“ผู้าุโเว่ยเซิงเหริน ท่านจะมากับเราหรือไม่?” กู่ไห่เอ่ยถามมองเขาด้วยความคาดหวัง
ทว่า อีกฝ่ายกลับยังจ้องปิ่นประดับเงียบๆ โดยไม่สนใจสิ่งใด ทุกคนต่างกำลังเฝ้ารอเขา ที่กำลังครุ่นคิดอย่างอดทน
จากนั้นไม่นาน เว่ยเซิงเหรินก็ส่ายหน้าและกล่าวว่า “ไม่! ทางที่ข้าจะไป พวกเ้าไปด้วยไม่ได้”
“เอ๊ะ?” ชายหนุ่มมองเขาด้วยความงุนงง
เว่ยเซิงเหรินสูดหายใจเข้า ก่อนหันหน้าไปยังชายชุดดำ
“ผู้าุโใหญ่ แปดร้อยปีที่ผ่านมา ข้าทำเพื่ออี้เทียนเก๋อมาพอแล้ว แต่มันกลับทำให้ข้าต้องสูญเสียไปมากมาย
การตายของผู้หญิงคนนั้น ไม่อาจปล่อยให้ผ่านเลย ไม่มีผู้ใดสามารถสังหารนาง แล้วจะหนีรอดไปได้ ข้ากำลังจะไปแล้ว!” ชายชุดคลุมขาวดำกล่าว น้ำเสียงเย็นะเื เต็มไปด้วยไอสังหาร
ผู้าุโใหญ่พูดไม่ออกอยู่นาน ในที่สุด ก็สูดหายใจลึก ก่อนพูด “ช่างเถอะ! หลายปีที่ผ่านมา ท่านได้ทำเพื่ออี้เทียนเก๋อมาเกินพอแล้ว ไม่ว่าท่าน้าสิ่งใด ขอเพียงเอ่ยปาก ข้าจะทำให้ทุกอย่าง!”
“ไม่จำเป็!” เว่ยเซิงเหรินส่ายหน้า
ขณะเดียวกัน ห้วงอากาศตรงหน้าเขา ก็เริ่มสั่นกระเพื่อม
วูบ!
คล้ายมีระลอกคลื่นกระจายออกไปทีละลูกๆ ทันใดนั้น ก็เกิดพลังมหาศาลจากการกระเพื่อมของอากาศ
ปังๆ!
ภายใต้คลื่นพลังอันรุนแรงนี้ ผู้ฝึกฝนที่อยู่โดยรอบ ต่างก็รีบหลบฉากทันที
ชายชุดคลุมขาวดำก้าวเข้าไปในมิติแห่งระลอกคลื่น และหายตัวไป
ช่องว่างมิติค่อยๆ คืนสภาพ ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม มีเพียงร่างของเว่ยเซิงเหรินเท่านั้นที่หายไป
หากมิใช่เพราะต้นไม้และสัตว์ป่า มีร่องรอยการตายจากความชรา คงไม่มีผู้ใดทราบว่าเขาเคยปรากฏตัว ณ ที่แห่งนี้
“นี่มันอะไรกัน?” กู่ไห่มองเฉินเทียนซานด้วยความสงสัย
เฉินเทียนซานยิ้มขื่นและส่ายหน้า แสดงให้เห็นว่าไม่ทราบเช่นกัน
... ชายผู้นั้นหายไปอย่างลึกลับเช่นนี้ได้อย่างไร?
ปัง!
เมื่อพวกกู่ไห่ออกจากบริเวณดังกล่าว คุณชายเก้าก็นำศิษย์อี้เทียนเก๋อกลุ่มใหญ่ เข้ายึดครองท้องฟ้า และพื้นที่บริเวณต้นท้อร้อยปี
“ผู้าุโใหญ่ โปรดยกโทษให้ด้วย สำหรับการเสียมารยาทอันใหญ่หลวงที่เกิดขึ้นในวันนี้ ข้าต้องขอตัวไปก่อนแล้ว” กู่ไห่กล่าวลา
ผู้าุโใหญ่ในชุดสีดำสูดหายใจลึก หลังจากจ้องมองอีกฝ่ายสักพัก ท้ายที่สุด ก็เลือกที่จะไม่ถือสาเอาความในเื่นี้อีก
วูบ!
