คำพูดของพระสนมหลี่ทำให้หลายคนหันมามอง ท่าทางที่ดูน่าสงสารของพระสนมหลี่ ทำให้ทุกคนอดตะลึงไม่ได้
ิอวี่กับพระสนมหลี่ไม่มีความแค้นต่อกัน แล้วเขาจะไปทำร้ายพระสนมหลี่ได้อย่างไร?
ในเวลานี้เอง หยางเสวี่ยหรงก็เดินออกมาคุกเข่าด้วยความเคร่งเครียด แล้วรีบพูดอธิบายว่า “ฝ่าาเพคะ เื่นี้ไม่ได้เป็อย่างที่พระสนมหลี่กล่าวมาเลยเพคะ นางต่างหากที่คิดจะทำร้ายอวี่เอ๋อร์!”
“เ้าอย่ามาเสแสร้งนะ”
เสียงของพระสนมหลี่กลบเสียงของหยางเสวี่ยหรงไปจนหมด นางสะอื้นแล้วพูดว่า “ฝ่าาเพคะ ทรงทราบหรือไม่? เมื่อสองเดือนก่อน เพราะเฟิงเอ๋อร์ของหม่อมฉันไปถูกใจนางกำนัลของตำหนักลั่วฮวาเลยพานางกลับมาที่ตำหนักอวี้เต๋อ ซึ่งหม่อมฉันเองก็รู้ว่าการกระทำของเฟิงเอ๋อร์ผิด แต่ว่า ... แต่ว่า ...”
“แต่ว่าใครจะไปคิดว่าองค์ชายสิบเจ็ดจะโกรธแล้วบุกมาที่ตำหนักอวี้เต๋อ บอกว่าตำหนักอวี้เต๋อไม่ไว้หน้าเขา ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู ดังนั้น ... เขาก็เลยฆ่าหลิวกงกงของตำหนักอวี้เต๋อทิ้ง ...”
“เฟิงเอ๋อร์คิดจะเข้าไปห้าม แต่องค์ชายสิบเจ็ดกลับตัดเส้นเอ็นของเฟิงเอ๋อร์ทิ้งทั้งหมด องค์ชายสิบเจ็ดร้ายกาจ ... ร้ายกาจถึงขนาดทำลายวรยุทธ์ของพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองทิ้ง ...”
องค์ชายสิบสามที่ถูดคัดออกไปนานแล้วก็พุ่งมาตรงหน้าของพระสนมหลี่ แล้วพูดเสียงสั่นเครือว่า “ท่านแม่ ไม่ต้องพูดแล้ว!”
เดิมทีการที่ิอวี่ทำลายวรยุทธ์ของเขาไปก็เป็เื่ที่เขาคิดว่าอัปยศที่สุดแล้ว แต่วันนี้พระสนมหลี่ประกาศให้คนทั้งใต้หล้ารู้ว่าเขาถูกิอวี่ทำลายวรยุทธ์ไปแล้ว ิเฟิงจะทนได้อย่างไรกัน?
ถึงแม้ิเฟิงจะเป็คนใจคอโเี้แต่ก็ไม่ใช่คนเ้าเล่ห์ เขาไม่รู้ว่าพระสนมหลี่กำลังวางแผนอะไรอยู่ก็เลยวิ่งเข้ามาห้ามไม่ให้นางพูดต่อ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า มันกลับทำให้สิ่งที่พระสนมหลี่กำลังทำอยู่สมจริงมากขึ้นไปอีก!
ทุกคนได้ยินกันหมด แล้วมองไปที่ิอวี่ด้วยความสงสัย
น้ำเสียงของพระสนมหลี่ที่ดูสมจริงมาก บวกกับการที่ิเฟิงถูกตัดเส้นเอ็นทำลายวรยุทธ์ไปแล้วจริงๆ ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มเชื่อในสิ่งที่นางพูด
ิเฉินเหยียนมองไปที่ิอวี่ด้วยสายตาที่เยือกเย็น จากนั้นพูดว่า “เกิดเื่แบบนี้จริงไหม?”
