หลังจากเสิ่นอี้หลานได้กระอักเืออกมา เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาเบาขึ้นมาก "นะ-นี่...มันได้ผลจริงๆหรือ?"
เสิ่นอี้หลานมองไปที่หลี่ชิงหยุนและเห็นเขาพยักหน้ากลับมาอย่างเคร่งขึม ราวกับเขารู้ว่าหลี่ชิงหยุน้าให้เขาทำอะไร เขายกมือขึ้นพร้อมวาดบางสิ่งกลางอากาศ
เสิ่นอี้หลานเริ่มเขียนอักษรรูนร่ายข้อจำกัด เพื่อไม่ให้มีการดักฟังจากภายนอก
หลังจากร่ายข้อกำจัดแล้ว หลี่ชิงหยุนถอนหายใจ "ท่านผู้นำเสิ่น ข้าสามารถรักษาท่านได้ เพียงแต่ข้ามีทางให้ท่านเลือกสองทาง..."
"วิธีการแรก ขับไล่ฉีแห่งความตายออกจากร่างกายให้หมดในคราวเดียว แต่มันอาจจะใช้เวลาสักระยะในการฟื้นฟูฉีในร่างกายของท่านให้กลับมาเป็ปกติ ข้อดีของวิธีการนี้คือหากท่านไม่กลัวว่าจะมีใครพยายามลอบสังหารท่านใน่เวลานี้ นี่เป็ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด"
"ส่วนวิธีการที่สอง ข้าจะใส่พลังฉีพิเศษของข้าเข้าไปในร่างกายของท่าน เพื่อชำระล้างฉีแห่งความตายให้กลายเป็ฉีบริสุทธิ์ จากนั้นท่านสามารถค่อยๆดูดซับมันเข้าสู่ร่างกายทีละเล็กน้อย ข้อดีของวิธีการนี้คือร่างกายของท่านยังมีร่องรอยฉีแห่งความตายอยู่ในร่างของท่าน เพียงแต่ฉีที่ข้าส่งไปจะค่อยๆขัดเกลามัน และนำฉีแห่งความตายมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับท่านเอง"
"หากจะให้แนะนำ ข้าอยากแนะนำให้ท่านใช้วิธีการที่สอง ด้วยวิธีนี้คนในตระกูลของท่านอาจจะยังคิดว่ายังมีฉีแห่งความตายหลงเหลืออยู่ในร่างกายของท่าน บางทีแผนการในตระกูลเสิ่นของผู้าุโบางคนอาจจะถูกเปิดเผยในไม่ช้า ข้าจึงเชื่อว่าให้พวกเขาดำเนินแผนการต่อไป โดยให้พวกเขาคิดว่าท่านยังป่วยอยู่"
"วิธีที่การสองดีทั้งสำหรับท่านและข้า หากเราใช้วิธีการแรก หลังจากที่ข้ารักษาท่านได้ เกรงว่าผู้าุโสูงสุดคงส่งคนมาสังหารข้าในคืนนี้แน่นอน" หลี่ชิงหยุนพูดพร้อมถอนหายใจอย่างขมขื่น
เสิ่นอี้หลานที่กำลังฟังก็รู้สึกมึนหัวไปขณะหนึ่ง "นายน้อยหลี่เ้าทำเช่นนั้นได้หรือ?"
หากวิธีการรักษาของหลี่ชิงหยุนได้ผลจริง เขาอยากจะทำตามวิธีที่หลี่ชิงหยุนแนะนำ
"ข้าไม่จำเป็ต้องโกหก อีกอย่างเสิ่นชิงเป็สหายของข้า หากนางต้องถูกส่งไปที่ตระกูลหงเพื่อเป็นางบำเรอจริงๆ... เกรงว่าข้าจำเป็จะต้องกำจัดตระกูลหงด้วยตัวข้าเอง" หลังจากพูดจบ เจตนาฆ่าของหลี่ชิงหยุนถูกจุดขึ้นมาทันทีโดยไม่ได้ตั้งใจ เหมือนกับถ่านไฟเก่าที่จู่ๆก็ติดไฟลุกลามขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
ภาพการตายของครอบครัวของเขาและคนรักของเขาผุดขึ้นมาในหัวอย่างฉับพลัน ราวกับว่าเขาได้กลับไปเป็จักรพรรดิเมฆาอีกครั้ง!
