ชายหนุ่มลงมาจากรถม้าคันงาม สายตารั้งอยู่ที่คนสามสี่คนหน้าประตูใหญ่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่อยู่ถัดไป ก้นบึ้งดวงตาของเขาก็มีประกายวาบผ่านฉับพลัน
เขาตรวจสอบชัดเจนแล้ว คฤหาสน์หลังถัดไปนี้เป็คฤหาสน์ในนามเฟิงอ๋อง
แม้อาภรณ์ที่สองพี่น้องคู่นั้นสวมใส่จะไม่โดดเด่น แต่สามารถเข้าออกคฤหาสน์นอกของเฟิงอ๋องได้ สถานะต้องมิใช่สามัญเป็แน่
พริบตานั้นสมองก็ผุดความคิดมากมาย หลังจากนั้นใบหน้าก็ผุดรอยยิ้มอ่อนจางอย่างสุขุมคัมภีรภาพ
"คุณหนูท่านนี้ ช่างบังเอิญยิ่งนัก ได้มาพบกันที่นี่อีกแล้ว ผู้น้อยซ่งจิ่งซี เื่วันนี้เป็ความผิดของเคอตา วันหน้าจะต้องเตรียมของขวัญเล็กน้อยมาขอขมาถึงที่ คุณหนูโปรดชี้แนะนามและสกุลอันทรงเกียรติของท่านได้หรือไม่"
เขาค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ ใบหน้าทอยิ้มน้อยๆ อย่างเหมาะสม วางตัวมีมารยาท ท่วงทีสง่างาม โดยมีบุรุษร่างบึกบึนนามเคอตาตามหลังมาด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก
เซวียเสี่ยวหรั่นกลับเห็นแต่รอยยิ้มผิวเผินเพียงเปลือกนอกที่ไปไม่ถึงเนื้อในของเขา
"คุณชายซ่ง มิต้องเกรงใจ คำขอขมาพวกเรารับไว้แล้ว ส่วนพิธีรีตองอื่นไม่ต้องแล้วล่ะ" เซวียเสี่ยวหรั่นใช้รอยยิ้มที่ดูเสแสร้งตอบกลับไป
ขณะนั้นประตูใหญ่เปิดออกมาพอดี เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มเห็นฟันสี่ซีกตามมาตรฐาน จูงเซวียเสี่ยวเหล่ยเดินเข้าไป
พอเห็นประตูสีชาดบานใหญ่ซึ่งตอกหมุดทองคำปิดลงช้าๆ ดวงตาของซ่งจิ่งซีก็หรี่ลงเล็กน้อย
ใบหน้าดำแดงของเคอตาฉายแววกังขาอย่างยิ่ง "นายท่าน เหตุใดถึงไปสนใจสตรีเนื้อหนังน้อยนิดผู้นั้น ทั้งตัวเล็กทั้งผอมแห้ง ไม่มีเนื้อมีหนัง หน้าก็ไม่นับว่าสะสวยอะไรมาก ห่างชั้นจากคุณหนูญาติผู้น้องของท่านลิบลับ"
ซ่งจิ่งซียืนเอามือไพล่หลัง กวาดมองคฤหาสน์ตรงหน้าจากซ้ายไปขวารอบหนึ่ง ก่อนหมุนตัวเดินไปด้านข้างช้าๆ
"บ้านพักตากอากาศหลังนี้เป็คฤหาสน์ในนามของเฟิงอ๋อง"
"เช่นนั้นแล้วอย่างไร?" เคอตายังสงสัยอยู่เช่นเดิม "เฟิงอ๋องไม่ค่อยได้มาอยู่ในที่ศักดินา ต่อให้พวกเขาสามารถเข้าพักในนั้น ก็มิได้หมายความว่ามีความสัมพันธ์อันใดกับเฟิงอ๋อง"
ซ่งจิ่งซีปรายตามองเขาปราดหนึ่ง "เหตุใดจี๋มู่ยังไม่กลับมาอีก เ้าไปเร่งเขาหน่อยซิ"
เคอตาสะอึก นี่เ้านายรังเกียจที่เขามีไหวพริบสู้จี๋มู่ไม่ได้หรือ
ซ่งจิ่งซีเดินเข้าจวนอย่างไม่รีบร้อนไม่อืดอาด หลังอ้อมผ่านกำแพงชั้นใน ก็ตรงไปยังโถงบุปผาด้านข้าง
สาวใช้ยกน้ำชาเข้ามาให้แล้วก็ถอยออกไป
ซ่งจิ่งซีมองออกไปนอกหน้าต่าง แสงตะวันเจิดจ้าจนต้องหรี่ตาเล็กน้อย
เฟิงอ๋องทรงมีไมตรีที่ดีกับองค์ชายเจ็ดเสมอมา เขาหายตัวไป คนร้อนใจที่สุดย่อมเป็เฟิงอ๋อง อยู่ดีๆ คฤหาสน์นอกของเฟิงอ๋องก็มีทั้งคนและม้ามากมายเข้าออก เ้าว่าควรค่าแก่พิจารณาหรือไม่เล่า"
เคอตาได้ยินคำกล่าวก็ย้อนถามกลับมา
"แต่พระนางตรัสว่าเ้าหนุ่มนั่นตายแล้วมิใช่หรือ
"ตาย?" ั์ตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่งของซ่งจิ่งซีมีประกายเยียบเย็นวาบผ่าน "ไม่พบศพ ไร้ข่าวคราว เ้าคิดว่าเขาจะตายง่ายเพียงนั้นเชียวรึ"
เคอตานึกถึงเงาร่างน่าเกรงขามดั่งเทพสังหารในสนามรบก็สั่นศีรษะด้วยสัญชาตญาณ
"ดูสิ ขนาดเ้ายังไม่เชื่อ คนแบบนั้นจะตายง่ายๆ ได้อย่างไร มีแต่ต้วนเฟยเหยียนเท่านั้นแหละที่ใสซื่อ ได้แต่หลอกตัวเองและหลอกผู้อื่นว่าเขาตายแล้ว"
ซ่งจิ่งซียิ้มมุมปากฉายแววเหยียดหยัน
"เช่นนั้น ความหมายของนายท่านก็คือ..."
