นางไม่อธิบาย เพียงตอบอย่างเ็า
“อย่าเพิ่งพูด รอข้าจัดการเื่นี้ให้เสร็จก่อน”
หนิงโม่าเ็หนัก เสิ่นม่านใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง จวบจนพลังงานถูกใช้จนหมด อาการาเ็ในร่างกายของเขาถึงได้หายไปหมดสิ้น รอจนแสงจากมือคู่นั้นหายไปช้าๆ เสิ่นม่านค่อยๆ ลืมตาขึ้นและถอนหายใจยาวหนึ่งครั้ง
“ฟู่… ในที่สุดก็หาย หากไม่ได้ข้าช่วย เ้าคงตายไปแล้ว”
หนิงโม่: เหมือนจะเป็เพราะเ้ามากกว่า ข้าจึงได้เกือบตายเช่นนี้?
สายตาคู่หนึ่งจับจ้องมือของนางที่ไม่ยอมเอาออกไปเสียที พร้อมกับกัดฟันกรอด “เ้าจะจับมือข้าไปอีกนานแค่ไหน?”
เสิ่นม่านตกตะลึง นางหันไปมองก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของเขาบัดนี้กำลังแดงระเรื่อ ชั่วขณะนั้นลืมไปว่าตนอยู่ในยุคสมัยใด จึงอดไม่ได้ที่จะบ่น
“ข้าช่วยชีวิตเ้าไว้ คิดกำไรนิดๆ หน่อยๆ จะเป็อะไรไป? เ้าเป็ชายอกสามศอกแต่กลับตระหนี่ แค่จับมือไม่มีทางท้องหรอกน่า!”
ทำตัวอันธพาลแล้วยังจะอ้างเหตุผลมากมายอีกหรือ?! นี่มันวาจาดั่งเสือสิงห์กระทิงแรดชัดๆ!
หนิงโม่สะบัดมือของนางออกและหันหลังด้วยความรังเกียจ
“ข้าเคยบอกว่าข้ามีคนในดวงใจแล้ว เสิ่นม่านเหนียง ข้าหวังว่าเ้าจะเข้าใจเื่ความเหมาะสม”
ทว่ากลับได้ยินคำตอบเฉยเมยไร้อารมณ์จากอีกฝ่าย “ข้ารู้แล้วน่า วางใจได้ ข้าไม่มีทางพรากพวกเ้า ข้าไม่ได้สนใจเ้า”
หนิงโม่ “...” ไม่สนใจแล้วเ้ายังมาจับมือข้าเนี่ยนะ?! ไม่สนใจแต่กลับทำทุกวิถีทางเพื่อล่วงเกินข้าเช่นนี้น่ะหรือ?!
เขาส่งเสียงฮึดฮัด ไม่รู้ว่าจุกอกกับคำพูดของนางหรืออย่างไร เขาเบือนหน้าหนีและชี้ไปทางประตู
“ออกไป!”
เสิ่นม่านกะพริบตาปริบๆ ไม่ว่าอย่างไร อีกฝ่ายก็คิดว่านางคืออันธพาลหญิงไปแล้ว นางคร้านจะอธิบาย จึงตัดสินใจทำหน้าด้านต่อไป
“ไม่! นี่คือบ้านของข้า เ้ากินของข้า อาศัยกับข้า ข้ายังต้องรับผิดชอบรักษาอาการาเ็ของเ้า เ้าไม่ซาบซึ้งข้าไม่พอ ยังไม่ให้ข้าแตะต้องเ้าอีก? บนโลกนี้ไม่มีเื่ดีๆ เช่นนี้หรอก!”
ดั่งคาด พอคำพูดนี้ถูกโพล่งออกไป ใบหน้าของหนิงโม่ก็แดงระเรื่ออีกครั้ง ครั้งนี้แดงั้แ่ใบหูจนถึงลำคอ
เสิ่นม่านจ้องมองชายหน้าแดงคนนี้ พลันรู้สึกว่าเขาก็… น่ารักดี? อีกฝ่ายไม่พูดจา นางอดไม่ได้ที่จะใช้มือจิ้มแก้มนุ่มนิ่มของเขา
อีกฝ่ายสวมเพียงเสื้อตัวในสีดำ มองดูแล้วช่างเซ็กซี่เย้ายวนใจ โดยเฉพาะเสื้อหลุดลุ่ยเล็กน้อยที่ไม่รู้ว่าคลายตัวั้แ่เมื่อใด ขณะนี้เสิ่นม่านกำลังจ้องเข้าไปในคอเสื้อลึกและเห็นไหปลาร้าของเขา
อืม แม้ว่ากล้ามหน้าอกจะไม่ได้ใหญ่นัก แต่ก็สวยงามดูดี ทั้งยังมีซิกแพ็กเนื้อแน่นเรียงกันอย่างเป็ระเบียบ แม้ว่าร่างกายจะดูผอมไปหน่อย แต่สิ่งที่ควรมีกลับไม่ขาดไปแม้แต่น้อย!
