เช้าของวันถัดมาทุกคนลอบมองไปที่สิ่งแปลกปลอมซึ่งอยู่ภายในบริเวณนั้นมันคือรถออฟโรดของทหารสีเขียวสองคันที่จอด ณ สวนสาธารณะในซอยอย่างสงสัย
คุณตาคุณยายผู้สูงอายุทั้งหลายกำลังสงสัยว่าในเขตที่พวกเขาอยู่เกิดการก่ออาชญากรรมหรือกำลังจะเกิดเื่อะไรขึ้นหรือเปล่าทุกการกระทำรอบๆ บริเวณนั้นหยุดนิ่ง คนที่เดินก็หยุดเดินมือไม้เริ่มชี้กันพัลวัน สายตาพากันจับจ้องไปที่รถสองคันนั้น
สักครู่ต่อมาก็มีนายทหารคนหนึ่งที่สวมเครื่องแบบทหารเต็มยศลงมาจากรถ
เหล่าบรรดาคุณยายตาลุกวาว
ชายคนนั้นช่างดูสง่างามในเครื่องแบบทหารเต็มยศท่วงท่าของเขาช่างดูสุขุมและน่าเกรงขามยิ่งเขาเดินออกมายืนด้านหน้ารถออฟโรดของกองทัพนั้นยิ่งทำให้เขาดูน่ากลัวเกรงยิ่งขึ้น
“หนุ่มน้อย มีเื่อะไรอย่างนั้นหรือ?”
คุณยายที่มือถือพัดสีแดงปรี่เข้ามาถามเขาอย่างตื่นเต้น
จ้านอี้หยางมองไปรอบๆ หมู่บ้านนั้นก่อนจะเอ่ยถาม
“ไม่ทราบว่าตึก 17 ต้องไปทางไหนครับ?ผมมาพบซูหรงหรง”
“อ๋อ ที่แท้ก็มาหาซูหรงหรง”
คุณตาคนหนึ่งแทรกตัวเข้ามาตอบ
“หนูซูหรงหรงน่ะ เป็เหมือนลูกหลานแท้ๆ ของเราเธอเป็เด็กที่มีนิสัยสดใสร่าเริง แถมยังเป็คุณครูด้วยนะแล้วก็ยังชอบมาทำให้พวกเราหัวเราะบ่อยๆ ด้วย ฮ่าๆ”
“ใช่ๆหนูซูหรงหรงเป็เด็กที่ดีมากจริงๆ ถ้าหลานชายฉันยังไม่แต่งงานก็ว่าจะไปขอหนูเขามาเป็หลานสะใภ้”
เขาเป็พ่อสื่อหรือไง?
ภายใต้หมวกทหารนั้นจ้านอี้หยางที่เป็คนฉลาดหลักแหลมและมีสายตาอันเฉียบคมทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอย่างเนือยๆ
“ผมคือว่าที่คู่หมั้นของเธอ”
บรรดาคุณตาคุณยายต่างส่งเสียงฮือฮาแล้วรีบเข้ามาล้อมรอบตัวเขา จากนั้นพาเขาไปยังบ้านของซูหรงหรงและยังไม่วายที่จะกำชับว่าเขาคือว่าที่คู่หมั้นของลูกสาวคนทั้งหมู่บ้าน
“พ่อหนุ่มจะต้องดูแลซูหรงหรงของเราให้ดีๆ นะพวกเราทั้งหมดรักและเอ็นดูเด็กคนนี้มาก”
“ถูกต้อง ถูกต้องแล้วแม้ว่าพ่อหนุ่มจะเป็ชายชาติทหาร แต่ถ้ามารังแกซูหรงหรงของเราแล้วล่ะก็พวกเราจะเป็คนทวงคืนความยุติธรรมให้เธอเอง”
จ้านอี้หยางฟังไปด้วยแล้วคิดตามไปด้วย เหอะผู้หญิงที่ทั้งโง่ทั้งซื่อบื้อเหมือนเด็กไม่ยอมโตอย่างนั้นยังจะต้องสร้างความลำบากให้พวกคนแก่ดูแลอีก
เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้านของซูหรงหรงจ้านอี้หยางหมุนตัวกล่าวขอบคุณเหล่าผู้สูงอายุก่อนจะหันกลับมากดกริ่งหน้าบ้าน
ผู้ที่มาเปิดประตูคือเหอฮุ้ยหลาน ผู้ซึ่งเป็แม่ของซูหรงหรงพอเธอได้เห็นนายทหารตัวสูงใหญ่ยืนหน้าประตูบ้านก็ทำให้ใเป็อย่างมาก
“เกิดอะไรขึ้นกัน คุณเป็ใคร!”
