ดวงอาทิตย์ลอยอยู่สูงกลางท้องฟ้า
วันนี้จะไม่ใช่วันธรรมดาในเมืองต้าเหยียน
นอกประตูเมืองต้าเหยียนอันเก่าแก่และแข็งแกร่ง วงแสงปรากฏขึ้นทีละวง ที่ห่างออกไป เมฆหลากสีแขวนสูงอยู่บนท้องฟ้า พร้อมกับร่างของผู้คนที่เดินทางมาจากขอบฟ้าอันไกลโพ้น!
หมอกหนาทึบและแสงเรืองรองไหลเวียนไปทั่ว พร้อมกับพลังิญญาที่พุ่งทะยานขึ้นฟ้า สลายเมฆหมอกที่ลอยอยู่ใต้แสงอาทิตย์! บางคนขี่ราชรถศึก บางคนเหยียบดาบราวกับเซียน และบางคนเร่งรุดมาแต่ไกล!
แต่ละคนล้วนแผ่พลังอันไม่ธรรมดาออกมา!
โครม!
เสียงฟ้าคำรามดังกึกก้อง!
ัน้ำเขาเดี่ยวหกตัวทะยานผ่านก้อนเมฆเข้ามา พวกมันดูราวกับสร้างจากเหล็กกล้า ทั้งดุร้ายและทรงพลัง แต่ละตัวแผ่พลังอันน่าสะพรึงกลัวและปกคลุมไปด้วยสายฟ้า
ด้านหลังพวกมัน มีราชรถสีทองอันมหึมาลากตามมา พร้อมโซ่ทองเปล่งประกาย!
"พระเ้า! นั่นมันราชรถัน้ำของนิกายหมอกภูผา! เป็พันปีแล้วที่ราชรถัน้ำไม่เคยปรากฏตัว? ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะมาปรากฏที่นี่วันนี้!"
เบื้องล่าง เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรแห่งนครต้าเหยียนเงยหน้ามองด้วยสีหน้าตกตะลึง
"เดี๋ยวก่อน มองไปทางนั้นสิ! นั่นมันอสูรซวนหนีในตำนาน!"
ในระยะไกล ผู้บำเพ็ญเพียรคนหนึ่งอุทานด้วยความใ
ที่ขอบฟ้าอันห่างไกล อสูรร้ายสีชาดปรากฏขึ้น มันสูงตระหง่านนับพันฟุต! มีร่างหลายร่างยืนอยู่บนหน้าผากของมัน พลางพูดคุยและหัวเราะอย่างผ่อนคลาย เพียงแค่ลมหายใจเดียว หมู่เมฆก็สลายหายไป!
"อสูรซวนหนีของตระกูลหวังแห่งนครตะวันฟ้า์! คนที่ยืนอยู่บนหน้าผากของซวนหนีตัวนั้น หรือว่าจะเป็หัวหน้าตระกูลหวัง?"
"หัวหน้าตระกูลหวัง ไม่พบกันเสียนานเลยนะ ซวนหนีของท่านดูทรงพลังขึ้นมากจริง ๆ"
จู่ ๆ เสียงอ่อนหวานดังขึ้นจากขอบฟ้า หญิงสาวผู้หนึ่งก้าวเดินมาอย่างสง่างามในชุดคลุมหมึกดำ มือถือพัดปิดใบหน้าบางส่วน
นางก้าวเดินอย่างอ่อนช้อยราวกับดอกบัวที่บานสะพรั่ง รูปร่างโค้งเว้าดูเย้ายวน ใบหน้างดงามราวกับ์สรรค์สร้าง ดวงตาของนางเปล่งประกายความลุ่มหลง ทุกอิริยาบถล้วนดึงดูดจิติญญา ราวกับมนต์สะกดจากสวนดอกท้อในความฝัน
"ไม่พบกันนานเลย ได้ยินมาว่านิกายของท่านเพิ่งได้แก่นอสูรปีศาจจากแดนต้องห้ามมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ซวนหนีของข้าคงเทียบไม่ได้เลย"
บนหน้าผากของอสูรั์ ชายวัยกลางคนในชุดขาว ผมยาวสยาย ยกมือประสานพร้อมรอยยิ้ม
"หัวหน้าตระกูลช่างถ่อมตัวเกินไป" หญิงสาวกล่าวพลางยิ้ม บรรยากาศรอบตัวนางแฝงไปด้วยพลังประหลาด หลังจากจ้องมองนางเพียงครู่เดียว ผู้ฝึกตนเบื้องล่างหลายคนกลับรู้สึกเืลมเดือดพล่าน!