ดวงตาของเขาเริ่มเป็สีแดง ออร่าแห่งการสังหารปะทุออกมาปกคลุมรอบๆห้อง ออร่านี้แสดงถึงความเกลียดชัง ความสิ้นหวัง ความเสียใจและเจตนาฆ่าที่กำลังผสมปนเปกัน!
เสิ่นอี้หลานเห็นท่าไม่ดีเขารีบใช้ฉีปกป้องจิติญญาของเสิ่นชิงทันที
[เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้!?]
"วู้ม!"
ออร่าสังหารกวาดไปทั่วห้องจนสิ่งของในห้องเริ่มตกลงมาทีละอย่าง!
"ชิงหยุน! ชิงหยุน!" เสียงะโของเสิ่นชิงดังลั่นพร้อมกับเขย่าตัวของหลี่ชิงหยุนอย่างแรง ใบหน้าของนางดูกังวลอย่างมาก เพราะนางไม่เคยเห็นเขาเป็เช่นนี้มาก่อน
แม้แต่เสิ่นอี้หลานก็ยังมีเหงื่อออกเย็นๆที่กลางหลังของเขา
[ออร่าสังหารที่หนาแน่นเช่นนี้... แม้แต่ผู้ที่อยู่ในสนามรบและทำามากกว่าร้อยปี ก็คงไม่สามารถมีออร่าสังหารเช่นนี้ได้]
[ชายหนุ่มผู้นี้เขาเคยเจอความสิ้นหวังแบบใดมากันแน่?]
หลี่ชิงหยุนได้สติกลับคืนมาช้าๆ ราวกับว่าเขาเพิ่งกลับมาจากความฝัน เขาดูมึนงงเมื่อเห็นว่าเสิ่นชิงกำลังจับไหล่เขาอย่างแรง "เกิดอะไรขึ้น?"
"ชิงหยุน เ้าเป็อะไรไป..." น้ำตาของเสิ่นชิงเริ่มไหล เมื่อครู่นางััได้ถึงความสิ้นหวังอย่างรุนแรง มันเป็ความสิ้นหวังที่ไม่มีใครสามารถช่วยปลอบประโลมเขาได้ น้ำตาของนางจึงไหลออกมาเองโดยไม่ได้ตั้งใจราวกับว่านางได้ประสบกับเหตุการณ์ความสิ้นหวังของหลี่ชิงหยุนด้วยด้วยตัวเอง
"เสิ่นชิง ข้าไม่เป็ไร" หลี่ชิงหยุนเริ่มจำได้ลางๆว่าจิตสังหารเขาถูกจุดขึ้นมา เขาคาดเดาว่านี่อาจเป็ผลกระทบจากกระบี่กลืนิญญา
หากสิ่งนี้เป็ผลกระทบจากกระบี่กลืนิญญาจริงๆ แค่คิดเขารู้สึกก็เสียวสันหลังวาบ จากความโกรธแค่เพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นความโกรธที่ฝังอยู่ในใจของเขาได้ทั้งหมด! นี่เป็เื่ที่อันตรายสำหรับเขาในอนาคตอย่างแน่นอน
[ข้าต้องหาวิธียับยั้งมัน]
"นายน้อยหลี่ เ้าสบายดีหรือไม่?" แม้แต่เสิ่นอี้หลานก็กังวลเช่นกัน
หลี่ชิงหยุนพยักหน้าและโบกมือบอกว่าเขาไม่เป็ไร "ท่านผู้นำเสิ่น ท่าน้าเลือกวิธีการใด? ข้าจะเริ่มรักษาให้ท่านโดยทันที"
"เอาล่ะ ตัวเลือกที่สองเป็สิ่งที่ดีมาก ข้าเองก็อยากรู้แผนการของผู้าุโสูงสุดหลังจากนี้เช่นกัน" ดวงตาของเสิ่นอี้หลานมีความโกรธและความเศร้าโศกปะปนอยู่
"เอาล่ะ ข้าจำเป็ต้องให้คำแนะนำเล็กน้อยแก่ท่านในการชำระล้างฉี..." หลี่ชิงหยุนเริ่มอธิบายอย่างช้าๆเพื่อให้เสิ่นอี้หลานเข้าใจ
เสิ่นอี้หลานที่ได้ฟังการแนะนำของหลี่ชิงหยุน เขากำลังประเมินบุคลิกภาพของหลี่ชิงหยุนอยู่ลึกๆ 'ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่แค่ฉลาดเท่านั้น แถมยังเ้าเล่ห์อีกต่างหาก'
ต้องบอกว่าเสิ่นอี้หลานชื่นชอบในแผนการของหลี่ชิงหยุนอย่างมาก
หลี่ชิงหยุนไม่รีรอเขาดึงพลังฉีต้นกำเนิดจากเจดีย์ปฐมกาลออกมาบางส่วนเข้าสู่ร่างกายของเสิ่นอี้หลานทันที
ร่างกายและเส้นลมปราณของเสิ่นอี้หลานกว้างเกินกว่าระดับลมปราณหยกอย่างเขาจะใช้ฉีต้นกำเนิดจากร่างกายเขาได้ ดังนั้นทางเลือกเดียวคือใช้ฉีต้นกำเนิดจากเจดีย์ปฐมกาลโดยตรง!
