หลังจากสิ้นเสียง จุดแสงพลังสามจุดพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าพี่ใหญ่ผู้นั้น แล้วโจมตีใส่ร่างของเขาในพริบตา
แม้ไม่ได้สร้างความเสียหาย ทว่ากลับทำให้ร่างของเขาถูกผลักออกห่างไปสามฉื่อ
“ใคร!”
พี่ใหญ่ตื่นใอย่างมาก เขามองไม่เห็นเลยว่าที่นี่ยังมีคนอื่นอีก
“ข้าคือปู่ของเ้าอย่างไรล่ะ”
ทันใดนั้น ร่างของเสิ่นเสวียนปรากฏขึ้นข้างๆ สัตว์น้อยตัวนั้น มองดูคนจากเผ่าอนธการที่อยู่ห่างไปหนึ่งเมตรด้วยใบหน้าที่ปิดบังไว้
“เป็ไปได้อย่างไร! เ้ายังไม่ตาย!”
เมื่อเห็นเสิ่นเสวียนปรากฏตัวขึ้นทำให้เขาใยิ่งกว่าเดิม เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้สังหารอีกฝ่ายไปแล้ว เหตุใดถึงยังมีชีวิตอยู่
“ลำพังแค่เ้ายังฆ่าข้าไม่ได้หรอก ข้าขอเตือนพวกเ้าให้ออกไปจากที่นี่เสีย! ไม่เช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเ้าต้องตายอยู่ที่นี่”
เสิ่นเสวียนกอดอกพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ราวกับว่ากำลังกล่าวถึงเื่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองเลย
ส่วนสัตว์น้อยตัวนั้นยังคงโคจรพลังของูเาไฟออกไปปะทะกับอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง ที่น่าแปลกก็คือสัตว์น้อยตัวนั้นไม่ได้มีความคิดเป็ศัตรูต่อเสิ่นเสวียนเลย ในทางกลับกันยังรู้สึกถึงความเชื่อใจอีกด้วย
นั่นเป็เพราะก่อนหน้านี้ที่เขายังไม่ปรากฏตัว เขาแอบช่วยสัตว์น้อยตัวนั้นต้านทานพลังของสามคนนั้นอยู่ก่อนแล้ว มิเช่นนั้นลำพังแค่สัตว์น้อยตัวเดียวไม่มีทางยืนหยัดจนถึงตอนนี้ได้เลย
“ข้าไม่สนใจว่าเ้าจะเป็คนหรือเป็ผี นี่คือเื่ของเผ่าอนธการ ข้าขอเตือนให้เ้าอย่าเข้ามาแทรก” พี่ใหญ่ผู้นั้นกล่าวด้วยแววตาสั่นระริก
“เื่นี้ข้าคงต้องยุ่งแล้ว” เสิ่นเสวียนยังคงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“ตายซะเถอะ!”
ในขณะที่เสิ่นเสวียนกล่าวออกมา พี่ใหญ่ผู้นั้นรวบรวมพลังทั่วทั้งร่างโคจรไปยังกระบี่เพลิงในมือ แล้วแทงกระบี่เข้าใส่ร่างของเสิ่นเสวียน
กระบี่นี้สามารถแทงทะลุร่างของผู้แข็งแกร่งขั้นบรรพบุรุษระดับสูงสุดได้ในกระบวนท่าเดียว แม้พลังจะลดลงไปมากก็ยังไม่แน่ว่าเสิ่นเสวียนจะต้านทานได้
ทว่าตอนที่กระบี่กำลังจะแทงทะลุร่างของเสิ่นเสวียน ร่างของเสิ่นเสวียนพลันเลือนหายไปอย่างน่าประหลาด ทำให้อีกฝ่ายโจมตีโดนเพียงความว่างเปล่า
ภายในมิติปิดผนึกแห่งนี้ แค่สามารถควบคุมร่างให้เคลื่อนที่ไปได้ก็ยอดเยี่ยมมากแล้ว กระบี่ของเขาเล็งเป้าไปยังร่างของเสิ่นเสวียน มันโจมตีออกไปได้เพียงสามฉื่อกลับเจอแต่ความว่างเปล่า หลังจากโจมตีไม่สำเร็จ มิติขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา
“ข้าบอกแล้วว่าหากเ้าไม่ไป ข้าจะทำให้เ้าต้องตายอยู่ที่นี่”
เสียงของเสิ่นเสวียนดังขึ้นในหูของเขาอีกครั้งอย่างน่าประหลาด ทำให้สีหน้าของเขาแสดงความหวาดกลัวออกมา พยายามรวบรวมพลังออกมาแต่ก็ทำได้เพียงป้องกันตัวเท่านั้น
แต่น่าเสียดายที่สายเกินไปแล้ว
ร่างของเสิ่นเสวียนยังไม่ทันปรากฏขึ้น กลับมีพลังหมัดพุ่งใส่ใบหน้าในระยะประชิดจนลานสายตาถูกบดบัง
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
พลังหมัดโจมตีใส่หน้าผากของพี่ใหญ่ติดต่อกันถึงสามครั้ง ทำให้เนื้อตรงหน้าผากบอบช้ำ
ร่างของอีกฝ่ายสวมเกราะอยู่ เสิ่นเสวียนมิอาจทำลายได้ แต่ที่ใบหน้ากลับไม่มีอะไรป้องกัน แต่ละหมัดแอบแฝงพลังะเิเอาไว้ หลังจากโดนสามหมัดนั้นเข้าไปเหมือนจะทำให้พลังป้องกันตัวของอีกฝ่ายแตกสลาย
“อ๊าก!!!”
