“เ้าตั้งใจจะถอนสวนสมุนไพรข้าจนเกลี้ยงหรือ?”
“หา? เปล่านี่” อ๋าวหรานได้ยินน้ำเสียงหยอกล้อของจิ่งฝานจึงหันศีรษะไปอย่างอึ้งตะลึง
“ข้าถอนไปแค่ต้นเดียว” อ๋าวหรานอธิบายตอบ
จิ่งฝานเลิกคิ้ว
“ก็ได้ เหมือนจะถอนเพิ่มขึ้นมาอีกต้น”
จิ่งฝานยิ้มเดินไปข้างกายอ๋าวหราน พูดว่า “ชอบเรียนวิชาแพทย์มากหรือ? ฟ้ามืดแล้วยังไม่รู้จักกลับไปกินข้าว?”
อ๋าวหรานนั่งอยู่บนพื้นก็ี้เียืนขึ้น เมื่อเงยหน้ามองไกลออกไป ดวงอาทิตย์เกือบจะถูกเส้นขอบฟ้าบังสนิทแล้ว ทั่วท้องฟ้าเป็สีส้มสลัว เมื่อดึงสายตากลับมาใกล้เงาที่ซ้อนทับกันของใบหญ้า ั์ตาสั่นไหวน้อย ดูเหมือนผลงานศิลปะอยู่หลายส่วน
อ๋าวหรานอดพูดไม่ได้ว่า “งดงามมาก”
จิ่งฝานคุกเข่าครึ่งหนึ่งอยู่ข้างกายอ๋าวหราน เบื้องหน้าคือใบหน้าด้านข้างของอ๋าวหรานและแสงอาทิตย์อัสดงงดงามราวกับกับภาพฝัน
จิ่งฝาน “งดงามจริงๆ ด้วย”
อ๋าวหรานหันศีรษะมองจิ่งฝานพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “อยากจะใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านสกุลจิ่งนี่ไปทั้งชีวิตจริงๆ เรียนวิชาแพทย์ นานๆ ครั้งก็ลงเขาไปช่วยคน รักษาโรคเสร็จแล้วก็จากไปเงียบๆ อย่างสง่างาม เหลือแผ่นหลังที่ราวกับปริศนาเอาไว้ ฮ่าฮ่า แค่คิดก็รู้สึกว่าน่าสนุกแล้ว”
เป็หมอเทวดาที่ราวกับเทพัเห็นหัวไม่เห็นหางเช่นนี้ช่างน่าสนุกเสียจริง อ๋าวหรานคิดไปแล้วก็อดหัวเราะอย่างมีความสุขออกมาไม่ได้
จิ่งฝานโค้งริมฝีปาก แสงจากท้องฟ้าที่ค่อยๆ มืดลงบดบังดวงตาของเขาไป อ๋าวหรานมองเห็นสีหน้าของเขาไม่ชัด แค่ได้ยินเสียงพร่าแหบต่ำของเขาชัดเจน
“เ้าอยากอยู่ที่ตระกูลจิ่งไปตลอดชีวิตหรือ?”
อ๋าวหรานแกล้งทำเสียงบ่นกระปอดกระแปดว่า “เ้าไม่คิดจะรับข้าไว้หรือ? ตอนแรกเ้าไม่ได้พูดเช่นนี้นี่นา บอกเองว่าจะรับผิดชอบไปตลอดชีวิตเชียวนะ เ้านี่มันได้แล้วทิ้ง”
ตัวเขาเองเมื่อพูดจบก็รู้สึกขนลุกไปทั้งร่าง อดตัวสั่นไม่ได้ ลูบแขนด้วยสีหน้ารังเกียจพูดว่า “รับตัวเองไม่ได้จริงๆ น่าขยะแขยงเกินไปแล้ว”
ใบหน้าหนุ่มน้อยนั้นย่นคิ้ว ทำให้คนอดไม่ได้อยากไปช่วยนวดคิ้วให้คลายออก
จิ่งฝานควบคุมมือของตัวเองไม่ได้ มือใหญ่ยื่นมืออกไปวางลงบนศีรษะเขา กดศีรษะไว้ เสียงเย็นเล็กน้อย “ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่ง ตระกูลจิ่งอาจจะล่มสลาย ไม่เหลือไว้บนแผนที่แล้วก็ได้ เ้าอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก”
อ๋าวหรานคิดว่าเขาเป็ห่วงตระกูลจิ่งจะมีภัยจึงไม่ได้ปัดมือเขาออกไป “วางใจเถิด เ้าเก่งกาจถึงเพียงนี้ ข้าเองก็จะทำเต็มความสามารถของข้าเพื่อปกป้องตระกูลจิ่ง ยังมีคัมภีร์ ‘จี๋เต้า’ เล่มนั้น รีบหามันให้เจอ ในโลกนี้ก็ไม่มีใครทำอันตรายเ้าได้แล้ว”
“เ้าจะปกป้องตระกูลจิ่ง? ”
ภายใต้ความมืด น้ำเสียงของจิ่งฝานสงบนิ่งอย่างยิ่ง ไร้คลื่นใดใดทั้งสิ้น แต่ในดวงตาคู่นั้นกลับอึมครึมดูโหดร้ายอย่างยิ่ง
