คนที่ไปงานเลี้ยงรุ่นโดยรวมแล้วมี20คน แม้ว่าเดิมทีในห้องเรียนจะมี 48 คนแต่หลังจากผ่านไป 5 ปี เพื่อนร่วมชั้นมากมายก็ขาดการติดต่อและบางคนก็ย้ายไปเมืองอื่น จึงไม่สะดวกที่จะมาในเวลานี้
จุดนัดพบของการรวมตัวจัดที่โรงแรมหวงเจียเพราะโรงแรมนี้เป็แลนด์มาร์คในเมืองเว่ยเฉิงมันเป็สถานที่ที่ทุกคนสามารถหาเจอได้และตอนนี้ฉินเฟิงกับไป๋ชิงก็กำลังนั่งรอและคุยกันอยู่บนโซฟาในห้องโถง
หลังจากประมาณ10นาที คนกว่าสิบคนก็มาถึงตามลำดับ
ไป๋ชิงหวั่นไหวนิดหน่อยเมื่อเห็นคนเ่าั้เนื่องจากพวกเขาคือเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมปลายที่เธอไม่ได้เห็นมา 5 ปีแล้วพวกเขาทุกคนล้วนเป็สหายที่ร่วมต่อสู้กันมาเมื่อตอนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อเธอเห็นพวกเขา อารมณ์ของไป๋ชิงก็ย้อนกลับไปสมัย่ชีวิตในรั้วโรงเรียนเมื่อ 5ปีก่อน
ตอนนั้นเธอคือเทพธิดาอัจฉริยะของโรงเรียนเป็หน้าตาของโรงเรียน เป็ดวงดาวที่ส่องประกายเธอควรจะมีอนาคตที่ไร้ขอบเขตที่อยู่ข้างหน้า เธอควรจะมีอนาคตที่สวยงามอยู่ข้างหน้าแต่ตอนนี้...
“ธะ...เธอคือหวังเหล่ยใช่ไหม?” ไป๋ชิงเป็ผู้จัดการของโรงแรมหวงเจียดังนั้นเธอจึงมีหน้าที่ต้อนรับเหล่าเพื่อนเก่าของเธอเธอยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนและทักทายทุกคน “ฮ่าๆ เธออ้วนขนาดนี้ได้อย่างไรเนี่ย?ฉันเกือบจะจำเธอไม่ได้แหนะ”
“ฮ่าๆๆ ฉันนั่งในออฟฟิศทั้งวัน แถมไม่ได้ออกกำลังกายอีก อย่าใส่ใจเลย”
“จ้าวปิน ไม่เลวเลย ได้กล้ามเนื้อนี้มาได้อย่างไร? สาวสวยมากมายคงมาติดแจเลย”
“เทพธิดาชิงชิง อย่าล้อผมเล่นเลย ตอนนี้ผมเป็อาจารย์สอนฟิตเนสผมเจอสาวสวยเยอะแยะทุกวัน แต่กลับไม่มีใครชวนผมไปดินเนอร์เลย”
“งั้นนายต้องเป็คนเริ่มชวนพวกเธอนะ ผู้หญิงอ่อนไหวจะตาย”
ไป๋ชิงยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนและพูดคุยกันอย่างมีความสุขฉินเฟิงหลงเสน่ห์เล็กน้อยโดยรอยยิ้มอันสดใสที่แท้จริงบนหน้าของเธอ
เธอทิ้งรอยยิ้มสุภาพที่ใช้ตอนทำงานรวมถึงเสน่ห์และคำเยินยอจอมปลอมที่เธอใช้กับเขาเธอมักจะเป็เทพธิดาเมื่อยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน ดั่งนกกระเรียนในหมู่ไก่เธอกลับคืนสู่ตัวตนที่แท้จริง ดูเหมือนว่าเธอจะย้อนกลับไปสู่วันเก่าๆสมัยมัธยมปลาย และดูเหมือนสาววัยรุ่นสดใสที่กำลังมี่เวลาแห่งความสุขโดยที่ไม่กังวลอะไรเลย
ไม่มีความกดดันในชีวิตและข้อจำกัดของสังคมมีแต่ความสุขและเสียงหัวเราะของวันเก่าๆ พวกเขาเป็เพียงเพื่อนที่จริงใจต่อกันเป็ความทรงจำอันสวยงามที่ยังอยู่ในใจของเธอตลอดชีวิตเธอระลึกถึงมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าและปรารถนาที่จะ...