ชายหนุ่มควบคุมกองทัพทหารเมฆา ทะยานเข้าไปในป่าทันที
ทว่าเหล่าผู้ฝึกตนยังคงมองตาม จนกระทั่งเขาลับหายไป
ปัง!
กลุ่มเมฆจำนวนมาก และทหารอาชาหลายพันนายหายไปอย่างไร้ร่องรอย ในขณะที่กู่ไห่และพวกซ่อนตัวอยู่ในป่า
ทั้งสามเดินตัดผ่านป่าไปอย่างรวดเร็ว และหลบอยู่ใต้เงาไม้ จนแทบมองไม่เห็น แต่ก็แน่นอน ไม่มีผู้ใดกล้าไปสืบหาตัวพวกเขาในเวลานี้เช่นกัน
“ท่านหัวหน้า เหตุใดเรายังไม่ออกไปจากที่นี่? หรือว่าท่านกำลังค้นหาสิ่งใดอยู่” เฉินเทียนซานถามอย่างกังขา
“เราไม่อาจจากไปได้” กู่ไห่กล่าว พลางส่ายหน้า
“หา?” เฉินเทียนซานร้องอุทานด้วยความงุนงง
“เมื่อครู่ ที่ท่านหัวหน้าได้ชักชวนเว่ยเซิงเหรินให้มากับพวกเรา ก็เพราะคิดจะยืมพลังของเขาเพื่อจากไป แต่น่าเสียดายที่เขาหายตัวไปก่อนแล้ว ตอนนี้เราจึงได้แต่ต้องหาทางออกไปด้วยตัวเองเท่านั้น แต่ท่านคิดว่าเราจะสามารถจากไปได้หรือ?” เกาเซียนจือกล่าว พลางส่ายหน้า
“เ้าหมายถึงมีคนคิดจะขัดขวางเรา เช่นนั้นหรือ?” สีหน้าของเฉินเทียนซานเปลี่ยนไปทันที
“ถูกต้อง! ก่อนหน้านี้เราเคลื่อนไหวโฉ่งฉ่างเกินไป ถึงไม่นับลูกท้อร้อยปีที่ยังอยู่ในกำมือของท่านหัวหน้า แต่ในการต่อสู้ครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ ก็มีผู้ฝึกตนจำนวนมากได้รับาเ็ หรือไม่ก็ถูกสังหารด้วยน้ำมือของกองทัพอาชามิใช่หรือ?
ท่านคิดว่าญาติมิตรของพวกเขา จะไม่ตามมาแก้แค้นหรือ? ในดินแดนนี้ ไม่มีผู้ใดสามารถทำอะไรเราได้ เพราะกองทัพของท่านหัวหน้า แต่ถ้าออกไปข้างนอกล่ะ?” เกาเซียนจืออธิบาย
คิ้วของเฉินเทียนซานกระตุกอย่างแรง
อันที่จริง ผู้ฝึกตนกลุ่มใหญ่ได้รีบออกไปจากดินแดนแห่งนี้ ั้แ่เมื่อครู่แล้ว ด้านนอกทางเข้าดินแดนแรกสาบสูญ เต็มไปด้วยฝูงชนที่กำลังดักรอกู่ไห่อยู่
“ช่างเถอะ! อย่างไรภารกิจก็สำเร็จแล้ว” กู่ไห่กล่าว พลางยกยิ้ม
“ท่านหัวหน้า ตอนที่ไปจับตัวเิไท่มาเมื่อครู่ ผู้น้อยพบสิ่งนี้บนตัวเขาขอรับ” เกาเซียนจือยื่นป้ายของเิไท่ให้
ป้ายนี้คล้ายกับป้ายหัวหน้าสังกัดวารีของเขามาก เพียงแต่้าเป็รูปหินแทนที่จะเป็รูปหยดน้ำ
“ป้ายหัวหน้าสังกัดปฐี?” ดวงตาเฉินเทียนซานเปล่งประกาย
กู่ไห่พยักหน้าพร้อมรับมันมา
เกาเซียนจือเป็คนฉลาดหลักแหลม เพียงคำสั่งเดียวของตน เขาก็สามารถคาดเดาถึงความนัยที่ซ่อนอยู่ได้ ทำให้กู่ไห่พอใจมาก
“เิไท่ตายไปแล้ว ช่องว่างมิติในป้ายก็น่าจะเปิดออกได้” เฉินเทียนซานกล่าว ด้วยท่าทางคาดหวัง
กู่ไห่หยดเืลงบนป้าย พลันก็ััได้ถึงพื้นที่สิบจั้งในนั้น
ในช่องว่างมิตินี้ มีหินิญญาระดับสูงอยู่ร้อยก้อน และหินิญญาระดับต่ำสองร้อย นอกจากนี้ ยังมียาจำนวนมากบรรจุไว้ในขวด รวมทั้งสมุนไพรและของจิปาถะอื่นๆ
ชายหนุ่มรีบเอาของที่อยู่ข้างในออกมา และเก็บลงไปช่องว่างมิติของตนเอง
ปัง!
