“ไปตักน้ำมาอีก ข้าจะลงโทษเ้าเอง!” สิ้นเสียงของจิวฮูหยิน หวางฟางเฟยก็หยิบถังไม้ แล้วค่อย ๆ เดินกลับไปยังสระน้ำทั้งที่เนื้อตัวเปียกปอน ขณะที่นางก้มตักน้ำอยู่นั้น เยว่หลิวเดินตามไป แล้วถีบนางลงสระน้ำทันทีเพื่อความสะใจ
“ตูม!” ร่างเล็กตกลงไปในสระ พร้ะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด ทว่านางว่ายน้ำไม่เป็ ทำได้เพียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนบนฝั่ง ภาพราง ๆ ขณะที่นางกำลังหมดแรงใกล้จมน้ำ มองตรงไปยังสองแม่ลูก ที่ยืนนิ่งไม่กระตือรือร้นหาทางช่วย ก็ทำให้หวางฟางเฟยเข้าใจได้ในทันที ว่าแท้จริงแล้วสองแม่ตั้งใจฆ่านางอย่างเืเย็น
“นางจมไปแล้ว” เสียงพูดเ็าของจิวฮูหยินเอ่ยขึ้น ทำให้เยว่หลิวเตรียมะโลงไปช่วย หากแต่มือของมารดาก็ดึงรั้งไว้อย่างเหนียวแน่น
“หากปล่อยนานกว่านี้ นางอาจตายได้” สีหน้าของเยว่หลิวเริ่มเป็กังวล ก่อนมารดาจะยิ้มบางเบา แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเ็า
“บอกทุกคนว่าเราทั้งสองคน ไม่ได้มาที่สระน้ำแห่งนี้” เยว่หลิวนิ่งอึ้ง พลันหันมองไปยังสระน้ำที่ค่อย ๆ สงบนิ่ง หลังจากร่างของหวางฟางเฟยจมลับหายไป หญิงสาวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เข้าใจความหมายของมารดาทั้งหมด ก่อนจะย่างเท้าเดินตามมารดากลับเข้าจวนไป ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ร่างเล็กใต้น้ำกระตุกสองสามครั้ง ก่อนจะหมดลมหายใจไป ทว่าเสี้ยวหนึ่งของดวงจิต หลุดออกมาจากร่างแล้วลอยตามแสงสว่างไปอย่างช้า ๆ ก่อนจะพบกับบุรุษรูปร่างสูงใหญ่กำยำ เตรียมนำดวงิญญาของนางกลับสู่ปรโลก
“ข้าหมดวาสนาที่จะอยู่ต่อในแดนมนุษย์แล้วงั้นเหรอ” ชายสูงใหญ่สีดำทมิฬ กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงกึกก้อง
“หมดแล้ว”
“เหตุใดจึงไม่ปล่อยให้ข้าตายั้แ่ตอนห้าขวบ” นางถามพร้อมน้ำตา ทว่าชายสูงใหญ่ไม่ตอบ นางจึงถามสิ่งที่คาใจเพื่อเรียกร้องความเป็ธรรม
“นับจากเด็กจนโต ข้าคอยดูแลทุกคนในจวนสกุลจิว ด้วยความภักดี เพื่อตอบแทนบุญคุณของพวกเขา ข้าไม่เคยปริปากพูดถึงความอัดอั้นในใจตัวเอง ข้าเจียมเนื้อเจียมตัวเพื่อให้พวกเขาอยู่อย่างมีความสุข แล้วนี่คือสิ่งตอบแทนที่ข้าควรจะได้งั้นเหรอ ช่างไม่ยุติธรรม!”
