ตอนที่หลงอวี้เหยียบข้อมือของถานเยว่ และฝูงชนกำลังตื่นตะลึงอยู่นั้น สีหน้าของหานเจี้ยนที่อยู่ข้างๆ พลันเปลี่ยนไป
“ ไอ้สวะ ยังไม่รีบปล่อยมืออีก! ”
หานเจี้ยนตะคอกเสียงดังสนั่น เงาร่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทะยานไปทางหลงอวี้
ถานเยว่ถูกหลงอวี้โค่นล้มไป เื่นี้หานเจี้ยนคาดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ถือเป็โอกาสดีสำหรับเขา
โค่นล้มหลงอวี้เอาใจสาวงามถานเยว่ ทั้งยังได้ผูกมิตรกับศิษย์อัจฉริยะระดับสูงถานเจียน โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว!
เงาร่างของหานเจี้ยนทะยานเข้าใส่หลงอวี้อย่างรวดเร็วปานคมกระบี่!
“ เ้าให้ข้าปล่อยมือเหรอ ต้องขออภัยด้วย แต่มือข้าไม่ได้จับอะไรไว้เสียหน่อย! ”
หลงอวี้เห็นหานเจี้ยนพุ่งเข้ามา ดวงตาพลันเปล่งประกายเย็นะเื สองมือไพล่หลัง ใช้เพียงขาข้างหนึ่งเหยียบข้อมือของถานเยว่
หานเจี้ยนบอกให้เขาปล่อยมือ แต่เขาทำไม่ได้จริงๆ ให้เขาปล่อยเท้าสิถึงจะถูก...
หากหลงอวี้ไม่อาจต่อกรกับหานเจี้ยนได้ แต่เขาสามารถใช้ถานเยว่เพื่อข่มขู่ได้ทว่าตอนนี้หลงอวี้ไม่จำเป็ต้องทำเช่นนั้น
“ ไสหัวไป ”
หลงอวี้ตวัดขาเตะถานเยว่จนกระเด็นไปทางหานเจี้ยน เขาเตรียมต่อกรกับหานเจี้ยนแล้ว
ถานเยว่ในชุดสีแดงกลิ้งหลุนๆ บนพื้นหลายตลบ เปรอะเปื้อนดินโคลนเต็มตัว ทั้งยังเผลอกลืนฝุ่นเข้าปากไปไม่น้อย
เส้นผมที่แต่เดิมยาวสลวยงดงาม บัดนี้ยุ่งเหยิงหมดสภาพ ยิ่งมองก็ยิ่งอนาถาภายใต้ใบหน้าที่ถูกเส้นผมยุ่งเหยิงบดบังได้เผยแววตาโเี้
“ ศิษย์พี่หานเจี้ยน ฆ่ามันซะ! ”
ทั้งชีวิตนี้ถานเยว่ไม่เคยถูกลบหลู่ขนาดนี้มาก่อน ตอนที่ถูกหลงอวี้เหยียบข้อมือ ความอาฆาตแค้นในใจนางก็ยิ่งเพิ่มพูนอาฆาตขึ้นมา
ไอ้สวะนี่ วันนี้มันต้องตาย!
แม้ว่าในลัทธิสยบฟ้ามีกฎห้ามฆ่าฟันกันเอง แต่หากพลั้งมือฆ่าคู่ต่อสู้ระหว่างการประลอง ทางลัทธิเองก็จะลงโทษไม่หนักมาก
ถานเยว่เชื่อว่าการที่มีพี่ชายอย่างถานเจียนคอยหนุนหลัง ต่อให้ฆ่าหลงอวี้นางก็คงไม่เป็อะไร
หานเจี้ยนพอได้ยินเสียงของถานเยว่ก็ชักกระบี่ที่สะพายไว้บนหลังออกมา
กระบี่เล่มนี้ไม่ใช่ยุทธภัณฑ์ เป็เพียงอาวุธทั่วไปที่มีไว้ใช้กับวิทยายุทธ์เท่านั้น ไม่ได้มีคุณสมบัติพิเศษใดๆ
แต่หานเจี้ยนเข้าลัทธิมานานแล้ว ได้ฝึกวิชากระบี่ของลัทธิสยบฟ้า ทั้งยังมีวิถียุทธ์ขั้นที่ห้า พลังต่อสู้ย่อมต้องเหนือกว่าถานเยว่แน่นอน
หลงอวี้หลังเตะถานเยว่ออกไปก็เพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่หานเจี้ยนต่อ ในตอนที่หานเจี้ยนถือกระบี่พุ่งเข้ามา เขาได้ปล่อยพลังจินตภาพครอบคลุมตัวหานเจี้ยนไว้
“ นี่มันพลังอะไรกัน?”
