ในเวลาเดียวกัน มือของหลงเซี่ยวอวี่ที่วางอยู่บนคอของมู่จื่อหลิง มู่จื่อหลิงรู้สึกถึงััที่คอได้อย่างชัดเจน มันเป็ััของมือที่ขาวดั่งหยกซึ่งกำลังเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล
เนื่องจากในยามนี้ มู่จื่อหลิงกำลังจ้องมองไปที่ริมฝีปากสีแดงอันน่าหลงใหลของหลงเซี่ยวอวี่อย่างใจจดใจจ่อ
ราวกับนางจะติดใจ มองอย่างไรก็ยังไม่พอ
สิ่งดึงดูดเบื้องหน้า ทำให้สมองที่กำลังโลดแล่นของมู่จื่อหลิงค่อยๆ หย่อนยานลง...
ริมฝีปากที่สมบูรณ์แบบ ชุ่มชื้นและอวบอิ่ม นุ่มน่าัั ดูเหมือนจะเป็อาหารอันโอชะที่ทั้งอร่อยและหอมหวาน ลำคอของมู่จื่อหลิงรับรู้ได้ถึงรสฝาด นางกลืนน้ำลายลงไปด้วยรู้สึกคอแห้ง
อยาก ข้าอยากจะะโเข้าไปงับมันจริงๆ...มู่จื่อหลิงจ้องไปที่ริมฝีปากสีแดงของหลงเซี่ยวอวี่โดยไม่กะพริบตา แต่ภายในแววตากลับดูเหมือนจะเปล่งประกายด้วยความร้อนแรงอย่างเป็เ้าข้าวเ้าของ
หลงเซี่ยวอวี่ที่เดิมทีกำลังเช็ดเืที่คอของมู่จื่อหลิงออกอย่างจริงจัง เขาเปิดเปลือกตาขึ้นเหลือบมองมู่จื่อหลิงที่มองขึ้นมาที่เขาโดยไม่รู้ตัว
เพียงชำเลืองมองแวบเดียว ดวงตาของเขาก็แข็งทื่อไป เห็นเพียงดวงตาที่พร่างพรายของมู่จื่อหลิงที่กำลังกะพริบไปมาด้วยประกายที่แปลกประหลาด
ดวงตาของนางจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเขา ราวกับสายตาของเสือตัวน้อยที่กำลังจับจ้องไปยังอาหารเลิศรส และยังเห็นว่าริมฝีปากสีชมพูจางๆ ของนางขยับเล็กน้อย ราวกับว่ามีบางอย่างกำลังจะปะทุออกมา
การเคลื่อนไหวมือของหลงเซี่ยวอวี่หยุดลงกะทันหัน ดูเหมือนว่าเขาจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างได้อย่างเลือนราง
เขาวางผ้าเช็ดหน้าในมือลง ก่อนจะยื่นมือออกมาปกปิดร่างกายของมู่จื่อหลิงไว้ด้วยชุดคลุมขนาดใหญ่ เพื่อให้ใบหน้าขาวสะอาดของนางถูกเปิดเผยต่อหน้าเขาเพียงผู้เดียว
หลังจากนั้นหลงเซี่ยวอวี่ก็ค่อยๆ ปล่อยมือใหญ่ที่จับมู่จื่อหลิงไว้ หรี่ตาลงเล็กน้อย ตาของเขาลดลงมาจับจ้องไปที่ปากเล็กๆ ของนางโดยตรง และจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่ง
ในเวลาต่อมา ในที่สุดมู่จื่อหลิงก็อดไม่ได้ที่จะยื่นปลายลิ้นออกมาเลียอย่างเงียบๆ...ท่าทางราวกับแมวตัวน้อยที่หิวกระหายจนน้ำลายไหล
เมื่อเห็นเช่นนี้ มุมปากของหลงเซี่ยวอวี่ก็กระตุกเล็กน้อย ความสงบบนใบหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไป เขาเกือบจะยกฝ่ามือกว้างของตนขึ้นมาแตะริมฝีปากเล็กๆ ที่มีเสน่ห์นั้นโดยตรง
ผู้หญิงตัวเล็กๆ ผู้นี้รู้หรือไม่ว่านางกำลังทำอะไรอยู่?
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ผู้หญิงตัวเล็กในอ้อมแขนของเขากำลังเล่นหน้าเล่นตาใส่เขาอย่างซุกซน และยังคงแลบลิ้นที่มีน้ำลายไหลต่อไป
ชั่วขณะหนึ่ง หลงเซี่ยวอวี่รู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งทื่อไปเล็กน้อย และมีกระแสเืกำลังคั่งอยู่ภายในสมองของเขา ซึ่งมันค่อยๆ แพร่กระจายออกไป...