ถึงแม้การแก่งแย่งชิงดีกันระหว่างองค์ชายมันจะเป็เื่ปกติ แต่การที่ทำให้คนทั้งใต้หล้ารู้ว่าลูกของเขาฆ่าฟันกันเองนั้น มันทำให้ิเฉินเหยียนเสียหน้า!
เพียงแต่ ิอวี่กลับไม่ได้ตอบคำถามของิเฉินเหยียนตรงๆ แต่มองไปที่พระสนมหลี่ เขายิ้มอย่างนับถือแล้วพูดว่า “พระสนมหลี่ ความสามารถในการกลับดำให้เป็ขาวของท่าน ข้าเลื่อมใสยิ่งนัก”
“ฮือ ... เ้าอย่ามาใส่ความข้านะ!”
พระสนมหลี่ร้องไห้จนหน้าเละไปหมด แล้วตะคอกใส่ิอวี่อย่างคับแค้นใจ
“เหอะๆ ิเฟิงกับหลิวกงกงวางแผนจับตัวสาวใช้เสี่ยวซวงไปที่ตำหนักอวี้เต๋อก็เพื่อบีบให้ข้าปรากฏตัว จากนั้นพวกเ้าก็ยัดข้อหาบุกรุกตำหนัก ไม่เห็นกฎของวังหลวงอยู่ในสายตาให้กับข้า คิดจะสั่งสอนข้าแล้วก็ตัดเส้นเอ็นของข้าด้วย ดังนั้น ข้าถึงได้ฆ่าหลิวกงกงทิ้ง ส่วนิเฟิงกลับคิดจะฆ่าข้า ข้าถึงได้ต้องลงมือทำลายวรยุทธ์ของเขา”
ิอวี่ค่อยพูดต่อว่า “แล้วพระสนมหลี่ก็เหมือนจะแค้นใจมาก ถึงกับสั่งให้นักรบเืมาลอบสังหารข้า น่าเสียดายที่มันไม่สำเร็จ ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้วกระมัง?”
พอได้ยินแบบนี้ หยางเสวี่ยหรงก็อึ้งไป เดิมนางคิดไว้อยู่แล้วว่าที่ิอวี่หายตัวไปน่าจะเกี่ยวข้องกับพระสนมหลี่ แต่พอได้ยินลูกชายตัวเองเล่าออกมาว่าพระสนมหลี่ตั้งใจจะฆ่าเขา หยางเสวี่ยหรงก็รู้ว่าเื่นี้ต้องเป็ความจริงแน่นอน!
“หลี่หยวน เ้าส่งคนไปสังหารลูกชายข้าด้วยหรือ”
หยางเสวี่ยหรงมองไปที่พระสนมหลี่ด้วยสายตาที่เ็า นางเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าสีหน้าของนางนั้นมันน่ากลัวแค่ไหน
ตอนที่ลูกชายของนางถูกทำร้าย ในฐานะแม่ หยางเสวี่ยหรงรู้สึกโกรธมาก ต่อให้ก่อนหน้านี้พระสนมหลี่จะวางแผนตัดช่องทางให้นางไม่ได้รับหลิงจือโลหิตม่วงนางยังไม่โกรธขนาดนี้เลย!
เมื่อััได้ถึงสายตาที่น่ากลัวมากของหยางเสวี่ยหรง พระสนมหลี่ก็ถึงกับหลบตา นางหันไปมองิอวี่แล้วพูดว่า “เ้า ... เ้ามีสิทธิอะไรมาพูดแบบนี้ ไม่มีหลักฐาน เ้ารังแกพวกเราก่อนชัดๆ ตอนนี้ยังมาแว้งกัดเราอีก รังแกกันเกินไปแล้วนะ!”
