ชายฝั่งแถบทะเลจีนตะวันออกถูกคลื่นั์ซัดทั่วทุกแห่งหน ผลก็คือเกาะเล็กๆ มากมายพลันจมอยู่ใต้คลื่น ขณะที่หมู่บ้านประมงเล็กๆ ถูกทำลายย่อยยับ
สวีเซียวหยู่แบกศพของลัวเฟิงและพาคนจากสำนักหมัดเทวาออกจากชายฝั่งอย่างรวดเร็ว
ในป่าทางเหนือของหมู่บ้านชาวประมง ผู้ฝึกวรยุทธ์มากมายรวมตัวกันเฝ้าดูคลื่นั์ที่กวาดทุกสิ่งนอกป่า พวกเขาเริ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านก่อนหน้านี้ มันช่างเป็สิ่งที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ
หลงหว่านเอ๋อร์กลายเป็ต้นเหตุของพายุไต้ฝุ่นได้อย่างไร? ถึงกับพัดหลงโม่หรานกระเด็นหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้! นอกจากนั้น ตอนที่ชายสวมหน้ากากเผชิญหน้ากับหลงโม่หราน ทำไมเขาถึงไม่มีความกลัวอยู่เลยแม้แต่น้อย?
เป็ที่รู้กันดีว่าหลงโม่หรานเป็คนที่ไม่แยแสต่อสิ่งใด จึงไม่มีใครกล้าพูดคุยกับเขามากนัก แต่ด้านความแข็งแกร่งของเขานั้น นับว่าน่าเกรงขามที่สุดในยุทธจักรเลยก็ว่าได้
แม้จะเป็อย่างนี้ แต่ชายสวมหน้ากากคนนั้นกลับเผชิญหน้ากับเขาโดยไม่เกรงกลัว มันไม่แปลกเกินไปหน่อยหรือ?
ทุกคนหันมองรอบๆ แต่ไม่มีใครพบตัวชายสวมหน้ากากหรือคนของเขาเลย นี่ทำให้เขาดูลึกลับในสายตาของคนเหล่านี้มากยิ่งขึ้น
“กลับไปเขตเมืองเถอะ นอกจากผู้มีระดับพลังลมปราณมากกว่าสี่สิบปีแล้ว หากยังคิดจะอยู่ที่นี่ก็เหมือนกับรนหาที่ตาย”
“แต่คืนนี้าาปะการังจะโตเต็มที่…”
“ไร้สาระ แกจะเลือกอะไรระหว่างชีวิตของแกกับาาปะการัง? กลับไปกับฉันเดี๋ยวนี้”
บทสนทนาที่คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นมากมายในหมู่ผู้ฝึกวรยุทธ์ที่นี่ เมื่อมองน้ำทะเลที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้รู้ว่าพวกตนเหมือนมดปลวกหากเทียบกับพลังอำนาจของธรรมชาติ
“แล้วหลงโม่หรานถูกพัดไปที่ไหน?”
เมื่อสวีเซียวหยู่ได้ยินข่าวลือก็พลันตื่นเต้น ชายชราคิดว่าคงเป็เื่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดหากหลงโม่หรานตายไปเสีย เพราะสำนักหมัดเทวาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลหลง
น่าเสียดายที่ความคิดของเขาไม่เป็จริง
“ท่านผู้นำตระกูลกลับมาแล้ว เขาอยู่นั่น!”
หลงชิงแห่งตระกูลหลงมีแววตาเฉียบคม เขาพบหลงโม่หรานอย่างรวดเร็วและชี้ไปยังจุดที่อยู่ไม่ห่างจากชายฝั่ง
หลงจื่อมองตามก็พบร่างในชุดคลุมสีขาวว่ายน้ำเข้ามาจากทะเลและถึงชายหาดในที่สุด นั่นไม่ใช่หลงโม่หรานหรอกหรือ?
กลุ่มคนรีบวิ่งเข้าไปพยุงเขาขึ้นมาทันที
ท่านผู้นำตระกูลยังมีชีวิตอยู่!
นี่เป็ข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับพวกเขา เพราะแต่ละคนเริ่มคิดแล้วว่า หากผู้นำตระกูลเกิดตายขึ้นมาจริงๆ แล้วจะทำอย่างไรต่อไป โชคดีที่หลังจากถูกพายุไต้ฝุ่นดูดเข้าไปแล้วถูกพัดกระเด็นไปไกล เขายังมีชีวิตรอดกลับมา ชายคนนี้ช่างแข็งแกร่งจริงๆ
หลงจื่อและหลงชิงช่วยพยุงเขาขึ้นจากชายฝั่ง อย่างไรก็ตามหลงโม่หรานอยู่ในสภาพเหนื่อยล้า ทั่วทั้งร่างเปียกโชก เส้นผมพันกันยุ่งเหยิง และที่น่าใที่สุด กระบี่ของเขาหายไปจากฝัก!
