ห้องบรรทมราชินี
ราชินียังคงหลับใหลอยู่บนเตียง แต่หวังเค่อกับอ๋องต้าชิงจูเยี่ยนกลับนั่งอยู่ที่โต๊ะห่างออกไปไม่ไกล
ทั้งสองเหมือนสหายเก่าที่เพิ่งได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้งหลังผ่านไปหลายปี
“เ้าเล่นหายหน้าหายตาไปตั้งหลายสิบปี ข้าก็นึกว่าเ้าตายไปแล้วซะอีก!” จูเยี่ยนเอ่ยเสียงเย็น
“หึ ปีนั้นหากข้าเผ่นไม่ไวพอ ข้าก็คงตายไปนานแล้ว!” แต่หวังเค่อกลับมองจูเยี่ยนอย่างไม่ปลื้ม
“ปีนั้น? ปีนั้นหากเ้าไม่คิดก่อฏ ไหนเลยจะต้องหนี?” จูเยี่ยนเอ่ยเสียงต่ำ
ขณะที่พูดจูเยี่ยนก็ยกป้านชาด้านข้างขึ้นมารินใส่จอก
“เ้ายังมีหน้ามาพูด? ปีนั้นราชวงศ์ต้าชิงเกิดการแย่งชิงอำนาจกันระหว่างองค์ชาย ตัวเ้ามีฐานะอันใดให้พูดถึง? เ้าเป็แค่องค์ชายที่อ่อนแอที่สุด! หากไม่ใช่เป็เพราะข้าช่วยเ้าสุดความสามารถแล้วล่ะก็ เ้าจะผงาดขึ้นมาข่มแปดองค์ชายที่เหลือจนกลายเป็อ๋องแห่งต้าชิงไปได้อย่างไร?” หวังเค่อถลึงตา
จูเยี่ยนยกจอกชาขึ้นส่งให้กับหวังเค่อ “แต่เ้าก็ยังก่อฏอยู่ดี!”
“ผายลม! ตอนนั้นเ้า จูเยี่ยน เคยพูดไว้ยังไงกับข้า? ทันทีที่เ้าได้เป็อ๋องแห่งต้าชิงเ้าจะแบ่งแผ่นดินต้าชิงกับข้ากันคนละครึ่ง มีฐานะเท่าเทียมกัน! แน่นอน ข้าไม่ได้หวังเลยว่าเ้าจะทำตามที่รับปาก แต่หลังจากที่ข้าช่วยเ้าชิงตำแหน่งอ๋องมา อย่างน้อยที่สุดเ้าก็ควรที่จะปกป้องตระกูลหวังของข้าไม่ใช่รึไง? แต่กลับเสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล? ตระเตรียมล้างบางตระกูลหวังข้าเพื่อปิดปาก?” หวังเค่อถลึงตา
“ตอนนั้นเ้าจะมาโทษข้าไม่ได้! ข้าเองก็คิดดูแลตระกูลหวังของเ้าอยู่เหมือนกัน! แต่เ้าไม่เชื่อข้าเอง! ข้าจูเยี่ยนยังคงให้ความสำคัญต่อความรู้สึกอยู่!” จูเยี่ยนทอดถอนใจ
“ให้ความสำคัญต่อความรู้สึก? ฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า เ้ากำลังล้อข้าเล่นอยู่หรือไง? สิ่งแรกที่ต้องทำเพื่อชิงตำแหน่งอ๋องคือการฆ่าพี่น้องของตัวเองทั้งแปดคน! เ้ากังวลว่าพวกมันจะชิงบัลลังก์เ้า พี่สาวน้องสาวเ้าไม่มีทางชิงบัลลังก์ได้ถูกไหม? ที่พวกนางทำก็แค่จับกลุ่มกันติเตียนตัดพ้อสองสามประโยค แต่เ้ากลับสั่งให้พวกนางปลิดชีพตัวเอง? คนพวกนั้นเป็ครอบครัวของเ้า! เ้าเล่นฆ่าพวกมันตายยกครัว เ้าตั้งใจจะเดินบนเส้นทางสันโดษอย่างนั้นรึ?” หวังเค่อจ้องจูเยี่ยน
“หนึ่งคนสำเร็จหมื่นคนเหลือเพียงเถ้ากระดูก! วิถีกษัตริย์คือเส้นทางสันโดษอยู่แล้ว! หวังเค่อ เ้าควรจะขอบใจข้าที่ไม่ล้างบางตระกูลเ้าั้แ่ตอนนั้นจึงจะถูก! ข้าไม่ได้ทำผิดต่อเ้า แต่เป็เ้าต่างหากที่หักหลังข้า!” จูเยี่ยนเอ่ยเสียงเคร่ง