พี่ใหญ่โดนพลังหมัดโจมตีอย่างรุนแรงจนร้องโหยหวนออกมา ข้างๆ หว่างคิ้วคือดวงตา พลังหมัดส่งผลกระทบทำให้เขาตาบอดชั่วคราว เขารวบรวมพลังขึ้นมาไม่ง่ายเลย ทว่าเสิ่นเสวียนกลับหายตัวไปแล้ว
“อ๊าก อ๊าก! อ๊าก!!!”
หลังจากป้องกันตัวได้แล้ว เขาจึงยกมือขึ้นบังตาและกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง เขากวาดตามองไปรอบๆ เพื่อตามหาร่องรอยของเสิ่นเสวียน
“ออกมาเดี๋ยวนี้ ข้าจะสับร่างของเ้าให้แหลกเป็หมื่นชิ้น!”
พี่ใหญ่ลอยอยู่ใกล้ปากปล่องูเาไฟ เบื้องล่างคือลาวาที่เดือดพล่าน ดวงตาบวมเป่งของเขามองไปรอบๆ อัญมณีสีดำตรงหน้าอกส่องประกายสว่างไสวเจิดจ้า
อัญมณีจะสว่างขึ้นมามีอยู่สองสาเหตุ
หนึ่ง ใช้อายุขัยเกินขีดจำกัดเพื่อฝืนเพิ่มพลัง
สอง พลังชีวิตกำลังถูกแผดเผา
ผลลัพธ์ของการแผดเผาพลังชีวิตแสดงให้เห็นว่า หากอีกฝ่ายไม่มีแผนสำรองในการป้องกันตัวก็จะโดนพลังนั้นกลืนกินจนตาย
และในตอนนี้ พี่ใหญ่ผู้นั้นกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่สอง
การที่เสิ่นเสวียนสามารถซ่อนตัวได้เช่นนี้ความจริงต้องยกความดีความชอบให้อีกฝ่าย ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่เคลื่อนที่ผ่านมิติไปสองครั้งติดต่อกัน ทำให้ไอพลังมิติที่หลงเหลืออยู่โดนผังเมืองซานเหอในทะเลจิตสำนึกของเขาดูดเข้าไป จึงเปิดมิติเล็กๆ ภายในผังเมืองซานเหอออกมาได้
มิตินี้ไม่ใหญ่นัก สามารถยัดร่างของเสิ่นเสวียนเข้าไปได้ เป็เพราะผังเมืองซานเหอทำให้เสิ่นเสวียนเข้ามาในนี้ได้อย่างปลอดภัย กระทั่งทำให้ตนได้เปรียบอีกด้วย
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
พี่ใหญ่ฟันกระบี่เพลิงเข้าใส่มิติรอบๆ ไม่ยั้งมือ แต่ละครั้งทำให้มิติเกิดรอยร้าวขึ้นมากมาย พร้อมทั้งมีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมาด้วย
“ออกมาเดี๋ยวนี้! ออกมาเดี๋ยวนี้!” ขณะที่ฟันกระบี่เพลิง พี่ใหญ่ผู้นี้ยังไม่ลืมะโออกมาด้วย
ั้แ่เข้าสู่เส้นทางฝึกฝนเขายังไม่เคยรู้สึกอัปยศอดสูขนาดนี้มาก่อน โดนพลังหมัดโจมตีเข้าหว่างคิ้วถึงสามครั้งติดต่อกัน พลังหมัดนั้นทำให้รวบรวมพลังสมาธิได้ยากขึ้น หากไม่สังหารอีกฝ่ายคงยากจะลบเลือนความเคียดแค้นภายในใจไปได้
ทว่าสิ่งที่เสิ่นเสวียน้าคือผลลัพธ์เช่นนี้
เขาซ่อนตัวอยู่ในผังเมืองซานเหอ ทั้งช่วยเหลือสัตว์น้อยตัวนั้น ข้อจำกัดของสถานที่ไม่ได้เป็ปัญหาสำหรับเขา สามารถซ่อนตัวได้ตามอำเภอใจ แต่อีกฝ่ายกลับทำไม่ได้ ทุกครั้งที่เคลื่อนไหวจะสูญเสียพลังมหาศาล หากเป็เช่นนี้ต่อไปพลังของอีกฝ่ายจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ และเมื่อถึงขั้นที่เสิ่นเสวียนสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ เขาจะปรากฏตัวออกมา
“พี่ใหญ่ กลับมาเถอะ!”