“ท่านครับ กระบี่ของท่านล่ะ?”
สีหน้าของหลงจื่อพลันเปลี่ยนไป กระบี่ของหลงโม่หรานถือเป็สุดยอดอาวุธประเภทของมีคม มันไม่ใช่แค่สิ่งที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของตระกูลหลง แต่ยังเป็สัญลักษณ์แสดงตำแหน่งอีกด้วย
“เฮอะ” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยดน้ำของหลงโม่หรานแสดงออกถึงความเกลียดชังที่ไม่มีทางลืม แต่เพื่อเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอับอายนี้ เขาจงโบกมือสั่งการว่า “ทุกคนกลับไปเตรียมพร้อมสำหรับการ่ชิงาาปะการังในคืนนี้!”
“ท่านผู้นำ แต่พายุนั่น...”
หลงจื่อลังเลเล็กน้อย ในเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแต่เขายัง้ากลับไปเอาาาปะการังอีกงั้นหรือ? ถ้าเป็แบบนี้ คนของตระกูลหลงมากมายคงต้องตายเพราะพายุนี้แน่นอน!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติธรรมชาติ ผู้ฝึกวรยุทธ์ทุกคนล้วนไม่ต่างอะไรกับมดปลวก
“ฉันหรือแกที่เป็หัวหน้าตระกูล?” หลงโม่หรานเอ่ยเสียงเย็นแล้วผลักคนที่ช่วยพยุงออกไป
หลงจื่อส่ายหน้าเมื่อรู้ตัวดีว่าตำแหน่งของนไม่สามารถขัดคำสั่งได้ จึงทำได้แค่พาคนในตระกูลทำตามคำสั่งของหลงโม่หรานเท่านั้น
ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ หลงโม่หรานยังคิดจะลงไปก้นทะเลเพื่อนำาาปะการังมาอีก คงมีเพียงผู้ฝึกวรยุทธ์ที่มีระดับพลังลมปราณมากกว่าห้าสิบปีเท่านั้นที่จะกลับมาได้อย่างปลอดภัย
คนของตระกูลหลงที่มาครั้งนี้ นอกจากหลงโม่หรานแล้วก็มีเพียงผู้าุโสองคนที่มีระดับวรยุทธ์ถึงขั้นนั้น อย่างไรก็ตาม คนของสำนักหมัดเทวา ตระกูลถัง วิหารดาบ์ และสำนักอื่นๆ ก็มีผู้ที่มีระดับวรยุทธ์ขั้นสูงเช่นเดียวกัน
‘ดูเหมือนจุดประสงค์ของหัวหน้าตระกูลคือให้คนที่เหลือคอยกันผู้ฝึกวรยุทธ์สำนักอื่นออกไป…’ หลงจื่อคิดเื่นี้แล้วไม่สบายใจเล็กน้อย หากทำเช่นนี้ คงต้องมีการเสียสละมากมาย ถ้าหลงโม่หราน้าแย่งชิงาาปะการังจริงๆ ผู้ฝึกวรยุทธ์ระดับทั่วไปของตระกูลพร้อมทั้งอาวุธระดับทั่วไป ก็ต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกวรยุทธ์ขั้นสูงเพื่อขัดขวาง แล้วพวกเขาจะได้รับความปรานีจากคนพวกนั้นงั้นหรือ? แต่มันไม่มีทางอื่นอีก ในเมื่อหลงโม่หรานเป็ผู้นำตระกูล ไม่ว่าอย่างไรหลงจื่อก็ต้องเชื่อฟังเขา
............
ณ เวลาเดียวกันที่อีกด้านหนึ่ง รถ Hummer H2 ที่มุ่งหน้ามาจากเยี่ยนจิงก็หยุดชะงักกลางคันอีกครั้ง
“รถคันนี้มันเป็อะไรกันฮะ? ทำไมถึงติดๆ ดับๆ บ่อยอย่างนี้?”
ภายในรถ เย่เวิ่นเทียนโวยวายด้วยความฉุนเฉียว ปกติเวลานี้เขาควรไปถึงทะเลจีนตะวันออกแล้ว แต่รถคันนี้เพิ่งมาถึงแค่ครึ่งทาง!
“คุณปู่ อย่าร้อนใจไปเลยค่ะ”
แม้ซูเมิ่งหานจะปลอบให้ชายชราสบายใจ แต่ก็แอบยิ้มอยู่ในใจ ถ้าเป็แบบนี้ เธอก็สามารถถ่วงเวลาให้เย่เฟิงได้แล้วจริงไหม?