“ผายลม เ้ากำลังหลอกใครอยู่? เ้าจะบอกว่าตัวเองไม่ได้สั่งให้คนครัวในจวนข้าวางยาพิษทั้งตระกูลข้าในงานเลี้ยงมื้อค่ำงั้นสิ? เ้าคิดว่าข้าก่อฏขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ? มารดาเ้าเถอะ หากเ้าไม่คิดทำร้ายตระกูลข้า ข้าจะก่อฏหรือ?” หวังเค่อตาโต
“คนครัวคนนั้น?” หน้าของจูเยี่ยนหม่นลง
“ตอนนั้นข้าจงใจให้มันถูกเ้าซื้อตัวไปเอง! เ้าคิดจริงหรือว่าตัวเองจะซื้อตัวคนของข้าได้?” หวังเค่อเอ่ยอย่างดูถูก
“ก่อฏ? ตอนนั้นบัลลังก์ข้ามั่นคงดุจภูผา! เ้าก่อฏไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา? สุดท้ายก็ยังต้องหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ดีมิใช่รึไง?” จูเยี่ยนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม
“ข้าน่ะหรือหนี? ก่อฏไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา? เหอเหอ จูเยี่ยน เ้าคงลืมไปแล้ว วันที่ข้านำทหารล้อมวังเอาไว้ เ้าไม่ใช่กำลังนั่งตัวสั่นงันงกอยู่บนบัลลังก์หรอกหรือ? ข้าหนี? วันนั้น หากไม่ใช่ว่ามีศิษย์สำนึกเซียนโผล่มาเตือนข้ากะทันหันละก็! เ้าคิดว่าข้าจะไปจากราชวงศ์ต้าชิงอย่างนั้นรึ?” หวังเค่อเอ่ยเสียงเย็น
“ศิษย์สำนักเซียน?”
“หากไม่ใช่เพราะศิษย์สำนักเซียนสอดมือเข้าแทรกแซง ต้าชิงย่อมถูกเปลี่ยนมือไปตั้งนานแล้ว อ๋องอย่างเ้าใจจืดใจดำเหลือทน! เ้ารู้หรือไม่ว่าตอนที่ข้าก่อฏมีขุนนางส่งเทียบเชิญมาให้ข้ากี่มากน้อย? ก็เพราะเ้าเอาชนะใจใครไม่ได้เลยไงล่ะ! เข่นฆ่าครอบครัวตัวเอง สังหารขุนนางข้าราชบริพารเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ไม่สนว่าพสกนิกรกำลังประสบเภทภัยอันใดอยู่ ความเจ็บแค้นของพวกมันก่อตัวขึ้นมานานแล้ว ตอนที่ข้าก่อการฏไล่ั้แ่เบื้องสูงยันเบื้องต่ำพวกมันล้วนให้การส่งเสริมข้า แต่น่าเสียดาย ข้าที่ได้คาดคำนวณทุกอย่างเอาไว้หมดกลับคาดไม่ถึงว่าจะมีสำนักเซียนมาโปรดราชวงศ์ต้าชิง! ตอนนี้ข้าถึงได้เข้าใจ คงเป็บรรพชนเ้าที่สั่งสมผลบุญจนมีสำนักเซียนมาอำนวยพรล่ะสิ?” หวังเค่อมองจูเยี่ยนขณะถาม
“เ้าพูดถูกแล้ว บรรพชนอาของข้าครองตำแหน่งสูงอยู่ในสำนักเซียน! ไม่เพียงแต่ข้า แต่อีกสองราชวงศ์เองก็ใหญ่ไม่แพ้กัน หากไม่มีสำนักเซียนหนุนหลังแล้วจะนั่งแท่นปกครองเหนือแผ่นดินนี้ได้หรือ? อีกอย่าง ข้าต่างก็มีผู้หนุนหลังจากทั้งฝ่ายธรรมะแล้วก็อธรรม!” จูเยี่ยนเอ่ยอย่างจองหอง
“งั้นทำไมเ้าถึงได้น่าสมเพชขนาดนี้?” หวังเค่อถามอย่างใคร่รู้
จูเยี่ยน “…!”