หลงเซี่ยวเจ๋อที่อยู่ท่ามกลางความพึงพอใจ เมื่อจู่ๆ เขาก็เห็นภาพที่เฉียบแหลมและสะดุดตาจนรู้สึกว่ามันสามารถะเือารมณ์ได้ เขายังรู้สึกว่ามันมีหนึ่งหัวสองใหญ่ [1]
สองคนนี้ทะเลาะกันเื่อะไร?
หลงเซี่ยวเจ๋อััคางของตนอย่างสงสัย ยืนเขย่งปลายเท้าด้วยความสงสัย และ้ามองสิ่งที่หลงเซี่ยวอวี่กำลังมองอยู่ว่ามันคืออะไร
แต่เขากลับพบว่าชุดคลุมแขนกว้างของหลงเซี่ยวอวี่ดูเหมือนสามารถห่อมู่จื่อหลิงไว้ได้อย่างแ่า จนไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็นมันได้แม้แต่น้อย
“พี่...” เด็กน้อยหลงเซี่ยวเจ๋อไม่สามารถอดใจได้อีกต่อไป แต่เขาเพิ่งเรียกออกมาเพียงคำเดียว หลงเซี่ยวอวี่ก็กวาดตามองมาที่เขาอย่างเ็า ทันใดนั้นเขาก็ชะงักไป และกลืนสิ่งที่เขากำลังจะพูดกลับลงท้องไปทันที
จากนั้นหลงเซี่ยวอวี่ก็หลับตาลงและมองไปยังผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนของตนอีกครั้ง ท่าทางเยือกเย็นของเขาลดลงเล็กน้อย มีแสงที่ซับซ้อนอยู่ในดวงตาของเขา
ในยามนี้หลงเซี่ยวเจ๋อกลายเป็คนโง่อย่างสมบูรณ์แล้ว
ไม่ใช่ด้วยเื่อื่นใด แต่ในวันนี้ฉีอ๋องได้เปิดมุมมองใหม่ของตนต่อเขาแล้วจริงๆ!
เป็ไปได้ไหมว่ายามนี้ฉีอ๋องจะกำลังตกอยู่ในห้วงความรักและไม่อาจหลุดออกมาได้? ถึงได้ขี้หวงถึงเพียงนี้ ไม่ยอมให้ผู้ใดมาดึงแขนเสื้อ ไม่แม้แต่จะให้ผู้ใดจ้องมอง
หลงเซี่ยวเจ๋อไม่สามารถหยุดเย้ยหยันในใจได้ แต่เขาก็ไม่กล้าส่งเสียงอะไรไปมากกว่านี้เช่นกัน
เขาหรี่ตาและจ้องมองด้วยความสงสัยอยู่พักหนึ่งอีกครั้ง
แม้ว่าหลงเซี่ยวเจ๋อจะไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหลงเซี่ยวอวี่จึงปกปิดใบหน้าของมู่จื่อหลิงอย่างกะทันหัน เขาไม่รู้ว่ามู่จื่อหลิงกำลังทำอะไรภายใต้ชุดคลุมนั้น
อย่างไรก็ตาม การคาดเดาที่ชั่วร้ายในใจของเขาคือการที่พวกเขาทั้งสองต้องเผชิญหน้ากัน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความรักลึกซึ้งที่ยังไม่มีความชัดเจน
เมื่อคาดเดาสิ่งนี้ หลงเซี่ยวเจ๋อก็อยากจะถาม ขอร้องล่ะ ยามนี้ในสายตาที่สาธารณะที่มีผู้คนอยู่มากมาย การแสดงความรักที่อบอุ่นเช่นนี้มันสมควรแล้วจริงหรือ?
แต่ในชั่วพริบตา จิตใจของหลงเซี่ยวเจ๋อก็ตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้งอย่างกะทันหัน เขาเพียงรู้สึกว่าตนถูกทุบตีจนกลับไปเป็เหมือนเดิมอีกครั้ง และเขาก็กลับมาสู่่เวลาก่อนการผ่อนคลายก่อนหน้านี้
เนื่องจากยามนี้ทั้งสองคนรักกันมาก และเขาจะต้องเป็คนเดียวที่โชคร้าย!
จะเอาเช่นนี้ใช่ไหม?