มารดาเถิด นี่คือร่างกายที่ขาดสารอาหารมายี่สิบกว่าปีจริงหรือ ขัดกับหลักวิทยาศาสตร์เหลือเกิน…
ในฐานะสาวทะลึ่งจากยุคศตวรรษที่ยี่สิบสอง เสิ่นม่านรู้สึกเพียงว่าเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าแล้ว นางถึงกับตาลายและจิตใจฟุ้งซ่านเตลิดไปไกล ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกราวกับมีบางอย่างพุ่งจากท้องน้อย่ล่างขึ้นสู่สมองฉับพลัน
นางมีลางสังหรณ์ไม่ดีจึงรีบเงยหน้าขึ้นทันที ยังไม่ทันจะได้ยื่นมือไปปิดจมูก เืกำเดาอุ่นๆ ก็หยดติ๋งๆ ลงบนหน้าอกเปลือยที่เผยอออกมานอกเสื้อของคนบางคน
ให้ตายสิ เืกําเดาไหล!
หนิงโม่สูดลมหายใจเข้าลึกและตวาดอย่างมีน้ำโห
“เสิ่น ม่าน เหนียง!”
เขาลุกพรวดขึ้นและจับนางกดไว้กับเตียง มือข้างหนึ่งออกแรงบีบคอของนาง “อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเ้านะ!”
เสิ่นม่านทุรนทุรายอยากดิ้นให้หลุด แต่กลับไม่สามารถหลุดได้ ภายใต้สถานการณ์คับขัน มือข้างหนึ่งของนางคว้าเจอท่อนไม้ที่หล่นจากหลังคา จึงฟาดใส่ท้ายทอยของอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล
นางอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายคลายมือรีบเปลี่ยนเป็ฝ่ายรุก แล้วจับชายหนุ่มกดไว้เบื้องล่างแทน
ไม่รู้เพราะเรี่ยวแรงที่มากเกินไป หรือเพราะความเคยชิน นางขึ้นตะครุบตัวเขาไว้ แต่ริมฝีปากบังเอิญไปประกบกับริมฝีปากของชายหนุ่มพอดี
ขณะเดียวกัน พลังงานในสมองพุ่งขึ้นไปถึงร้อยละหกสิบ
เสิ่นม่าน “!”
นางรู้สึกเหลือเชื่อจนถึงกับดวงตาเบิกกว้างมองดูคนเบื้องล่างที่อึ้งไป
คงเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาอยู่นานและท่าทางเขาใกล้จะะเิความโมโหเต็มที เสิ่นม่านจึงแข็งใจประกบริมฝีปากนั้นอีกหนึ่งรอบ!
คราวนี้ พลังงานพุ่งขึ้นจนเต็มช่อง
แม้การกระทำนี้สำหรับหนิงโม่แล้วจะไม่ได้รับความาเ็ใดๆ แต่การเป็ผู้ถูกกระทำอย่างเหยียดหยามนั้นช่างเกินจะทนไหว ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนอง
วินาทีถัดมา นางก็ต้องตอบแทนกลับไปด้วยการถูกถีบกระเด็นลอยไปกระแทกกับประตู
ตูม!
เสิ่นม่านกระแทกกับประตูจนจุก ขณะที่กำลังวิงเวียนตาลาย สมองก็แน่ใจได้หนึ่งเื่ ความเร็วในการชาร์จพลังงานขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้ชายคนนี้!
จูบทั้งสองครั้งทำให้หนิงโม่โกรธจัด เมื่อสภาพอารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน ความเร็วในการชาร์จพลังงานของระบบก็เพิ่มขึ้น!
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นางจะทันได้ดีใจ กระบี่เย็นเฉียบก็พุ่งเข้ามา สายเกินไปที่จะหลบ เสิ่นม่านรีบออกแรงทั้งหมดที่มีและใช้สองมือไปรับการฟาดฟันนี้ไว้
กระบี่คมกริบกรีดผ่านเนื้อบนฝ่ามือของนาง เืซึมออกมาในทันที
เสิ่นม่านอดทนต่อความเ็ปและจ้องมองดวงตาของหนิงโม่ที่เยือกเย็นเข้ากระดูก จากนั้นส่งเสียงต่ำ “หากฆ่าข้า บนโลกนี้จะไม่มีผู้ใดสามารถช่วยรักษาโรคของเ้าได้ เ้าต้องคิดให้ดี!”
