เกรงว่าเยว่ซื่อหลินหมดหนทางแล้วจริงๆ ดังนั้นเขาจึงตามหมอมาที่นี่
หลินเมิ้งหยาเดินตามหลังเขา เข้าไปยังส่วนในของจวนเยว่
นางเคยมาที่นี่เมื่อครั้งยังเป็เด็ก
แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป สิ่งต่างๆ เองก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน
“พี่หลิน ท่านมีวิธีเอาชนะแม่ข้าจริงหรือ?”
เยว่ฉีกุมมือหลินเมิ้งหยาเพื่อนำทาง นางถูกพี่สาวเลี้ยงดูมาั้แ่เด็กดังนั้นความรู้สึกที่มีให้หลินเมิ้งหยาจึงมิต่างกัน
ยิ่งไปกว่านั้นแม้คุณชายใหญ่แห่งสกุลหลินจะไปรักษาการณ์อยู่แถบชายแดนแต่เขามักจะส่งของเล่นแปลกใหม่มาให้นางและพี่สาวเสมอ
ดังนั้นนางจึงรู้สึกดีกับว่าที่พี่เขยคนนี้มาก
“ข้าเองก็มิกล้ารับปาก เอาเป็ว่าค่อยแก้ปัญหาไปทีละเปลาะแล้วกัน”
แม้หลินเมิ้งหยาจะเอ่ยเช่นนี้ แต่นางหาใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ
นางจะรั้งว่าที่พี่สะใภ้คนนี้เอาไว้ให้ได้
“ที่นี่แหละเ้าค่ะ ท่านแม่ขังท่านพี่เอาไว้ที่นี่ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าไป”
นางย่นจมูก เห็นได้ชัดว่าเยว่ฉีทำใจมองประตูบานนั้นได้ยากยิ่ง
หลินเมิ้งหยาหัวเราะ ก่อนจะขยับขึ้นมายืนด้านหน้าแล้วเคาะประตู
“ใคร! ฮูหยินบอกแล้วว่าไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามเข้ามาพวกเ้าไม่รู้เื่หรือไร?”
เสียงก่นด่าดังขึ้นจากภายใน แม้เยว่ซื่อหลินจะอารมณ์ดีแต่เขาก็มิอาจทานทนต่อความก้าวร้าวเช่นนี้ได้
หลังจากส่งสายตาเชิงขอโทษให้แก่หลินเมิ้งหยา สีหน้าพลันเคร่งขรึมน้ำเสียงเ็า
“คำสั่งของฮูหยินหาใช่คำตัดสินที่เด็ดขาดของจวนแห่งนี้ไม่ข้ามิมีวันยอมปล่อยให้สาวใช้เช่นเ้าออกคำสั่งภายในจวนแห่งนี้!”
ทันทีที่ได้ยินเสียงของเยว่ซื่อหลินคนที่อยู่ภายในไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ออกมาอีก
รีบเปิดประตู แต่คาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นคนกลุ่มหนึ่ง
โดยเฉพาะหญิงสาวสวมใส่ชุดชาววังที่คุณหนูรองกำลังกุมมืออยู่
คุณหนูของจวนถือเป็หญิงสาวหน้าตาดี แต่พวกนางกลับงดงามได้ไม่เท่าหญิงสาวผู้นี้
นาง...เสมือนนางฟ้านาง์ก็มิปาน
“ข้าคือชายาอวี้ อีกทั้งยังเป็เพื่อนสนิทของคุณหนูใหญ่ของพวกเ้าไปแจ้งนางให้ออกมาหน่อยเถิด”
น้ำเสียงของนางฟ้าช่างอ่อนโยน แต่ถึงกระนั้นก็เจือไว้ซึ่งคำสั่ง
ผอจื่อผู้นั้นไม่เคยเห็นคนน่าเกรงขามเช่นนี้รีบหมุนตัวแล้ววิ่งเข้าไป
“เร็วเข้า ปล่อยคุณหนูใหญ่ออกมาพระชายาเสด็จมาหาคุณหนูของพวกเราด้วยตัวเอง”
ชายาอวี้ เพียงได้ฟังคำนี้พลันรู้สึกว่าการได้เป็เครือญาติของเหล่าเชื้อพระวงศ์ช่างสง่างามจริงเชียว
ยังไม่ทันที่ผอจื่อจะเปิดประตู เสียงเ็าจากภายในพลันดังออกมา
“ข้าก็คิดว่าใครหน้าไหนมาที่นี่ ที่แท้ก็เป็ชายาอวี้ที่ออกหน้าแทนเมื่อวาน! ข้าเพียงแค่ดูแลลูกสาวของข้าเื่นี้เกี่ยวอะไรกับท่าน?”
