เขาก้าวเดินเข้าไปด้านในด้วยแววตาที่เรียบเฉย พ่อบ้านและคนเฝ้าประตูยามนี้ล้วนไม่กล้ารังแกเขาเฉกเช่นแต่ก่อนอีก อาจเพราะอำนาจที่เขามีอยู่ในมือตอนนี้สามารถสั่งเป็สั่งตายผู้คนได้ อีกทั้งฮ่องเต้ก็ไว้เนื้อเชื่อใจเขายิ่งกว่าใคร เมื่อเป็เช่นนี้ทุกคนไม่ว่าจะพูดจาหรือทำสิ่งใดล้วนต้องมองสีหน้าเขาทั้งสิ้น
ภายในจวนตระกูลหยางตลอดเส้นทางล้วนจุดคบไฟเพื่อให้ความสว่างตลอดทางเดิน มีบ่าวไพร่และสาวใช้หลายนางที่กำลังเดินขวักไขว่ไปมา เมื่อเห็นว่าเขากลับมาแล้วก็รีบเข้ามาทำความเคารพอย่างนอบน้อม
เมื่อมาถึงก็พบว่าตอนนี้คนในจวนกำลังนั่งกินอาหารมื้อเย็นร่วมกันอยู่ ภาพครอบครัวสุขสันต์สามคนพ่อแม่ลูกนี้หยางซีเห็นจนชินตาไปเสียแล้ว
“คารวะท่านพ่อท่านแม่ พี่ใหญ่ ข้ากลับมาแล้ว”
ฮูหยินใหญ่ปรายตามองเขาคราหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ นางยกผ้าขึ้นมาเช็ดริมฝีปากตนและแสร้งเอ่ยกับเขาด้วยท่าทีใ
"อาซีกลับมาแล้วหรือ ตายจริง แม่ไม่รู้ว่าเ้าจะกลับมาจึงไม่ได้ให้บ่าวไพร่ทำอาหารที่เ้าชอบไว้รอ"
น้ำเสียงและท่าทีของฮูหยินใหญ่แม้จะดูเป็ห่วงเป็ใย แต่หากตั้งใจฟังให้ดีจะพบว่ามันแฝงไปด้วยความดูแคลนและเย้ยหยันอย่างไม่ปิดบัง หยางเหลียนที่เห็นว่าเขากลับมาก็ส่งเสียงเหอะในลำคอ พร้อมกับแสดงท่าทีไม่พอใจเขาอย่างออกนอกหน้า หยางซียิ้มให้ฮูหยินใหญ่อย่างอ่อนโยน
"ขอบคุณท่านแม่ที่เป็ห่วงเป็ใย แต่ข้ากินมาแล้วขอรับ หลังจากเข้าเฝ้าฝ่าาและสนทนากันครู่หนึ่ง ฝ่าาก็ทรงให้ข้าอยู่ร่วมกินมื้อเย็นด้วยกัน"
ฮูหยินใหญ่เมื่อได้ฟังที่หยางซีเอ่ยตอบก็เริ่มอารมณ์เสีย นางกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะและเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"เ้านี่ดีนักนะ มาถึงนครหลวงแต่กลับไม่ยอมกลับมาที่จวนก่อน แต่กลับเสนอหน้าไปประจบเอาใจฝ่าาในวังหลวงเสียนี่!"
หยางซีเมื่อได้ยินกลับไม่โกรธ ซ้ำยังเอ่ยวาจาที่ทำให้ฮูหยินใหญ่แทบจะกระอักโลหิตออกมา
"ลูกมีเื่สำคัญต้องเร่งกราบทูลฝ่าา เป็เื่ที่เกี่ยวกับปากท้องของราษฎร หรือท่านแม่จะให้ลูกไม่สนใจหน้าที่แล้วกลับมาประจบเอาใจท่านที่จวนเสียก่อน ทำเช่นนั้นคนนอกที่ทราบเื่อาจจะตำหนิว่าท่านแม่ไม่รู้ความเอาได้นะขอรับ"
"หยางซี!"
"หุบปากกันทั้งคู่นั่นแหละ!"
หยางกั๋วกงที่ทนฟังไม่ไหวจึงรีบเอ่ยปรามาประสาทนี่เสีย พร้อมกับถลึงตาใส่ฮูหยินใหญ่คราหนึ่ง ฮูหยินใหญ่จึงไม่กล้ามีปากมีเสียงอีกเพราะนางรู้นิสัยของสามีตนเองดี เมื่อเห็นว่าไม่อาจต่อปากต่อคำกับหยางซีได้อีก นางจึงลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารและเดินออกไปพร้อมกับหยางเหลียนทันที เพราะยามนี้นางหมดอารมณ์อยากอาหารไปเสียแล้ว!
