บทที่ 5 เกล็ดย้อน
ฉู่ซินเหยามีชื่อเสียงในตระกูลฉู่มานานแล้ว เพราะนางเป็เพียงลูกสาวบุญธรรมของบิดาของฉู่อวิ๋น ซ้ำภายในร่างกายยังไม่มีสายเืของตระกูลฉู่ ดังนั้น เด็กหนุ่มหลายคนจึงถือว่านางเป็ดั่งเทพธิดา
ทว่านางกลับไม่พอใจกับความชื่นชมที่ได้รับจากคนอื่นนัก มีเพียงฉู่อวิ๋นเท่านั้นที่พอจะชนะใจนางได้ ทั้งสองคนจึงคอยอยู่เคียงข้างช่วยเหลือกันมาโดยตลอด
ฉู่เฮ่าผู้มากด้วยตัณหาก็เป็หนึ่งในชายที่สามารถเป็คู่ครองของนางได้ ตอนนี้ตระกูลย่อยตกต่ำ เขาจึงได้รับมอบหมายให้มายึดเรือน เมื่อได้โอกาสติดต่อกับฉู่ซินเหยา ในใจจึงเปรมปรีดิ์เกินพรรณา
“หึหึ หากข้าพาฉู่ซินเหยากลับตระกูลหลักได้ ต่อให้อายุสั้นลงสิบปีข้าก็ยอม!” ฉู่เฮ่ามองหาฉู่อวิ๋นและฉู่ซินเหยาพลางคิดสกปรก
เมื่อเดินมาถึงบริเวณลานฝึกยุทธ์ ฉู่เฮ่าและพรรคพวกก็เห็นว่าฉู่อวิ๋นกำลังนั่งขัดสมาธิ โดยมีฉู่ซินเหยานอนหายใจหอบเล็กน้อยอยู่ใกล้เขา
“อืม...นั่นใคร?” ฉู่ซินเหยาที่ได้ยินเสียงฝีเท้า เงยหน้าขึ้นมอง เมื่อพบว่ากลุ่มคนที่นำโดยฉู่เฮ่ากำลังจ้องมองนางด้วยเจตนาชั่วร้าย สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที
“พรุ่งนี้...พรุ่งนี้ถึงจะเป็วันยึดเรือน พวกเ้ามาทำอะไรที่นี่?” ฉู่ซินเหยาพยายามหยัดกายลุกขึ้นยืนตรงหน้าของฉู่เฮ่าอย่างไม่เต็มใจ พร้อมทั้งเตือนเขาอย่างอ่อนแรง
ยามนี้ เสื้อผ้าของฉู่ซินเหยายังไม่แห้ง ผมสีดำขลับเปียกชื้นของนางก็ลู่ไปตามใบหน้าที่ซีดเซียวเล็กน้อย มองดูแล้วชวนให้ทะนุถนอม
เขาจ้องมองฉู่ซินเหยาด้วยดวงตาหื่นกระหาย และพูดด้วยรอยยิ้มแปลกๆ "จุ๊จุ๊ คนงาม เราห่างกันไปสองวันแล้วนะ เอ๊ะ ไอ้ตัวไร้ประโยชน์ที่อยู่ด้านหลังเ้ามันตายแล้วหรือ? เหตุใดจึงได้นิ่งสงบเช่นนั้นเล่า?”
ดวงตาของฉู่ซินเหยาคมปลาบขึ้นทันที นางเอาตัวยืนบังฉู่อวิ๋นและพูดอย่างเ็า "เื่ของพวกข้าไม่เกี่ยวกับเ้า เชิญเ้ากลับไปได้แล้ว!"
ฉู่ซินเหยาผู้อ่อนแอจะแข็งแกร่งเสมอเมื่อพูดถึงเื่ที่เกี่ยวข้องกับฉู่อวิ๋น
“โอ้? ซินเหยาคนงาม เหตุใดพอเ้าโกรธ เ้าก็ยังมีเสน่ห์ถึงเพียงนี้กันนะ?” สายตาของฉู่เฮ่าไม่ละไปจากฉู่ซินเหยาเลย
เมื่อรู้สึกถึงการจ้องมองอย่างหยาบโลนของฉู่เฮ่า ฉู่ซินเหยาก็ตัวสั่นเล็กน้อย แต่นางยังคงยืนอยู่ด้านหน้าฉู่อวิ๋นไม่ผละหลบไปไหน และพูดด้วยความโกรธ "เ้า...ไร้ยางอาย! เชิญเ้ากลับไปเลย!"