“ถ้าอย่างนั้นสามคนนี้ ท่านรู้จักหรือไม่?”
ิอวี่หยิบถุงเก็บของออกมาใบหนึ่งจากนั้นก็สะบัดแล้วมีแสงส่องออกมา จากนั้นร่างของนักรบเืสามคนสวมชุดสีดำก็ปรากฏบนลานพลับพลา ซึ่งทุกคนได้เห็นกันทั่ว
“อะไรกัน!”
คนทั้งสามหมื่นคนอาจจะไม่รู้ แต่ว่ากรรมการที่นั่งอยู่ทั้งเก้าคนรู้ได้จากชุดของพวกเขาสามคนนั่นคือนักรบเืของหอว่านจงไม่มีผิดพลาดแน่นอน
พระสนมหลี่มองไปที่ศพทั้งสามคนแล้วก็อึ้งไป
เดิมนางคิดอยากจะสั่งสอนนักรบเืสามคนที่ไม่เอาไหนอยู่แท้ๆ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าไม่จำเป็ต้องไปสั่งสอนอะไรแล้ว เพราะพวกเขาถูกิอวี่ฆ่าตายหมดแล้ว!
ิเฉินเหยียนมองไปที่นักรบเืสามคนนั้น สายตาหรี่เล็กลงแล้วพูดว่า “มู่หลาง”
“พะยะค่ะ!” มู่หลางรีบโค้งตัวแล้วขานรับ
“บอกข้าสิ นักรบเืสามคนนี้อยู่ในสังกัดของใคร”
ิเฉินเหยียนดูแลราชกิจน้อยใหญ่ ไม่มีทางรู้ว่านักรบเืนั้นใครแบ่งไปอยู่ไหนบ้าง แต่มู่หลางในฐานะเสนาบดีกรมกลาโหม เขาต้องรู้แน่นอนว่านักรบเืทั้งหนึ่งร้อยแปดคนนั้นแต่ละคนไปสังกัดอยู่ที่ใคร
เขาพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าท่าทางลำบากใจอย่างมาก “สามคนนี้คือม่อ คู แล้วก็โยว อยู่ในสังกัดของเสนาบดีกรมคลังหลี่จง ...”
พอเขาพูดแบบนี้ออกมา ความจริงทุกอย่างก็ปรากฏ
ั้แ่เสนาบดีกรมคลังหลี่จงรับตำแหน่งเขาก็ดูแลนักรบเืทั้งหมดสิบแปดคน ซึ่งในจำนวนนั้นก็คือม่อ คู แล้วก็โยว ส่วนหลี่หยวนหรือก็คือพระสนมหลี่ก็เป็คนในตระกูลหลี่ นางเป็คนที่หลี่จงส่งมาถวายให้กับิอ๋องถึงได้เป็พระสนมอย่างทุกวันนี้
ในเมื่อพระสนมหลี่มีความแค้นกับิอวี่ นักรบเืสามคนนี้ก็อยู่ในการควบคุมของคนในตระกูลหลี่ ก็สรุปได้ว่าพระสนมหลี่ต้องคิดจะลอบสังหาริอวี่แน่นอน
หลักฐานมัดแน่นเช่นนี้ พระสนมหลี่ก็ไม่มีทางแก้ตัวได้อีก
“หลี่หยวน!”
หยางเสวี่ยหรงใช้พลังทั้งหมดที่มีในร่างกายของนาง ตบหน้าพระสนมหลี่ไปอย่างแรงจนหน้าเป็รอยมือ!
นางยอมอดทนอดกลั้นมานานหลายปี แต่พระสนมหลี่กลับข้ามเส้นที่นางขีดเอาไว้ ตบนี้ได้ระบายความอัดอั้นของนางตลอดหลายปีออกมาจนหมด!
พระสนมหลี่นั่งด้วยท่าทางเหม่อลอยอยู่ที่พื้น นางรู้ดีว่าทุกอย่างมันจบแล้ว!