หนิงโม่แสยะยิ้ม ปลายกระบี่เคลื่อนเข้าใกล้ลำคอของนาง จากนั้นเขาพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ชั่วชีวิตนี้ของข้า สิ่งที่เกลียดชังที่สุดคือถูกผู้อื่นข่มขู่”
เมื่อปลายกระบี่บาดเข้าิัที่ลำคอ เสิ่นม่านร้อนใจดุจไฟแผดเผาในอก ชั่วสายฟ้าฟาดนั้น นางตัดสินใจงัดลูกไม้สุดท้ายออกมา
“เ้าสงสัยมาตลอดไม่ใช่หรือว่าข้าคือใคร? เช่นนั้นข้าจะบอกเ้า ข้ามีความลับที่ไม่อาจบอกผู้ใดได้จริงๆ!”
มือของหนิงโม่ที่จับกระบี่ไว้ชะงักและมองนางด้วยแววตาเ็า ชัดเจนว่าไม่เชื่อคำพูดบ้าบอของอีกฝ่าย
แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือ
เสิ่นม่านรู้ว่าภายในใจของเขาหวั่นไหว นางกลืนน้ำลายก่อนที่จะเบนหน้าหลบไปอีกทางเพื่อออกห่างจากคมกระบี่
ให้ตายสิ ยื่นคอก็เจอกระบี่ หดคอก็ยังเจอกระบี่ นางจะงัดไม้ตายออกมาแล้วนะ!
เสิ่นม่านเปล่งเสียงดัง “พลังงานปาลาลา!”
“ฉันอยู่นี่”
เสียงหุ่นยนต์สาวดังขึ้นในสมอง เสิ่นม่านเงยหน้าขึ้นมองและชี้ไปทางชายหนุ่มตรงหน้า จากนั้นพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“เปิดโหมดสะกดจิต!”
“โหมดสะกดจิตยังไม่สมบูรณ์ ้าบังคับใช้งานหรือไม่?”
“ใช่!”
“โหมดสะกดจิตเริ่มทำงาน”
เคร้ง!
กระบี่ตกลงสู่พื้น โหมดสะกดจิตทํางานแล้ว!
เสิ่นม่านจมูกบาน แววตาจับจ้องหนิงโม่ที่อยู่ตรงหน้าและเอ่ยถาม
“ข้าเป็ใคร?”
ใบหน้าของหนิงโม่ไร้ซึ่งความรู้สึก เพียงแต่ั์ตาที่เดิมทีเหมือนก้นทะเลสาบดำล้ำลึก ขณะนี้กลับดูเหมือนบึงน้ำนิ่งไร้ระลอก
เขาเอ่ยอย่างเชื่องช้า “เสิ่นม่านเหนียง”
เยี่ยมมาก เสิ่นม่านถอนหายใจด้วยความโล่งอกและสบตาอีกฝ่าย ั์ตาคู่สวยค่อยๆ เป็ประกาย
“ต่อไป เ้าต้องให้ข้ายืมร่างกายของเ้าโดยไม่มีข้อแม้ ขอเพียงข้า้า เ้าต้องปฏิบัติตามคำสั่ง เข้าใจหรือไม่?”
หนิงโม่พยักหน้าช้าๆ “เข้าใจแล้ว”
เสิ่นม่านพินิจอยู่พักหนึ่งและเสริมว่า “ข้อตกลงนี้จะมีผลไปตลอดชีวิต”
หนิงโม่พยักหน้าอีกครั้ง “เข้าใจแล้ว”
เยี่ยมยอด!
เล่นละครอลเวงอยู่นานค่อนวัน สุดท้ายยังมิสู้การสะกดจิตที่ได้ผลชะงัด! ตราบใดที่การสะกดจิตทำงานได้ดี ไม่มีทางที่นางจะจัดการอะไรไม่ได้!
เสิ่นม่านยิ้มด้วยความพอใจ พร้อมกับเผยให้เห็นฟันขาวเรียงตัวสวยงาม จากนั้นลูบศีรษะของหนิงโม่อย่างพึงพอใจและเป็ธรรมชาติ
“ค่อยว่าง่ายหน่อย เชื่อฟังแบบนี้ั้แ่แรกก็จบ”
-----