ซ่งจิ่งซียกถ้วยชาหยกขาวขึ้นมาจิบเบาๆ คำหนึ่ง
"เมื่อเ้าทำความผิด ก็ต้องไปขอขมาลาโทษ พรุ่งนี้นำของขวัญไปที่นั่น อย่าลืมแสดงความจริงใจให้เห็นด้วยล่ะ"
ใบหน้ากร้านแดดของเคอตาดำทะมึนยิ่งกว่าเดิม
"จิ้งจอกจอมเสแสร้งผู้นั้นอยู่ติดกับพวกเราเลยหรือ"
เซวียเสี่ยวหรั่นกับอูหลันฮวากลับมาถึงเรือน ก็ดื่มน้ำชาอึกๆๆ ไปครึ่งถ้วย ก่อนจะคุยเื่นี้
"จิ้งจอกจอมเสแสร้ง?" อูหลันฮวาหัวเราะขบขัน "คุณหนูเปรียบได้คล้ายมากเลยเ้าค่ะ ตอนแรกข้าเห็นเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างทะแม่งๆ ที่แท้รอยยิ้มของเขาก็เสแสร้งนี่เอง"
เซวียเสี่ยวหรั่นยักไหล่ "นั่นน่ะเรียกว่าเนื้อยิ้มหนังไม่ยิ้ม เป็รอยยิ้มแบบปลอมๆ ดูก็รู้ว่าไม่จริงใจ"
"อื้อๆ แต่แม่นางมากมายบนถนนที่มองเขาล้วนแต่หลงใหลได้ปลื้ม" อูหลันฮวาออกจะไม่เข้าใจสตรีเ่าั้อยู่บ้าง
"นั่นเพราะจิ้งจอกมีขนกับหนังงามๆ มิใช่หรือไร" เซวียเสี่ยวหรั่นเอนกายบนเตียงหลัวฮั่น
"คุณหนูเหนื่อยแล้วกระมัง นอนกลางวันสักงีบเถิดเ้าค่ะ ไม่ว่าเขาจะเป็จิ้งจอกหรือเพียงพอนเหลืองก็ไม่เกี่ยวกับเราสักนิด" อูหลันฮวาส่งหมอนอิงผ้าไหมให้ใบหนึ่ง
"อืม ก็จริง ไม่เกี่ยวกับเราเลย ข้าเหนื่อยแล้ว เมืองเฉียงเฟิงช่างกว้างใหญ่เหลือเกิน เดินจนเมื่อยขาไปหมด" เซวียเสี่ยวหรั่นนวดต้นขา "เ้าก็ไปพักสักครู่เถอะ ยังมีเวลาอีกพักหนึ่งกว่าถึงตอนเที่ยง ถึงเวลากินข้าวค่อยตื่นก็ได้"
"ข้าไม่เหนื่อย ข้าจะไปดูหงกูว่าซื้อผ้ากลับมาได้หรือไม่" อูหลันฮวายังคงสดใสและกระฉับกระเฉง
เซวียเสี่ยวหรั่นขำพรืด "ไปเถอะ"
หลังจากอูหลันฮวาปิดประตูห้องแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็นอนบนเตียงหลัวฮั่น ยกเท้าพาดไปบนพนักพิงหลัง
จากนั้นตาก็เริ่มปรือผล็อยหลับไป
ผลก็คือพอตื่นขึ้นมาก็พบเื่น่าเศร้า ขาดันเป็ตะคริวเพราะพาดคาไว้นานเกินไป
"โอ๊ยๆๆ " เซวียเสี่ยวหรั่นค่อยๆ วางเท้าลงด้วยใบหน้าเหยเก ก่อนกัดฟันบีบนวดส่วนที่เจ็บๆ ชาๆ อย่างอดกลั้น
"พักขาแป๊บเดียว ดันเป็ตะคริวซะได้ปวดชะมัด"
ขณะนวดขาอยู่ ก็นึกถึงเหลียนเซวียน ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาไปถึงเขาอวี่เหลียนซานแล้วหรือยัง การถอนพิษราบรื่นดีหรือไม่ เมื่อไรถึงจะกลับมา