หานเจี้ยที่คิดจะจัดการกับหลงอวี้ในกระบี่เดียว พริบตานั้นกลับมีแรงกดทับสายหนึ่งพุ่งลงมาจากฟากฟ้า ทำเอาหน้าถอดสีไปเล็กน้อย
ทุกครั้งที่หลงอวี้ปล่อยพลังจินตภาพ จะมีเพียงเป้าหมายเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นหานเจี้ยนจึงไม่รู้มาก่อนว่าหลงอวี้มีพลังแบบนี้อยู่
แรงกดทับของพลังจินตภาพทำให้หานเจี้ยนถูกลดความเร็วลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัว
“ ไม่ว่าเ้าจะมีพลังพิสดารอันใด ข้าก็สามารถปลิดชีวิตเ้าได้ในกระบี่เดียว! ”
หานเจี้ยนต้านแรงกดทับของพลังจินตภาพ เผยสีหน้าโเี้ออกมา
เขาร่ายรำกระบี่ยาวในมือ เกิดเป็ลมพายุอันแหลมคม พุ่งเข้าใส่หลงอวี้อย่างดุดัน!
“ กระบี่วายุคลั่ง! วิชากระบี่ชั้นสูงของลัทธิ ที่พลังและความเร็วแข็งแกร่งที่สุด!”
“ ไม่คิดเลยว่าหานเจี้ยนจะบรรลุเคล็ดกระบี่วายุคลั่งขั้นสูงแล้ว ลมพายุทรงอานุภาพขนาดนี้ แม้แต่ข้าก็รับไม่ไหว! ”
“ ไอ้สวะนั่นถึงคราวซวยแล้ว ลบหลู่รังแกศิษย์น้องถานเยว่จนทำให้หานเจี้ยนเกรี้ยวกราดจนหยุดไม่อยู่แล้ว”
ฝูงชนที่เห็นหานเจี้ยนวาดกระบี่พากันตื่นตะลึง แสดงให้เห็นว่าการบรรลุวิชากระบี่ได้สำเร็จถึงขั้นสูงเป็เื่ยากมาก ในบรรดาลูกศิษย์ระดับล่างก็ยิ่งเห็นได้น้อยมาก
ตอนที่ฝูงชนเฝ้ารอให้หลงอวี้ถูกจัดการลงอยู่นั้น หลงอวี้กลับจ้องเขม็งไปที่ลมพายุที่พุ่งเข้ามา
‘ ตามหลักแล้ว ผู้ฝึกวรยุทธ์ยกระดับขึ้นไปถึงวิถียุทธ์ขั้นเจ็ดได้เท่านั้น จึงจะปล่อยลมปราณออกมาภายนอกได้ แต่ถ้าพึ่งพาวิทยายุทธ์บางชนิดก็สามารถสร้างผลลัพธ์แบบเดียวกันได้ เช่น เคล็ดวิชาวายุคลั่งนี้ ที่ได้รวบรวมลมปราณอัดแน่นจนกลายเป็ลมพายุโจมตีศัตรู... ’
หลงอวี้คิดในใจเช่นนั้น เขารู้ว่าหากการต่อสู้ยิ่งยืดเยื้อละก็ ้เขาย่อมต้องพ่ายแพ้ให้แก่หานเจี้ยนแน่ ต้องรีบเผด็จศึกให้เร็วที่สุดเท่านั้น
“ สัญลักษณ์ัปรภพ! ”
เขาปลุกพลังของสัญลักษณ์ัปรภพขึ้นมา โดยที่คนอื่นๆ ไม่สามารถมองเห็นภายใต้เสื้อผ้าสีดำได้
ลายเส้นสีดำบนสัญลักษณ์ัปรภพรวบรวมพลังหนึ่งหมื่นชั่งสายหนึ่ง ก่อนจะแพร่กระจายไปทั่วร่างของหลงอวี้ในชั่วพริบตา
พลังเพิ่มสูงขึ้น ความเร็วของหลงอวี้ก็สูงขึ้นตามไปด้วย
“ ลมปราณ ป้องกัน! ”
หลงอวี้ที่คิดจะเผด็จศึกให้เร็วที่สุด ต้องฝืนปะทะกับหานเจี้ยน เขารวบรวมลมปราณทั่วร่างกาย ปล่อยหมัดข้างหนึ่งใส่ลมพายุอันเกรี้ยวกราด
ตูม!!!
