เมิ่งเฉิงเจ๋อนั่งในท่วงท่าเอ้อระเหยอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือ โบกพัดจีบในมือไปเรื่อยๆ
"นายน้อย สถานการณ์การาเ็ล้มตายของฝ่ายเราได้ผลออกมาแล้ว ผู้คุ้มกันตายไปแปดคน าเ็สามสิบห้าคน ในจำนวนนั้นมีเจ็ดคนที่าเ็สาหัส ที่เหลือล้วนาเ็เพียงเล็กน้อยขอรับ" พ่อบ้านยืนค้อมกายรายงานในตำแหน่งที่ห่างออกไปห้าก้าว
"อืม จ่ายเงินทำขวัญตามกฎเดิม ผู้คุ้มกันที่าเ็สาหัสให้ส่งไปรักษาในเมืองที่ใกล้ที่สุดก่อน" เมิ่งเฉิงเจ๋อโบกพัดช้าๆ "แล้วก็แวะแจ้งเ้าหน้าที่ทางการให้มาจัดการเื่หลังจากนี้ให้เรียบร้อย"
"ขอรับ นายน้อย" พ่อบ้านถอยออกไป
"นายน้อย เื่วันนี้จะต้องมีคนบงการอยู่เื้ัแน่นอน" หญิงสาวหน้าตาสะสวยสวมเสื้อสีม่วงกระโปรงสีขาวยกน้ำชาที่เพิ่งชงมาใหม่วางบนโต๊ะเตี้ยเคลือบเงาด้านข้าง
เมิ่งเฉิงเจ๋อยังคงอยู่ในท่วงท่าเอ้อระเหยเช่นเดิม เขาโยนพัดจีบไปบนโต๊ะ แล้วยกถ้วยชาขึ้นจิบคำหนึ่ง
ดวงเนตรดอกท้อเพ่งมองไปยังศพของหงสือซานที่อยู่ด้านหน้าไม่ไกลนัก
หลายปีมานี้วาณิชสกุลเมิ่งเติบโตแบบก้าวะโ ศัตรูมีไม่น้อย แต่ศัตรูแม้จะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็สู้ญาติจอมละโมบไม่รู้จักพอเ่าั้ไม่ได้
อยากเอาชีวิตเขา ก็ต้องดูว่าผู้ใดมีความสามารถเยี่ยงนั้น มุมปากของเมิ่งเฉิงเจ๋อหยักโค้งเป็รอยยิ้มอย่างไม่นำพา
เซวียเสี่ยวหรั่นพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกคลื่นเหียนและใจสั่นจูงเซวียเสี่ยวเหล่ยเดินจากท้ายขบวนมาจนถึงด้านหน้าสุด เห็นชายวัยกลางคนแต่งกายแบบพ่อบ้านยืนกำกับเหล่าผู้คุ้มกันให้เก็บกวาดพื้นที่ สองพี่น้องจึงเดินเข้าไป
รอจนกระทั่งชายผู้นั้นสั่งการลูกน้องเสร็จเรียบร้อย เธอสบโอกาสรีบตรงเข้าไปอธิบายเป้าหมายที่มา
พ่อบ้านมุ่นคิ้วขมวด คาราวานของพวกเขาถูกโจรป่าโจมตี จึงไม่เหลือคนมากพอไปดูแลรถม้าด้านหลังเ่าั้
ไม่นึกว่าพวกเขาจะถูกโจรป่าโจมตีเหมือนกัน
"ต้าเหนียงจื่อโปรดรอสักครู่ ข้าจะเข้าไปแจ้งนายน้อยก่อนค่อยให้คำตอบ"
เซวียเสี่ยวหรั่นรีบพยักหน้า พ่อบ้านเดินไปที่รถม้าสีแดงม่านโปร่งสีขาวพลิ้วไสวคันนั้น
สองพี่น้องเดินขึ้นหน้าสองสามก้าวตามพ่อบ้านผู้นั้นไป
เมื่อวานฝนตก พื้นดินยังชื้นแฉะ รถขนสินค้าเปรอะเปื้อนดินโคลน ขับเสริมให้อาภรณ์สีขาวกระจ่างตาเป็พิเศษ ชายหนุ่มภายใต้อาภรณ์สีหิมะชุดนั้นก็เจิดจรัสไม่แพ้กัน
ชุดตัวยาวขาวบริสุทธิ์ที่เขาสวมใส่ แขนเสื้อและชายเสื้อปักลวดลายวิจิตรประณีต เอวสอบแคบแขนเสื้อกว้าง รูปร่างสูงโปร่ง คิ้วเรียวเนตรหงส์ หางตาเฉียงขึ้น เป็คุณชายผู้สง่างามที่ไม่อินังขังขอบต่อโลก
มีสตรีแต่งกายสาวใช้สองคนยืนอยู่ด้านหลัง หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา รูปร่างงดงามอรชร มองดูก็รู้ว่าเป็โฉมงาม