หยางกั๋วกงมองหยางซีบุตรชายคนรองของตนคราหนึ่ง หยางซียิ่งโตยิ่งดูองอาจมากขึ้นเป็เท่าตัว มีวูบหนึ่งที่ในใจของเขารู้สึกหวาดหวั่นในใจ เกรงว่าอดีตที่ปิดบังเอาไว้จะย้อนกลับมาทำร้ายและพรากบุตรชายผู้นี้ไปจากตน
เขาสูญเสียนางไปคนหนึ่งแล้ว บุตรของนางเขาจะไม่ยอมเสียไปอีกเด็ดขาด!
เมื่อคิดถึงสตรีตระกูลอู่ขึ้นมา ในใจของหยางกั๋วกงก็เต้นรัวแรงอย่างบ้าคลั่ง แววตาที่มองหยางซีก็ยิ่งฉายแววรักใคร่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หยางซีมองบิดาตนด้วยแววตาเรียบเฉย ในใจของเขายามนี้มันอยากจะอาเจียนออกมาเต็มทน
ท่านพ่อนี่เก่งกาจนัก ฆ่ามารดาแต่กลับแสดงท่าทีรักใคร่บุตรชายเช่นนี้ ไม่รู้สึกละอายใจตนบ้างหรือ?
"อาซี เ้ากลับมาครานี้ก็พักอยู่ที่จวนนานสักหน่อย พ่อจะให้คนทำอาหารที่เ้าชอบมาให้"
"ขอบคุณท่านพ่อ แต่ลูกคงไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ที่อำเภอเซียงถงยังมีเื่ให้ต้องจัดการ หากล่าช้าอาจจะเกิดอุทกภัยตามมาได้"
หยางกั๋วกงเมื่อได้ฟังก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาทันที เขายื่นมือทั้งสองข้างมาจับไหล่บุตรชายก่อนจะเอ่ย
"เมื่อใดกันที่เ้าเห็นคนอื่นสำคัญกว่าพ่อที่รักเ้ามากอย่างข้า อาซี พ่อเป็คนช่วยเ้ามาจากกองเพลิง พ่อเ็ปมากเพียงใดตอนที่เห็นว่าเ้าเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด หรือเ้ายังโกรธที่พ่อช่วยท่านแม่และท่านตาของเ้าไม่ได้ พ่อจนปัญญาจริงๆ พ่อพยายามอย่างสุดกำลังแล้ว อาซี พ่อรู้สึกผิดจริงๆนะ ไม่มีสักวันที่พ่อไม่รู้สึกผิดต่อพวกเ้าเลย"
หยางซียิ้มเ็าและเอ่ยกับบิดาตนด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ
"ในเมื่อท่านพ่อรู้สึกผิดต่อท่านแม่มากถึงเพียงนี้ เหตุใดไม่กระโจนตามนางเข้าไปในกองเพลิงเล่า บางคราหากลูกตายไปพร้อมพวกท่านมันอาจจะดีกว่านี้ ท่านพ่อว่าหรือไม่?"
หยางกั๋วกงเมื่อได้ฟังก็ชะงักไปคราหนึ่ง ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะแห้งๆ
"ได้อย่างไรกัน พ่อย่อมต้องคุ้มครองเ้า พ่อไม่อาจพรากชีวิตเ้าไปได้ และแม่เ้าก็คงไม่้าให้พ่อทำเช่นนั้น แม้เ้าจะโกธรอยู่ พ่อก็จะไม่ถือสา จำไว้ เ้าเป็คนตระกูลหยาง พ่อรักเ้ามาก"
หยางซีอยากจะอาเจียนเต็มทนแต่ต้องอดกลั้นเอาไว้
"ลูกเหนื่อยแล้ว อยากพัก ท่านพ่อก็รีบไปพักเถอะขอรับ อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว ห่มผ้าหนาๆหน่อย จะได้ไม่ล้มป่วยเอาได้"
หยางกั๋วกงเม้มริมฝีปากแน่น แต่กลับไม่ได้เอ่ยรั้งตัวบุตรชายเอาไว้อีก แต่ไหนแต่ไรหยางซีก็มีนิสัยเ็าเช่นนี้มาโดยตลอด เขาเองก็รู้ดีว่าที่ผ่านมาบุตรชายต้องถูกมารดาเลี้ยงกลั่นแกล้ง แต่เขาต้องปิดตาข้างหนึ่งเพื่อถ่วงความสมดุลในเรือนหลัง
แต่สุดท้ายบุตรชายของเขาผู้นี้ก็เจริญรอยตามเขาเป็แม่ทัพใหญ่ ไม่เสียแรงที่เขาบ่มเพาะเลี้ยงดูมาเองกับมือ
