หร่านซวี่จือเท้าคางเหม่อลอยอยู่ที่ระเบียงแล้วคุยกับระบบ: “สองสามสาม นี่ฉันอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว? ”
ระบบ: “เรียนคุณรัน หนึ่งปีกับอีกสี่วันครับ”
หร่านซวี่จือ: “ถ้าอย่างนั้นจะนับว่าปฏิบัติภารกิจล่วงเวลาหรือเปล่า? จะมีรางวัลเพิ่มให้ไหม? ”
ระบบ: “จินตนาการได้ไม่เลวเลยครับ”
หร่านซวี่จือ: “…”
หลังจากที่แสงจันทร์ขาวกลับมา เฉินหนานก็เลิกจ้างวังหลังทั้งหมด ก่อนหน้านี้ หร่านซวี่จือทำงานที่ร้านเหล้ากลางคืนแต่เพราะอายุที่เยอะเกินและด้วยสภาพร่างกายของตนเองไม่ค่อยดีนักจึงไม่สามารถกลับไปได้ ได้แต่เป็คนตกงานร่อนเร่อยู่ข้างนอก
โชคดีที่เฉินหนานจ่ายค่าเลิกกันให้มากพอสมควร เขาจึงสามารถใช้ชีวิตที่เหลือได้ ความคืบหน้าภารกิจคาอยู่ที่แปดสิบเปอร์เซ็นต์และ ไม่ไหวติง ทำให้หร่านซวี่จือรู้สึกสงสัย
หร่านซวี่จือนั่งกินซาลาเปาอยู่ตรงริมถนน จู่ๆ ก็มีเ้าขนทองตัวหนึ่งโผล่มาตรงหน้า เขานิ่งไปชั่วครู่และพบว่ามันคือซาจือ
“ซาจือ? ” หร่านซวี่จือตื่นเต้นดีใจมาก เขาจึงรีบกินสองคำที่เหลือแล้วใช้มือลูบขนสีทองของมัน “ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ”
พอพูดจบ ด้านข้างก็มีรถสีดำคุ้นตาจอดอยู่หนึ่งคัน พอลดกระจกลงก็เผยให้เห็นใบหน้าที่ขมวดคิ้วของเฉินหนาน “นายมานั่งทำอะไรตรงนี้? ทำไมหลายวันมานี้ถึงไม่กลับไป? ”
หร่านซวี่จือเอ่ยถามเขาด้วยใบหน้าสงสัย “ก็คุณให้เราทุกคนแยกย้ายกลับบ้านไม่ใช่หรือ? ”
เฉินหนานหน้าหม่นหมอง “ฉันบอกให้นายกลับไปั้แ่เมื่อไหร่? ”
พูดจบ ชายชุดดำร่างใหญ่ก็มาหิ้วคอหร่านซวี่จือโยนเข้าไปในรถ หร่านซวี่จือรู้สึกสมองตื้อเพราะจับทางไม่ถูก เขารู้สึกว่าเื่ราวนี้ดำเนินไปอย่างแฟนตาซีเล็กน้อย “ผมยังอยู่ต่อได้หรือ? ”
เฉินหนานชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง “ฉันบอกให้นายไปเมื่อไหร่กัน? ”
“แล้วคุณรันล่ะครับ? ” หร่านซวี่จือสงสัย
เฉินหนานนิ่งเงียบไปชั่วครู่ “เราเป็แค่เพื่อนกัน”
ผ่านมาขนาดนี้ พวกนายสองคนไม่ได้คืนดีกันแล้วหรอกหรือ?
หร่านซวี่จือทิ้งตัวลงบนรถแต่ในใจก็มีความดีใจที่ไม่อาจพูดออกมาได้
บางทีเฉินหนานก็จะเผยท่าทางเคยชินของปิงโหยวจี้เป็บางครั้ง หร่านซวี่จือพูดไม่ถูกว่าเพราะอะไร แต่ในใจมักจะเกิดลางสังหรณ์ที่แปลกประหลาด เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ
มันผิดพลาดตรงไหนกันนะ?
เฉินหนานคือปิงโหยวจี้ เขาก็คือทังเหวย
ตรงไหนที่ผิดปกตินะ?