เสียงกระแทกดังสนั่น พายุลูกนั้นถูกหมัดของหลงอวี้ซัดจนสลายไป
ลมพายุคลุ้มคลั่งกรีดไปทั่วร่างกายของหลงอวี้จนเกิดาแนับไม่ถ้วนเพียงแต่เขาไม่ได้ใส่ใจ แล้วรีบดีดตัวขึ้นสูง ใช้พละกำลังที่เหนือกว่าวิถียุทธ์ขั้นที่ห้า ถีบโดนหานเจี้ยนอย่างรุนแรง
หานเจี้ยนที่ถูกพลังจินตภาพกดทับ จนความเร็วถูกลดทอน ภายใต้ความตื่นตะลึงเขาได้แต่ยกแขนขึ้นรวบรวมลมปราณมาต้านรับ
กร๊อบ!
หนึ่งลูกเตะของหลงอวี้รวบรวมลมปราณไว้จนมีพละกำลังเทียบเท่าม้าพยศสิบแปดตัว เพียงลูกเตะเดียวก็ซัดกระดูกแขนที่หานเจี้ยนยกขึ้นมาต้านรับจนหักสะบั้น!
หลงอวี้ที่าเ็อยู่แต่ยังฝืนปะทะกับหานเจี้ยน กลับโค่นล้มอีกฝ่ายได้เร็วกว่าตอนที่สู้กับถานเยว่เสียอีก!
เกิดเสียงดังเปรี้ยง!
ร่างกายของหานเจี้ยนกระเด็นไปกระแทกพื้นอย่างรุนแรง กระบี่ของเขาตกลงบนพื้นจนเกิดเสียงดัง ความเ็ปจากแขนที่หักทำให้บนใบหน้าตื่นตะลึงของหานเจี้ยนมีเส้นเืสีเขียวปูดโปน
คาดไม่ถึงเลยว่า หลงอวี้จะมีแข็งแกร่งขนาดนี้ ลูกถีบเมื่อครู่นี้เขาใช้ลมปราณมาช่วยป้องกันแล้ว แต่กระนั้นก็ยังถูกถีบจนแขนหักในคราเดียว
เห็นได้ชัดว่า ลูกถีบของหลงอวี้เมื่อครู่นี้มีพละกำลังแฝงอยู่มากเกือบสองหมื่นชั่งเลยทีเดียว
ไอ้เด็กเวรที่มีวิถีวรยุทธ์เพียงขั้นสี่จะมีพลังมหาศาลขนาดนี้ได้อย่างไร หรือนั่นจะเป็สุดยอดกระบวนท่าวิทยายุทธ์
ความเ็ปที่ส่งผ่านมาทางแขนทำให้หานเจี้ยนเสียขวัญ ชีวิตนี้เขาไม่เคยาเ็ขนาดนี้มาก่อน
แม้หลงอวี้เองก็มีแผลเต็มตัว อีกทั้งาแหลายสิบแห่งนั้นลึกจนเห็นกระดูก ทว่าสีหน้าของเขากลับนิ่งเฉย ราวกับไม่รู้สึกเ็ปแม้แต่น้อย
หลังจากถีบหานเจี้ยนจนปลิว หลงอวี้ก็ถอยกลับมาหลายก้าวเพื่อป้องกันไม่ให้หานเจี้ยนสวนกลับได้ แต่เขาก็พบว่าตัวเองคิดมากไป
เพราะเ้าหานเจี้ยนถูกถีบจนแขนหักก็ไม่เหลือความคิดที่จะสู้อีกต่อไป มันช่างกระจอกเสียเหลือเกิน
“ ตายซะเถอะ! ”
ในตอนนั้นเอง เสียงตะคอกที่ชั่วร้ายราวกับอสรพิษก็ดังขึ้นจากด้านหลังของหลงอวี้!
ถานเยว่!
แม้ถานเยว่จะถูกหลงอวี้โค่นล้มไปก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ได้าเ็สาหัสนัก พอเห็นหลงอวี้ถูกเคล็ดกระบี่วายุคลั่งของหานเจี้ยนทำร้ายจนาเ็ทั้งร่าง ก็เกิดความคิดที่จะลอบโจมตีขึ้น!
เงาร่างสีแดงและประกายมีดสีเงิน พุ่งมาทางด้านหลังของหลงอวี้ในพริบตา!
“ รนหาที่ตายแล้ว ”
ประกายตาของหลงอวี้เย็นะเื พละกำลังมหาศาลจากสัญลักษณ์ัปรภพยังคงอยู่ เขาจึงก้าวเท้าออกไปโดยใช้พละกำลังมหาศาลนี้ ทำให้ความเร็วของเขาเหนือกว่ายามปกติไม่ต่ำกว่าหนึ่งเท่า หลบการโจมตีของถานเยว่อย่างง่ายดาย
จากนั้น เขาได้หันกลับไปถีบเท้าข้างหนึ่ง ซัดใส่ต้นขาใต้ชุดสีแดงอย่างรุนแรง!