พวกเขารีบเบือนสายตาหนี บางคนถึงกับอุทานด้วยสีหน้าใ "นางคนนั้น... นิกายอสูร? นางมารแห่งนิกายอสูรก็มาด้วยหรือ? หรือว่าตระกูลหลินจะมีความเกี่ยวข้องกับนิกายอสูร?"
ไม่เพียงเท่านั้น ร่างอื่น ๆ ก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน ท่ามกลางเมฆาที่ไหลเวียนและแสงศักดิ์สิทธิ์อันเจิดจ้า!
ไม่เพียงเท่านั้น ร่างอื่น ๆ ก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน ท่ามกลางกลุ่มเมฆาที่ไหลเวียนและแสงศักดิ์สิทธิ์อันเจิดจ้า!
"เดี๋ยวก่อน มองไปทางนั้นสิ! หญิงสาวที่ยืนอยู่ท่ามกลางเมฆาและปิดบังใบหน้า… นางมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงหรือไม่? นางเป็ธิดาศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?"
"ดูนั่น! อสูรทะเลขนาดมหึมา! มันสามารถแบกกำแพงเมืองทั้งแถบได้เลยงั้นหรือ?! นั่นมันผู้าุโสูงสุดแห่งตระกูลซวนจากเมืองทะเลตะวันออก!"
"หอการค้าเมฆา! พวกเขาช่างใจกว้างนัก! ครั้งนี้ถึงกับนำของขวัญมาเป็จำนวนมาก!"
ร่างมากมายเดินทางมาจากขอบฟ้า บ้างสนทนากันอย่างออกรส บ้างเงียบขรึมเดินเพียงลำพัง แต่เมื่อมาถึงเมืองต้าเหยียน ทุกคนล้วนก้าวลงจากฟ้าและเลือกเดินเข้าสู่เมือง!
นี่มิใช่ความหวาดกลัว แต่เป็ความเคารพต่อตระกูลหลิน!
สำหรับตระกูลหลิน เมื่อเผชิญกับอำนาจมากมายเช่นนี้ ย่อมไม่อาจแสดงความละเลยได้ พวกเขาส่งบุคคลสำคัญของตระกูลออกมาต้อนรับั้แ่หน้าประตูเมือง
"ฮ่า ๆ ๆ! ยินดีต้อนรับท่านผู้าุโซวน! ท่านมาถึงได้ถูกเวลาจริง ๆ!"
ผู้าุโชราในชุดคลุมสีน้ำเงิน ดวงตาสีฟ้า เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
"ตระกูลซวนและตระกูลหลินมีสัมพันธ์ที่เกี่ยวดองด้วยการแต่งงานกันอยู่แล้ว บัดนี้บรรพชนตระกูลหลินสามารถทะลวงขอบเขตได้ ข้าย่อมต้องมาแสดงความยินดี"
"ขอแสดงความยินดีด้วย!"
"โอ้? เพียงไม่กี่วันไม่ได้พบกัน พี่หลินก็สามารถทะลวงขึ้นไปอีกระดับได้แล้วหรือ? น่ายินดีจริง ๆ!"
"ว่าแต่… บรรพชนตระกูลหลินก้าวข้ามขอบเขตสุดท้ายแล้วหรือยัง?"
"ฮ่า ๆ ๆ! ตอนนี้ตระกูลหลินของท่านนับว่าไร้เทียมทานในเขตชี่ซานแล้ว ในทั่วทั้งแคว้นชิงเหนือ แทบไม่มีผู้ใดต้านทานตระกูลหลินได้อีก!" ชายชราผู้หนึ่งหัวเราะพลางก้าวเข้ามา
ผู้ที่ทำหน้าที่ต้อนรับพวกเขาเพียงแต่ยิ้ม และไม่ได้กล่าวสิ่งใดมากไปกว่าการเชื้อเชิญให้แขกเหล่านี้เข้าสู่งานเลี้ยงอย่างสุภาพ
เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรที่มาถึงส่วนใหญ่เป็ขุมกำลังจากอาณาจักรฉีซาน
(ขอเปลี่ยนจาก เขตชี่ซาน>อาณาจักรฉีซาน)
ทวีป์นี้แบ่งออกเป็อาณาเขตย่อยอีกมากมาย อาณาเขตเหนือคราม คือที่ตั้งของอาณาจักรฉีซานและอีกเจ็ดอาณาจักรที่เหลืออยู่
หลังจากที่ตระกูลหลินให้กำเนิด "บุตรศักดิ์สิทธิ์" แล้ว พวกเขาย่อม้าขยายอำนาจไปทั่วทั้งทวีปอันกว้างใหญ่ ก้าวออกจากอาณาจักรฉีซานและอาณาเขตเหนือครามไปสู่จุดสูงสุด!