คนหนึ่งที่อยู่้ากล่าวกับพี่ใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาคิดไม่ถึงเช่นกันว่าพี่ใหญ่จะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ พวกเขามองเสิ่นเสวียนเป็เพียงมดตัวหนึ่ง ทำไมถึงนำพาให้พี่ใหญ่กลายเป็แบบนี้ไปได้
พวกเขาสองคนเห็นว่าะโเรียกแล้วไม่เป็ผล ต่างคนต่างมีจิตใจเด็ดเดี่ยว ยอมแผดเผาอายุขัยของตนเอง ทำให้อัญมณีสีดำแสดงม่านแสงออกมาปกคลุมร่างของพี่ใหญ่ไว้ จึงทำให้พี่ใหญ่ค่อยๆ ตั้งสติกลับมาได้
“ข้าเป็อะไรไป!”
พี่ใหญ่ยังคงหวาดกลัว ก้มลงมองร่างของตนเองที่พลังใกล้จะหมดลงด้วยสีหน้าย่ำแย่ ตอนนี้เขาจำเป็ต้องล่าถอยออกไป ไม่เช่นนั้นอาจต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่จริงๆ
ทว่าขณะที่พวกเขาเตรียมล่าถอยออกไป ร่างของเสิ่นเสวียนกลับปรากฏขึ้นห่างจากพวกเขาไปทางซ้ายราวหนึ่งจั้ง
เสิ่นเสวียนมองพี่ใหญ่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พลันยื่นมือข้างหนึ่งออกไปเบื้องหน้าแล้วกำไว้หลวมๆ
เขากระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ค่อยๆ คลายมือที่กำไว้ออก พร้อมกันนั้นก็พูดออกมาเพียงหนึ่งคำ
“ปะทุ!”
เสียงของเขาเบามาก แต่เหมือนดังก้องอยู่ในหัวของพี่ใหญ่ผู้นั้น
ตูม!
เสียงะเิดังขึ้น เืไหลทะลักออกมาจากหัวของเขา ดวงตาเหม่อลอย พลังบนร่างแตกกระจายออกไปราวกับลูกโป่งถูกปล่อยลม
สามหมัดก่อนหน้านี้คือคมหมัดปะทุ กำลังภายในสามสายพุ่งเข้าสู่ร่างของอีกฝ่าย ค่อยๆ คืบคลานเข้าไปในทะเลจิตสำนึกขณะที่สูญเสียการควบคุมอารมณ์ จากนั้นจึงชี้นำให้มันะเิออก
ทะเลจิตสำนึกของเขาะเิในทันที เละรวมกับเนื้อสมองจนเป็เนื้อเดียวกัน
ดูผิวเผินเหมือนเขาไม่เป็อะไรเลย แต่ความจริงสมองของเขาตายไปแล้ว
“พี่ใหญ่!”
เมื่อััได้ว่าไอพลังของพี่ใหญ่เลือนหาย สองคนที่อยู่้าสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ะโเรียกเสียงดังก้อง
แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร ร่างของอีกฝ่ายกลับร่วงหล่นลงสู่ลาวาเบื้องล่างอย่างไม่อาจควบคุมได้
หากปล่อยให้ร่วงหล่นลงไปเช่นนี้ ร่างของเขาจะหลอมละลายไป
“เฮ้อ น่าเสียดาย ของดีขนาดนี้”
เสิ่นเสวียนส่ายหัวเบาๆ แล้วเขาก็สะบัดมือเก็บเอาร่างของพี่ใหญ่เข้าไปไว้ในมิติเล็กๆ ของผังเมืองซานเหอ
“พวกเ้าก็อยู่ที่นี่ต่อไปเลยแล้วกัน!”
เสิ่นเสวียนเงยหน้าขึ้นมองสองคน้า
“รีบหนีออกไปจากที่นี่!”
หนึ่งในนั้นะโสุดเสียง ฝืนแผดเผาอายุขัยไปอีกยี่สิบปี พลังของเขาพลุ่งพล่านขึ้นมา ทะลวงผ่านผนึกหนีออกไป
อีกคนหนึ่งก็ไม่รอช้า หนีออกไปด้วยวิธีการเดียวกัน
“เฮ้อ ดูสิ ทำให้พวกเ้ากลัวเสียแล้ว ข้ายังไม่มีความสามารถรั้งพวกเ้าสองคนไว้ได้หรอก”
เสิ่นเสวียนมองสองคนที่กำลังหนีพลางส่ายหัว
“จี๊ด จี๊ด...”
ขณะนั้นเอง สัตว์ตัวน้อยโผล่ออกมาจากด้านหลัง กำลังใช้หัวเล็กๆ ของมันถูไถไปกับเสื้อผ้าของเสิ่นเสวียน