“ฉันไม่ได้ร้อนใจ” เย่เวิ่นเทียนกล่าวด้วยความโมโห “สาวน้อย เธอคงไม่ได้จงใจให้เป็แบบนี้ใช่ไหม?”
“จะเป็งั้นได้ไงล่ะคะ?” ซูเมิ่งหานรีบตอบด้วยแววตาใสซื่อและน่าสงสาร
ชายชราเห็นดังนั้นก็รู้สึกผิดและเงียบไป เมื่ออยู่ต่อหน้าหลานสะใภ้คนนี้ เขาระบายอารมณ์ออกมาไม่ได้เลยจริงๆ ให้ตายเถอะ!
............
อีกด้านหนึ่งห่างจากเขตเซี่ยงซานใกล้กับสนามบิน เซียวเยว่ในชุดสีแดงนั่งอยู่ในรถสปอร์ตสีเดียวกัน คิ้วคู่สวยขมวดแน่น หญิงสาวไม่เข้าใจว่าทำไมเซียวฉี่น้องสาวของเธอซึ่งถามเกี่ยวกับชายสวมหน้ากาก ถึงได้จองตั๋วเครื่องบินแต่เช้าเพื่อมาที่นี่อย่างรีบร้อน
‘แบบนี้ไม่ดีแน่ เราต้องไม่ปล่อยให้เซียวฉี่ตกเป็เหยื่อของเขา’
ตอนนี้เซียวเยว่ตัดสินใจแล้ว ในชีวิตของหญิงสาว เธอรังเกียจผู้ชายที่ชอบจับปลาสองมือที่สุด
ดวงตางดงามจ้องรถสปอร์ต Mercedes-Benz SLS AMG สีเงิน แม้เมืองเซี่ยงไฮ้จะเป็มหานครนานาชาติที่เป็ศูนย์รวมด้านเศรษฐกิจ แต่รถคันนี้ก็ยังดึงดูดสายตาผู้คนที่นี่
ผู้ที่นั่งอยู่ในรถคันนี้คือหวังเส้าตง
หวังเส้าตงสวมแว่นตากันแดดส่งยิ้มมายังเซียวเยว่ เขารู้สึกเพลิดเพลินไม่น้อยกับการตกอยู่ในสายตาของผู้คนภายนอกสนามบินนี้
“นี่ รูปหล่อ”
ผู้หญิงซึ่งมีรูปลักษณ์ทันสมัยเสน่ห์เปี่ยมล้นสองคนทักทายหวังเส้าตงขณะเดินออกจากสนามบิน จากท่าทางของพวกเธอ ดูเหมือนทั้งสองตั้งใจจะอ่อยเขา น่าเสียดายที่หวังเส้าตงสนใจเซียวเยว่คนเดียว จึงไม่รับการทักทายของสองสาว และเมินพวกเธออย่างสมบูรณ์
หญิงสาวทั้งสองหันไปมองเซียวเยว่ที่นั่งอยู่ในรถ Audi สีแดงซึ่งอยู่ไม่ไกล รูปลักษณ์ทรงเสน่ห์ตลอดจนใบหน้าสวยไร้การแต่งเติมทำให้พวกเธอพลันรู้สึกถึงความด้อยกว่า จึงทำได้แค่จากไปอย่างเร่งรีบ ถึงพวกเธอจะไม่ได้น่าเกลียด แม้แต่ในฝูงชนยังจัดว่าเป็ที่ดึงดูดสายตา แต่เมื่อเทียบกับเซียวเยว่แล้ว ถือว่าต่างชั้นกันมาก
หวังเส้าตง้าชนะใจเซียวเยว่ เพราะรู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบแต่งเติมใบหน้า เพื่อแปลงกายเป็สาวงาม
‘เซียวฉี่และหลินซือฉิงกำลังมาที่นี่ ดูเหมือนตัวตนของชายสวมหน้ากากจะเป็ประเด็นอ่อนไหวจริงๆ’
ความจริงแล้ว เซียวเยว่ไม่ได้สนใจสถานการณ์ภายนอก เธอเพียงขมวดคิ้วและหมกมุ่นในความคิดของตัวเอง แน่นอนว่าเธอรู้จักหลินซือฉิง แต่ทั้งสองคนไม่ได้พบกันมานานมากแล้ว ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกสนใจ ถ้าหวังเส้าตงได้พบหลินซือฉิง สาวสวยอันดับหนึ่งแห่งเมืองเยี่ยนจิง เขาจะมีท่าทีอย่างไร? แต่ช่างน่าสงสาร หลินซือฉิงไม่ใช่ผู้หญิงที่จะถูกล่อลวงจากเพลย์บอยหนุ่มแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้อย่างเขา เธอหวังว่าชายหนุ่มจะรู้จักเจียมตัว...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้