“ซินเหยาคนงาม หากข้าไม่ไป เ้าจะทำอะไรข้าได้ หืม? ฮ่าๆ”
ฉู่เฮ่าสาวเท้าไปหาฉู่ซินเหยา เขาเดาว่าฉู่อวิ๋นกำลังหลับอยู่ จึงเข้าหาฉู่อวิ๋นอย่างมั่นใจ
แต่ต่อให้ฉู่อวิ๋นตื่นขึ้นแล้วจะช่วยอะไรได้? ในสายตาของฉู่เฮ่า เขาก็เป็เพียงขยะ
เมื่อเห็นท่าทางอ่อนแอของฉู่ซินเหยาที่ชุ่มโชกไปด้วยสายฝน ฉู่เฮ่าก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
"มา มาเป็เพื่อเล่นกับคุณชายเช่นข้าหน่อย ฮ่าๆๆ!" แล้วฉู่เฮ่าก็เริ่มก้าวเร็วขึ้น
"อ๊าก--!"
เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วลานฝึกยุทธ์
ตอนที่มือของฉู่เฮ่ากำลังจะัักับฉู่ซินเหยา ก็มีแรงอันนุ่มนวลดึงนางถอยห่างจากฉู่เฮ่าเอาไว้เสียก่อน
มีร่างๆ หนึ่งยืนตระหง่านอยู่ต่อหน้าฉู่ซินเหยา เขาย่อตัวลงแล้วฟาดฝ่ามือออกไปทันที!
"เพียะ!"
ฉู่เฮ่าที่ก้าวเข้ามาหาถูกฝ่ามือกระแทกเข้าที่หน้าอกอย่างจัง พลังปราณและเืในร่างกายพลุ่งพล่านและลอยละล่องไปเหมือนว่าวที่เชือกป่านขาด ก่อนจะตกลงมาอย่างไม่เป็ท่า
แน่นอนว่าร่างนั้นคือฉู่อวิ๋นที่ตื่นขึ้นมาจากการฝึกฝนของเขา
“เ้ากล้าแตะต้องนางงั้นหรือ!”
ใบหน้าของฉู่อวิ๋นเ็า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
ั[1]มีเกล็ดย้อน[2] ใครแตะต้องล้วนวิบัติ! เฟิ่งหวง[3]มีคอคล้าย[4] ผู้ลบหลู่ล้วนพินาศ![5]
ฉู่อวิ๋นใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มีกับฝ่ามือเมื่อครู่นี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เรียนรู้หมัดเตะต่อยและการใช้ฝ่ามือ แต่ความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้เทียบได้กับนักรบิญญาระดับสี่ในขั้นขอบเขตควบแน่นพลังปราณใช้พลังไปเกือบพันจิน นี่ไม่ใช่เื่เล็กๆ!
“ฉู่เฮ่า! เ้าลวนลามพี่สาวของข้ามาหลายต่อหลายครั้ง ซ้ำเมื่อครู่เ้ายังคิดจะลวนลามนางอีกหรือ? ฝ่ามือนี้จากข้า คือการสั่งสอนเ้าแทนผู้าุโหก พ่อของเ้า!” ฉู่อวิ๋นพูดด้วยความโกรธ มองดูฉู่เฮ่าที่ยังคงนอนกองอยู่กับพื้น
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฉู่เฮ่าคิดอยากจะสวนกลับ แต่เืภายในกายของเขาพุ่งสูงขึ้น และใบหน้าก็บิดเบี้ยวด้วยความเ็ป จึงทำได้เพียงมองฉู่อวิ๋นด่าว่าอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่เฮ่าก็ได้รับความช่วยเหลือจากสมุนรับใช้สองคน เขาคุกเข่าลงครึ่งหนึ่งด้วยสีหน้าไม่เชื่อ
“เป็ไปได้ยังไง! ข้า...ข้าโดนเ้าขยะนี่ฟาดจนกระเด็นจริงหรือ?”
“ไม่! นี่มันภาพลวงตาแน่ๆ! ข้าก็แค่ประมาทและล้มลงเท่านั้น!”
“ไสหัวไป! ข้ายืนเองได้!”