ฉินเฟิงก็เริ่มระลึกถึง่ชีวิตในมัธยมปลายของเขาอย่างช้าๆ
นอกจากสาวสวยที่เขาเล่นด้วยซึ่งเขาจำชื่อไม่ได้แล้ว นอกจากการเสียซิงตอนไหนก็จำไม่ได้นอกจากการล้างผลาญครอบครัวของตัวเองโดยการโชว์ออฟและใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย...ถ้าฉินเฟิงไม่สนใจสิ่งเหล่านี้เขาพบว่าเขาไม่มีความทรงจำอะไรอื่นเลยใน่ชีวิตสมัยมัธยมปลาย
แต่เื่พวกนั้นทั้งหมดก็เป็การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในสมัยวัยรุ่นเขาคิดว่าความทรงจำที่ดีที่สุดคงจะเป็ตอนที่เขามีสาวงามจำนวนเลขสามหลักเปย์เงินหยวนเป็เลขแปดหลัก แต่เมื่อมองย้อนกลับไป เหตุการณ์เ่าั้ก็จำไม่ค่อยได้แล้วอย่างไรก็ตาม ยังมีสาวสวยน่ารัก เ็า และเอาแต่ใจ ซึ่งภาพจำยังชัดเจน
ภาพนั้นคือจ้าวหลิงเซียน
ลำดับความทรงจำพรั่งพรูเข้ามาราวกับน้ำขึ้น
ตอนประถมเขานำหนอนผีเสื้อใส่ลงในกล่องดินสอของจ้าวหลิงเซียนเธอกลัวมากจนร้องไห้โฮในห้องเรียน ตอนมัธยมต้นมีพวกเด็กผู้ชายขวางจ้าวหลิงเซียนหลังโรงเรียนเพื่อที่จะััตัวของเธอหลังจากที่ฉินเฟิงเห็นเข้า คนพวกนั้นก็ถูกย้ายโรงเรียนในวันต่อมา ตอนมัธยมปลายหลังจากการนั่งเรียนด้วยตัวเองจ้าวหลิงเซียนถูกล้อมโดยพวกนักเลงระหว่างทางกลับบ้าน คนพวกนั้นตั้งใจจะปล้นและข่มขืนตอนนั้นฉินเฟิงยังเป็แค่นายน้อยเ้าสำราญที่ไม่มีแรงแม้แต่จะบีบไก่แต่เขาหยิบก้อนอิฐและสู้กับพวกนักเลงสี่คนที่กำลังถือมีดเขาไม่ได้ทำให้พวกนักเลงาเ็ แต่ถูกแทง 4 แผลแทนและเมื่อเขาดูเหมือนกำลังาเ็พร้อมกับมีเืไหลออกมา ก็ทำให้พวกนักเลงใวิ่งหนี
มีความทรงจำมากมายแม้ความทรงจำก่อนหน้านี้จะเลือนหายไปตามกาลเวลาแต่มันจะยังเป็ความทรงจำที่ล้ำค่ามากที่สุด
ทุกคนนั้นไม่เคยลืมความประทับใจสมัยวัยรุ่น
หนุ่มสาวนี่ดีจริงๆ!
