“เอาเป็ว่าตกลงแล้วนะ”
เย่เฟิงไม่คิดมาก เขาปล่อยพลังชี่ออกมาพร้อมกับยาถอนพิษใจสลาย เพื่อถอนพิษให้หลี่เสวียนและศิษย์ตำหนักไท่จี๋อีกสองคน
จากนั้นไม่ว่าหลี่เสวียนกับคนอื่นๆ จะแสดงท่าทีประหลาดใจและสงสัยอย่างไร เขาก็ไม่สนใจ ชายหนุ่มพาหลงหว่านเอ๋อร์และคนอื่นๆ จากไปในทันที!
แถบทะเลตะวันออกหลงเหลือเพียงผู้าุโหลี่เสวียนและลูกศิษย์ตำหนักไท่จี๋อีกห้าคนที่ถูกมัดด้วยโซ่รวมกัน ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยและประหลาดใจ นี่เย่เฟิงบ้าไปแล้วหรือเปล่า เขาจากไปทันทีอย่างนี้เลยเหรอ?
แต่นี่เป็เื่ดีสำหรับหลี่เสวียน หลังจากเย่เฟิงถอนพิษให้ เส้นลมปราณของเขาก็กลับมาทำงานได้ปกติ เมื่อพลังฟื้นตัว หลังจากนั้นไม่กี่นาทีโซ่ก็ไม่อาจพันธนาการเขาเอาไว้ได้อีกต่อไป ด้วยพลังภายในทำให้โซ่ตรวนที่พันธนาการเขาถูกทำลาย!
“ผู้าุโ!”
ลูกศิษย์ทั้งห้าของตำหนักไท่จี๋มองหลี่เสวียนด้วยความตื่นเต้นยินดี
ผู้าุโหลี่เสวียนสามารถใช้พลังภายในได้แล้ว เช่นนี้ก็แสดงว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว ครั้งนี้พวกเขาออกเดินทางกันมาหลายคน ทว่าท้ายที่สุดกลับหลงเหลือเพียงห้าคนเท่านั้น แม้แต่เฉินฮุยเองก็ยังถูกเย่เฟิงสังหาร นับว่าเป็การสูญเสียครั้งใหญ่
พวกเขายังคงไม่รู้ว่าสมบัติล้ำค่าของตำหนักไท่จี๋อย่างกระจกครอบสุริยะถูกฉกเอาไปแล้ว ไม่เช่นนั้นคงรู้สึกสิ้นหวังมาก แน่นอนว่าพวกเขาจะได้รับรู้เื่นี้ในอีกไม่ช้า
“ไปกันได้แล้ว”
หลี่เสวียนโบกมือ เขาพันแผลด้วยแถบผ้าก่อนพาคนที่เหลือกลับไปหาเฉินเจี้ยนสยง พิษที่พวกเขาได้รับนั้นถูกเย่เฟิงถอนพิษให้จนหมด จึงไม่จำเป็ต้องใช้กระจกครอบสุริยะแล้ว แน่นอนว่าย่อมให้เฉินเจี้ยนสยงรีบนำมันกลับตำหนักไท่จี๋ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้น
สิ่งที่หลี่เสวียนกังวลในตอนนี้คือจะอธิบายเื่เฉินฮุยกับเฉินเจี้ยนสยงอย่างไร เฉินฮุยตายไปแล้ว สำหรับเฉินเจี้ยนสยงแล้วนี่ย่อมเป็เื่ที่เ็ปอย่างยิ่งไม่ใช่เหรอ?
กลุ่มคนเดินไปทางทิศเหนือ เพียงไม่นานก็ได้พบกลุ่มเฉินเจี้ยนสยงที่กำลังเหาะเหินมายังกลางป่า พวกเขาทั้งสี่ถูกฉกชิงกระจกครอบสุริยะไป ดังนั้นจึงรีบเร่งเดินทางมายังที่นัดหมาย แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะได้พบหลี่เสวียนระหว่างทาง
เมื่อต่างฝ่ายต่างพบกันเช่นนี้ พวกเขาต่างรู้สึกประหลาด
“หลี่เสวียน นี่มันเกิดเื่อะไรขึ้น?”
เฉินเจี้ยนสยงสีหน้าอึมครึม เมื่อเห็นว่าหลี่เสวียนยังดูปกติดี ในใจก็เกิดความไม่เข้าใจ ไม่ใช่ว่าเฉินฮุยบอกว่าตาแก่นี่ถูกพิษเช่นกันและกำลังถูกเย่เฟิงยับยั้งเอาไว้ จำเป็ต้องใช้กระจกครอบสุริยะเพื่อไปช่วยถอนพิษไม่ใช่หรอก?
แล้วทำไมตอนนี้เื่กลับกลายเป็เช่นนี้!
“กระจกครอบสุริยะล่ะ?”