“มีสำนักเซียนหนุนหลังอยู่แท้ๆ แต่ทำไมระดับฝึกปรือเ้าถึงได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินนัก? ตอนที่ข้าจากไปเ้ายังไม่บรรลุเซียนเทียนเลยด้วยซ้ำ! ที่เ้าฝึกเป็แค่วิชายุทธ์ธรรมดาเท่านั้นเองนี่?” หวังเค่อถามอย่างใคร่รู้
คำพูดของหวังเค่อจี้ใจดำจูเยี่ยนอย่างจัง นี่เองก็เป็เื่ที่จูเยี่ยนพร่ำบ่นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่เพียงแต่สำนักเซียนที่หนุนหลังมันอยู่ไม่ยกเคล็ดวิชาฝึกตนอันใดได้ แต่ยังไม่ยอมให้ศิษย์สำนักเซียนสอนมันอีกด้วย? คิดว่าการได้เป็อ๋องในโลกิยะทำให้ข้าพึงพอใจหรือไง? ข้า้ามีชีวิตยืนยาวต่างหาก!
“ข้าเข้าใจแล้ว คงเป็เพราะว่าสำนักเซียนที่หนุนหลังเ้าอยู่้าที่จะปกป้องสายเืเ้าไว้น่ะสิ! ให้สายเืสกุลจูสืบทอดต่อไปก็เพียงพอแล้ว เพราะทันทีที่เข้าสู่สำนักเซียนที่ลึกล้ำดุจห้วงสมุทร ทันทีที่เ้าเลือกฝ่ายธรรมะหรืออธรรม ภัยพิบัติล้างตระกูลย่อมสามารถตามมาได้ทุกเมื่อ! เหอ นี่ถือเป็การให้เ้าได้มั่งมีอยู่ในโลกิยะอย่างไรล่ะ!” หวังเค่อหัวร่อ
“แล้วยังไง? ตัวเ้าไม่มีใครหนุนเลยด้วยซ้ำ! ยังไม่ใช่ว่าปีนั้นเ้าถูกศิษย์สำนักเซียนขู่จนหัวหดจนต้องนำทั้งตระกูลหนีออกจากถิ่นปุถุชนไปหรอกรึ?” จูเยี่ยนเอ่ยเสียงเย็น
“ปีนั้นข้าไม่มีหนทางเข้าแก่งแย่งในใต้หล้า แต่หลายปีมานี้ข้าพลันเข้าใจขึ้นมา แก่งแย่งใต้หล้าแล้วได้ผายลมอะไรขึ้นมา อีกสิบยี่สิบปีข้างหน้ายังไม่พ้นกลายเป็ผงคลีก้อนหนึ่งอยู่ดีหรอกรึ? ขอเพียงได้เข้าร่วมสำนักเซียน ฝึกปรือวิชาอายุวัฒนะ นั่นต่างหากจึงสำคัญที่สุด!” หวังเค่อส่ายหน้า
“เ้าบรรลุเต๋าอายุวัฒนะแล้ว?” จูเยี่ยนนิ่วหน้า
“ด้วยเดชะบุญของข้า ข้าจึงได้เข้าร่วมสำนักเซียน ฝึกวิชาอายุวัฒนะของพวกเซียน! โลกิยะรึ? ไม่อยู่ในสายตาข้าอีกแล้ว!” หวังเค่อผุดยิ้มบาง
“เข้าร่วมสำนักเซียน? งั้นก็ดีสิ! ท้ายที่สุดเ้ากับข้าก็ได้พบหน้ากัน วันนี้เ้ากลับมา ข้าขอดื่มให้เ้าสักจอก!” จูเยี่ยนส่งจอกสุราให้หวังเค่อ
หวังเค่อเดิมตั้งท่าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็เห็นลูกปัดที่อยู่บนข้อมือของอีกฝ่ายเข้าก่อน
ลูกปัดคำนึงขององค์หญิงโยวเยว่? ลูกปัดที่ลูกปัดโหยหาของมันััถึงไฉนจึงไปอยู่บนข้อมือของจูเยี่ยนได้?