“หลี่จง คิดร้ายต่อองค์ชายแห่งต้าิ สมควรได้รับโทษปะา จับไปขังคุก อีกสิบวันรับโทษ”
น้ำเสียงของิเฉินเหยียนนั้นมีอำนาจและทรงพลังมาก “หลี่หยวน สมรู้ร่วมคิด ให้ร้ายองค์ชายสิบเจ็ด ประพฤติตัวร้าย ั้แ่วันนี้ไปให้เ้าอยู่ในตำหนักอวี้เต๋อเพียงลำพัง ห้ามออกจากตำหนักแม้แต่ก้าวเดียวไปจนกว่าจะตาย ห้ามฆ่าตัวตายโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าล้างครอบครัวของเ้า”
เดิมทีวันนี้ิเฉินเหยียนอารมณ์ดีมาก ใครจะคิดว่า เริ่มจากว่าที่ลูกสะใภ้ของลูกชายสุดที่รักของเขาพ่ายแพ้ จากนั้นพระสนมหลี่ก็ยังสร้างเื่ขายหน้าต่อหน้าคนสามหมื่นกว่าคน ตอนนี้ิเฉินเหยียนอารมณ์เสียอย่างมาก
หลี่หยวนได้ยินคำพูดของิเฉินเหยียนก็อึ้งไป สายตาของนางเหมือนทุกอย่างแตกสลาย
การกักบริเวณแบบนี้มันทรมานยิ่งกว่าการฆ่านางทิ้งอีก นางต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปตลอดชีวิต สาเหตุทั้งหมดนี้มันเป็เพราะความอิจฉาริษยาของตัวเอง
นางเสียใจมาก แต่ไม่มีโอกาสได้เริ่มใหม่แล้ว
“เ้าตามข้ามา”
ิเฉินเหยียนเดินขึ้นไปจับหัวไหล่ของิอวี่ แล้วยกตัวของเขาขึ้นเหมือนหยิบลูกไก่ พริบตาเดียวก็ะโออกจากลานประลองไปเลย
พลังฝีมือของิเฉินเหยียนนั้นสูงจนคาดการณ์ไม่ได้ แค่เขาลงมือส่งๆ ก็ไม่รู้ว่าความเร็วเป็เท่าไรแล้ว ความเร็วของลมที่ซัดมามันทำให้ิอวี่ลืมตาไม่ขึ้นเลย
เมื่อถูกิเฉินเหยียนหิ้วปีกมาิอวี่ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายหัวไหล่ เขาคิดอยากจะปัดออกแต่ว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็เอามือขวาที่อยู่ตรงหัวไหล่ของเขาออกไม่ได้เลย
ไม่นาน ิเฉินเหยียนก็พาิอวี่มายังภายในตำหนักิหุน
ตำหนักิหุนเป็ตำหนักที่ิอ๋องใช้ออกว่าราชการ เป็สถานที่ประชุมของเหล่าขุนนางราชสำนัก ใต้ตำหนักมีค่ายกลที่สามารถดูดซับลมปราณแห่ง์ขนาดใหญ่อยู่ด้วย เวลาิเฉินเหยียนเก็บตัวฝึกวิชาเขาจะลงไปฝึกที่ใต้ตำหนัก แต่ละครั้งก็จะใช้เวลาหลายเดือน
ด้านนอกตำหนักิหุนมีบันไดหยกแกะสลักเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้น และในรอบรัศมีห้าสิบเมตรรอบตำหนักจะมีัและหงส์สีทองแกะสลักตั้งอยู่ ดูมีอำนาจ องอาจ ยิ่งใหญ่ และงดงาม
แค่เดินเข้ามาก็ััได้ถึงบรรยากาศที่ทรงอำนาจ!