หลี่เสวียนไม่รอคำตอบ เขามองด้านหลังของคนทั้งสี่ เมื่อไม่เห็นสิ่งที่ค้นหา สีหน้าก็พลันอึมครึมขึ้นมาเช่นกัน
เขาคิดว่าความเป็ไปได้มีอยู่สองทาง หนึ่งคือเฉินเจี้ยนสยงไม่ได้นำกระจกครอบสุริยะมาด้วย ส่วนอีกทางหนึ่งคือเกิดเื่ไม่คาดฝันเสียแล้ว หากเป็ก่อนหน้านี้หลี่เสวียนคงไม่คิดว่าจะมีใครสามารถแย่งกระจกครอบสุริยะไปจากเฉินเจี้ยนสยงได้ แต่หลังจากตัวเองพ่ายแพ้ให้กับเย่เฟิง จึงได้รู้ว่าบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็ไปไม่ได้
ทันทีที่ผู้าุโทั้งสองของตำหนักไท่จี๋ได้เจอหน้ากันก็สังเกตเห็นเื่หนึ่ง พวกเขาถูกเล่นตลกเข้าให้แล้ว!
คนที่เล่นตลกกับพวกเขาหนึ่งในนั้นย่อมเป็เย่เฟิง ส่วนจะมีบุคคลอื่นร่วมมือด้วยหรือไม่นั้นพวกเขาย่อมไม่รู้
ความสามารถของเย่เฟิงนั้นหลี่เสวียนได้ประจักษ์ต่อสายตาตัวเองมาแล้ว แต่เขายังไม่ได้บอกกล่าวแก่เฉินเจี้ยนสยง ดังนั้นในความคิดของเฉินเจี้ยนสยง เขาไม่คิดว่าเย่เฟิงจะสามารถขโมยกระจกครอบสุริยะไปได้ด้วยตัวคนเดียว ย่อมต้องมีคนคอยช่วยเหลือเขา อีกทั้งต้องเป็บุคคลที่ฝีมือสูงสุดและอยู่ในอันดับต้นๆ ของยุทธจักรแน่!
ทั้งสองต่างแอบแฝงเจตนาร้าย ในเวลาเดียวเป้าหมายของพวกเขาล้วนเป็เย่เฟิง
สำหรับเฉินเจี้ยนสยงแล้ว เขาคิดจับตัวเย่เฟิงมาเค้นถามเื่กระจกครอบสุริยะ จากนั้นทำให้ชายหนุ่มได้ชดใช้ พร้อมกับสารภาพออกมาว่าใครกันที่คิดแย่งชิงกระจกครอบสุริยะไปจากเขา ขณะเดียวกันก็มีความเป็ไปได้มากที่ภายในตำหนักไท่จี๋จะมีหนอนบ่อนไส้ ไม่เช่นนั้นคนนอกจะรู้ได้อย่างไรว่าเขานำกระจกครอบสุริยะออกมาด้วย?
ด้านหลี่เสวียน หากเขาได้พบเย่เฟิงอีกครั้งคงสามารถพูดคุยกันด้วยดีได้ ตอนนี้เขาทราบความสามารถของอีกฝ่ายแล้วว่าเก่งกาจเพียงใด จึงคาดเดาไว้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าเย่เฟิงเป็คนลงมือชิงกระจกครอบสุริยะไปเอง ด้วยความสามารถของเย่เฟิง ย่อมสามารถเอาชนะเฉินเจี้ยนสยงได้แน่นอน และหลี่เสวียนก็จะใช้ประโยชน์จากตรงนี้กำจัดคู่แข่งที่แย่งชิงตำแหน่งเ้าสำนักไปจากเขา
ตามที่พวกเขาคาดการณ์ ผ่านไปเพียงไม่นานพวกเขาก็ได้ยินข่าวว่าเย่เฟิงปรากฏตัวที่ทะเลทราย...
…………
“มีคนของตำหนักไท่จี๋อยู่ที่ทะเลทรายมากแค่ไหน?”
เมื่อเย่เฟิงรับรู้ข่าวสารที่้าก็หรี่ตาอย่างใช้ความคิด
เขาเพิ่งสอบถามข้อมูลของตำหนักไท่จี๋จากิญญาของเฉินฮุย จึงทราบข่าวที่ว่าศิษย์ของตำหนักไท่จี๋ค้นพบร่องรอยของผู้ฝึกวรยุทธ์สมัยโบราณที่ทะเลทราย ซึ่งร่องรอยนี้ถูกพบเมื่อไม่นานมานี้และอยู่ไม่ไกลจากตำแหน่งในทะเลทรายที่เคยพบลูกปัด์ ทำให้คนของตำหนักไท่จี๋ต่างคิดว่าอาจมีสมบัติอีกมากมายอยู่ในนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงส่งคนไปยังทะเลทรายมากขึ้นเพื่อสำรวจให้ทั่ว เหตุการณ์ที่แถบทะเลตะวันออกจึงไม่มีคนของตำหนักไท่จี๋ไป เนื่องจากกำลังคนส่วนใหญ่กำลังค้นร่องรอยของโบราณอยู่ที่ทะเลทราย
เย่เฟิงกำลังขบคิดเกี่ยวกับเื่นี้ เข็มทิศดวงดาวบ่งบอกว่า ตำแหน่งของอุปกรณ์ชิ้นที่สามนั้นอยู่ที่ซากโบราณในทะเลทราย และข้อความที่ซูเฟยหยิ่งส่งมาบอกว่าราชันหั่วยวินเยาเองก็ซ่อนตัวอยู่ที่ทะเลทราย ด้วยเหตุนี้เขาจะมุ่งหน้าไปยังทะเลทราย หรือจัดการคนของตำหนักไท่จี๋ก่อนดีล่ะ?