เนื่องจากยามนี้เขาไม่สามารถหนีไปได้ หลงเซี่ยวเจ๋อจึงหันความสนใจไปยังสิ่งอื่น
ตาไม่เห็นนับว่าสะอาด [2] หากเขาทำตัวว่านอนสอนง่ายเช่นนี้ แล้วทำให้หลังจากนี้เขาทุกข์น้อยลงได้ก็คงจะดี หลงเซี่ยวเจ๋อคิดอย่างขมขื่นในใจ
ในทางกลับกัน มู่จื่อหลิงยังไม่ฟื้นคืนสติกลับมา
เพราะลมหายใจของกลิ่นดอกเหมยที่เย็นสดชื่นซึ่งติดอยู่ในรูจมูกของนางจางๆ ความคิดที่ฟุ้งซ่านของนางก็หมุนย้อนกลับ...
ทันใดนั้น มู่จื่อหลิงก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อมโยงฉากเย้ายวนเมื่อไม่นานมานี้เข้ากับใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ตรงหน้าซึ่งไม่มีจุดใดที่ไม่น่ามอง
นางเคยจูบเขามาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งหากไม่ใช่ว่านางถูกบังคับ ก็จะตอบกลับด้วยความนิ่งเฉย หรือไม่ก็ทำท่าทีแข็งทื่อไม่ต่างจากซากศพ นางไม่เคยสังเกตกลิ่นที่ออกมาจากปากของเขาเลยแม้แต่น้อย และเพิ่งรู้ว่าลมหายใจกลิ่นดอกเหมยเย็นของเขาสามารถทำให้นางรู้สึกสบายใจได้
ดังนั้น ยามนี้นางทำได้แค่นึกผ่านอดีตที่เคยพบเจอมาก่อนหน้านี้ แล้วค่อยๆ คิดและตัดสินใจในยามนี้...นางอยากลิ้มรสที่ค้างอยู่ในปากและฟันของเขาอย่างระมัดระวัง เอ้อระเหยอยู่กับมันอย่างยาวนาน
ริมฝีปากบางทั้งสองของเขาให้ััที่เย็นสบายและนุ่มนวล
ยิ่งมู่จื่อหลิงคิดเกี่ยวกับเื่นี้มากเพียงใด นางก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้นเท่านั้น นางยื่นนิ้วชี้ที่เรียวยาวออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ค่อยๆ แตะที่ริมฝีปากของหลงเซี่ยวอวี่...
ภายนอกช่างเย็นะเื นุ่มและยืดหยุ่น มีกลิ่นเหล้าผูเถาจางๆ ออกมาจากระหว่างริมฝีปากของเขา ลิ้นที่ร้อนและนุ่มนวลก็เตรียมพร้อมที่จะััถึงความหวาน เฉกเช่นยามพลบค่ำภายใต้สายฝนที่เย็นเยียบไร้ขอบเขต ความเย็นเล็กน้อยเผยให้ััได้ถึงอุ่นไอที่อบอุ่นถึงหัวใจ
หลังจากนั้น จู่ๆ ก็เห็นหยดน้ำสีแดงหนึ่งหยดลงมาจากปากเขา แลดูคล้ายหยาดเืสีแดงที่กำลังเบ่งบานสะพรั่งราวกับดอกเหมยกุ้ย [3] ค่อยๆ เลื่อนไหลลงมาอย่างช้าๆ ดูน่ากระหายและเย้ายวน ทำให้หัวใจของผู้คนหลงใหล
รสหวานและสดชื่นในปากของเขา ทำให้เกิดเป็ระลอกคลื่นดิ่งลงสู่หัวใจของผู้ที่ได้ััโดยตรง เป็คลื่นเคลื่อนอยู่ในท้อง [4] นุ่มนวลอ้อยอิ่งยาวนาน รสชาติค้างคาอยู่ในคออย่างไม่รู้จบ
เมื่อคิดเกี่ยวกับมัน ใบหน้าของมู่จื่อหลิงก็แดงระเรื่อ หูของนางก็ร้อนมาก นางรู้สึกว่าคอของนางเริ่มแห้งผาก และนางอยากจะเลียริมฝีปากของเขาอย่างบ้าคลั่ง จู่โจมไปบนปากของเขา
ปากเล็กๆ ของนางส่งเสียงซือซือ ราวกับสัตว์ร้ายตัวน้อยที่กำลังหิวโหย และพร้อมที่จะออกล่า ราวกับว่ามันกำลังจะอ้าปากงับอาหาร
เมื่อถูกลวนลามเช่นนี้ ฉีอ๋องเพียงแค่รู้สึกทั้งโกรธและขบขัน แต่มือเล็กเรียบเนียนราวกับเส้นไหมนั้นมันกำลังบีบหัวใจของเขา
เ้าปีศาจน้อย [5] ผู้มีเสน่ห์ยั่วยวนใจผู้นี้!