น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ
หลินเมิ้งหยาหันหน้าไปได้เห็นฮูหยินสวมใส่ชุดหรูหราสง่างามที่กำลังถูกผอจื่อพยุงเดินขึ้นมาข้างหน้า
ท่านนี้คงเป็ฮูหยินเยว่สินะ
หลินเมิ้งหยาเข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใดเยว่ซื่อหลินจึงหวั่นเกรงฮูหยินของตนเองนัก
ดวงตาเรียวสวยเปี่ยมไปด้วยพลัง ใบหน้ารูปไข่มีเสน่ห์แต่กลับเผยให้เห็นความเ้าอารมณ์
เพียงได้เห็นก็รู้แล้วว่านางหาใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆ
น่าแปลกจริงเชียวทั้งที่ความงามของเยว่ถิงได้รับมาจากมารดาของตนเอง
แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเมื่อใบหน้างดงามเช่นนี้อยู่บนร่างของพี่เยว่ถิง กลับอ่อนโยนอ่อนหวานยิ่งนัก
หากมิใช่เพราะใบหน้านี้ ต่อให้ตีนางจนตายนางก็ไม่มีทางเชื่อว่าฮูหยินที่กำลังเอื้อนเอ่ยวาจาราวกับมะนาวไม่มีน้ำผู้นี้คือแม่แท้ๆของพี่เยว่ถิง
“ท่านป้าเอ่ยเกินไปแล้ว ข้าเพียงแต่มาเยี่ยมพี่เยว่ถิงเท่านั้นตกลงพี่เยว่ถิงทำความผิดใหญ่หลวงอันใดอย่างนั้นหรือเหตุใดเพียงพบหน้าก็มิสามารถทำได้?”
หลินเมิ้งหยายังคงรักษามารยาททว่าคิ้วของฮูหยินเยว่กลับขมวดเข้าหากันแน่น
พ่นลมหายใจเย็นะเืฮูหยินเยว่กลับไม่คิดไว้หน้าหลินเมิ้งหยาเลยแม้แต่น้อย
“นางอกตัญญูถึงขนาดจัดคำสั่งของข้าผู้เป็แม่ดังนั้นข้าจึงขังนางเอาไว้ภายในเพื่อให้นางทบทวนความผิด”
เมื่อได้เห็นแม่ของตนเองพูดจาเอาความชอบธรรมใส่ตนเองเยว่ฉีทนไม่ไหวอีกต่อไป
“ท่านแม่ทั้งที่ท่านบีบบังคับให้พี่สาวไปแต่งงานกับองค์ชายรองของฮ่องเต้ิแท้ๆแล้วท่านพี่อกตัญญูตรงไหน?”
เสียงหวานใสทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป
คิ้วของเยว่ซื่อหลินขมวดเข้าหากันแต่เขากลับไม่ยับยั้งลูกสาวของตนเอง
ใบหน้าของฮูหยินเยว่แดงก่ำนางอยากแม้กระทั่งฆ่าลูกสาวของตนเองให้ตาย
มีเพียงสีหน้าของหลินเมิ้งหยาที่ยังไม่เปลี่ยนไปแต่นางกลับฝืนยิ้มออกมา ก่อนจะหันไปมองฮูหยินเยว่
“ไม่ทราบว่าสิ่งที่คุณหนูรองพูดออกมาเป็เื่จริงหรือไม่?”
คำพูดของหลินเมิ้งหยาหาได้มีความเ็ปหรือเจ็บใจแต่กลับเป็ปกติดีทุกอย่าง
ทว่ามีเพียงคนที่รู้จักนางเท่านั้นที่จะรู้ว่าท่าทีของหลินเมิ้งหยาในเวลานี้ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด
ฮูหยินเยว่หัวใจกระตุก หาได้กลัวหลินเมิ้งหยาคนนี้ไม่
“บางทีฮูหยินเยว่อาจลืมไปว่า คุณหนูใหญ่แห่งสกุลเยว่ได้ทำการหมั้นหมายกับพี่ชายของข้าแห่งสกุลหลินเอาไว้แล้ว”
สีหน้าของหลินเมิ้งหยาเคร่งขรึมลงไป สายตาจับจ้องฮูหยินเยว่นิ่ง
ทั้งที่นางอยู่ที่นี่แต่ฮูหยินเยว่กลับวางอำนาจบาตรใหญ่ถึงเพียงนี้ ดูท่า ฮองเฮาคงจะมีส่วนช่วยไม่น้อย
เหตุใดบนโลกใบนี้จึงมีแม่อย่างนี้อยู่ เพื่อแลกกับอำนาจของตนเองถึงขั้นคิดเอาลูกของตนเองไปแต่งงานกับคนที่นางไม่ชอบ
“ถ้าใช่แล้วอย่างไร? ไม่ใช่แล้วอย่างไร? ตอนนี้หลินหนานเซิงอยู่ที่แถบชายแดนลูกสาวของข้าอยู่ใน่วัยสดใส ข้าแค่ไม่อยากให้ลูกสาวของข้าเป็หม้ายไปตลอดชีวิต”
ฮูหยินหลินเอื้อนเอ่ยด้วยความมั่นใจราวกับว่านางแน่ใจแล้วว่าหลินเมิ้งหยาไม่มีทางตอบโต้กลับได้
ทว่านางกลับยิ้ม ทว่ารอยยิ้มกลับเ็าจนหนาวเหน็บไปถึงสันกระดูก
“ไม่ทราบว่าฮูหยินเยว่มีศีรษะเท่าไร จึงกล้ากระทำความผิดเช่นนี้หรือเพราะคิดว่าฮ่องเต้ทรงประชวร จึงกล้าฝ่าฝืนพระบัญชาของฝ่าา?”