เมื่อใกล้พลบค่ำ หร่านซวี่จือถือถุงสองถุงเดินอยู่บนถนน ขณะที่กำลังอ่านวิธีการใช้บนกล่องยาก็เปิดโทรศัพท์และกำลังเตรียมโทรไปรายงานตำแหน่งของตนเองให้เฉินหนานทราบ ทันใดนั้นสมองของเขาก็มีอาการปวดจี๊ด
มีคนใช้ถุงคลุมศีรษะเขาไว้ จากนั้นชั่วพริบตาก็ขาดอากาศหายใจ เบื้องหน้าของหร่านซวี่จือนั้นพร่ามัวไปหมด เขาถูกคนกลุ่มหนึ่งมัดมืดมัดเท้าไว้แล้วโยนไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
เมื่อเปิดถุงกระสอบออกมา เบื้องหน้าคือใบหน้าของคนแปลกหน้าที่มีรอบแผลเป็จากมีด
“ทำตัวดีๆ หน่อย ได้ยินหรือเปล่า? ” อีกฝ่ายท่าทางโเี้ได้ใจพลางแกว่งมีดในมือเล่น
หร่านซวี่จือหดตัวไปข้างหลัง เขาถึงพบว่าในรถยังมีคนอื่นๆ อีก
หร่านซวี่จือหันศีรษะมาก็ต้องสะดุ้งจนตัวสั่น
แสงจันทร์ขาว?
จริงด้วย แสงจันทร์ขาวของเฉินหนานก็ถูกมัดมือมัดเท้าโยนมาอยู่ในรถเหมือนกัน ปากของเขาถูกอุดไว้และเขาก็ใจนหน้าซีดเผือด
แก๊งลักพาตัวพวกนี้พาตัวพวกเขาไปที่ชานเมือง จากนั้นก็โยนพวกเขาเข้าไปไว้ในโกดังร้างแห่งหนึ่ง
“แม่แกเถอะ เ้าโง่เฉินหนานนั่นไม่ยอมรับโทรศัพท์! ” เ้าคนมีรอยแผลเป็โยนท่อเหล็กในมือทิ้งแล้วเอ่ยกับโทรศัพท์ “ลูกพี่ ทำอย่างไรดีครับ? ”
แสงจันทร์ขาวถูกเ้าคนมีรอยแผลเป็ฉีกสก็อตเทปที่ปิดปากออกแล้วพาไปอีกห้องหนึ่ง
หร่านซวี่จือได้ยินไม่ชัดเจนว่าพวกนั้นพูดอะไรกันจึงให้ระบบเปิดตัวช่วยให้ คำพูดต่างๆ นานาในบทสนทนานั้นพิสูจน์ความจริงที่คาดเดาไว้
สามปีก่อน เฉินหนานเลิกรากับแสงจันทร์ขาวด้วยสาเหตุบางอย่าง จากนั้นก็ถูกคนลอบทำร้ายและหลังจากได้รับการช่วยเหลือก็สูญเสียความทรงจำทำให้ลืมหน้าตาของคนรัก
หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือจากหมอจิตวิทยา เฉินหนานก็ค่อยๆ คิดได้ แต่ความทรงจำยังคงสับสน เหมือนกับว่าส่วนลึกในสมองจะมีการทับซ้อนกันของความทรงจำสองส่วนทำให้ความเป็จริงทั้งหมดมันปนกันไปหมด
อันที่จริงเฉินหนานนั้นไม่สามารถนึกลักษณะพิเศษทั้งหมดของแสงจันทร์ขาวได้ เพื่อค้นหาความทรงจำจึงจำเป็ที่จะต้องใช้เงื่อนงำที่หลงเหลือจากคนรอบข้างแล้วจัดการรวบรวมคำพูดของพวกเขาเข้าด้วยกันและจัดการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีนี้
การปรากฏตัวของหร่านซวี่จือทำให้เื่ราวทั้งหมดเปลี่ยนทิศทางแบบกลับตาลปัตร สมองของเฉินหนานปรากฏคนสองคนที่แตกต่างกัน ดังนั้นเฉินหนานจึงสงสัยว่าตอนที่ตนเองตื่นขึ้น ต้องมีคนรอบข้างหรืออะไรบางอย่างกำลังลอบทำร้ายตนเองส่งผลทำให้ความทรงจำผิดพลาด อันที่จริงหร่านซวี่จือคือคนรักจริงๆ ของเขา ส่วนแสงจันทร์ขาวนั้นไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง
แต่ปรากฏว่า ในค่ำคืนร่องเรือสำราญกลับพบกับแสงจันทร์ขาว
การปรากฏตัวของแสงจันทร์ขาวส่งผลกระทบที่ไปกระตุ้นเฉินหนาน ทำให้เขานึกเื่บางอย่างขึ้นมาได้
แสงจันทร์ขาวคือคนรักของเฉินหนานก็จริง สำหรับหร่านซวี่จือคือใคร ในสายตาของเฉินหนานย่อมมีคำตอบอยู่แล้ว
หร่านซวี่จือยังคงตะลึงกับสิ่งที่ตนเองได้ยิน ในเมื่อเฉินหนานนึกออกแล้ว แต่ทำไมยังขอให้เขาอยู่ต่อ? แล้วทำไมเฉินหนานต้องปฏิเสธแสงจันทร์ขาว?
