หลงอวี้ออกจากหอผู้าุโมา หลังจากนั้นก็เปิดม้วนคัมภีร์ดูรายละเอียดในนั้น
“ผู้าุโอวึ้แห่งลัทธิเราได้รับาเ็จากการโจมตีของลัทธิพันไหม จำเป็ต้องใช้สมุนไพรพิเศษจำนวนหนึ่งมาหลอมยาโอสถเพื่อรักษา”
“ในฐานะที่เป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษของลัทธิ จึงมีภารกิจให้มุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของหุบเขาแห่งอสรพิษเวหาและเก็บสมุนไพรสามชนิดกลับมา ภารกิจครั้งนี้ จะมีการจัดกลุ่มลูกศิษย์ระดับพิเศษในการทำภารกิจทั้งหมดห้ากลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีผู้คุมกฎท่านหนึ่งเป็ผู้นำ”
“กลุ่มที่สี่ มีสมาชิกทั้งหมดสามคนดังนี้ หลัวไท่หลง หลงอวี้ เมิ่งเช่อ โดยมีผู้คุมกฎถานอู๋โจวเป็ผู้นำ”
“สมุนไพรที่ต้องเก็บมาคือ หญ้าเศียรั ลูกโอ๊กไร้ดอก ดอกอวี้กวน!”
พออ่านเนื้อหาในภารกิจเสร็จ หลงอวี้ก็ตาเป็ประกายเ็าทันที
ภารกิจนี้คือการตามหาสมุนไพรเพื่อทำยารักษาแผลให้กับผู้าุโอวี้นั่นเอง!
สำหรับภารกิจนี้ หลงอวี้ต้องยอมรับไว้ด้วยความยินดีอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีรางวัลเขาก็เต็มใจจะทำอย่างสุดความสามารถ ถึงอย่างไรสาเหตุที่ผู้าุโอวี้ได้รับาเ็ก็เพราะช่วยเขากับหลิงหานไว้
เพียงแต่ ภารกิจนี้ระบุให้เขาร่วมกลุ่มกับหลัวไท่หลงและเมิ่งเช่อ อีกทั้งยังให้ถานอู๋โจวเป็ผู้นำด้วย!
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่เป็กับดัก!
ก่อนหน้านี้หลงอวี้ได้ฆ่าฉินเทียนเชวี่ยลูกศิษย์ของถานอู๋โจวไป และฆ่าพ่อบุญธรรมของหลัวไท่หลง หลัวเฉิงฮุย ด้วย
หากร่วมกลุ่มกับสองคนนี้ ทันทีที่เข้าหุบเขาแห่งอสรพิษเวหาไป หลงอวี้จะไปมีโอกาสรอดชีวิตได้อย่างไร?
ไม่ว่าหลงอวี้จะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ตัวเขาในตอนนี้ก็ยังไม่สามารถเผชิญหน้ากับถานอู๋โจวที่อยู่ในขอบเขตระดับิญญาแท้ได้อยู่ดี!
“วางแผนกันดีจริงๆ นะ!”
หลงอวี้ตาเป็ประกายเ้าเล่ห์
เ้าอู่เจี้ยนซินคิดว่าแค่นี้ก็จะสามารถจัดการหลงอวี้ผู้นี้ได้แล้วอย่างนั้นหรือ
“ข้าหลงอวี้ไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น!”
หลงอวี้คิดในใจ ต่อให้ถานอู๋โจวที่เป็ยอดฝีมือระดับิญญาแท้คิดจะลงมือฆ่าเขาระหว่างทางจริงๆ ก็ไม่มีทางทำสำเร็จง่ายๆ!
หญ้าเศียรั ลูกโอ๊กไร้ดอก ดอกอวี้กวน สมุนไพรทั้งสามชนิดนี้ล้วนต้องเข้าไปในส่วนลึกของหุบเขาเท่านั้นถึงจะพบเห็น
ครั้งก่อนตอนที่หลงอวี้มุ่งหน้าไปยังหุบเขาและได้พบกับราชันอสรพิษเวหา อันที่จริงแล้วเขายังอยู่แค่ส่วนกลางของหุบเขาเท่านั้น หากเข้าไปถึงส่วนลึก เขาจะได้พบกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า หรืออาจได้พบกับสัตว์อสูรที่สามารถสร้างิญญาแท้ได้เลยทีเดียว!