เพื่อนบ้านของเหอฮุ้ยหลานพากันแย่งพูดบอกเธอเื่ของชายหนุ่มทหารคนนี้ก่อนที่เธอจะสรุปได้ว่า
ทหารหนุ่มสุดหล่อคนนี้ที่ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าเพื่อนบ้านคือ...ลูกเขยของเธอ!
จะเป็แบบนั้นไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อซูหรงหรงลูกสาวของเธอเพิ่งจะถูกแฟนหักอกไปเมื่อไม่นานมานี้เองแล้วนี่ลูกเขยคนนี้มาจากไหน?
แต่ว่า...ลูกเขยคนนี้ก็หล่อจริงๆ ช่างน่ามองเหลือเกิน
แบบนี้ต้องให้แต่งไปเลย!
แม่ของซูหรงหรงหันหลังกลับไปในบ้าน ก่อนจะะโเสียงดัง
“คุณคะ ไปพาซูหรงหรงมา”
ซูหรงหรงที่กำลังสะลึมสะลือเพราะถูกกระชากออกมาจากเตียงนอนมองไปทางเพื่อนบ้านที่ตอนนี้เข้ามานั่งกันเต็มห้องรับแขกแล้วพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น
แม่ของซูหรงหรงลอบมองจ้านอี้หยางเป็ระยะๆ ต้องบอกจริงๆ ว่านายทหารคนนี้ช่าง....หืม ถ้ามีลูกสาวออกมาจะต้องสวยมากแน่ๆ
“คุณซู หนูง่วงมากเลย...”
ซูหรงหรงที่ยังอยู่ในชุดนอนลายกระต่ายสีชมพูส่งเสียงโอดครวญกับพ่อของตนเธอใช้มือเล็กๆ ของเธอขยี้ตาก่อนจะอ้าปากหาวเสียจนกว้าง
“หรงหรง สามีหนูมาแล้ว”
ไม่รู้ว่าเป็เสียงของใครที่เปล่งออกมา
ซูหรงหรงดีดตัวขึ้นด้วยความใ อาร๊าย...เธอยังไม่ได้แต่งงานซะหน่อย
เธอที่เพิ่งหายจากอาการสะลึมสะลือ เริ่มมองภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทันใดนั้นเธอก็เห็นจ้านอี้หยางกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในบ้านของเธอ
เขาที่ใส่เครื่องแบบทหารเต็มยศนั่นยิ่งทำให้เขาดูดียิ่งขึ้นไปอีก
ทว่าเขาที่นั่งนิ่งเงียบจนทำให้บรรยากาศเย็นะเืนั้นจ้องมาที่เธอราวกับ้าจะออกคำสั่ง
บ้าไปแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
“นี่นาย...นาย...”
ผู้ชายที่ถูกสุ่มเลือกคู่มาให้เธอทำไมถึงมาอยู่ที่บ้านเธอได้?
จ้านอี้หยางมองไปที่ใบหน้าเล็กของซูหรงหรงซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยความใและสงสัย
เธอที่สวมชุดนอนลายกระต่ายสีชมพูยืนตะลึงงันอยู่ตรงนั้น หญิงสาวที่เอวบางร่างน้อยช่างดูน่าทะนุถนอม
แสงแดดยามเช้าสาดส่องไปที่ดวงหน้าและชุดนอนของเธอชุดนอนที่ว่าสดใสแล้วยังดูสดใสน่ามองไม่เท่าหน้าเธอตอนนี้ด้วยซ้ำ
เธอเหมือนกระต่ายตัวน้อยสีขาว ช่างน่าแกล้งเสียจริง
“พวกเธอเข้าไปคุยกันในห้องนอนเถอะ”
แม่ของซูหรงหรงที่มือไวใจเร็วรีบลากตัวซูหรงหรงมายืนข้างจ้านอี้หยาง
เอ่อ...คุณแม่ นี่กลัวลูกสาวคุณขายไม่ออกหรือไง?