ทว่า แม้ตระกูลหลินจะเข้าใกล้ความเป็ "ไร้เทียมทาน" แต่ก็ยังคง้าเวลาอีกเล็กน้อย
ณ เวลานี้ เหล่าสมาชิกตระกูลหลินยังคงไม่ล่วงรู้เลยว่า เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรทั้งหลายต่างเข้าใจผิด คิดว่า "ปรากฏการณ์มหัศจรรย์" ที่เกิดขึ้นนั้น เป็เพราะบรรพชนของตระกูลสามารถทะลวงขอบเขตสำเร็จ…
แต่แท้จริงแล้ว เื่ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับ หลินเสวียน!
เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรต่างเข้าใจว่าเป็เพราะบรรพชนตระกูลหลินสามารถทะลวงขอบเขตได้สำเร็จ จึงพากันมาร่วมแสดงความยินดี
แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า ต้นเหตุที่แท้จริงของปรากฏการณ์นี้ กำลังนอนอยู่ในห่อตัวของทารก ยังคงบำเพ็ญเพียรอย่างเงียบ ๆ
ลมหายใจเข้าออกเป็จังหวะ กลุ่มพลังปราณม่วงเข้มหลั่งไหลเข้าไปในปากและจมูกของเด็กน้อย
ระหว่างที่ฝึกฝน หลินเสวียนครุ่นคิดอยู่เงียบ ๆ ว่า… ความเร็วในการบำเพ็ญเพียรเช่นนี้ยังคงช้าเกินไป
ด้วยเหตุที่เขามี เคล็ดลมปราณม่วงมรรคา ทำให้สามารถบำเพ็ญเพียรได้ตลอดเวลาแม้เพียงหายใจเข้าออก แต่เพราะก่อนหน้านี้เขาเก็บสะสมปราณม่วงไว้มากเกินไป แม้จะใช้เคล็ดวิชาในการดูดซับ ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าครึ่งเดือนกว่าจะซึมซับได้ทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ เขามักจะอยู่ในสภาพไร้การเคลื่อนไหวมาโดยตลอด
โชคดีที่ระหว่างบำเพ็ญเพียร ร่างกายของเขาเปล่งประกายใสดุจคริสตัล พร้อมกับปราณม่วงที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่น คลื่นพลังอันอุดมสมบูรณ์แผ่ซ่านออกมาปกคลุมร่าง ทำให้เขาไม่รู้สึกหิวแต่อย่างใด
"หลินฮ่าว ข้าไม่เป็ไร ไปเข้าร่วมงานเถอะ เ้าเป็เ้าเมืองต้าเหยียน จะขาดงานนี้ไม่ได้"
บนเตียง เสวียนอวี่ กอดหลินเสวียนไว้แนบอก พลางกล่าวกับสามีของนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หลินฮ่าวถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะวางชามซุปสมุนไพริญญาในมือลง เขาใช้นิ้วมือจัดแต่งเส้นผมของเสวียนอวี่ให้เรียบร้อย แล้วโน้มตัวไปจุมพิตหน้าผากของหลินเสวียนอย่างแ่เบา
"อาอวี่ อยู่ที่นี่กับเสวียนเอ๋อร์สักพักนะ หลังงานเลี้ยงจบ ข้าจะรีบกลับมา"
"อืม"
เสวียนอวี่พยักหน้าตอบเบา ๆ
หลินฮ่าวรีบก้าวออกจากห้องไป
ไม่นานนัก เสวียนอวี่ก็ไอเบา ๆ
เสียงไอของนางทำให้หลินเสวียนที่กำลังบำเพ็ญเพียรขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างสงสัย
'เสียงไอนี้… ดูแปลกไปหรือเปล่า?'
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้