หัวใจของหวังเค่อดิ่งลง สะกดคำที่กำลังจะกล่าวลงไปก่อนรับจอกสุรานั้นมา
เมื่อเห็นว่าหวังเค่อรับจอกสุราไปแล้ว จู่เยี่ยนเองก็ตาลุกวาว
สุราป้านนี้ไม่ใช่ของดี แต่เป็สุราที่มีพิษร้ายแรง ปกติใน่เวลานี้ จูเยี่ยนจะทำการทรมานศิษย์สำนักเซียนฝ่ายธรรมะอยู่ใต้วัง ดังนั้นย่อมมีเสียงร้องหลุดรอดออกไป ทันทีที่มีการเคลื่อนไหวใหญ่โตแบบนี้จำต้องมีทหารรักษาการณ์มาตรวจสอบ และทุกครั้งจูเยี่ยนก็จะมอบสุราจอกหนึ่งฆ่าทหารรักษาการณ์ด้วยพิษที่อยู่ภายใน ให้คนในวังบังเกิดความครั่นคร้าม ให้ทุกคนได้รับทราบว่าใครก็ตามที่มารบกวนห้องบรรทมของราชินีในยามวิกาลจำต้องตาย! ไม่งั้นถ้าวันนี้มีทหารรักษาการณ์ตามเสียงมาถึงตนยังสามารถตวาดไล่ไปได้ แต่ถ้าพรุ่งนี้มีสนมนางกำนัลมาล่ะ? ถ้าวันหน้ามีมหาอำมาตย์บุกเข้ามาถามเื่ราชกิจล่ะ?
ไม่ว่าจะบุกเข้าห้องบรรทมของราชินีด้วยสาเหตุกลใดมันก็ไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เพราะทันทีที่ความลับใต้วังถูกเปิดโปงออกไป ตนย่อมไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกแน่
ประทานโทษตายไปหลายครั้งหลายครา ทำให้ไม่มีใครกล้าบุกเข้าห้องบรรทมของราชินีอีก นี่เองก็เป็สาเหตุที่ว่าทำไมทันทีที่เหล่าทหารรักษาการณ์ได้ยินว่าหวังเค่อ้าที่จะเข้าห้องบรรทมของราชินีก่อนหน้านี้พวกมันถึงได้หนีไปโดยไม่เหลียวกลับมามอง
ในจอกมีสุราพิษ หวังเค่อไม่ได้ระแคะระคายเลยแม้แต่น้อย! ปีนั้นหวังเค่อบรรลุเป็เซียนเทียนแล้ว แม้จูเยี่ยนจะมั่นใจว่าตัวมันในตอนนี้สามารถสะกดข่มอีกฝ่ายได้ แต่ถ้าสามารถใช้อุบายได้แล้วทำไมจึงจะไม่ใช้ล่ะ? สุรามีพิษจอกหนึ่งเมื่อกลืนลงท้องไป แม้แต่เซียนเทียนยังต้องตาย!