เฉินหนานชอบเขางั้นหรือ
ความหมายของเ้าคนมีรอยแผลเป็นั่นช่างเหมาะกับเนื้อเื่ในละครน้ำเน่าเสียจริง เหี้ยมโหดเืเย็น ซึ่งนั่นก็คือการให้เฉินหนานเลือกได้แค่หนึ่งคนในนั้น ส่วนอีกคนต้องถูกฆ่า บทละครแบบนี้ หร่านซวี่จือเคยอ่านในนิยายจนเลี่ยน แต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นกับตนเองจึงทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นใจไปด้วย
เ้าคนมีรอยแผลเป็เปิดวิดีโอคอล ไม่รู้ว่าเฉินหนานอยู่ไหน บางทีอาจจะนั่งอยู่บนโซฟาที่ใดสักแห่ง ท่าทางตึงเครียดที่ดูแล้วมืดมน ริมฝีปากเม้มเป็เส้นตรง
“เฉินหนานนะเฉินหนาน” ด้านนอกมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา คนคนนั้นก็คือเ้าคนมีรอยแผลเป็เรียกว่าลูกพี่ “นายคิดว่าผ้าปิดตาของนายได้ผลจริงหรือ? ”
เขาใช้มีดตบแก้มของแสงจันทร์ขาว ใบหน้ามีรอยยิ้มอันบิดเบี้ยวน่ากลัว
ศีรษะของแสงจันทร์ขาวเต็มไปด้วยเหงื่อและขอบตานั้นก็แดงก่ำ
หร่านซวี่จือเข้าใจแล้ว
คนเหล่านี้จ้องเล็งแสงจันทร์ขาวอยู่แล้ว เฉินหนาน้าปกป้องแสงจันทร์ขาว เขาจึงคิดหาวิธี และวิธีนั้นก็คือหร่านซวี่จือ
ขอเพียงหร่านซวี่จือยังคงอยู่ข้างกายเขา ก็เท่ากับว่าคนในใจของเฉินหนานเปลี่ยนไปแล้ว ทุกคนย่อมไม่เล็งความสนใจไปที่ตัวหร่านซวี่จือ
คิดไม่ถึงว่าคนคนนี้กลับอ่านออกแล้วยังจับหร่านซวี่จือกับแสงจันทร์ขาวมาพร้อมกันและให้เฉินหนานตัดสินใจ
นี่ยังต้องเลือกอีกหรือ!!!
หร่านซวี่จือกลอกตามองบนในใจ ตรงกันข้ามกับแสงจันทร์ขาว หร่านซวี่จือนั้นดูนิ่งกว่าเยอะ สีหน้าดูเหมือนปกติแถมยังกระดิกขาอยู่ด้วย
ลูกพี่สนใจกับท่าทีของหร่านซวี่จือ “เ้าน้องชาย แกไม่กลัวหรือ? ”
“ฉันกลัวสิ” หร่านซวี่จือเผยดวงตาเป็ประกาย “นายจะปล่อยฉันไปหรือ? ”
ลูกพี่ส่งเสียง “โนว”
“อือ” จากนั้นหร่านซวี่จือก็หดตัวลงไปเหมือนเดิม
ลูกพี่คนนั้นหัวเราะ “เ้านี่น่าสนใจแฮะ”
“พูดบ้าๆ ฉันมันพวกคนไร้ค่า ช้าเร็วก็ต้องตายอยู่ดี จะมีอะไรแตกต่าง” หร่านซวี่จือเลิกคิ้ว
เพียงแต่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจก็เท่านั้นเอง
“เฮ้ เฉินหนาน ได้ยินหรือเปล่า? เ้าคนรักตัวน้อยของแกเตรียมใจไว้แล้ว แกจะยังช้าอยู่ทำไม? ”