ในแผ่นดินเทียนอวี้นั้น หากสัตว์อสูรสามารถรับรู้ถึงฟ้าดินและฝึกฝนบำเพ็ญพลัง พวกมันก็สามารถสร้างิญญาแท้ขึ้นมาได้เช่นกัน กลายเป็ตัวตนที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ระดับิญญาแท้เลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้เอง การเข้าไปยังส่วนลึกของหุบเขาในภารกิจครั้งนี้จึงจำเป็ต้องมีคนที่อยู่ในระดับิญญาแท้นำกลุ่มไปด้วยคนหนึ่ง เพื่อรับประกันความปลอดภัยของเหล่าลูกศิษย์
“ไปฝึกฝนที่หุบเขาลัทธิสามวันก่อนก็แล้วกัน ทำให้พลังแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น ค่อยไปเยี่ยมผู้าุโอวี้ จากนั้นก็เตรียมตัวออกเดินทางได้เลย”
กำหนดการออกเดินทางเข้าไปยังหุบเขาถูกตั้งไว้ห้าวันหลังจากนี้
พอเขาวางแผนเรียบร้อยแล้วก็มุ่งหน้าไปทางหุบเขาลัทธิด้วยความรวดเร็ว
......
ลัทธิสยบฟ้า หุบเขาลัทธิ
นี่คือสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับลูกศิษย์ที่้าฝึกฝนเคล็ดสยบฟ้า เป็รากฐานของลัทธิสยบฟ้าเลยทีเดียว!
หุบเขาแห่งนี้ เริ่มแรกมันคือสถานที่ที่ผู้ก่อตั้งลัทธิสยบฟ้าใช้ฝึกฝนบำเพ็ญพลัง หลังจากนั้นเขาก็บรรลุกฎเกณฑ์ฟ้าดินแห่งการกดทับได้ จึงได้ก่อตั้งลัทธิสยบฟ้าขึ้นมา ก่อนจะพัฒนากลายเป็หนึ่งในเจ็ดสำนักลัทธิใหญ่ของอาณาจักรต้าถัง
ผู้ก่อตั้งลัทธิสยบฟ้าได้สลักตัวอักษรจำนวนไม่น้อยไว้ทั่วทั้งหน้าผาของหุบเขาลัทธินี้ แต่ละเส้นแต่ละตัวอักษรมันล้วนเชื่อมต่อกับฟ้าดินทั้งสิ้น แฝงด้วยพลังแห่งการกดทับที่ลึกล้ำสุดขีด!
หากลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้าได้ฝึกฝนในหุบเขาลัทธิ ความเร็วในการบรรลุกฎเกณฑ์ฟ้าดินแห่งการกดทับจะเร็วกว่าปกติสิบเท่าเป็อย่างน้อย
เพียงแต่ว่า พลังกดทับที่อยู่ในหุบเขานั้นมีปริมาณที่จำกัด ใช้ฝึกพร้อมกันได้แค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น
ในหุบเขาลัทธิ สามารถฝึกพร้อมกันได้สุดแค่สามคนเท่านั้น
หากมีคนเข้าฝึกเกินมาหนึ่งคน พลังกดทับที่อยู่ภายในนั้นจะมีไม่พอ ประสิทธิภาพในการฝึกของทุกคนในนั้นจะลดลงอย่างมากทันที
ด้วยเหตุนี้เอง จึงจำเป็ต้องจำกัดเวลาสำหรับการเข้าฝึกในหุบเขาลัทธิลูกศิษย์ระดับพิเศษทุกคน สองวันบ้าง สามวันบ้างแล้วแต่อันดับ
ยิ่งอันดับสูงก็ยิ่งได้เวลาฝึกในหุบเขาลัทธิในแต่ละเดือนนานขึ้น
ตอนที่หลงอวี้มาถึงหุบเขาลัทธิ ก็พบว่ามันเป็หุบเขาขนาดเล็กแห่งหนึ่ง แต่พลังที่เล็ดลอดออกมาจากภายในหุบเขาก็ทำให้เขาััได้ว่าที่แห่งนี้ต้องไม่ใช่หุบเขาธรรมดาแน่
“มีคนเข้าไปในนั้นอยู่ก่อนแล้วหนึ่งคน”
หลงอวี้ที่ถือหอกได้มายืนอยู่หน้าหุบเขา มองเห็นว่าภายในหุบเขานั้นมีคนผู้หนึ่งกำลังฝึกฝนอยู่
แต่ถ้ามีแค่คนเดียว หลงอวี้ก็ยังสามารถเข้าไปฝึกได้ ไม่ได้มีผลต่อการฝึกอะไร
“ศิษย์น้องผู้นี้ คอยก่อน!”