หวังเค่อเป็คนตื่นตัวระแวดระวังสุดประมาณ จูเยี่ยนยังกังวลว่าหวังเค่ออาจไม่ยอมรับสุราจอกนี้ไปจากตนก็ได้ ดังนั้นจึงยอมเสียเวลาพูดคุยสัพเพเหระกับอีกฝ่ายอยู่นานสองนาน แต่แล้วหวังเค่อกลับรับเอาจอกสุรานี้ไปง่ายๆ? วิเศษนัก!
“จูเยี่ยน เ้าไม่สงสัยบ้างเลยหรือว่าทำไมข้าถึงมาที่วังของเ้าในวันนี้?” หวังเค่อถามเสียงต่ำขณะยังคงถือจอกไว้
หวังเค่อหรี่ตามองลูกปัดคำนึงบนข้อมือของจูเยี่ยน ในใจยิ่งมายิ่งกังวล ทำไมลูกปัดคำนึงขององค์หญิงโยวเยว่ถึงได้มาอยู่ในมือของจูเยี่ยนได้?
“ที่เ้ามาที่นี่? ก็ต้องมาหาสหายเก่าอย่างข้าอยู่แล้วน่ะสิ! หลายปีมานี้ข้าไม่มีโอกาสรินสุราให้ผู้ใดเลยด้วยซ้ำ! ดื่มเถอะ!” จูเยี่ยนจ้องหวังเค่อไม่วางตา
ใครจะไปสนว่าเ้ามาที่นี่ทำไม ตอนนี้ตัวเรามีความลับอยู่กับตัว ส่วนเ้าก็มดปลวกไร้ความสำคัญ ไปตายซะไป!
“ไม่ได้การ ข้ามีเื่ที่ต้องถามให้กระจ่างอยู่เื่หนึ่ง!” หวังเค่อสายหน้า
“เ้ากับข้าไม่ได้พบหน้ากันมาหลายปี แถมตอนนี้ก็ไม่มีผลประโยชน์เข้ามาบ่อนทำลายมิตรภาพระหว่างเรา ข้าได้ขึ้นเป็อ๋อง ส่วนเ้าได้เข้าร่วมสำนักเซียน! ในเมื่อเ้ามาถึงที่ ข้าก็ต้องต้อนรับขับสู้เ้าเป็ธรรมดา เ้าอยากถามอะไรเชิญถามมาได้ทุกเื่ เพียงแต่ว่าก่อนอื่นเ้าจะต้องดื่มสุราที่ข้ารินให้ซะก่อน!” จูเยี่ยนส่ายหน้าเปิดประเด็นเื่อารมณ์ความรู้สึกระหว่างกัน
หวังเค่อมองจูเยี่ยน ที่จริงตนััได้แล้วว่าสุราจอกนี้น่ากลัวว่าจะไม่เรียบง่ายเช่นตาเห็น แค่เฒ่าทารกจูเยี่ยนนี้ยื่นแก้มก้นออกมาตนก็รู้ไส้รู้พุงหมดแล้วว่ามันคิดเล่นไม่ซื่ออะไรบ้าง...คอยแต่รบเร้าจะให้ตนดื่มสุราให้ได้ หรือว่าจะมียาพิษอยู่ในนี้?
พิษ? ข้าหวังเค่อจำต้องกลัวด้วย? ข้าฝึกเคล็ดเทพมหาสุริยันมิดับสูญ ใช้พิษทั้งหมดของสิบหมื่นมหาบรรพตจนเกลี้ยงมาแล้วรอบหนึ่ง บรรลุสภาวะหมื่นพิษไม่อาจกล้ำกรายไปตั้งนานแล้ว! ไม่ว่าจะมีพิษหรือไม่ข้าล้วนไม่กลัวทั้งสิ้น!
หวังเค่อกระดกสุราจอกนั้นจนหมด
จูเยี่ยนตาลุกวาวทันทีที่เห็นหวังเค่อดื่มสุราพิษ สุราจอกนี้มีฤทธิ์พิฆาตชีวา ดื่มลงไปย่อมตายตก ฮ่าฮ่า หวังเค่อ ดูซิว่าเ้าจะรอดไปได้ยังไง?