ฉีอ๋องผู้มีความเยือกเย็นและเฉยชาอยู่เสมอ ทั้งยังมีความยับยั้งชั่งใจจึงเพียงแค่ประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของมู่จื่อหลิง แต่สุดท้ายก็เกิดเป็ความฟุ้งซ่าน จนทำให้เกิดความร้อนในร่างกายของเขาที่ไม่สามารถอธิบายได้
ในที่สุดเขาก็อดทนต่อนิ้วเรียวยาวและอ่อนนุ่มของนางที่ยื่นเข้าไปในปากของเขาไม่ไหว จึงกัดลงไปอย่างแรง ก่อนที่ฝ่ามืออุ่นซึ่งขาวดั่งหยกจะตรงไปหามู่จื่อหลิง แตะลงบนปากเล็กที่แลบลิ้นออกมาอย่างแแ่
หากไม่เห็น ก็ไม่นึกถึง [6]
แต่ผู้ใดจะรู้ว่าลิ้นเปียกชื้นของมู่จื่อหลิงยังคงอยู่ที่ริมฝีปาก เพราะถูกกดไว้โดยฝ่ามืออุ่น และหลงเซี่ยวอวี่ก็สามารถััได้ถึงความร้อนและััที่นุ่มนวลจากฝ่ามือของตนได้อย่างชัดเจน
มันทั้งนุ่มและร้อน แผดเผาราวกับมีขนนกอันอ่อนนุ่มกำลังขีดข่วนทำให้ใจเกิดความคัน...
ดวงตาของมู่จื่อหลิงเบิกกว้างขึ้นในทันใด เหมือนกับกระแสไฟฟ้าพุ่งใส่ มีอาการกระตุกอย่างรุนแรง และความคิดก็ถูกดึงกลับมาทันที
ในเวลาต่อมา นางรีบเลื่อนลิ้นที่ถูกตรึงไว้กลับเข้าไปในปากของตนอย่างรวดเร็ว แต่นางกลับไม่สามารถดึงมือของนางกลับจากปากของหลงเซี่ยวอวี่ได้
จู่ๆ หลงเซี่ยวอวี่ก็รู้สึกได้ถึงความชื้นและความเรียบเนียนของฝ่ามืออีกครั้ง มันเลื่อนเข้าไปในกล่องดวงใจของเขา นำพาความร้อนที่ร้อนแรง แผดเผาลึกลงไปยังส่วนลึกของหัวใจ
หลงเซี่ยวอวี่คร่ำครวญในใจอย่างลับๆ ในที่สุดก็ยอมปล่อยมือมู่จื่อหลิงออก ก่อนจะสูดอากาศเย็นและบังคับความร้อนที่ผิดปกติในร่างกายของตน
ควรตาย! ท้ายที่สุดแล้วเป็ใครล่อลวงใครกันแน่? ใครกันแน่ที่หลงเสน่ห์?
ในสถานการณ์นี้ คำตอบนั้นชัดเจนแล้ว
ในยามนี้ นี่เป็ครั้งแรกในชีวิตที่ฉีอ๋องรู้สึกหงุดหงิดและผิดหวังอย่างสุดซึ้งอยู่ลึกๆ
ในเวลาเดียวกันศีรษะของมู่จื่อหลิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาก็ได้ถูกทอดจนไหม้เกรียมทั้งด้านนอกและด้านในด้วยความอับอาย ถูกทอดทั้งภายในและภายนอกราวกับไม่ใช่คน
“ท่าน ท่าน ข้า…” มู่จื่อหลิงมองนิ้วชี้ของนางที่มีรอยฟัน นางใมากจนพูดไม่ออก
โอ้์!!
เมื่อครู่นางกำลังคิดอะไรอยู่?
นางกำลังคิดเกี่ยวกับรสชาติในปากของหลงเซี่ยวอวี่และ้าจูบเขาหรือ? และยัง้าที่จะเพลิดเพลินกับการลิ้มรส
คิดแล้วถึงกับยื่นมือออกไป และััถึงอุณหภูมิทีละน้อย นอกจากนี้ยังมี...ัันุ่มลื่นที่เปียกชื้นนั้นอีก
์ ยังอยากที่จะมีชีวิตอยู่อีกหรือไม่?
มู่จื่อหลิงรู้สึกอับอายมาก นางอยากจะหารูให้มุดคลานเข้าไปจริงๆ
หลังจากรอเป็เวลานาน ในที่สุดหลงเซี่ยวเจ๋อก็ได้ยินอะไรบางอย่าง เขาหันขวับกลับมาอย่างเร่งรีบ และถามด้วยความสงสัยอย่างไม่กลัวความตาย “พี่สะใภ้สาม เมื่อครู่ท่านทำอะไรหรือ?”