ในตอนที่หลงอวี้กำลังจะก้าวเข้าไปในหุบเขาลัทธิ ทันใดนั้นเองก็ได้มีเสียงพูดของชายหนุ่มผู้หนึ่งดังขึ้น!
“หืม?”
หลงอวี้หันหน้าไปทางต้นเสียง ก็พบชายหนุ่มชุดขาวผู้หนึ่งกำลังเชิดหน้าเดินมา แค่ปราดเดียวก็มองออกว่าคนผู้นี้เป็พวกหยิ่งยโส!
“ศิษย์น้อง้าจะเขาไปฝึกในหุบเขาลัทธิสินะ? ตอนนี้ในหุบเขามีคนฝึกอยู่ก่อนแล้ว รออีกสองวันเ้าค่อยมาใหม่เถิด!”
ชายหนุ่มชุดขาวผู้นั้นพูดพร้อมกับมองดูหลงอวี้อย่างดูแคลน
“หุบเขาลัทธิสามารถรับคนเข้าฝึกได้พร้อมกันสามคน ตอนนี้มีคนฝึกอยู่แค่คนเดียวเท่านั้นเอง เหตุใดข้าจึงเข้าไปฝึกไม่ได้?”
หลงอวี้ถามเสียงเรียบ
“เ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ที่กำลังฝึกอยู่ในหุบเขาคือใคร?”
ชายหนุ่มชุดขาวเชิดหน้าพูดอย่างจองหอง
“เขาคือลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับที่เจ็ด ศิษย์พี่ ‘อี้เหยียน’ ! เขากำลังอยู่ใน่สำคัญของการบรรลุมหาพลังฟ้าดิน ไม่้าให้ใครเข้าไปรบกวน!”
“หมายความว่า เ้าคือสุนัขรับใช้ของไอ้อี้เหยียนนั่น?”
หลงอวี้หัวเราะออกมาเบาๆ
เ้าอี้เหยียนนี่มันเผด็จการไม่เบา หุบเขาที่สามารถเข้าฝึกได้สามคนพร้อมกัน มันกลับยึดครองไว้คนเดียว ปล่อยให้สุนัขรับใช้มาขวางทาง นับว่าโอหังเหลือเกิน!
“เ้าระวังปากไว้หน่อยดีกว่า อย่าหาว่าไม่เตือน”
ชายหนุ่มชุดขาวผู้นั้นมีสีหน้าเคร่งเครียด
“ข้าเห็นว่าเ้ามีวรยุทธ์แค่ขั้นแปด ถึงได้ใจดีพูดเตือน แต่ในเมื่อเ้าพูดจาเหยียดหยามข้าเช่นนี้ หากข้า ‘หลิวซู่เฉิง’ ไม่ลงมือสั่งสอนสักครั้ง เ้าคงไม่รู้จักเคารพผู้แข็งแกร่งกว่า!”
หลงอวี้มองไปทางอีกฝ่าย
หลิวซู่เฉิง?
เพียงครู่เดียวในหัวของหลงอวี้ก็ปรากฏชื่อชื่อหนึ่งขึ้นมาทันที ชายหนุ่มชุดขาวหลิวซู่เฉิงผู้นี้ เป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับที่ยี่สิบเอ็ดนั่นเอง มันเพิ่งจะก้าวขึ้นสู่วรยุทธ์ขั้นเก้าได้ไม่นาน คอยติดตามอี้เหยียนอยู่ตลอดเวลา ชอบวางท่าอวดเบ่งไปทั่ว!
มีลูกศิษย์ในลัทธิจำนวนไม่น้อยถูกหลิวซู่เฉิงและอี้เหยียนรังแก แต่ไม่อาจทำอะไรได้ เพราะอาจารย์ของเ้าอี้เหยียนคือาุโที่คอยดูแลการมอบรางวัลให้กับลูกศิษย์ระดับพิเศษทั้งหลาย อู่เจี้ยนซิน ผู้าุโอู่!