ยกนิ้วขึ้นมานับ ฮึ่ม เพิ่งผ่านไปแค่สองวัน ยังห่างกำหนดกลับอีกไกล
นางตบๆ หน้าของตนเอง ปลุกสติให้แจ่มใส
วันต่อมา พวกเซวียเสี่ยวหรั่นล้วนไม่ได้ออกไปหาความสำราญนอกจวน
ทั้งสามพาอาเหลยไปปล่อยในสวน สวนดอกไม้ในคฤหาสน์มีต้นไม้มากมาย มีปลูกผลไม้แซมอยู่บ้าง
อาเหลยปีนป่ายอย่างมีความสุข จากต้นหนึ่งะโไปอีกต้นหนึ่ง เด็ดดอกไม้ แทะกินยอดอ่อน ะโขึ้นะโลงไม่หยุด
"ต่อไปต้องหาคู่ให้อาเหลยสักตัว หลังจากนั้นก็หาป่าที่ปลอดภัยให้พวกมันเข้าไปอยู่ มีฝูงเป็ของตัวเอง อาเหลยก็จะไม่โดดเดี่ยวแล้ว"
พวกเซวียเสี่ยวหรั่นนั่งอยู่ในศาลาหกเหลี่ยมบนเขาหินจำลอง แต่ละคนนั่งเท้าคางมองอาเหลยปีนป่ายไปทั่ว
"อืม วันหน้าอาเหลยก็จะให้กำเนิดลิงน้อย ลิงน้อยก็จะให้กำเนิดลูกของลิงน้อยต่อไปอีก แบบนี้ก็จะกลายเป็ฝูงลิงใช่หรือไม่"
เมื่อไม่มีคนนอก อูหลันฮวาก็จะลงมานั่งด้วย
"อื้ม จะว่าแบบนี้ก็ได้" เซวียเสี่ยวหรั่นรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วค่อยๆ ดื่ม
สองวันมานี้ นอกจากวันแรกที่พวกเขารู้สึกกระอักกระอ่วนใจกับการปรากฏตัวของสาวใช้กลุ่มใหญ่ เวลาอื่นๆ ที่เหลือก็ค่อนข้างผ่อนคลาย สุขสบายดี
เหล่าสาวใช้ที่แต่งกายด้วยอาภรณ์แบบเดียวกันยังคงมาให้เห็นเป็พักๆ แต่หลังจากเตรียมของเรียบร้อยแล้ว ก็จะถอยออกไปจากห้องอย่างเป็ระเบียบ หากไม่เรียกหาก็จะไม่บุ่มบ่ามเข้ามาง่ายๆ
ยกตัวอย่างเช่น ่อาบน้ำตอนเย็น สาวใช้จะสั่งให้หญิงรับใช้สูงวัยยกน้ำเข้ามา พอวางอุปกรณ์อาบน้ำแต่ละชนิดเสร็จเรียบร้อย ก็จะออกไปจากห้องทันที รอจนกระทั่งเธอเรียกให้เข้ามาเก็บของ พวกนางถึงเข้ามาจัดการโดยเร็ว
เซวียเสี่ยวหรั่นกำลังทอดถอนใจให้กับชีวิตอันหรูหราฟุ่มเฟือยในคฤหาสน์หลังใหญ่ ขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงความยุ่งยากหลายเื่
ก็แค่อาบน้ำเท่านั้นเอง ต้องยกมายกไปทุกวันเห็นแล้วเหนื่อยแทน
ต่อไปหากเป็ไปได้ เธอจะให้คนสร้างห้องน้ำส่วนตัว ห้องสุขากับสถานที่อาบน้ำต้องแยกออกจากกันให้ชัดเจน
สาวใช้สวมชุดสีเขียวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาจากด้านข้าง
"นายน้อยเซวีย มีผู้กล้านามว่าเคอตามาขอพบเ้าค่ะ บอกว่ามามอบของขวัญเพื่อเป็การขอขมา"
หา? มาจริงหรือเนี่ย
พวกเซวียเสี่ยวหรั่นสามคนต่างสบตากัน