ออร่าฉีสีทองฉายผ่านนิ้วชี้ของหลี่ชิงหยุน เขากดลงไปที่ตันเถียนของเสิ่นอี้หลานและปลดปล่อยพลังงานสีทองเข้าสู่ตันเถียนอย่างช้าๆ
เสิ้นอี้หลานเองก็เริ่มดูดซับฉีต้นกำเนิดมาห่อหุ้มตันเถียนของเขา
บัดนี้ฉีต้นกำเนิดอันโกลาหลกำลังไหลผ่านไปรอบๆตันเถียน และขั้นตอนต่อไปคือรวบฉีแห่งความตายมาไว้ ณ จุดเดียว!
ดังนั้นหลี่ชิงหยุนจึงหยิบเข็มขึ้นมา เขาฝังเข็มเข้าสู่จุดต่างๆที่มีฉีแห่งความตายเกาะอยู่ เพื่อขับไล่พวกมันทั้งหมดไปยังตันเถียนในคราวเดียว!
"จึก!"
ขณะนี้ฉีแห่งความตายกำลังวิ่งไปในทิศทางเดียวกัน เป้าหมายของมันคือตันเถียนอย่างแม่นยำ
ผ่านไปเพียงหนึ่งก้านธูป ในร่างกายของเสิ่นอี้หลาน ฉีแห่งความตายได้มารวมกลุ่มอยู่ในตันเถียน ซึ่งบริเวณรอบๆนอกของตันเถียนมีฉีต้นกำเนิดของหลี่ชิงหยุนกำลังปิดกั้นทางออกของฉีแห่งความตาย และกำลังชำระล้างมันอย่างช้าๆ
ขณะนี้แม้ว่าเสิ่นอี้หลานจะยังเ็ปอยู่มาก แต่เขารู้สึกอบอุ่นและสบายตัวขึ้นเมื่อฉีต้นกำเนิดของหลี่ชิงหยุนไหลเวียนไปทั่วร่าง
หลี่ชิงหยุนมีเหงื่อออกเต็มใบหน้า เขาปาดเหงื่อออกก่อนจะกล่าวว่า "ท่านผู้นำเสิ่น ท่านสามารถย่อยสลายฉีแห่งความตายได้ตลอดเวลาด้วยความช่วยเหลือจากฉีพิเศษของข้า วิธีที่ดีที่สุดข้าแค่อยากให้ท่านเก็บฉีแห่งความตายเหลือไว้ให้สามารถจับร่องรอยได้ หากทำเช่นนั้นผู้าุโสูงสุดจะไม่สงสัยทั้งท่านและข้า-"
ทว่าหลี่ชิงหยุนพูดยังไม่ทันจบ เขาหมดสติไปทันทีด้วยความเหนื่อยล้า
เสิ่นชิงเข้ามาพยุงร่างของหลี่ชิงหยุนไว้ไม่ให้ล้มลง นางมองไปที่หลี่ชิงหยุนด้วยสายตาที่อ่อนโยนและเข้าใจดีถึงความพยายามของเขา
[เขาเหนื่อยมากจริงๆ เหตุใดเขาจึงต้องฝืนตนเองเช่นนี้?]