ฉู่ฮ่าวผลักมือของสมุนรับใช้อย่างโกรธขึ้ง อดทนต่อความเ็ปที่หน้าอก และลุกขึ้นยืนอย่างไม่เต็มใจ
“หึหึ เ้ามันก็แค่หมาหลงทาง คิดอยากจะสั่งสอนข้างั้นหรือ? ข้าก็แค่ไม่ลุกขึ้นยืน...อั่ก...”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ฉู่ฮ่าวรู้สึกราวกับว่าหน้าอกถูกฉีกออกเป็ชิ้นๆ ก่อนจะกระอักเืออกมาอีกหลายคำด้วยความเ็ป
“เื…นี่มันเื!”
“คุณชาย...คุณชาย ท่านไม่เป็อะไรใช่หรือไม่ขอรับ?”
เมื่อสมุนรับใช้ทั้งสองเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของเ้านายพวกเขา และกระอักเืออกมาเต็มคำ ต่างก็ใกลัวและรีบก้าวไปช่วยพยุงฉู่เฮ่าอีกครั้ง
“เป็ไปไม่ได้! เศษเดนอย่างเ้าจะมาทำข้าาเ็ได้อย่างไร?” ฉู่เฮ่ากุมหน้าอกของตัวเองและเร่งระดมพลังปราณในร่างกายเพื่อฟื้นอาการาเ็ด้วยสีหน้าตกตะลึง
เมื่อมองดูใบหน้าที่ซีดเซียวของฉู่เฮ่าแล้ว ฉู่อวิ๋นก็พูดอย่างเ็า "ถ้าเ้าไม่เชื่อ จะลองอีกครั้งก็ย่อมได้ ข้าไม่รังเกียจที่จะฟาดคนเลวทรามเช่นเ้าอีกหนึ่งฝ่ามือ"
“เ้า...เ้า!” เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของฉู่อวิ๋น ฉู่เฮ่าที่ทั้งโกรธทั้งกลัวก็กระอักเืออกมาอีกครั้ง
“หรือว่าเ้ากินยาที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างนั้นหรือ?” ฉู่เฮ่าขบคิดอย่างหนักอยู่นานก่อนจะได้คำตอบนี้มา
ฉู่อวิ๋นยังคงมองไปที่ฉู่เฮ่าอย่างเ็าและไม่คิดจะตอบคำถาม
เมื่อสมุนรับใช้ทั้งสองที่อยู่ข้างๆ เห็นใบหน้าอันซีดเซียวของฉู่เฮ่า พวกเขาก็พยักหน้าให้แก่กัน จากนั้นก็ชักกระบี่ออกมาจากเอวแล้วจ่อไปที่ฉู่อวิ๋น
“บังอาจ เศษเดนตระกูลย่อย เ้า...เ้ากล้าทำร้ายคุณชายของพวกข้า เ้าสมควรรับโทษ ”
“เ้าตัวไร้ประโยชน์ แค่ได้กินยาเพิ่มพลังปราณไปก็ทำเป็โอหัง เดี๋ยวพวกข้าจะสั่งสอนเ้าเอง!”
หลังพูดจบ สมุนรับใช้ทั้งสองก็ยกกระบี่ขึ้นและก้าวไปข้างหน้าโดยตั้งใจจะฟาดกระบี่ใส่ฉู่อวิ๋นเพื่อล้างแค้นให้ฉู่เฮ่า
พวกเขามีสองคน คนหนึ่งทางซ้าย อีกคนหนึ่งทางขวา รีบวิ่งไปด้านหน้าของฉู่อวิ๋น และกำลังจะฟาดกระบี่ยาวลงไป ทว่ากลับพบว่าฉู่อวิ๋นที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเมื่อครู่ เหลือเพียงภาพเงาเสียแล้ว จึงถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว การโจมตีจึงล้มเหลวในทันใด
“เคลื่อนไหวเร็วมาก!”
“พวกเ้าช้าเกินไปแล้ว”
เมื่อเห็นฉู่อวิ๋นที่หลบได้อย่างว่องไว ทันเวลากับการหลบเลี่ยงกระบี่ทั้งสองเล่ม เขาเตะกระบี่เหล็กที่ใช้ในการฝึกฝนที่อยู่บนพื้นขึ้นสู่อากาศ เอื้อมมือออกไปคว้าไว้ และระดมพลังปราณในร่างกายถ่ายเทลงในกระบี่เหล็กและถือกระบี่ในแนวนอน
"ดาราจรัสแสง"
"ชิ้ง--"
แสงจากคมกระบี่ส่องกระทบเป็สีรุ้ง ส่องแสงแวววาว
รวดเร็วราวกับดาวตก ทั้งยังคมกริบอย่างยิ่ง
"ติ้ง-ติ้ง-"
สมุนรับใช้ทั้งสองเห็นแสงเพียงแวบหนึ่งแล้วจึงรู้สึกเ็ปที่ข้อมือ เมื่อก้มลงมองก็พบว่าบนข้อมือของพวกเขามีาแจากกระบี่บาดลึก เืสาดกระเซ็น ในตอนนี้ไม่อาจหาญกล้าทำสิ่งใดอีก จึงรีบวิ่งไปหาฉู่เฮ่า
“ผีหลอก! ทำไมจู่ๆ เ้าขยะคนนี้ถึงแข็งแกร่งขึ้นมาขนาดนี้?”