จิ๊ๆ เซวียเสี่ยวหรั่นจุปากในใจ ออกมาทำการค้ายังพาสาวใช้หน้าตางดงามออกมาด้วย นายน้อยเมิ่งผู้นี้ไม่รู้จะหน้าใหญ่ใจโตขนาดไหน
พ่อบ้านผู้นั้นเข้ามากระซิบสองสามประโยคข้างหู เขามุ่นคิ้วเล็กน้อย เหลือบสายตามาทางพวกเขาพี่น้อง
เซวียเสี่ยวหรั่นรีบก้มหน้าลงเล็กน้อย
เมิ่งเฉิงเจ๋อเห็นคู่พี่สาวน้องชายแต่งกายเรียบง่ายยืนอยู่ไม่ไกล ทำให้นึกถึงรถม้าที่ติดตามอยู่ท้ายขบวนสินค้าของตน
บ้านเมืองไม่สงบสุข ระหว่างการเดินทางไกลโจรผู้ร้ายชุกชุม คนจรที่ติดตามท้ายขบวนสินค้ามีให้เห็นไม่น้อย ั้แ่พวกเขาออกมาจากท่าเรือเจิ้นเจียง รถม้าที่ติดตามระหว่างทางก็มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมิ่งเฉิงเจ๋อมิได้นำพา ตราบใดที่พวกเขาไม่ถ่วงเวลาเดินทาง ผู้ใดอยากจะตามก็สุดแล้วแต่
ไม่นึกว่าโจรป่ากลุ่มนี้จะถึงขนาดแล่นไปทำร้ายผู้คนที่อยู่ด้านหลัง
"ลุงต่ง เจียดยารักษาแผลให้พวกเขาหนึ่งชุดเถอะ"
เมิ่งเฉิงเจ๋อโบกมือ คนไม่ตายก็ดี ไม่ต้องเสียเวลาวุ่นวายในการจัดการ
"ขอรับ" ต่งชิ่งค้อมกายรับคำ
เมิ่งเฉิงเจ๋อจิบชาต่อ สีหน้าแสดงความเบื่อหน่ายเป็ที่สุด แต่สมองกลับครุ่นคิดตลอดเวลา เ้าโง่ผู้นั้นถึงกับกล้าซื้อตัวโจรป่า สมองคงใช้งานไม่ได้แล้วกระมัง แต่ก็ทำให้มีเหตุผลที่จะจัดการเขาพอดี
มุมปากทอยิ้มทรงเสน่ห์ หางตาที่กวาดมองไปเรื่อย จู่ๆ ก็หยุดอยู่ที่บางแห่ง
"ลุงต่ง"
เซวียเสี่ยวหรั่นรับยาจินชวงกับผ้าพันแผลสีขาว ยิ้มกล่าวขอบคุณพ่อบ้านต่ง ก่อนจูงเซวียเสี่ยวเหล่ยหมุนตัวเตรียมจะจากไป
เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว พ่อบ้านต่งก็วิ่งมารั้งให้อยู่ก่อน
"ต้าเหนียงจื่อ นายน้อยของพวกเราเชิญพบขอรับ"
นายน้อยเมิ่งเชิญพบ? เซวียเสี่ยวหรั่นอึ้งงัน เมื่อครู่ตอนที่ขอยา ไม่เห็นถามสิ่งใด ไฉนพอจะไป กลับเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปหา
"คือว่า... พ่อบ้านต่ง นายน้อยของพวกท่านมีธุระอันใดหรือ าแของคนเจ็บจำเป็ต้องใส่ยาให้ทันท่วงที"
เซวียเสี่ยวหรั่นปรายตามาที่เงาสีขาวข้างรถม้าพลางเอ่ยถามอ้อมๆ
"ต้าเหนียงจื่อเข้าไปก็จะรู้เอง" ต่งชิ่งทำท่าผายมือเชิญ
เซวียเสี่ยวหรั่นทำตาปริบๆ เอาเถิด ผู้อื่นอุตส่าห์มีไมตรี ก็ต้องไว้หน้ากันบ้าง
เซวียเสี่ยวเหล่ยเงยหน้าขึ้นมอง "พี่สาว จะให้ข้ากลับไปหาหลางจวินก่อนหรือไม่" ั์ตาของเขาฉายแววหวาดวิตก
เซวียเสี่ยวหรั่นตบมือเขาเบาๆ เด็กคนนี้พอผ่านประสบการณ์การถูกโจรป่าโจมตีกะทันหัน แม้แต่ต้นไม้ใบหญ้าก็ยังเห็นเป็ศัตรู
"ไม่ต้อง พวกเราไปดูกันเถอะ"
ขบวนสินค้าสกุลเมิ่งยิ่งใหญ่เช่นนี้ ตามหลักการแล้วไม่ควรสร้างความลำบากให้คนรากหญ้าต่ำต้อยอย่างพวกเขา
เซวียเสี่ยวหรั่นไม่คิดเข้าข้างตนเองว่าเป็ที่หมายตา การรั้งตัวพวกเขาไว้ก็คงเพราะมีเื่สอบถาม