ผู้าุโแห่งหอผู้าุโลัทธิสยบฟ้านั้น สามารถรับลูกศิษย์สายตรงได้สองคนพร้อมกัน
ซึ่งลูกศิษย์ที่อู่เจี้ยนซินเลือกมาก็คือเ้าอี้เหยียนและหลัวไท่หลงนี่เอง
โดยอี้เหยียนนั้นถูกจัดอยู่ในอันดับที่เจ็ด ส่วนหลัวไท่หลงตอนนี้อยู่อันดับที่หกแล้ว ทั้งสองคนนี้อนาคตไกลแน่นอน เื่นี้ทำให้อู่เจี้ยนซินมีสิทธิ์มีเสียงในบรรดาผู้าุโทั้งหลายมากขึ้นไม่น้อยเลย!
ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้หลิวซู่เฉิงที่ติดตามอี้เหยียนอยู่ตลอดเวลารู้สึกว่าตัวเองสูงส่งไปด้วย!
“จิ้งจอกอ้างบารมีเสือสินะ ดูท่าจะทำบ่อยจนเคยชินแล้วเสียด้วย แต่ในสายตาของหลงอวี้ผู้นี้ เ้าหลิวซู่เฉิงก็แค่ตัวประกอบกระจอกๆ เท่านั้น”
หลงอวี้มองไปทางหลิวซู่เฉิงด้วยสายตาดูถูก
ชายหนุ่มชุดขาวหลิวซู่เฉิงพอได้ยินคำพูดของหลิวซู่เฉิงก็หน้าถอดสีไปทันที
หลงอวี้?
แม้ว่าเขาจะไม่เคยเจอหลงอวี้ แต่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เ้าหลงอวี้นี่เพิ่งโค่นล้มเมิ่งเช่อและฮว๋าอี้หลุนได้ติดต่อกันที่ลานประลองเมื่อวานนี้ ทำให้รักษาตำแหน่งอันดับสิบไว้ได้!
ทั้งเมิ่งเช่อทั้งฮว๋าอี้หลุนนั้นล้วนแข็งแกร่งกว่าเขาหลิวซู่เฉิงหลายเท่า!
หลิวซู่เฉิงหน้าเสียสุดขีดไปทันที
เขาก้าวถอยหลังไปสองก้าว จ้องเขม็งไปที่หลงอวี้
“ถึงอย่างไรข้าก็เตือนเ้าแล้ว ต่อให้เ้าคือหลงอวี้ ก็ไม่มีทางต่อกรกับศิษย์พี่อี้เหยียนได้แน่ หากเ้าเข้าไปในหุบเขาแล้วยั่วโมโหศิษย์พี่อี้เหยียน เ้าต้องยอมรับผลที่ตามมาเองล่ะ!”
เห็นได้ชัดว่า พอหลิวซู่เฉิงได้ยินชื่อของหลงอวี้ก็ใจนเสียขวัญไปทันที!
“ฮ่าฮ่า!”
หลงอวี้เห็นเช่นนั้นพลันหัวเราะดังลั่น จากนั้นก็ถือหอกั์เดินเข้าไปภายในหุบเขาลัทธิทันที
การจัดการกับพวกสุนัขรับใช้ที่ดีแต่รังแกผู้อ่อนแอกว่าอย่างหลิวซู่เฉิงนั้น เขาไม่จำเป็ต้องลงมือเองด้วยซ้ำ แค่พูดชื่อก็ทำให้มันใจนปัสสาวะแทบแตกแล้ว!
คนแบบนี้ ไม่ว่าระดับพลังจะสูงเพียงใดก็ไม่อยู่ในสายตาของหลงอวี้
ส่วนเ้าอี้เหยียนที่ยึดครองหุบเขาลัทธิไปเพียงคนเดียวนั้น หลงอวี้ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนกันเชียว ถ้าเทียบกับฮว๋าอี้หลุนที่เคยอยู่อันดับหกแล้วจะเป็เช่นไร!
หลงอวี้ที่พูดจาข่มขวัญหลิวซู่เฉิงได้แล้ว ก้าวเข้าไปในหุบเขาทันที!
เมื่อเข้าไปในหุบเขาแล้ว เขาก็ััได้ว่ามีพลังแห่งกฎเกณฑ์ฟ้าดินสายหนึ่งกดทับลงมาจากฟ้า ลักษณะเดียวกับที่หุบเขาสยบฟ้า แต่แรงกดทับภายในนี้ทรงพลังกว่าหลายเท่า
“เชื่อมผสานเทียนม่าย!”