“ โอ๊ย!!! ”
ถานเยว่กรีดร้องด้วยความเ็ป แรงม้าพยศสิบแปดตัวถีบนางจนกระเด็นไปไกล นางที่เดิมทีไม่ได้าเ็มากนักพลันกลายเป็สาหัสไป กระดูกขาแตกหักจนแค่จะยืนก็ทำไม่ได้
“ สลาย! ”
หลงอวี้หลังถีบถานเยว่จนกระเด็นก็สลายพลังของสัญลักษณ์ัปรภพ ความปวดร้าวพุ่งเข้าสู่ชีพจรทั่วร่าง หากยังใช้งานต่อก็รังแต่จะทำให้เขาาเ็
หลงอวี้ยืนมั่นอยู่กับที่ การต่อสู้สั้นๆ ทำให้สายตาที่ฝูงชนรอบข้างมองเขาเปลี่ยนไป
เพียงตัวคนเดียวกลับสามารถเอาชนะถานเยว่ที่มียุทธภัณฑ์ได้ แถมยังโค่นล้มหานเจี้ยนที่มีวิถียุทธ์ขั้นห้าได้อีก ตัวเขาจะได้รับาเ็ไม่เบา ทว่ามันกลับทำให้ตัวเขาดูน่าสะพรึงกลัวในสายตาฝูงชนขึ้นกว่าเดิม!
เ้าหมอนี่ บ้าไปแล้ว!
ลูกศิษย์ระดับล่างที่ยืนชมอยู่บริเวณนั้นต่างคิดเช่นนั้น หากเป็พวกเขา คงไม่มีทางกล้าปะทะกับลมพายุของหานเจี้ยนแน่นอน
หลงอวี้สำรวจสภาพร่างกายของตัวเองอย่างเงียบงัน มีาแน้อยใหญ่ทั่วร่างทั้งหมดยี่สิบจุด ส่วนใหญ่เป็าแที่เกิดจากเคล็ดกระบี่วายุคลั่งของหานเจี้ยน อีกทั้งกระดูกมือซ้ายที่แตกร้าวเมื่อวานก็ยังไม่หายดี ไม่มีใครรู้เลยว่าหลงอวี้ในตอนนี้ทรมานต่อความเ็ปมากขนาดไหน
เพียงแต่ความเ็ปเหล่านี้ สำหรับเขาแล้วไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร าแที่สาหัสกว่านี้เขาก็เคยััมาแล้ว
“ พาข้าไปหาศิษย์ฝ่ายธุรการ เฟิงหยาง ”
หลงอวี้ปรับลมหายใจเล็กน้อย แล้วหันไปพูดกับเ้าเตี้ยหน้าดำคนหนึ่ง
“ ปะ ปะ ไปหาเฟิงหยาง ”
ชายเตี้ยหน้าดำผู้นั้นพลันสะดุ้งโหยง ดวงตาเปี่ยมด้วยความสงสัยระคนประหลาดใจ พอมันนึกย้อนถึงการต่อสู้เมื่อครู่นี้ ดูเหมือนหลงอวี้จะไม่ได้ใช้วรยุทธ์เลยสักกระบวนท่า จึงพอจะคาดเดาบางอย่างได้
หรือเ้าหมอนี่จะถูกยึดตราประจำตัว
เื่แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็ครั้งแรก
ชายเตี้ยผู้นี้ก็มีวิถีวรยุทธ์ขั้นห้าเช่นกัน แต่พลังยังด้อยกว่าหานเจี้ยน พอได้ยินคำสั่งของหลงอวี้ก็รีบรับคำแล้วกลับหลังหันพาหลงอวี้ไปอย่างไม่รอช้า
หลังจากที่หลงอวี้จากไป ผู้คนที่มุงดูเหตุการณ์เมื่อครู่ก็พากันแยกย้าย แต่ยังมีหนึ่งคนที่ดวงตาฉายประกายเ้าเล่ห์ รีบรุดทะยานไปยังที่ฝึกของเหล่าลูกศิษย์ระดับสูงทันที
ถานเยว่าเ็สาหัส ต้องรีบไปรายงานให้ถานเจียนรับรู้!
ขณะเดียวกันก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยตามหลงอวี้ไปด้วย สิ่งที่หลงอวี้แสดงให้เห็นเมื่อครู่นี้ทำให้พวกเขาตื่นตะลึง จึงอดอยากรู้ไม่ได้ว่า หลงอวี้ไปหาเฟิงหยางเพื่อสิ่งใดกันแน่ จะมีเื่สนุกให้ชมอีกหรือไม่
เพราะเฟิงหยางที่เป็ลูกศิษย์ฝ่ายธุรการนั้น แม้จะมีวิถียุทธ์ขั้นห้าเหมือนกัน แต่วิทยายุทธ์ที่เขาฝึกฝนนั้นทรงพลังยิ่งกว่าของหานเจี้ยนเสียอีก