“คุณชาย! รีบหนีไปกันเถอะ...กลับไปบอกผู้เฒ่าว่าดาวหายนะตัวนี้กลายเป็สัตว์ประหลาดไปแล้ว!”
เมื่อได้ยินเสียงผีร้องหมาป่าหอน[6]อันขลาดกลัวของสมุน สีหน้าของฉู่เฮ่าก็จริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ
“นี่มัน...ดาราจรัสแสง! ขยะอย่างเ้าฝึกใช้มันได้อย่างไร!?”
ฉู่เฮ่าในฐานะคนของตระกูลหลัก ย่อมจำวิชากระบี่ดาวตกของบรรพบุรุษได้ แต่เขาไม่เคยคิดว่าวิชากระบี่พื้นฐานนี้จะถูกฉู่อวิ๋นนำมาใช้ต่อหน้า ก็เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉู่อวิ๋นยังคงเป็ขยะไร้ค่าที่ไร้ทางฝึกฝนอยู่เลย
เป็ไปได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้ ฉู่เฮ่าคิดว่าที่จู่ๆ ฉู่อวิ๋นถึงแข็งแกร่งขึ้นได้ขนาดนี้ เพราะกินยาบำรุงเพิ่มพลังปราณ จึงมีเรี่ยวแรงพอที่จะผลักเขาให้ล้มลงได้ แต่ตอนนี้ฉู่อวิ๋นกลับสามารถใช้วิชากระบี่ได้ นี่จะอธิบายเื่นี้ได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้น จากท่าทางของฉู่อวิ๋น ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจดาราจรัสแสงได้อย่างแตกฉานแล้ว
เมื่อมองดูทั้งสามคนที่มีสีหน้าแตกต่างกัน ฉู่อวิ๋นก็ไม่ได้เผยสีหน้าใดๆ ออกมา เขาสะบัดปลายกระบี่เบาๆ เพื่อให้เืที่ติดอยู่บนปลายกระบี่หลุดออก ย้อมลานจนกลายเป็สีแดง
“ไม่คิดว่าพลังของดาราจรัสแสงจะมากขนาดนี้ โชคดีที่ข้าควบคุมพลังของตัวเองไว้ได้ ไม่เช่นนั้นเ้าโง่สองคนนี้อาจไม่มีวันได้ใช้กระบี่อีก” ฉู่อวิ๋นแอบวิเคราะห์อยู่ในใจ
ความจริงแล้ว เมื่อครู่ฉู่อวิ๋นสามารถตัดข้อมือของทั้งสองคนได้เลย แต่เห็นฉู่ซินเหยาเฝ้ามองจากด้านหลัง เขาไม่้าให้พี่สาวของเขาเห็นฉากนองเื ดังนั้นจึงจงใจใช้พลังไปแค่ส่วนเดียว
แต่นี่ก็เกินพอแล้วที่จะขับไล่สมุนรับใช้สองคนในระดับแรกของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ
ตอนนี้ ใบหน้างดงามของฉู่ซินเหยาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ นางจ้องมองแผ่นหลังของฉู่อวิ๋นอย่างว่างเปล่า ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าน้องชายคนโปรดของนางดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ในใจนางพลันอบอุ่นขึ้นมา
ยามนี้ บนลานฝึกยุทธ์ ชายหนุ่มสองคนยืนเผชิญหน้ากัน คนหนึ่งมีสีหน้าน่ากลัว ส่วนอีกคนมีสีหน้าหม่นหมอง
“ฮ่า...ดี...ดี!” หลังจากที่ฉู่เฮ่าสงบสติอารมณ์ลงได้ เขาก็มองดูฉู่อวิ๋นที่ยืนตรงตระหง่านแล้วยกยิ้มด้วยความโกรธ
ไม่ว่าฉู่เฮ่าจะโง่แค่ไหน เขาก็ยังรู้ว่าฉู่อวิ๋นในตอนนี้ดูจะไม่เหมือนเดิม เขารีบเช็ดเืจากมุมปาก หยิบยาฟื้นฟูลมปราณออกมาจากแขนเสื้อแล้วกินเข้าไป จากนั้นกดมือจับบนด้ามของกระบี่ทองคำที่เอว
“เ้าขยะ ไม่รู้ว่าได้โชคขี้หมา[7]อันใดถึงได้มีพลังขึ้นมาได้ ตอนนี้มีพลังเพียงแค่นี้กลับทำหน้าโอหัง เ้ายุคุณชายเช่นข้าได้สำเร็จแล้ว!” ฉู่เฮ่าคิดว่า แม้ว่าระดับพลังยุทธ์ของฉู่อวิ๋นจะดีขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งจนเลิศเลอ
อย่างมาก เขาก็เป็เพียงนักรบขอบเขตควบแน่นพลังปราณระดับต่ำที่สามารถใช้วิชากระบี่ดาวตกได้
ดวงตาของฉู่อวิ๋นเป็ประกายและพูดอย่างเ็า "เ้าเอาแต่พูดว่าข้าเป็ขยะ แต่ตอนนี้กลับถูกข้าผลักจนปลิว นั่นก็แปลว่าเ้าสู้ขยะไม่ได้จริงไหม?"