อ๋าวหรานผู้ไม่รู้อะไรเลยค่อนแคะอย่างทำอะไรไม่ได้ว่า “เอาเถอะ ข้าไม่มีความสามารถเช่นนั้นจริงๆ แต่ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถนะ”
ประโยคสุดท้ายอ๋าวหรานพูดอย่างจริงใจ ราวกับเป็คำสัญญา ความแน่วแน่ในน้ำเสียงทำให้คนสั่นสะท้าน
จิ่งฝานตกตะลึง มือที่วางอยู่บนศีรษะของอ๋าวหรานราวกับััถูกเข้ากับกระแสไฟฟ้า แต่ทว่าความตะลึงนี้คงอยู่เพียงครู่เดียว รีบดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว ยิ้มคล้ายไม่ยิ้มพูดว่า “ขอให้เป็เช่นนั้น”
ขอให้เป็เช่นนั้น ขอให้ที่เ้าพูดเป็เื่จริง ขอให้เ้าแน่วแน่เช่นนี้ตลอดไป ไม่เช่นนั้น ก็คงจะไม่สนุกแล้วล่ะ
จิ่งฝานพูดจบก็ลุกขึ้น ใบหน้ายิ้มแย้มปรีดา พูดว่า “ไปเถิด ฟ้ามืดสนิทแล้ว กลับกันเถิด”
อ๋าวหรานลุกขึ้น ปัดดินบนชุดออก
จิ่งฝานเดินอยู่ด้านหน้า ทิ้งเงาหลังอันสูงใหญ่ไว้ให้อ๋าวหราน น้ำเสียงแทรกความอบอุ่นและรอยยิ้มสดใสแบบที่เขาชอบทำ แต่ใบหน้ากลับไร้อารมณ์ เขาถามอ๋าวหราน “วันนี้จิ่งผู่ไม่ได้สร้างความลำบากให้เ้าใช่หรือไม่? ”
ระยะการมองของอ๋าวหรานถูกจิ่งฝานบดบังไปจนมิด จึงรีบเดินสาวเท้าก้าวเร็วขึ้นสองก้าวไปถึงข้างตัวจิ่งฝาน “เปล่า”
จิ่งฝานส่งเสียงอืมออกมาหนึ่งเสียง “คนผู้นี้เ็ามาโดยตลอด ไม่ว่ากับใครก็เป็เช่นนี้ เ้าไม่ต้องไปสนใจ ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ผู้าุโที่ร้ายกาจที่สุดของตระกูลจิ่ง แต่ความรู้กว้างขวางด้านยาสมุนไพรของเขานั้นไม่มีผู้ใดในตระกูลจิ่งจะเทียบได้ เขารักสมุนไพรเป็อย่างมาก หน้าที่เฝ้าสวนสมุนไพรนี่ก็เป็งานที่เขาอยากทำด้วยตนเอง”
อ๋าวหรานพยักหน้า พูดอย่างยินดีว่า “เช่นนั้นต่อไปก็สามารถขอคำชี้แนะจากเขาให้มากหน่อย”
จิ่งฝานทำลายขวัญกำลังใจของเขาอย่างรวดเร็ว “เขาจะไม่มีทางสนใจเ้าแน่นอน เพราะความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรของเขา ผู้าุโท่านอื่นในตระกูลเองก็หวังอยากให้เขาช่วยชี้แนะพวกลูกหลานในตระกูลบ้างเ แต่กลับถูกเขาปฏิเสธ แม้กระทั่งข้าเอง เขายังไม่เคยสนใจมาก่อน เขาคิดมาตลอดว่า อัจฉริยะเรียนเองก็สามารถเป็ได้ ส่วนคนโง่ต่อให้สอนก็ไม่มีทางเป็”
อ๋าวหรานโต้แย้งว่า “วันนี้ข้าถามเขาว่าวันหน้ามีเื่อยากขอคำชี้แนะจากเขา เขาบอกว่าตามสบาย”
จิ่งฝานหัวเราะตอบว่า “นั่นเป็เพราะเขาเห็นแก่หน้าข้า พูดอย่างเกรงใจก็เท่านั้น”
อ๋าวหราน “……”
อ๋าวหรานส่งเสียงหึเสียงเย็น “เ้าได้หน้าเื่อะไรกัน เขาก็ไม่สนเ้าเหมือนกัน ไม่ใช่หรือ?”
จิ่งฝานหัวเราะมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม “นั่นเพราะเขานับข้าเป็ฝั่งอัจฉริยะแล้ว คิดว่าข้าไม่จำเป็ต้องได้รับการสอนก็เป็ได้ด้วยตัวเอง”
อ๋าวหราน “……”
จิ่งฝาน “เ้าก็อย่าใส่ใจเลย ตอนนี้เขาน่าจะยังไม่ได้แบ่งฝั่งให้เ้า”
อ๋าวหราน “……” ปฏิเสธที่จะพูด