“เช่นนั้นเ้า้าอะไร”
“กลับไปมีชีวิตอีกครั้ง”
“ให้ไม่ได้!” เขาตอบด้วยน้ำเสียงกังวานดังเดิม
“เช่นนั้นให้ได้เท่าใด” นางต่อรองพร้อมหยาดน้ำตา พลันมองร่างของตัวเอง ที่จมอยู่ก้นสระอย่างน่าเวทนา
“มีหญิงผู้หนึ่ง หมดลมหายใจ ทั้งที่นางยังไม่สิ้นอายุขัย ข้าจะให้นางมาอยู่ในร่างของเ้า เป็ตัวแทนของเ้า”
“ให้นางแก้แค้นแทนข้า ทำให้ข้าหลุดออกจากมุมมืด ให้ชื่อนามของข้าเป็ที่รู้จัก ให้ความปรารถนาของข้าเป็จริง แล้วข้าจะยอมยกร่างนี้ให้นาง!” หวางฟางเฟยเอ่ยขึ้นทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย สิ้นคำขอของนางทุกอย่างก็มืดสนิท
หญิงสาวรับรู้ความทรงจำของเ้าของร่างเดิม ทำให้นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ พลันมองมือแห้งกร้านของตัวเอง แล้วยิ้มมุมปาก
‘หวางฟางเฟย เ้าช่างอ่อนแอนัก ไม่ตายวันนี้ พรุ่งนี้ก็ตายอยู่ดี แต่เอาเถอะยังไงซะ ข้าก็จะตอบแทนที่เ้ามอบร่างนี้ให้ข้าก็แล้วกัน ข้าจะแก้แค้นแทนเ้า และจะทำให้หวางฟางเฟยเป็ที่สนใจของทุกคน เ้าจะไม่ใช่หวางฟางเฟยที่อ่อนแอ หลบอยู่ในมุมมืดอีกต่อไป’ หญิงสาวตวัดสายตาขึ้นมองไปรอบ ๆ แล้วหวนนึกถึงชีวิตแท้จริงของตัวเอง
‘หลิวเซียนยู่ เป็ธิดาของเสนาบดีหลิวซีซวน ด้วยการแย่งชิงอำนาจในราชสำนักหนักหนานัก ทำให้เสนาบดีที่ทำคุณงามความดีมาทั้งชีวิต ตกม้าตายโดนป้ายสีจนต้องออกจากราชการ หลังจากนั้นก็ติดเหล้าอย่างหนัก จนร่างกายทรุดโทรมและฆ่าตัวตายในที่สุด เมื่อไม่มีทางเลือก มารดาของนางนามว่า หลิวไป่ซิน ต้องดำรงชีพด้วยการค้าขาย
และนั่นเป็จุดเริ่มให้นางต้องกลายเป็คนเข้มแข็ง คอยดูแลปกป้องมารดาไม่ให้ผู้อื่นมาเหยียดหยามดูิ่ แต่น่าเสียดายที่อายุขัยน้อยเกินไป ถูกกระบี่ของคนร้ายปลิดชีพจนทำให้นางสิ้นใจ ทว่าห้วงแห่งความเป็ความตาย สิ่งเดียวที่ติดค้างในใจ ก็คือมารดาที่ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง
สิ้นความคิด ร่างของหวางฟางเฟยก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตั้งอยู่กลางจวน เตรียมเบี่ยงตัวกลับเข้าเรือนนอน หากแต่ฝีเท้าของใครบางคน เดินมาหยุดด้านหลังอย่างเงียบ ๆ หญิงสาวในชุดสีเหลืองอ่อน ค่อย ๆ หันกลับไป พบว่าเป็จิวฮูหยิน
“เหตุใดจึงมานั่งอยู่ตรงนี้ น้ำค้างลง จะทำให้เ้าไม่สบายเอาได้” หญิงกลางคนพูดพร้อมรอยยิ้มเมตตา ก่อนจะจับกายของหวางฟางเฟยเบา ๆ แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน
“เหตุการณ์ที่สระน้ำวันนั้น เป็ความซุกซนของเยว่หลิว เ้าก็อย่าถือสาพี่สาวของเ้าเลยนะ รู้หรือไม่ว่าหลังจากเ้าจมน้ำไปแล้ว พี่สาวเ้าก็ะโตามลงไปช่วยในทันที แต่น่าเสียดายที่พยายามคว้าตัวเ้าเท่าใดก็คว้าไม่ถูก เมื่อรู้ว่าเกินกำลัง แม่กับพี่สาวของเ้า ก็รีบวิ่งไปตามคนมาช่วย แต่ไม่คิดว่า...เ้าจะว่ายน้ำกลับขึ้นมาเองได้...เ้าว่ายน้ำเป็ั้แ่เมื่อใดกัน?” หวางฟางเฟยยืนฟังคำแก้ตัวของมารดาเลี้ยงอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วพูดขึ้น