"ก็ได้ พ่อจะไปพักแล้ว อาซี เอาเป็ว่าเ้าอยู่ต่ออีกสักหน่อย เพราะอีกสองวันจวนเราจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้พี่ใหญ่ของเ้า ได้ยินว่าคุณหนูสามตระกูลอวี๋ก็จะมาร่วมงานเลี้ยงด้วย นางเป็สตรีที่งดงาม บิดานางก็เป็ถึงเ้ากรมโยธา เ้าก็อยู่ทำความคุ้นเคยกันเอาไว้ย่อมไม่เสียหาย พ่อไปนอนก่อนล่ะ"
หยางซีเพียงพยักหน้า ก่อนจะกลับมาที่ห้องนอนของตน เมื่อกลับเข้ามาในห้อง เขาก็เรียกองค์รักษ์ลับออกมาพบ ไม่นานก็ปรากฎร่างของชายชุดดำมาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า
"นายท่าน มีเื่ใดจะให้บ่าวไปทำ โปรดสั่งมาได้เลยขอรับ"
"ไปสืบเื่ของคุณหนูสามอวี๋มาให้ละเอียด"
"ขอรับ"
องค์รักษ์ลับรับคำ หยางซีเมื่อเห็นว่าไม่มีอันใดแล้วจึงนอนพัก เช้าวันต่อมาองค์รักษ์ลับของเขาก็กลับมา พร้อมกับบอกเล่าเื่ราวทุกอย่างให้เขาฟัง
องค์รักษ์ลับบอกว่า คุณหนูสามอวี๋นั้นมีชื่อว่าอวี๋ฝู เป็บุตรของอดีตฮูหยินใหญ่ที่ล่วงลับไปแล้วของใต้เท้าอวี๋ นางมีนิสัยขี้กลัวไม่สู้คน อีกทั้งยังไม่ทันคน อยู่ในจวนก็ถูกพี่น้องกลั่นแกล้งเป็ประจำั้แ่เด็ก นางมีพี่สาวพี่ชายที่เกิดจากฮูหยินรองอยู่สองคน ส่วนตัวนางเป็บุตรคนที่สามแต่เกิดจากท้องของภรรยาเอก ทุกคนล้วนเรียกนางว่าอวี๋สาม ได้ยินว่าสามปีก่อนมารดานางล้มป่วยจนตาย และนางก็ทำความผิดจึงถูกส่งไปถือศีลอยู่ที่อารามหลวงบนเขาเป็เวลานาน เพิ่งจะกลับมานครหลวงเมื่อไม่นานมานี้
หยางซีฟังจนจบก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะหยันออกมา ท่านพ่อผู้แสนดี จะหาภรรยาให้เขาทั้งทีกลับเลือกหญิงสาวที่ไม่มีแม้แต่อำนาจจะเชิดชูสามี ซ้ำยังโง่เง่าไม่ทันคน นี่คงคิดจะกดเขาให้อยู่ใต้เท้าไปตลอดชีวิต กลัวว่าเขาจะมีหน้ามีตาเหนือกว่าหยางเหลียนสินะ
ได้ยินว่าสตรีที่ฮูหยินใหญ่เลือกให้พี่ใหญ่นั้นเป็ถึงบุตรสาวของราชครูคนใหม่ เป็หญิงงามเลื่องชื่อมีชาติตระกูลดี
แต่กลับเลือกสตรีเช่นนี้มาเป็คู่ชีวิตของเขา เดิมทีเขาไม่ได้รังเกียจอวี๋สาม แต่เขารังเกียจบิดาของนาง
เ้ากรมกลาโหมอวี๋ หนึ่งในคนที่กล่าวฟ้องให้ฮ่องเต้ิต่งลงทัณฑ์ิจูจนตาย!
องค์รักษ์ลับที่เห็นว่าเ้านายตนไม่เอ่ยอันใดจึงเอ่ยเล่าต่อไปว่า หลังจากนางกลับมานครหลวงก็มีนิสัยเปลี่ยนไป ใครทำร้ายนาง นางเอาคืน ใครตบนางนางถีบ นิสัยเปลี่ยนไปชั่วข้ามคืน อีกทั้งนางยังหาหลักฐานมาแก้ต่างว่าตนไม่ได้ทำผิด ไม่ได้ทำร้ายมารดาเลี้ยง และไม่ได้มีดวงอัปมงคล สุดท้ายเ้ากรมกลาโหมอวี๋จึงต้องรับนางกลับจวนอย่างมีหน้ามีตา
หยางซีเมื่อฟังมาถึงตรงนี้ก็พลันขมวดคิ้วมุ่น แววตาฉายแววครุ่นคิดทันใด
คนหนึ่งคนจะเปลี่ยนไปได้เพียงชั่วข้ามคืนนั้นย่อมมีสาเหตุเพียงไม่กี่อย่าง
หรือว่าิญญาของใครบางคนจะเข้าไปอยู่ในร่างของคุณหนูสามอวี๋นางนั้นเช่นเดียวกับิจูที่ไปอยู่ในร่างของไป๋เยว่ซิน
เช่นนั้นใครกันที่อยู่ในร่างของคุณหนูสามอวี๋!