“เ้าลมตด!” ฉู่เฮ่าโกรธมาก เขาแสยะยิ้มด้วยความเกลียดชัง “เมื่อครู่ข้าก็แค่ประมาท ตอนนี้ข้าจะแสดงให้เ้าเห็นว่านักรบิญญาที่ทรงพลังเป็เช่นไร! ตายเสียเถอะ!”
หลังจากพูดจบ ฉู่เฮ่าก็คว้ากระบี่ทองคำออกมาจากเอว และจ่อไปที่ฉู่อวิ๋นโดยตรง ดวงตาของเขาส่อแววเ็า
ดูคล้ายงูพิษ
ข้างหลังเขามีภาพงูสีเหลืองแวบวับอยู่ด้วย
--------------------
[1] ั คือ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในตำนานของจีน ตามความเชื่อของชาวจีนโบราณนั้น จะมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ 4 ชนิด คือ กิเลน หงส์ เต่า และั โดยชาวจีนจะเชื่อถือกันว่าันั้น เป็สัตว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้ง 4 ชนิดนั้น
[2] ัมีเกล็ดย้อนอยู่ใต้คอ ลักษณะย้อนกันกับเกล็ดทั่วไป หากมีใครไปแตะเข้าจะมีเื่โชคร้ายมาถึงตัว
[3] เฟิ่งหวง เป็สัตว์เทพในตำนานของจีน ตามตำนานเมื่อห้าร้อยปีก่อน มีนกวิเศษตัวหนึ่งที่เผาตัวเองด้วยการรวบรวมไม้หอมแล้วฟื้นคืนชีพจากเถ้าถ่าน สวยงามมากจนไม่เข้าสู่วัฏสงสารอีกเลย จึงได้ชื่อว่า เฟิ่งหวงหรือฟีนิกซ์ มีคำกล่าวเกี่ยวกับนกฟีนิกซ์อีกเื่หนึ่ง ว่ากันว่านกฟีนิกซ์เป็ผู้ส่งสารแห่งความตายและมีหน้าที่ในการพรากิญญาผู้คนไป คนดีขึ้น์ คนชั่วตกนรก ในปัจจุบัน ในบางพื้นที่ที่เชื่อโชคลาง ยังคงมีตำนานเกี่ยวกับ "เฟิ่งหวงเย้ายวนจิติญญา"
[4] ส่วนของลำคอของนกฟินิกส์ที่สร้างขึ้นมาหลอกเพื่อพรางตา หากมีใครมองเห็นหรือััโดนจะเกิดเื่ไม่ดีขึ้น
[5] อุปมาถึงบุคคลหรือเื่ราวที่สำคัญ หากมีใครมาแตะต้องหรือพูดถึง อาจทำให้ผู้เป็เ้าของโกรธหรือไม่พอใจจนเกิดเื่ร้ายขึ้น
[6] เสียงร้องห่มร้องไห้เหมือนผีสางหรือหมาป่า (ใช้ในความหมายทางลบ)
[7] โชคดี เป็การประชดว่า ทำไมถึงโชคดีเช่นนี้ หรืออาจจะเป็การพูดถึงคนที่โชคไม่ดีแต่ก็ยังคงมีความโชคดีอยู่บ้าง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้