สาวใช้สองคนที่อยู่หลังผู้อื่นต่างก็หน้าตาสะสวย
"นายน้อย นี่คือเหลียนต้าเหนียงจื่อกับน้องชายขอรับ" ต่งชิ่งพาคนเข้ามา
"อื้อ นายน้องเมิ่ง" เซวียเสี่ยวหรั่นไม่เข้าใจพิธีรีตองของทางนี้ จึงเพียงแค่ค้อมกายให้เขาเล็กน้อย
พอได้เห็นระยะใกล้ เซวียเสี่ยวหรั่นก็พบว่า บุรุษผู้นี้หน้าตาดั่งปิศาจจำแลง รูปงามจนไม่รู้จะพรรณนาอย่างไร หากไม่สังเกตให้ดี ยังนึกว่าเป็โฉมสะคราญผู้หนึ่ง
ขณะที่เธอลอบมองเขาอย่างพินิจ เมิ่งเฉิงเจ๋อก็เพิ่งพิศเธออยู่เช่นกัน
หญิงสาวอายุน้อยมุ่นมวยผมเยี่ยงสตรีที่ออกเรือนแล้ว ดวงหน้าน้อยขาวใสเกลี้ยงเกลา แลดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง ดวงตาสุกใสกำลังกะพริบปริบๆ
"ต้าเหนียงจื่อ" เขาคุ้นชินกับการมีรอยยิ้มประดับมุมปาก ใบหน้าจึงมีเสน่ห์ขึ้นหลายส่วน
เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นแล้วก็ทอดถอนใจ รอยยิ้มโฉมสะคราญเช่นนี้ น่าจะเป็ยิ้มปิศาจที่แลดูร้ายกาจแต่ก็เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์น่าหลงใหล มิน่าถึงกล่าวว่าเมิ่งเฉิงเจ๋อผู้นี้เป็บุรุษในฝันของสาวน้อยทั่วเมืองชางตาน
แน่นอนว่าเซวียเสี่ยวหรั่นเพียงคิดในใจ แต่ใบหน้ายังคงรักษารอยยิ้มตามมารยาท "มิทราบว่านายน้อยเมิ่งเรียกข้ากับน้องชายมามีสิ่งใดชี้แนะ"
ท่าทีตอบสนองที่เรียบเฉยของนางทำให้เมิ่งเฉิงเจ๋อเลิกคิ้ว เนตรหงส์เรียวแฝงแววสืบเสาะค้นหา
หญิงสาวที่พบเขาแล้ววางตัวเรียบเฉยเช่นนี้มีไม่มาก
เมิ่งเฉิงเจ๋อกวาดมองคนั้แ่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง
เสื้อสีเหลืองอ่อนกระโปรงสีงาช้างล้วนเป็ผ้าฝ้ายเนื้อนิ่มที่แสนจะธรรมดา รูปแบบเรียบง่ายไม่มีปักลวดลายใดๆ ทั้งสิ้น
แถบผ้าสีอ่อนที่รัดมวยผมดำสนิทพลิ้วไหวไปตามลม ไร้เครื่องประดับ แม้แต่ต่างหูก็ไม่สวม เรียบง่ายเสียจนมิอาจเรียบง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว
เมิ่งเฉิงเจ๋อยังพบว่าติ่งหูของนางเกลี้ยงเกลาไม่แม้แต่จะเจาะหู
นี่คือสิ่งที่น่าแปลกใจที่สุด ควรรู้ว่าต่อให้ฐานะครอบครัวยากจนข้นแค้นเพียงใด หากมีบุตรสาวล้วนแต่ต้องให้พวกนางสวมต่างหู
เขาโตมาขนาดนี้ เดินทางไปสถานที่ต่างๆ ไม่น้อย นี่เป็ครั้งแรกที่ได้เห็นสตรีไม่สวมต่างหู
เขาค่อนข้างจะตกตะลึง สายตาคมปลาบอย่างเห็นได้ชัด
เซวียเสี่ยวหรั่นมุ่นคิ้ว คนผู้นี้มีเื่อะไรกันแน่ เอาแต่จ้องเธอทำไม?
จู่ๆ เซวียเสี่ยวเหล่ยก็สลัดจากมือของเธอ ก้าวออกไปยืนขวางหน้าเซวียเสี่ยวหรั่น บดบังเธอไว้ครึ่งตัว ดวงตากลมโตจ้องเมิ่งเฉิงเจ๋ออย่างหวาดระแวง
เมิ่งเฉิงเจ๋อพูดไม่ออก บ้าฉิบ ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดคิดว่าตนเองเป็พวกเ้าชู้บ้ากามเสียแล้ว