“เอาล่ะ ข้าจะเริ่มถามแล้วนะ หวังว่าเ้าจะไม่หลอกข้า!” หวังเค่อสูดลมหายใจลึก
“อ๋า? เ้ากลับไม่เป็อะไร?” จูเยี่ยนตะลึงลาน
อย่าบอกนะว่าพิษยังไม่ทำงาน? เป็ไปไม่ได้! ก่อนนี้ตอนที่ประทานโทษตายให้ทหารรักษาการณ์ มีผู้ใดบ้างที่รอดมาได้?
“เอะอะโวยวายอันใด? ข้าไม่ใช่คนที่จะล้มเพียงเพราะสุราแก้วเดียวอยู่แล้ว! เมื่อก่อนข้าก็เคยดื่มเป็เพื่อนเ้าหรือไม่ใช่? คอข้าแข็งแค่ไหนเ้าไม่รู้รึไง?” หวังเค่อขมวดคิ้ว
หวังเค่อหมื่นพิษไม่อาจกล้ำกราย พิษที่แฝงอยู่ในสุราจอกนี้เปรียบกับพิษที่มันใช้ฝึกปรือแล้วห่างไกลกันสุดกู่ ถึงขนาดที่หวังเค่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีพิษอยู่ในนั้นด้วย
แต่จูเยี่ยนที่กำลังประจักษ์ถึงภาพนี้นั้นไม่อาจเข้าใจได้ เป็ไปได้ยังไง?
“มาๆ ข้ารินให้เ้าอีกจอก!” จูเยี่ยนพลันรินสุราให้หวังเค่ออีกจอก
“จูเยี่ยน เ้ามีเจตนาอะไร?” หวังเค่อนิ่วหน้า
“ดื่ม ดื่มก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” จูเยี่ยนเร่ง
หวังเค่อหน้าดำหม่น แต่สุดท้ายมันยังหวังให้จูเยี่ยนยอมบอกความจริงอยู่ ดังนั้นจึงไม่ได้ปฏิเสธแต่รับมาดื่มจนหมดจอก
ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีอันใดเกิดขึ้นอยู่ดี!
จูเยี่ยนกำป้านสุรา ใบหน้าแข็งทื่อ นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน? ทำไมหวังเค่อถึงได้ไม่เป็อะไรเลยสักนิด? นี่ไม่ใช่พิษหงอนกระเรียนแดงหรอกหรือไง?[1]
หรือว่า หรือว่าจะถูกราชินีสับเปลี่ยนสุรา?
ต้องใช่แน่ๆ ต้องเป็เพราะว่าราชินีไม่รู้เื่ราวนางเลยเปลี่ยนป้านสุราของข้าเป็สุราธรรมดา นังโง่ ข้าก็เคยกำชับไว้แล้วไม่ใช่รึไง? ไม่ว่ายังไงก็อย่าได้เปลี่ยนป้านสุรานี้ แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังจะยืนกราน? นังโง่ นังโง่!