"ชิงเอ๋อร์ พาหลี่ชิงหยุนไปพักผ่อน พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเขาเป็การส่วนตัว" เสิ่นอี้หลานอารมณ์ดีขึ้นอย่างมากในตอนนี้
"เข้าใจแล้ว" เสิ่นชิงพยักหน้ารับทราบ
"เ้าจะให้เขาพักที่ตำหนักของเ้าก็ได้... ข้าไม่ถือ" เสิ่นอี้หลานมองไปที่เสิ่นชิงพร้อมกระพริบตาอย่างเ้าเล่ห์ และยกนิ้วโป้งให้กับนาง
"ท่านพ่อ! ท่านกำลังคิดบ้าอะไรอยู่!?" ใบหน้าของเสิ่นชิงกลายเป็สีแดง เมื่อนางเข้าใจความหมายในคำพูดของเสิ่นอี้หลาน
"ฮ่าๆๆๆ" เสิ่นอี้หลานเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังหลังจากหัวเราะหยอกล้อ "ชิงเอ๋อร์ ข้ามีคำแนะนำบางอย่างสำหรับเ้า"
ขณะที่เสิ่นชิงตั้งใจฟัง เสิ่นอี้หลานก็กล่าวขึ้น "หากเ้ารักเขาจริงๆ คอยดูแลเขาให้มากๆ ข้าััได้ถึงความเหงาจากตัวของเขา ราวกับว่าทั้งชีวิตของเขาไม่มีใครให้พึ่งพา อารมณ์ของความทุกข์ยากที่ข้าเห็นนั้นเป็ของจริง ออร่าเช่นนี้ไม่สามารถปลอมแปลงขึ้นมาได้"
"เขาเป็ชายหนุ่มที่มีแนวโน้มที่ดี ดังนั้นหากเ้า้าอยู่เคียงข้างเขาจริงๆ เพียงแค่เอาใจใส่เขาให้ดีที่สุด" เสิ่นอี้หลานทิ้งคำแนะนำให้กับเสิ่นชิงอย่างจริงจัง เขาเองก็อยากให้นางสนิทสนมกับหลี่ชิงหยุนเช่นกัน
เสิ่นชิงเองก็รับรู้ได้เช่นกันว่าอารมณ์ของหลี่ชิงหยุนก่อนหน้านี้ ราวกับเขาไม่เหลืออะไรให้พึ่งพาจริงๆ
ในชีวิตที่แล้วหลี่ชิงหยุนอาจจะมีความแข็งแกร่งที่เพียงพอต่อการเป็ผู้ไร้เทียมทาน แต่เขาไม่เหลืออะไรเลยและยึดติดอยู่กับการแก้แค้น ดังนั้นเขาจึงไม่มีเป้าหมายที่ทะเยอทะยานอย่างเช่นชายหนุ่มเืร้อนทั่วๆไป นี่เป็สิ่งที่แปลกประหลาดในสายตาของใครหลายๆคน
หากเป็ชายหนุ่มทั่วไปใครๆก็อยากจะมีอำนาจมาไว้ใน ใครๆก็อยากจะมีความแข็งแกร่งที่ไร้เทียมทาน แต่ในชีวิตนี้ความ้าของหลี่ชิงหยุนนั้นตรงกันข้ามทั้งหมด
เสิ่นชิงกอดหลี่ชิงหยุนไว้ในอ้อมแขนขณะที่นางเดินออกมาจากห้องของเสิ่นอี้หลาน
ก่อนที่นางจะเรียกผู้าุโคนที่สามเพื่อให้พาตัวหลี่ชิงหยุนไปพักผ่อน
"ลุงสาม ช่วยพาเขาไปพักผ่อนที่ตำหนักของข้าด้วย" เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นชิง ผู้าุโลำดับที่สามถึงกับผงะ
"คุณหนูน้อย แบบนี้เกรงว่า...จะไม่ดี" ผู้าุโลำดับสามพูดช้าๆ
"หรือท่านอยากให้เขาพักที่อื่น? หากเป็เช่นนั้นเกรงว่าคนในตระกูลเสิ่นอาจจะคิดทำบางอย่างที่ไม่ดีกับเขาก็ได้" เสิ่นชิงมองผู้าุโสามด้วยสายตาเฉียบแหลมพร้อมโต้เถียง
"แต่..." ผู้าุโลำดับที่สามกำลังจะโต้แย้ง
"นี่คือคำสั่งของท่านพ่อ! หากท่านไม่เชื่อข้า ท่านสามารถถามเขาได้ด้วยตัวเอง" เสิ่นชิงจำเป็ต้องอ้างถึงบิดาของนาง
"เอาล่ะ ข้าจะส่งคนรับใช้ไปจัดเตรียมเครื่องนอนให้เขา" เมื่อได้ยินว่าเป็คำสั่งของหัวหน้าตระกูล ผู้าุโลำดับที่สามอุ้มหลี่ชิงหยุนกลับไปอย่างเชื่อฟัง และเสิ่นชิงก็เดินตามไปติดๆ
.