บังอาจนัก ไม่เพียงแค่สีหน้าของฮูหยินเยว่เปลี่ยนไปแม้แต่สีหน้าของเยว่ซื่อหลินเองก็ไม่น่ามอง
การขัดคำสั่งของฮ่องเต้ เท่ากับถูกตัดสินว่าเป็ฏ
หากข่าวลือถูกแพร่ออกไป เกรงว่าสกุลเยว่คงตกอยู่ในอันตราย
“ข้า...ข้ามิได้ฝ่าฝืนพระบัญชาของฝ่าา เ้าอย่าได้จงใจพูดให้ผู้อื่นตื่นตระหนกเช่นนี้”
เห็นได้ชัดว่าท่าทีของฮูหยินเยว่มิได้หยิ่งยโสเหมือนเมื่อครู่แล้ว
แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ยอมแพ้ริมฝีปากยังคงส่งเสียงต่อปากต่อคำกับหลินเมิ้งหยา
“ถูกต้อง ท่านยังมิได้ทำผิดฐานฝ่าฝืนพระบัญชาของฝ่าาแต่ถ้าหากพี่เยว่ถิงแต่งงานกับผู้อื่นเมื่อใด เมื่อนั้นจะถือว่าทำผิดฐานฏทันทีฮูหยินเยว่คงยังไม่ลืมว่าพี่ชายของข้าและพี่เยว่ถิงได้รับพระราชทานการแต่งงานจากฮ่องเต้ใช่หรือไม่?ต่อให้ไท่จื่อขึ้นครองบัลลังก์แล้ว แต่พระราชโองการก็มิอาจถูกเพิกถอนได้”
คำพูดของหลินเมิ้งหยาทำให้สีหน้าของฮูหยินเยว่ซีดเผือด
อย่าว่าแต่เื่ฝ่าฝืนพระราชโองการของฮ่องเต้อันจะส่งผลให้สกุลเยว่ต้องถูกทำลายเลย
แต่นางประเมินหลินเมิ้งหยาที่เป็ชายาอวี้ต่ำจนเกินไปนางทำให้เื่ราวทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด
เกรงว่าหากทำให้นางขุ่นเคืองจริงๆ แล้วละก็ อ๋องอวี้ที่รักนางสุดขั้วหัวใจจะต้องไม่ปล่อยสกุลเยว่ไปแน่
เมื่อถึงเวลานั้น เกรงว่าฮองเฮาเองก็คงไม่ปกป้องพวกนางสกุลเยว่อีกต่อไป
“ฮูหยินเยว่ ท่านเป็ผู้ใหญ่แล้ว เป็แม่ของพี่เยว่ถิงสิ่งที่ท่าควรทำคือการนึกถึงความสุขของพี่เยว่ถิงก่อนตัวเอง เื่บางอย่างใช่ว่าท่านจะได้ทุกอย่างที่ท่าน้า”
หลินเมิ้งหยาเอ่ยตักเตือนฮูหยินเยว่อีกครั้งเพื่อทำให้นางรู้ว่าหลินเมิ้งหยาคนนี้จะไม่ปล่อยเื่นี้ไปง่ายๆ อย่างแน่นอน
ฮูหยินเยว่ที่เคยหยิ่งยโสโอหังพลันสงบนิ่งลงไป
นางไม่ได้โง่ นางได้อยู่ข้างกายสามีมานานหลายปี ดังนั้นนางจึงได้เห็นาภายในวังมากมาย
เยว่ซื่อหลินปาดเหงื่อ สายตาจับจ้องมองภรรยาของตนเอง
หวังว่านางจะเลิกดึงดันและเลิกทำตัวเป็ศัตรูกับชายาอวี้
“เ้าเองก็พูดมีเหตุผลแต่ถ้าหากเยว่ถิงเป็ฝ่ายอยากไปแต่งงานด้วยตนเองพวกเราก็คงมิอาจหักห้ามนางได้มิใช่หรือ?”