“จ้าวเชี่ยน...! เป็เธอจริงๆ ด้วย! ยิ่งโตก็ยิ่งสวยขึ้นจริงๆ เลย”ตอนนี้หนึ่งในเพื่อนร่วมห้องของไป๋ชิงสมัยมัธยมปลายมาถึงแล้ว ไป๋ชิงตื้นตันสุดๆเธอกอดผู้หญิงที่แต่งตัวนำแฟชั่นและร้องด้วยความประหลาดใจ
“ไป๋ชิง ดูเธอพูดเข้าสิ เธอดูอย่างกับดาราชื่อดังเลยฉันดูขี้เหร่ทันทีเลยเมื่อยืนอยู่ข้างเธอ” จ้าวเชี่ยนหัวเราะและต่อว่าไป๋ชิงความตื่นเต้นนี้ดึงดูดความสนใจของคนอื่นทันที
สายตาของผู้ชายที่มาถึงแล้วไม่เคยวางตาจากไป๋ชิงในหมู่พวกเขายังมีคนที่โสดอยู่ พวกเขาเริ่มชมไป๋ชิงทันทีพวกเขาไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ครองเทพธิดาองค์นี้หรือไม่
“เทพธิดาไป๋ชิง คุณนี่สวยวันสวยคืนจริงๆ”
“สมัยม.ปลาย ไป๋ชิงเป็เทพธิดาของทั้งโรงเรียนตอนนี้ห้าปีผ่านไปภายในพริบตา ถ้าอยู่ๆ ฉันเห็นเทพธิดาไป๋ชิงบนถนนล่ะก็ฉันคงคิดว่าเธอเป็ดาราที่มีชื่อเสียงแน่ๆ”
“เทพธิดาไป๋ชิงไม่ใช่แค่สวยเหมือนนางฟ้า แต่ก็มีพร์ที่โดดเด่นอีกด้วยย้อนกลับไปวันที่คุณสอบได้คะแนนศิลปศาสตร์สูงสุดในเมือง...สาวสวยที่มีทั้งเสน่ห์และพร์นั้นน่าชื่นชมจริงๆ”
“ดูสิๆ ผู้ชายนี่ดูภายนอกไม่ได้เลยจริงๆพอเห็นเทพธิดาไป๋ชิงของเราเข้าหน่อยก็ทนไม่ได้กันแล้ว”จ้าวเชี่ยนแกล้งทำเป็โกรธและจ้องทุกคน แล้วเธอก็คล้องแขนไป๋ชิงและพูดด้วยรอยยิ้ม“เทพธิดาไป๋ชิง รีบบอกทุกคนสิว่าเธอที่มีทั้งพร์และยังมีเสน่ห์เป็เทพธิดาที่สวยหาใครเทียบ เธออาจจะมีแฟนตั้งนานแล้วก็ได้หรือตอนนี้อาจจะได้เป็คุณแม่ไฟแรงแล้ว”
“รีบบอกให้ผู้ชายพวกนั้นมันยอมแพ้เร็ว”
คำพูดของจ้าวเชี่ยนทำให้บางคนเขินอายพวกเขาเกาหัวอย่างอึดอัดและหัวเราะ “จ้าวเชี่ยน อย่าตีเกลียวความหมายของพวกเราสิเราชมจากก้นบึ้งของหัวใจ เราไม่ได้ชมด้วยเจตนาไม่ดีสักหน่อยแม้ว่าเทพธิดาไป๋ชิงจะแต่งงานแล้ว เธอก็จะเป็เทพธิดาในใจของพวกเราตลอดไป”
“ใช่แล้ว นั่นคือสิ่งที่พวกเราหมายถึงต่างหาก”ผู้ชายที่ชมไป๋ชิงทุกคนเห็นด้วย
เสียงหัวเราะดังออกมาในกลุ่มทันทีแต่ความเศร้าก็ยังผ่านใบหน้าของตัวละครหลักไป๋ชิง
เธอทั้งมีเสน่ห์และมีพร์จริงๆเธอเป็สาวสวยบริสุทธิ์ มีผู้คนตามจีบเธอจนสามารถตั้งกลุ่มกันได้เลยแต่นั่นคือเื่ในอดีตั้แ่คืนนั้นคืนที่เธอเสียพรหมจรรย์และความบริสุทธิ์ของเธอไป
เธอได้แค่รู้ถึงความทุกข์ทรมานที่เธอได้รับใน่เวลา5ปีที่ผ่านมา เมื่อไรเธอถึงจะแต่งงานและมีลูก? จนถึงตอนนี้เธอไม่แม้แต่จะหวังความสัมพันธ์ที่เติมเต็มความปรารถนาเลย
เธอไม่ได้ดีเด่นอย่างที่ทุกคนเชยชมแต่เธอแกล้งทำเป็อย่างนั้นเพื่อรักษาหน้าเอาไว้ นี่เป็ความจริงที่ทำอะไรไม่ได้
“ว้าว...ดูสิว่าใครมา ทุกคนรีบดูเร็วว่าใครมา” ก่อนหน้านี้เป็ผู้ชายในกลุ่มที่ตื่นเต้นแต่ตอนนี้ผู้หญิงก็เริ่มกรี๊ดอย่างบ้าคลั่งกับเขาบ้าง
มีคนใส่สูทสีขาวพร้อมกับรองเท้าหนังสีขาวและหมวกสีขาวเขาใส่สีขาวทั้งตัวเหมือนกับเ้าชายในนิทาน เขาเดินมาด้วยท่าทีอกผายไหล่ผึ่ง