ตอนนี้ิอ๋องยืนอยู่กลางตำหนักิหุน เขาสวมชุดัสีเหลือง เอามือไขว้หลังราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ส่วนิอวี่ก็ยืนอยู่ด้านหลังของเขา โดยไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย
ตามหลักแล้ว ิเฉินเหยียนเป็พ่อของิอวี่ เขาก็ควรจะเข้าไปทำความเคารพอย่างนอบน้อมแต่เขาไม่ได้ทำแบบนั้น คนที่ตอนนี้อยู่ห่างจากเขาแค่สองเมตร แต่ิอวี่กลับรู้สึกว่าระหว่างพวกเขามันห่างกันไกลมากจนเหมือนไม่รู้จักกัน
ไม่นานนัก ิเฉินเหยียนก็หันหลังกลับมาแล้วมองไปที่ิอวี่ จากนั้นก็โยนแหวนเก็บของให้ิอวี่วงหนึ่ง “นี่รางวัลการประลองในครั้งนี้ เก็บให้ดีล่ะ”
“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”
ิอวี่เก็บแหวนเอาไว้ ทั้งๆ ที่เขาควรจะดีใจมีความสุข แต่พอได้ยินน้ำเสียงของิเฉินเหยียนทำอย่างไรเขาก็ยิ้มไม่ออก
“เื่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทั้งหมดข้าไม่อยากพูดถึงมันอีก จำไว้ ในวังหลวง ความสามารถเท่านั้นที่จะปกป้องเ้าได้”
ิอวี่เงียบไป ผ่านไปประมาณสองวินาทีถึงได้พูดขึ้นมาว่า “อือ”
“ปีนี้ ... เ้าอายุเท่าไร?” ิเฉินเหยียนขมวดคิ้วแล้วคิด ก่อนจะเอ่ยปากถาม
พอิอวี่ได้ยินแบบนี้อารมณ์ของเขาก็หดหู่หนักกว่าเดิม แม้แต่ ... อายุของข้ายังลืมเลยหรือ? แต่เขาก็ยังเลือกที่จะตอบออกไป “สิบหก”
“อือ เมื่อครู่ข้าสำรวจร่างกายของเ้าดูแล้ว อายุสิบหกมาได้ถึงขนาดนี้ บวกกับการแสดงออกของเ้าในวันนี้ ต่อไปจะต้องมีพัฒนาการที่ดีมากแน่ เ้าต้องพยายามให้มากขึ้น อย่าได้หลงระเริง”
ยังไม่ถึงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดแต่มีร่างกายแบบนี้แล้ว ในสายตาของิเฉินเหยียนถือว่าประสบความสำเร็จประมาณหนึ่งแล้ว เขายอมรับอย่างชื่นชมก่อน จากนั้นค่อยเปลี่ยนน้ำเสียงและท่าทีเป็การตำหนิ “แต่ว่าการกระทำของเ้าที่มีต่อเยี่ยซี ข้าไม่พอใจเท่าไร”
ิอวี่ขมวดคิ้ว “ข้าไม่เข้าใจความหมายของเสด็จพ่อ”
“เยี่ยซีอวดดีก็จริง แต่เ้าก็อย่าลืมว่านางเป็คู่หมั้นของเสวียนเอ๋อร์ หรือก็คือว่าที่พี่สะใภ้ของเ้าในอนาคต วันนี้เ้าทำให้นางอับอายต่อหน้าผู้คน เยี่ยซีสำหรับข้าแล้วไม่ได้มีอะไรเลย แต่ว่าเ้ากำลังหักหน้าพี่ชายของเ้าอยู่ เ้าเข้าใจไหม?”
ิอวี่รู้ว่าเสวียนเอ๋อร์ที่ิอ๋องพูดถึงนั้นก็คือ ิเสวียน องค์ชายเก้าหนึ่งในสามอัจฉริยะปีศาจของราชสำนัก!