จากนั้น กู่ไห่ก็ลบเืของตัวเองที่ประทับอยู่บนป้าย ด้วยพลังชี่
“เกาเซียนจือ ป้ายนี่ เ้านำมันไปใช้ ของด้านในข้าไม่ได้นำมันออกมาทั้งหมด ยังเหลือหินิญญาระดับสูงอีกสิบก้อน เ้าสามารถใช้มันได้ตาม้า” ชายหนุ่มส่งป้ายให้
“ขอรับ! ขอบคุณท่านหัวหน้า” เกาเซียนจือกล่าวอย่างตื่นเต้นยินดี
เมื่อเห็นเช่นนั้น ั์ตาของเฉินเทียนซานก็ปรากฏแววอิจฉา
“เฉินเทียนซาน หินิญญาระดับสูงสิบก้อนนี้ เ้าเอาไปใช้ ก่อนหน้านี้ ลำบากพวกเ้าแล้ว” กู่ไห่มอบหินิญญาระดับสูงสิบก้อนให้
“ขอบคุณท่านหัวหน้า!” เฉินเทียนซานรีบรับไว้ ด้วยท่าทางยินดี
“ท่านหัวหน้า แล้วตอนนี้พวกเราจะออกไปได้อย่างไรขอรับ?” เกาเซียนจือถาม ท่าทีเป็กังวล
“ไม่ต้องห่วง รออีกสองวัน” กู่ไห่หรี่ตา พร้อมมองอสูรเมฆาขนาดใหญ่ที่บินอยู่กลางเวหา
...
ตามคาด ผู้ฝึกตนกลุ่มใหญ่ กำลังดักรอกู่ไห่อยู่นอกดินแดนแรกสาบสูญ
“กู่ไห่และพวกกำลังจะออกมา จับตาดูเอาไว้”
“หึ! ศิษย์พี่ศิษย์น้องของข้า ถูกเขาโยนลงมานับหมื่นจั้ง แม้ว่าศิษย์พี่จะปลอดภัย แต่ศิษย์น้องต้องขาหัก ข้าจะคิดบัญชีกับเขา”
“แก้แค้นบ้าบออันใด! สิ่งที่เ้า้า คือลูกท้อร้อยปีมากกว่ากระมัง?”
“แล้วอย่างไร? เ้ามิได้กำลังคิดเช่นเดียวกับข้าหรืออย่างไร?”
“ช่างเถอะ!... อย่าให้กู่ไห่หนีไปได้”
…
ที่ด้านนอกประตูทางเข้าดินแดนแรกสาบสูญ มีผู้ฝึกตนเกือบพันคน ล้อมทางเข้าเอาไว้แล้ว
อีกทั้งในทันทีที่มีใครออกมา คนกลุ่มนั้นก็จะปราดเข้าใส่ทันที และตรวจสอบอย่างละเอียด ว่าใช่กู่ไห่ เกาเซียนจือ และเฉินเทียนซานหรือไม่
แม้ในดินแดนแห่งนั้น กู่ไห่จะน่าครั่นคร้ามมาก แต่หากออกมาข้างนอกล่ะ? เมื่อระดับพลังของเราฟื้นคืนแล้ว เ้ายังจะทำอะไรได้?
นอกจากนี้ เมื่อออกมาด้านนอก อสูรเมฆาก็ไม่อาจใช้ได้อีก เ้ากู่ไห่นั่น ยังจะมีสิ่งใดน่ากลัว?
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วน ต่างพุ่งความสนใจไปที่ปากทางเข้าดินแดนแรกสาบสูญกันเต็มที่ เพื่อรอกู่ไห่และพวก
...
