในสามอันนั้นปะทะมีดใหญ่ในมือของเจียงเฮ่อ ทำให้มีดแยกออกเป็สามส่วน
แรงโจมตีจากกระสวยเสวียนหลงทำให้เจียงเฮ่อจำต้องถอยไปหลายเมตร เขารีบรวมปราณดาราเพื่อขวางสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ในที่สุดเขาก็สกัดพลังของกระสวยเสวียนหลงอีกสองอันได้สำเร็จ
“ท่านปู่”
เสี่ยวเมิ่งผละจากแขนหยวนจุนแล้วรีบวิ่งไปหาท่านปู่ที่อยู่ข้างหน้า ก่อนจะใกับภาพอันโหดร้ายที่ได้เห็น
ชายชรามือขาด เืยังคงไหลออกมาไม่หยุด ใบหน้าชราที่แห้งกร้านซีดเซียว ั์ตาส่งสัญญาณริบหรี่
“เสี่ยวเมิ่ง มีเื่หนึ่ง...ที่ปู่้าจะ...ฝากเ้า”
เมื่อได้ยินเสียงอ่อนแรงที่แทบจับใจความไม่ได้ เสี่ยวเมิ่งจึงรีบโน้มใบหูไปแนบใกล้ปากของชายชรา หลังจากได้ฟัง น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว นางมิได้ตอบกลับ เพียงแต่พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ไอ้คนชั่วช้าสามานย์!”
หยวนจุนมองไปที่เจียงเฮ่อด้วยั์ตาแดงก่ำ พลังปราณเยือกเย็นเปลี่ยนไปราวกับเป็คนละคน สองมือสั่นกำกระสวยเสวียนหลงห้าอันไว้แน่น
“ข้าว่าแล้วว่าเมืองเทียนอวิ่นมีผู้มากความสามารถดาษดื่นจริงๆ เมื่อครู่นี้ก็ขอทานเฒ่า คราวนี้ก็ไอ้หน้าขาวนี่ คนพวกนี้มีบางอย่างซ่อนอยู่จริงๆ ด้วย หึหึ”
เจียงเฮ่อโยนมีดที่ใช้ตัดมือชายชราทิ้ง เขาปัดฝุ่นบนเสื้อคลุมสีขาวลายัอย่างสบายๆ แล้วพูดเสียงเรียบว่า “อาศัยแค่พลังจิตเพียงเล็กน้อยของเ้า คิดว่าจะสู้ข้าเจียงเฮ่อได้อย่างนั้นหรือ?”
“ไอ้หมาบ้า!” หยวนจุนก้าวไปข้างหน้า ปราณดาราแผ่ขึ้นมาจากฝ่าเท้า ทำให้เสื้อคลุมบนตัวเขาเกิดเสียงปลิวดังพึ่บพั่บ
ตอนนี้เขาบ่มเพาะพลังยุทธ์จนถึงขีดสุดของวงแหวนใหญ่ขั้นสี่ เศษหินเศษไม้รอบๆ ทั้งหมดจึงถูกลมแรงพัดปลิวไปในทันที
ขณะที่ััได้ถึงแรงอันทรงพลังนี้ รอยยิ้มที่อยู่บนหน้าเจียงเฮ่อก็หายไป เปลี่ยนเป็ความใเข้ามาแทน
อายุเพียงสิบห้าสิบหกปีแต่สามารถบ่มเพาะพลังยุทธ์ถึงวงแหวนใหญ่ขั้นสี่ได้ แม้แต่เขายังทำไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น ไอ้หน้าขาวที่ไม่มีอะไรดีสักอย่างในสายตาเขา แท้จริงแล้วยังมีพลังจิตที่หาได้ยากด้วย!
“เหอะเหอะ มิน่าล่ะเ้าถึงสามารถใกล้ชิดหรูเยียนได้ ที่แท้ก็มีความลับซ่อนอยู่มากมายนี่เอง แต่ถึงอย่างไร ข้าก็เก็บเ้าไว้ไม่ได้!”