“จูเยี่ยน ข้ามีเื่อยากถามเ้า แต่ทำไมเ้าถึงเอาแต่เซ้าซี้ให้ข้าดื่มอยู่ได้? อีกอย่าง เ้ารบเร้าให้ข้าดื่มอยู่ฝ่ายเดียว แล้วทำไมตัวเ้าเองถึงไม่ยอมดื่มบ้าง? เ้ามีแผนอะไรอยู่กันแน่?” หวังเค่อถามเสียงต่ำ
“ข้าจะไปมีแผนอะไรได้! ไม่เจอกันตั้งหลายปี แม้ตอนนั้นเราต่างมีข้อขัดแย้งกัน แต่หลายปีมานี้ทำให้ข้ารู้ว่าความว้าเหว่ที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวนั้นเป็อย่างไร รอบกายไม่มีใครอยู่ให้พูดคุยเพื่อคลายเหงาแม้สักคน วันนี้เมื่อเห็นสหายเก่าหวนกลับมา ได้มีโอกาสพูดคุยรำลึกความหลังจิตใจข้าก็เลยเบิกบานเป็พิเศษ! ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะรินสุรามากหน่อย มาๆ ข้าจะดื่มเป็เพื่อนเ้าเอง! พวกเรามาคุยไปร่ำสุรากันไปดีกว่า เ้ามาหาข้าเื่อะไร เราต่างก็เป็สหายที่รู้จักกันมานาน มีเื่อะไรที่จะคุยกันไม่ได้บ้าง!” จูเยี่ยนยิ้มก่อนรินสุราให้กับตัวเองและหวังเค่อคนละจอก
“วันนี้ข้าไม่ได้มาเพื่อดื่ม แต่มาเพราะเื่สำคัญ! ข้าเองก็อยากอยู่คุยเป็เพื่อนเ้า แต่ถ้าเ้าไม่ยอมบอกข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เห็นแก่มิตรภาพในอดีต!” หวังเค่อสูดลมหายใจลึก
ขณะที่พูด หวังเค่อยกจอกสุราแก้วนั้นขึ้นกระดกใส่ปาก
“เ้าอยากจะถามอะไรก็พูดมาได้เลย ที่เ้ากลับมาในครั้งนี้มีเป้าหมายอะไรกันแน่? แถมยังแอบย่องเข้าวังมาอีกต่างหาก?” จูเยี่ยนนิ่วหน้าเลียบเคียงถาม
ขณะเดียวกันมันเองยกสุราจอกนั้นขึ้นจิบตามไปด้วย
“ข้าอยากถามว่าลูกปัดคำนึงของเ้าได้มาจากที่ใด?” หวังเค่อชี้ลูกปัดคำนึงที่อยู่บนข้อมือของจูเยี่ยนขณะถามเสียงต่ำ
ทันทีที่คำถามนี้ดังขึ้น สีหน้าของจูเยี่ยนแปรเปลี่ยนไปในทันที นี่คือความลับหลวงที่สุดของตน ลูกปัดคำนึงนี้สามารถปกปิดไอมารของตัวเองได้ ต่อให้เป็มารที่ช่วยพามันเข้าสู่วิถีมารพวกนั้นเองยังไม่รู้เลย แต่ทำไมหวังเค่อถึงได้ถามถึงลูกปัดนี้ขึ้นมา?
ความสำคัญของลูกปัดนี้ชัดเจนด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว ใครกล้าระแคะระคายเท่ากับรนหาที่ตาย ไม่ว่าจะเป็ใครหน้าไหนก็ตาม! ยิ่งเป็หวังเค่อยิ่งแล้วใหญ่!
ในชั่วพริบตานั้น จูเยี่ยนบังเกิดจิตสังหาร เดิมไม่คิดจะเสวนาพร่ำเพรื่อกับหวังเค่ออยู่แล้ว ฉวยจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันระวังตัวจู่โจมปลิดชีพไปเลยดีกว่า
จูเยี่ยนตั้งท่าจะลุกขึ้นกระโจนใส่หวังเค่อ แต่ไม่รู้ทำไม ในหัวถึงได้เกิดเสียงก้องกระหึ่มขึ้นมาก่อน
“พรูด!”
จูเยี่ยนกระอักศรโลหิตออกมา ตรงเข้าหาหวังเค่อ
หวังเค่อผงะไป จากนั้นจึงพลิกตัวหลบ ศรโลหิตพุ่งลงกับพื้น เพียงพริบตาพื้นก็ถูกกร่อนละลาย
“สุ สุ สุรานี้มีพิษ?” จูเยี่ยนอุทาน ใบหน้าซีดเผือด
หวังเค่อ “…”
นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน? ข้าไม่ได้เป็คนวางพิษเ้านะ! จะมาโทษข้าไม่ได้เลยเชียว!
[1] อาร์เซนิกไตรออกไซด์ (Arsenic trioxide) สารตั้งต้นของสารประกอบสารหนู
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้