ขณะเดียวกัน ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง
เฉินเทียนซาน และเกาเซียนจือ ต่างมองดูกู่ไห่หยิบหินิญญาจำนวนมาก ออกมาเรียงไว้ในสระน้ำที่มีลักษณะเหมือนบ่อ
“ท่านหัวหน้า นี่คืออะไรขอรับ?” เฉินเทียนซานถามด้วยความงุนงง
“เ้ายังจำสระิญญาที่เราเคยลงไปแช่ได้หรือไม่?” กู่ไห่กล่าว
“อ่า!... แน่นอน ย่อมจำได้ พลังชี่จำนวนมากนั่น เกิดจากค่ายกลที่ผู้าุโกวนฉีสร้างขึ้น มิใช่หรือขอรับ?” เฉินเทียนซานตอบ
“นี่ก็คือค่ายกลนั้น” กู่ไห่กล่าว
“เอ๊ะ?” ดวงตาของเฉินเทียนซานเป็ประกายวาบทันที
“ข้าไม่มีเวลารอถึงหนึ่งปี เพื่อให้ค่ายกลสกัดพลังชี่ออกมา ดังนั้นจึงใช้หินิญญาแทน มาลองดูกันสิว่า จะสามารถสกัดพลังชี่ออกมาได้หรือไม่!” กู่ไห่กล่าว
“ขอบคุณท่านหัวหน้า!” ทั้งสองกล่าวด้วยความดีใจ
สร้างค่ายกลสระิญญา? อีกทั้งท่านหัวหน้ายังยินดีที่จะบอกพวกเขา เกี่ยวกับเื่ค่ายกลนี้ด้วย
ทั้งสองจดจำรูปแบบของค่ายกลอย่างตั้งใจ
เมื่อจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กู่ไห่ก็ค่อยๆ นั่งลงในสระ และรวบรวมพลังชี่ไว้ในมือ
ตูม!
ทันใดนั้น ในสระก็มีคลื่นพลังชี่ปรากฏ
“มันกำลังมา... พลังชี่ปรากฏออกมาแล้ว!” เฉินเทียนซานส่งเสียงร้องด้วยความยินดี
วูบ!
พลังชี่จำนวนมาก พุ่งเข้าสู่ร่างของกู่ไห่
“มาลองดูสิ!” ชายหนุ่มกล่าว
“ขอรับ!” ทั้งสองก้าวลงไปในสระน้ำ
ปัง!
พลังชี่จำนวนมาก พุ่งเข้าสู่ร่างของทั้งสามทันทีที่นั่งลงในสระ
ในเวลาเดียวกัน พลังชี่จำนวนมาก ก็ราวกับจะค่อยๆ หายไป ท้ายที่สุดแล้ว เพราะมิได้ใช้ของวิเศษที่ผู้าุโกวนฉีเหลือทิ้งเอาไว้ ค่ายกลนี้จึงไม่สามารถสกัดพลังชี่ออกมาได้อย่างต่อเนื่อง
ปัง!
ระดับพลังของเฉินเทียนซาน เกาเซียนจือ และกู่ไห่ ล้วนยกระดับขึ้น
“ขั้นที่ห้า ระดับก่อ์!” ดวงตาของกู่ไห่สว่างวาบ พลางกำหมัดแน่น
ไม่นาน เกาเซียนจือและเฉินเทียนซานก็ค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้นมา เพราะพลังที่อยู่ในสระ ได้ถูกดูดซับไปหมดแล้ว
ใบหน้าของเฉินเทียนซานกลับแข็งค้างทันที “หินิญญาระดับสูงสี่สิบเก้าก้อน และหินิญญาระดับต่ำอีกร้อยก้อน หายไปภายในวันเดียว?”