เจียงเฮ่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า แววตาเปลี่ยนเป็โหดร้าย เขาเกร็งแขน จากนั้นพลังยุทธ์วงแหวนใหญ่ขั้นห้าก็ถูกปล่อยออกมาสุดแรง
การสร้างพลังของทั้งสองนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากกล่าวว่าพลังของหยวนจุนสามารถสังหารสัตว์อสูรระดับสองได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นพลังของเจียงเฮ่อที่ปลดปล่อยออกมาก็สามารถสังหารสัตว์อสูรได้นับสิบตัว!
แม้จะต่างกันแค่ขั้นเดียว แต่ความแข็งแกร่งของพลังวงแหวนใหญ่ขั้นสี่กับวงแหวนใหญ่ขั้นห้าก็ยังห่างชั้นกันมาก
“ปางมืออจละ!”
หยวนจุนแสดงปางมืออจละ ขณะที่กำลังจะััเจียงเฮ่อ เปลวไฟได้ลุกจากมือของเขาก่อนจะปะทะไปยังฝ่ามือของเจียงเฮ่อ
“วิ้ว วิ้ว”
ปางมือเก้าท่ารวมกับอักษรลับเก้าตะวัน เรียกได้ว่าเป็คู่ที่สมบูรณ์แบบ เมื่อปราณดาราก่อตัวเป็กระแสปราณอย่างต่อเนื่อง ปางมือมรณาท่าที่หนึ่งจะแสดงพลังอย่างเต็มที่
เจียงเฮ่อใช้เพียงปราณดาราต้านวิชายุทธ์ของหยวนจุน เขาพูดพร่ำพรรณนา เพียงไม่กี่อึดใจ ควันสีขาวก็พวยพุ่งออกมาจากมือของเขา
ทั้งฝ่ามือของเขาถูกความร้อนของเปลวไฟอี้เสอแผดเผา เขาจึงต้องใช้กำลังที่เหลืออยู่ไม่มากทำลายพลังปางมือมรณาท่าที่หนึ่ง
“อสนีบาตมหันต์!”
เจียงเฮ่อมองไปยังมือที่ไหม้เกรียม กัดฟันทนเอามือตบลงบนพื้น สายฟ้ามากมายส่งเสียงคำรามน่ากลัวจนขนลุก เขาใช้ดินเป็สื่อแล้วพุ่งตรงไปยังหยวนจุน
“วิชายุทธ์นี้มีลักษณะเป็สายฟ้า เมื่อดูจากพลังที่ถูกส่งออกมา อย่างน้อยน่าจะเป็วิชายุทธ์ระดับเ้าฮั่วขั้นกลาง!”
หยวนจุนหรี่ตาลง แล้วนำกระบี่หยวนจุนขึ้นมาทันที เขาควบคุมปราณดาราเข้าสู่ตัวกระบี่ และทำลายสายฟ้าที่กำลังพุ่งมาหาเขาในกระบี่เดียว
ปราณกระบี่สีขาวหยกลากพลังสายฟ้าลงสู่พื้น ทำให้โลกสั่นะเื รอยแตกร้าวกระจายออกราวกับปากแห่งความดุร้ายที่กำลังอ้ากว้าง จนทำให้ผู้คนต้องหวาดผวา
เมื่อสายฟ้าถูกปราณกระบี่ทำลาย พลังวิชายุทธ์ที่เจียงเฮ่อสร้างขึ้นก็หายไปเช่นกัน กล่าวได้ว่า หลังจากเกิดแสงจ้าเพียงไม่กี่ครั้ง พลังนั้นก็สลายหายไป
“กระบี่นี้ไปอยู่กับเ้าได้อย่างไร?”
กล่าวยังไม่จบประโยค ปราณกระบี่ก็พุ่งตรงไปยังเจียงเฮ่อทันที
แม้ตอนนี้กระบี่หยวนจุนจะไม่นับว่าเป็อาวุธระดับิญญาขั้นหนึ่ง แต่เมื่อมันผสานเข้ากับอาวุธที่หยวนจุนกลั่นแล้ว ก็สามารถแสดงพลังยิ่งใหญ่ออกมาได้อย่างเต็มที่
ปราณกระบี่นี้สามารถเทียบได้กับนักยุทธ์วงแหวนเล็กขั้นห้าที่แสดงวิชายุทธ์ได้อย่างสมบูรณ์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้