ฮึ ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาสินะ
คราวนี้หลินเมิ้งหยาส่งสายตาอำมหิตไปยังว่าที่แม่ยายของพี่ชายตนเอง
“หากเอ่ยเช่นนี้ เช่นนั้นได้โปรดปล่อยตัวพี่เยว่ถิงออกมาแล้วถามให้ชัดเจนเลยเถิด”
ฮูหยินเยว่ครุ่นคิด นางมิอาจปฏิเสธได้
สุดท้ายจึงทำได้เพียงพยักหน้าลง
คนคุ้มกันประตูรีบปลดโซ่ตรวน ขณะเดียวกัน ร่างผอมบางของเยว่ถิงพุ่งออกมานอกห้อง
“ท่านแม่ ลูกได้หมั้นหมายกับหนานเซิงแล้ว ลูกไม่อยากมีสามีคนที่สองหากท่านยังบังคับข้าไปแต่งงาน ข้าขอยอมตายอยู่ตรงนี้”
ทัศนคติของเยว่ถิงแน่วแน่มั่นคง สายตาจับจ้องใบหน้าของแม่ตนเองนิ่ง
“เ้า...นังลูกไม่รักดี...กล้าเอาเื่นี้มาขู่ข้าอย่างนั้นหรือ”
ฮูหยินเยว่โกรธเกรี้ยว นิ้วมือเรียวยาววาดชี้มาที่หน้าของเยว่ถิง
ทว่าอีกฝ่ายกลับปล่อยให้น้ำตานองหน้า กัดปากแน่นไม่ยอมพูดอะไร
“ท่านลุงเยว่ ท่านดูเอาเถิด ในเมื่อพี่เยว่ถิงตัดสินใจแน่วแน่เช่นนี้แล้วข้าว่าคงไม่มีอะไรต้องพูดอีก แล้วท่านคิดเห็นเช่นไร?”
ทัศนคติของเยว่ถิงเป็คำตอบของทุกสิ่งแม้แต่ฮูหยินหลินก็ไม่กล้าพูดสิ่งใดออกมาอีก
อย่างน้อยตอนนี้หลินเมิ้งหยาก็อยู่เหนือกว่าอีกทั้งยังมีพระราชโองการค้ำคอ ดังนั้นนางจึงต้องยอมล่าถอย
“พระชายาพูดมีเหตุผลแต่ไหนแต่ไรมาถิงเอ๋อร์ล้วนสมัครใจภักดีกับสกุลหลินเื่นี้จะไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อเทียบกับภรรยาขี้ประจบประแจงฮองเฮาแล้วเยว่ซื่อหลินกลับมีความซื่อตรงมากกว่า
เมื่อก่อนเขามักจะประนีประนอมเพื่อรักษาความสมานฉันท์ในครอบครัว
แต่เพราะเหตุนี้ จึงทำให้ฮูหยินเยว่ยิ่งได้ใจ
พอมาถึงวันนี้ ความหยิ่งยโสของนางกำลังจะทำให้สกุลเยว่ต้องดับสูญ
“เื่ในวันนี้ ข้ามิอยากทำให้เื่เล็กกลายเป็เื่ใหญ่อีกทั้งจะไม่มีทางแพร่งพรายออกไป ฉะนั้นท่านลุงเยว่ได้โปรดวางใจเถิด”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมจำนน หลินเมิ้งหยาจึงไม่คิดบีบบังคับต่อไปอีก
อันที่จริง นางพอมองออกว่าคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจของบ้านคือเยว่ซื่อหลิน
ขอเพียงเขายืนหยัด จะไม่มีใครส่งเยว่ถิงไปแต่งงานได้อย่างแน่นอน
“เ้า...พวกเ้า ฮึ! ได้ พวกเ้าคิดว่าตนเองเป็คนดีแล้วข้าเป็คนชั่วอย่างนั้นสินะ พอใจแล้วใช่หรือไม่!!”
ไม่ว่าจะสามีหรือลูกสาวตอนนี้พวกเขาล้วนยืนอยู่ทางฝั่งของเยว่ซื่อหลิน
ขณะเดียวกัน ความโกรธพลันพวยพุ่งออกมา
นางถลึงตาใส่ทั้งสองเขม็งด้วยความโกรธ
ไม่หวังว่าจะได้รับการถวายคำนับ หลินเมิ้งหยาพาสาวใช้ของตนเองออกจากบ้านสกุลเยว่