หลงอวี้ััได้ว่าเทียนม่ายในร่างกายของเขาที่ถูกเปิดออก ได้เชื่อมต่อกับพลังกฎเกณฑ์ฟ้าดินในหุบเขานี้ในพริบตา เพียงพริบตาเดียวก็ทำให้เขาบรรลุถึงกฎเกณฑ์ฟ้าดินแห่งการกดทับได้มากขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย
“หากได้ฝึกภายในหุบเขาสามวัน ผลลัพธ์ต้องไม่เลวแน่ อย่างน้อยก็สามารถยกระดับมหาพลังฟ้าดินให้สูงขึ้น ทำให้ใช้ได้เชี่ยวชาญและทรงอานุภาพมากกว่าตอนนี้สามเท่าเป็อย่างน้อย! เมื่อถึงตอนนั้น ข้าก็จะสามารถยกระดับขึ้นเป็เขตแดนสยบฟ้าได้”
หลงอวี้รู้สึกตื่นตะลึงเป็อย่างมาก
การฝึกฝนในหุบเขาเพียงสามวัน เท่ากับการฝึกข้างนอกนานถึงหนึ่งเดือนเลยทีเดียว มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมสิบเท่าเป็อย่างต่ำ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วนของลัทธิถึงได้พยายามเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษกันอย่างสุดชีวิตขนาดนี้
ขอเพียงได้เป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษ อย่างแย่สุดก็ยังสามารถได้เข้ามาฝึกในหุบเขาลัทธิเป็เวลาหนึ่งวัน!
“ผู้ใดบังอาจรบกวนการฝึกของข้า!”
ในตอนนั้นเอง เสียงพูดเ็าเสียงหนึ่งก็ดังมาจากในหุบเขา
อี้เหยียนที่ยึดครองหุบเขานี้ไว้ รู้สึกได้ว่ามีคนเขามาในหุบเขา จึงลุกขึ้นจ้องเขม็งหลงอวี้อย่างดุร้าย!
อี้เหยียนสวมชุดสีขาวหม่น รูปร่างกำยำล่ำสัน ดูราวกับเป็ก้อนหินก็ไม่ปาน!
ในดวงตาทั้งสองข้างของเขามีแววตาหงุดหงิดรำคาญ จ้องเขม็งมาทางหลงอวี้ราวกับหมาป่าก็ไม่ปาน!
“หุบเขาลัทธิ อนุญาตให้เข้าฝึกได้สามคนพร้อมกัน แต่เ้ากลับยึดครองไว้เพียงผู้เดียว ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอหรือ”
“เห็นแก่ตัว ฮ่าฮ่า เห็นแก่ตัวอย่างนั้นหรือ!”
อี้เหยียนหัวเราะ ในเสียงหัวเราะนั้นแฝงด้วยจิตสังหาร
“ข้าอี้เหยียนผู้นี้อยู่ในลัทธิมาตั้งนาน นี่เป็ครั้งแรกที่มีคนกล้ามาว่าข้าเห็นแก่ตัวต่อหน้า! เ้าใจกล้ามาก แต่ไม่รู้ว่าชีวิตเ้าจะยืนยาวหรือเปล่า!”
“ข้ารู้สึกว่า ชีวิตข้าน่าจะยาวกว่าของเ้านะ”
หลงอวี้พูดเสียงเรียบ
เ้าอี้เหยียนช่างโอหังเหลือเกิน แค่พูดผิดหูหน่อยก็คิดจะลงมือฆ่าแกงกันแล้ว ไม่เห็นแก่ความเป็ลูกศิษย์ร่วมสำนักแม้แต่น้อย!
“อี้เหยียนผู้นี้ จะทำให้เ้าได้รู้ว่า ชีวิตเ้าจะยาวหรือไม่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเ้า!”
อีเหยียนที่ร่างกายกำยำดุจก้อนหินศิลามีจิตสังหารปรากฏในดวงตา!
นับั้แ่ที่เขากราบไหว้อู่เจี้ยนซินเป็อาจารย์ ยังไม่มีใครกล้าพูดจาเช่นนี้กับเขา อีกทั้งตอนนี้ยังเป็่สำคัญของการบรรลุมหาพลังฟ้าดินของเขาด้วย การเข้ามารบกวนเขาในเวลาแบบนี้ ทำให้เขาโมโหจนจิตสังหารพลุ่งพล่านทันที!