“ยังไม่พอหรือ?” ชายหนุ่มกล่าว พลางยกยิ้ม
“นี่! นี่มัน… การฝึกตนเมื่อครู่ สิ้นเปลืองเกินไปแล้วขอรับ หินิญญาจำนวนมากขนาดนั้น ข้าสามารถใช้ฝึกได้นานมาก ค่ายกลนี้ ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์สักเท่าใด” เฉินเทียนซานกล่าว พร้อมยิ้มขื่น
“แต่สำหรับข้า มันกลับมีประโยชน์มาก” กู่ไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
หินิญญาที่เิไท่ทิ้งไว้ ถูกใช้ไปครึ่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ทว่า ชายหนุ่มกลับไม่ได้ใส่ใจกับจำนวนหินิญญาที่ใช้ไปเลย เพราะสำหรับกู่ไห่ หินิญญาเหล่านี้ล้วนเป็ของนอกกาย ไม่มีความหมายใดๆ
เงินทองของมีค่าคือสิ่งใด? มันก็แค่เครื่องมือที่ทำให้แข็งแกร่งขึ้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
ตอนนี้เขากล้าแกร่งขึ้นแล้ว และความแข็งกล้านั้น ก็มีค่ามากกว่าสิ่งใด
“ท่านหัวหน้า เราจะสร้างมันขึ้นอีกหรือไม่ขอรับ?” เกาเซียนจือถามอย่างคาดหวัง
“อีกหรือ? นี่มันฟุ่มเฟือยเกินไปหรือไม่?” เฉินเทียนซานกล่าว พลางยิ้มอย่างฝืดเฝื่อน
เมื่อพูดถึงการฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุ เฉินเทียนซานก็รู้สึกว่าตัวเองก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้ เขามิใช่ว่ากินลูกท้อร้อยปีหมดในคำเดียวหรือ?
“ไม่! เราต้องเหลือหินิญญาเอาไว้ เพื่อเปิดทางพาเรากลับไปที่เกาะจิ๋วหวู่!” กู่ไห่ตอบ น้ำเสียงจริงจัง
“โอ้?” ดวงตาของเกาเซียนจือวาบประกายด้วยความกระจ่าง
“พาเรากลับไปที่เกาะจิ๋วหวู่? ใช้หินิญญา? มันจะพาเราไปอย่างไรหรือขอรับ? หรือว่าจะจ่ายมันให้ผู้ที่มาขัดขวางเรา?” เฉินเทียนซานถามอย่างไม่แน่ใจ
“ถูกต้อง! เราจะให้พวกที่ขวางทางอยู่ พาพวกเรากลับไปที่เกาะจิ๋วหวู่!” กู่ไห่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เป็ไปได้อย่างไร? ท่านหัวหน้า ก่อนหน้านี้เราได้กลายเป็ศัตรูของเขาไปแล้ว ไม่มีทางที่พวกเขาจะไม่เกลียดชัง แม้จะมีหินิญญามากมาย แต่คนพวกนั้นมีมากเกินกว่าจะจ่ายไหวกระมัง?
อีกทั้ง ยังมีลูกท้อร้อยปีนั่นอีก พวกมันต้องดักปล้นแน่ เหตุใดท่านถึงคิดว่าเขาจะช่วยพาเราไปยังเกาะจิ๋วหวู่? แค่ไม่สังหารเรา ก็ถือว่าดีมากแล้ว
ข้าเดาว่า เวลานี้จำนวนผู้ฝึกตนที่ดักรออยู่ตรงทางเข้านั่น อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะหมื่นคน” เฉินเทียนซานพูด พร้อมยิ้มฝืด
“หากข้าบอกว่าพวกเขาจะพาเราไปที่เกาะจิ๋วหวู่ มันย่อมเป็เช่นนั้น!” กู่ไห่กล่าว แววตาฉายแววมั่นใจยิ่ง
ความสับสนปรากฏบนใบหน้าเฉินเทียนซาน อย่างไรก็ไม่เชื่ออยู่ดี
แต่เกาเซียนจือกลับเชื่อมั่นในตัวกู่ไห่มาก “ท่านหัวหน้า เราจะทำอะไรกันหรือขอรับ?”
“หากผู้ฝึกตนที่มาสกัดเรา มีเพียงหนึ่งหมื่นคนจริง นั่นย่อมไม่พอ ดังนั้นขั้นแรก เราต้องทำให้มีจำนวนคนที่มาสกัดเราเพิ่มขึ้นยิ่งมากเท่าไรยิ่งดี ยิ่งมากยิ่งปลอดภัย!” กู่ไห่กล่าวอย่างมั่นใจ
“เอ๊ะ!” เฉินเทียนซานกลอกตามองอีกฝ่าย อยากจะแตะหน้าผากของกู่ไห่ เพื่อตรวจดูว่าหัวหน้าของเขามีไข้หรือไม่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้