.
.
~ ในอาคารของตระกูลเสิ่น ~
มีชายชุดดำกำลังมองไปที่กลุ่มของผู้าุโสามและอีกสองคนที่กำลังเดินไปที่บ้านพักของเสิ่นชิงด้วยใบหน้าเย้ยหยัน "ฮ่าๆๆๆ! อี้หลาน อีกไม่กี่วันชีวิตของเ้าจะจบลง และบุตรสาวของเ้าเองก็คงไม่มีจุดจบที่ดีไปกว่าเ้าอย่างแน่นอน..."
.
.
.
~ ตำหนักของเสิ่นชิง ~
ขณะนี้หลี่ชิงหยุนกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง โดยมีเสิ่นชิงกำลังดูแลหลี่ชิงหยุนอยู่ข้างกาย
"ครั้งนั้นเ้าเป็คนดูแลข้า คราวนี้ให้ข้าได้ตอบแทนเ้า" เสิ่นชิงขยับหลี่ชิงหยุนขึ้นมานอนบนตักของนางเบาๆ นางเพียงแค่นั่งนิ่งและลูบใบหน้าของหลี่ชิงหยุนอย่างอ่อนโยน และเริ่มนึกถึงเื่ราวในป่าสนดำที่หลี่ชิงหยุนได้ช่วยนางไว้
"ก่อนหน้านี้ เ้าไปเจออะไรมากันแน่..." เสิ่นชิงพึมพำเบาๆและนางกำลังหลงอยู่ในภวังค์
นางยังจดจำสายตาที่สิ้นหวังของเขาก่อนหน้านี้ได้เป็อย่างดี
[อะไรที่ทำให้เ้าสิ้นหวังได้ถึงขนาดนี้?]
[เกิดอะไรขึ้นกับอดีตของเ้า?]
เสิ่นชิงรู้จากนาหลันเสี่ยวฉีว่าหลี่ชิงหยุนย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองอาทิตย์สีชาดเมื่อเขาอายุได้ 12 ปี ดังนั้นนางจึงคิดว่าก่อนหน้านั้น หลี่ชิงหยุนต้องเจอเื่บางอย่างที่ไม่ดีมา
เสิ่นชิงกำลังนั่งพิงกำแพงและกำลังจะคล้อยหลับ...
"ท่านพ่อ... อย่าทิ้งข้าไป-" หลี่ชิงหยุนที่กำลังนอนอยู่บนตักของเสิ่นชิงพึมพำขึ้นมาเบาๆราวกับเขากำลังละเมอ
"ท่านพ่อ! หนีไปด้วยกัน! อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว!" ใบหน้าของหลี่ชิงหยุนเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความสิ้นหวัง ราวกับว่าเขาได้พบกับฝันร้ายที่สุดในชีวิต!
น้ำตาสองสายเริ่มไหลลงมาจากดวงตาที่ปิดสนิทของเขา มันไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง...
"ชิงหยุน..." เสิ่นชิงที่เห็นเขาร้องไห้เช่นนี้ นางยื่นมือของเพื่อเช็ดน้ำตาให้หลี่ชิงหยุนอย่างเบามือ "ชายที่แข็งแกร่งอย่างเขาร้องไห้ออกมาเช่นนี้? ช่างคาดไม่ถึงเลยจริงๆ"
จู่ๆหลี่ชิงหยุนพึมพำชื่อใครบางคนออกมาเบาๆ "โหรวซี...ข้าขอโทษ..."
เสิ่นชิงสะดุ้งโหยงในทันที "โหรวซี? นั่นชื่อของสตรีไม่ใช่หรือ?"
[นางคือใคร? นางมีความสัมพันธ์อย่างไรกับชิงหยุนกันแน่?]
เสิ่นชิงเริ่มจดจำชื่อนี้เอาไว้ในหัว
[ดูเหมือนว่าสตรีผู้นี้จะมีความสำคัญต่อหลี่ชิงหยุนอย่างยิ่ง]
หลังจากนั้นไม่นานหลี่ชิงหยุนก็เงียบไป สถานการณ์ในห้องเริ่มกลับมาเป็ปกติ...