ยามนี้ไหนเลยที่มู่จื่อหลิงจะยังได้ยินเสียงของหลงเซี่ยวเจ๋อ หัวของนางถูกทุบจนเป็ผงแล้ว และนางแทบจะวิ่งชนกำแพง
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงตัวเล็กที่กำลังเขินอายและสับสนอยู่ในอ้อมแขนของตน มุมของริมฝีปากสีแดงอ่อนของหลงเซี่ยวอวี่ก็ยกยิ้มชั่วร้ายขึ้นเล็กน้อย และจากมุมที่มีเพียงมู่จื่อหลิงเท่านั้นที่มองเห็นได้ เขาพูดคำหนึ่งอย่างเงียบๆ
คำพูดที่เงียบงันของเขา แม้จะอยู่ในความตื่นตระหนก มู่จื่อหลิงก็สามารถเห็นได้ชัดเจน มันทั้งชัดเจนและตรงไปตรงมา
ในเวลานี้นางอยากจะแหงนหน้ามองฟ้าแล้วร้องโฮ [7] จริงๆ!
บ้า บ้า! นี่มันบ้าไปแล้ว
ครั้นคิดถึงการกระทำความผิดครั้งใหญ่นี้ที่ทำในตอนกลางวันแสกๆ แค่คิดเกี่ยวกับมัน ทั้งยังถูกมองเห็นอย่างชัดเจนถึงเพียงนี้ หากเพียงมองเห็นได้ชัดเจนเท่านั้นก็ไม่เป็ไร แต่นี่มือที่อยู่ไม่สุขยังเข้าไปในปากของเขา ช่างน่าละอายเป็อย่างยิ่ง!
มู่จื่อหลิงหนอมู่จื่อหลิง เ้ากลายเป็คนโชคไม่ดีั้แ่เมื่อไร? ด้วยท่าทีที่มีเสน่ห์ของจอมมารทรงเสน่ห์ผู้นี้ นางจึงมีความฝันในยามกลางวันแสกๆ
มู่จื่อหลิงอับอายมาก หัวใจเต้นแรงจนแทบบ้า...นางอายมากจนต้องยกมือขึ้นไปปิดหน้า
แต่นางยังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ ดังนั้นนางจึงมุดหัวเล็กๆ ของนางเข้าไปในอ้อมอกของหลงเซี่ยวอวี่
มันช่างน่าอายจริงๆ
หลงเซี่ยวเจ๋อตกตะลึงเมื่อเขามองไปที่มู่จื่อหลิงที่แสดงท่าทีออกมาอย่างไร้ยางอาย
สองคนนี้กำลังทำอะไรอยู่?
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะคิดอะไรได้ สายตาที่เ็าและเสียงที่นุ่มนวลก็ทำให้เขากลับมาสู่ความเป็จริง
---------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] หนึ่งหัวสองใหญ่ (一个头两个大) เป็สำนวน มีความหมายว่า ปวดหัวแทบะเิเพราะเจอปัญหาหนักยากจะจัดการแก้ไขได้
[2] ตาไม่เห็นนับว่าสะอาด (眼不见为净) เป็วลี มีความหมายว่า เื่อะไรที่รู้ว่าเห็นแล้วจะมารบกวนสายตาและจิตใจเรา ก็อย่าไปมอง
[3] ดอกเหมยกุ้ย (玫瑰花) มีความหมายว่าดอกกุหลาบ
[4] มีคลื่นเคลื่อนอยู่ในท้อง (飘渺回肠) เป็วลี มีความหมายว่า มีความรู้สึกหวิวๆ วูบๆ ในท้อง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อเรารู้สึกกังวลหรือตื่นเต้นกับอะไรบางอย่าง เทียบกับไทยจะใกล้เคียงกับคำว่ามีอาการผีเสื้อบินอยู่ในท้อง
[5] ปีศาจน้อย (小妖精) เป็คำอุปมา มีความหมายว่า ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ยั่วยวน ส่วนมากจะใช้ในความหมายที่ไม่ดี อย่างเช่นใช้ด่าผู้หญิงใจแตก ไร้ยางอาย ชอบอ่อยผู้ชาย
[6] หากไม่เห็น ก็ไม่นึกถึง (眼不见,心不燥) เป็วลี มีความหมายว่า สิ่งใดที่พ้นสายตาไปแล้ว ใจเรามักจะลืมมันไป
[7] แหงนหน้ามองฟ้าแล้วร้องโฮ (仰天大哭) เป็สำนวน มีความหมายว่า ร้องไห้โหยหวนเสียงดัง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้