ิเสวียนมีชื่อเสียงอย่างมาก ได้ยินมาว่าปีนี้เขาเพิ่งจะอายุยี่สิบ แต่ก็ไปถึงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้วแล้ว พร์ของเขาสูงมากจนแทบไม่มีใครเทียบได้
เมื่อไปถึงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่ง หากคิดอยากจะทะลวงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้ว จะต้องฝึกฝนหล่อหลอมอย่างต่อเนื่อง ด้านพละกำลังก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าแต่ละคนจะมีขีดจำกัดของตัวเองในด้านกำลังอยู่ เมื่อไรก็ตามที่แตะไปถึงขีดจำกัดนั้นได้ ก็จะสามารถไปถึงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้วได้
ตามหลักแล้ว ขีดจำกัดของร่างกายคนเราจะรองรับพลังราชสีห์ได้หนึ่งหมื่นตัว! ในล้านปีที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถทลายขีดจำกัดพลังราชสีห์หนึ่งหมื่นตัวได้เลย
แต่พลังขององค์ชายเก้านั้นเพิ่มขึ้นต่อเนื่องั้แ่อยู่ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่แปดระดับประสานเป็หนึ่งแล้ว พอมาถึงขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้ว ขีดจำกัดแห่งการผนึกขั้วของเขาก็มีพลังเทียบเท่าราชสีห์เก้าพันแปดร้อยห้าสิบตัวแล้ว!
อีกทั้งร่างกายขององค์ชายเก้ายังมีพลังสายฟ้าแฝงอยู่ด้วย เวลาที่ใช้พลังแห่งสายฟ้าสามารถสร้างกระบี่เหล่ยเจี้ยนที่เทียบได้กับศาสตราวุธระดับเก้า
พร์และความสามารถที่น่ากลัวแบบนี้ มันน่าทึ่งมาก พูดได้เลยว่า องค์ชายเก้าคนนี้นี่แหละที่มีโอกาสกลายเป็ิอ๋องคนต่อไปอย่างแน่นอน!
ิอวี่เลิกคิดฟุ้งซ่าน แล้วพูดออกมาว่า “ข้าเข้าใจ”
ไม่รู้ว่าทำไม ในใจของเขากลับรู้สึกเฉยชา
“ถึงแม้เสวียนเอ๋อร์จะใจกว้าง ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเ้า แต่หลายคนในวังหลวงล้วนแต่เป็ห่วงความรู้สึกของเสวียนเอ๋อร์ วันนี้เ้าล่วงเกินคนพวกนั้น ต่อไปเ้าจะต้องถูกผลักไสจากพวกเขาเป็แน่”
ิเฉินเหยียนพูดว่า “ต่อไปเสวียนเอ๋อร์อาจจะได้เป็รัชทายาท ในฐานะที่เ้าเป็น้องก็ควรจะอยู่ข้างกายคอยช่วยเหลือ ไม่ใช่ถูกคนอื่นผลักไสไล่ส่ง ข้าไม่อยากเห็นพวกเ้าพี่น้องต้องมาผิดใจกันแบบนี้”
ิอวี่ค่อยๆ กำหมัดแน่น ในใจรู้สึกอึดอัดและทรมานอย่างบอกไม่ถูก แต่เขาก็พยายามจะรักษาการให้เกียรติคนที่ได้ชื่อว่าเป็พ่อ “ได้ ต่อไปข้าจะไม่ให้เกิดเื่แบบนี้ขึ้นอีกพะยะค่ะ”
“เ้าเข้าใจก็ดีแล้ว”
ิเฉินเหยียนพยักหน้าแล้วพูดว่า “อีกไม่กี่วันเสวียนเอ๋อร์ก็จะกลับมาจากการฝึก ถึงเวลานั้น เ้าก็เตรียมยาจูหยวนตันสามล้านเม็ดไปขอโทษเสวียนเอ๋อร์กับเยี่ยซีในงานเลี้ยงฉลองก็แล้วกันนะ ด้วยการแสดงท่าทีของเ้า เื่นี้จะได้จบ”