แน่นอนว่าตัวเลือกการไปทะเลทรายย่อมน่าสนใจกว่า...
เย่เฟิงดึงกระจกครอบสุริยะออกมาจากแหวนมิติ ก่อนทรมานเฉินฮุยเพื่อให้เขาบอกเกี่ยวกับวิธีการใช้กระจกครอบสุริยะ จากนั้นใช้ประโยชน์จากมันในการดูดซับพิษสลายิญญาให้กับจื่อเจี้ยนหลาน
เดิมทีเขาเองก็รู้สึกแปลกใจที่บนโลกนี้มีสิ่งที่สามารถถอนพิษนับหมื่นชนิดบนโลกได้ด้วย และตอนนี้เมื่อเขาได้กระจกครอบสุริยะมาจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมันคือเครื่องมือขั้นจิติญญาชิ้นหนึ่ง!
ในโลกเทวะ เครื่องรางกันภัยเป็ของวิเศษที่อยู่ในระดับต่ำที่สุด กำไลจื่อหลิงที่เย่เฟิงเคยใช้และกำไลหยกิญญาที่มอบให้หลงหว่านเอ๋อร์ล้วนเป็เครื่องรางกันภัยซึ่งเป็อุปกรณ์ป้องกัน รวมถึงไหกักิญญาของผู้คืนชีพเองก็เป็ของวิเศษที่อยู่ในระดับเดียวกัน
เครื่องมือขั้นจิติญญาเป็เครื่องมือที่มีระดับสูงกว่าเครื่องรางกันภัยหนึ่งระดับ ในโลกเทวะมีเพียงผู้ฝึกตนที่อยู่ระดับสูงเท่านั้นจึงสามารถมีได้ เพราะระหว่างเดินทางจะเป็การดึงดูดให้เกิดการเข่นฆ่าเพื่อแย่งชิงของ และเครื่องมือขั้นจิติญญาก็ล้วนมีคุณสมบัติพิเศษ ตัวอย่างเช่นกระจกครอบสุริยะมีคุณสมบัติในการถอนพิษ แต่ต้องเป็พิษที่มีความสามารถต่ำกว่าระดับของเครื่องมือขั้นจิติญญาเท่านั้นจึงจะสามารถกำจัดได้ หากเป็พิษที่รุนแรงกว่ากระจกครอบสุริยะก็ไม่อาจถอนพิษให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าบนโลกใบนี้ไม่มีพิษเช่นนั้น
อีกตัวอย่างหนึ่งคือของวิเศษของซูเฟยหยิ่ง ซึ่งเป็เครื่องมือขั้นจิติญญาเช่นเดียวกัน นั่นก็คือเส้นไหมเงาหิมะที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถยืดขยายได้ไม่สิ้นสุด ตราบใดที่มีระดับพลังเพียงพอในการใช้งาน จะใช้มันพันรอบโลกสักหลายๆ รอบก็ยังได้ แต่น่าเสียดายที่คุณสมบัติของมันต้องตกอยู่ในสถานการณ์พิเศษเท่านั้นจึงจะสามารถใช้ได้ แม้มันจะถูกเรียกว่าเครื่องมือขั้นจิติญญา แต่ความเป็จริงแล้วไม่ได้มีจิติญญาอยู่จริง
เมื่อตอนนี้เย่เฟิงได้รับกระจกครอบสุริยะมาและใช้งานมันแล้ว ต่อไปเขาจะใช้มันสำหรับต่อสู้!
ระดับความแข็งแกร่งของเครื่องมือขั้นจิติญญานั้นน่ากลัวมาก หากเย่เฟิงไม่ระมัดระวังในการใช้งาน พลังทำลายล้างของมันเทียบเท่ากับตอร์ปิโดของเรือดำน้ำเลยทีเดียว หากไม่อยู่ใน่วิกฤต เขาก็ไม่คิดจะนำกระจกครอบสุริยะออกมาใช้ ไม่เช่นนั้นหากผู้อื่นรู้เข้าจะไม่คิดแย่งชิงหรอกเหรอ?
หลังจากพาหลงหว่านเอ๋อร์และคนอื่นๆ กลับถึงเมืองเซี่ยงซาน เขาต้องจัดการเื่จองตั๋ว เย่เฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาหลินซือฉิง ส่วนเื่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติและจุดวาร์ปคงต้องอธิบายให้เธอฟังก่อนออกเดินทาง