นางมองดูคนน้อยใหญ่ทั้งหลายกำลังจดจ้องหีบไข่มุกเ่าั้ด้วยดวงตาเปล่งประกาย มีเพียงหลิวซานกุ้ยที่มีสติมากที่สุดรีบเอ่ยขึ้นมา “อวี้เต๋อลำบากตรากตรำอยู่ข้างนอก กว่าจะได้สมบัติมาบ้าง เราไม่รับกล้าไว้หรอก อย่างอื่นยังพอว่า แต่ว่าไข่มุกนั้นล้ำค่าและหายากเกินไป”
ชิงโจวตั้งอยู่ในที่ราบภาคกลางซึ่งไกลจากทะเล ราคาของไข่มุกนั้นสูงลิ่ว หลิวซานกุ้ยแม้จะไม่รู้เื่เพียงใด แต่เื่นี้ก็พอรู้อย่างชัดเจน
เซี่ยจินตัวตอบด้วยรอยยิ้ม “นายท่านสาม ของนั้นล้ำค่าเพราะมีน้อย แต่ของเหล่านี้ในต่างแดนไม่ได้แพงแม้แต่นิดเดียว ราวกับไข่ไก่ที่เราเห็นกันจนเคยชิน”
หลิวซานกุ้ยถามอย่างไม่มั่นใจว่า “จริงหรือ?”
เซี่ยจินตัวกลัวว่าเขาจะรับไว้ด้วยความไม่สบายใจ จึงเอ่ย “จริงขอรับ อย่าดูถูกไข่มุกหลายหีบนี้เชียว ในต่างแดนราคาถูกมาก ของเหล่านี้นายน้อยนำใบชาไปแลกกับคนอื่นมา”
ราคาใบชาในต่างแดนนั้นค่อนข้างสูง หลิวซานกุ้ยเดาจากสถานะของจางอวี้เต๋อ คงไม่ได้นำใบชาราคาแพงไปออกทะเลด้วย
“นายน้อยเพียงแค่นำใบชาระดับกลางไปด้วย จากนั้นก็ใช้ใบชาไม่มากแลกกับสิ่งนี้มา บอกว่านายหญิงใหญ่กับฮูหยินต้องชอบแน่นอนเมื่อได้เห็น”
“ท่านพ่อ ข้าชอบ” คนที่เอ่ยปากก่อนใครอื่นก็คือหลิวเต้าเซียงจอมแก่น
จางกุ้ยฮัวกลืนน้ำลายและใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อละลายตาจากไข่มุกมาที่ตัวหลิวซานกุ้ย แล้วเอ่ย “สามี ข้าเองก็ชื่นชอบนัก”
เฉินซื่อคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงเอ่ย “ถึงอย่างไรก็เป็ของตอบแทนจากลูกชายข้า รับไว้เถิด ต่อไปหากว่าพวกเ้ามีเงิน ตอนที่เขาสู่ขอลูกสะใภ้ ค่อยตอบแทนคืนย่อมได้”
เมื่อนางพูดเช่นนี้ ในใจของหลิวซานกุ้ยก็มีความคิดบางอย่าง
เซี่ยจินตัวเห็นว่าของขวัญปีใหม่ยกเข้ามาทั้งหมดแล้ว จึงชี้ไปยังตะกร้าใบหนึ่งแล้วเอ่ย “เหล่านี้คือของตากแห้งทั้งหลาย นอกจากนั้น สองวันก่อนบ่าวบังเอิญเจอคนเชือดวัว จึงสั่งเนื้อวัวกับคนผู้นั้นไว้หลายสิบชั่ง เพียงแต่ยังไม่ทันได้หมักและตากแห้ง นายท่านสามไม่ต้องรู้สึกไม่สบายใจ นายน้อยสั่งไว้ว่า คนในครอบครัวเขามีไม่มากนัก มีเพียงฮูหยินที่เป็พี่สาว หากนายท่านสามปฏิเสธ จะเป็เหมือนคนนอกขอรับ”
เยี่ยม ไม่รับไว้ไม่ได้!
หลิวเต้าเซียงยิ้มจนตาโค้ง น้าชายแสนดีของนางใช้ได้ทีเดียว รอตอนที่เขาแต่งงานจะต้องเตรียมของขวัญชิ้นโตมาให้เขา
“สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดเด็กดี!”
สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดระวังตัว “อะไรครับ?”
หลิวเต้าเซียงหัวเราะแห้งๆ “ไม่มีอะไร ก็แค่คิดถึงนายนี่นา”
“การให้โดยไม่หวังผลประโยชน์ มีเพียงแต่โจรเท่านั้น!” ไม่รู้ว่าเ้าสัตว์ปีศาจได้เล่าเรียนกับหลิวเต้าเซียงมากเกินไปหรืออย่างไร คำพูดเหล่านี้จึงหลุดออกมาบ่อยครั้ง
หลิวเต้าเซียงยังคงหัวเราะแห้งๆ “เ้าสัตว์ปีศาจตัวน้อย เราสองคนอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน เหตุใดต้องพูดตรงแบบนั้น คือว่า ฉันแค่อยากถามว่า พอจะช่วยทำหุ่นยนต์จิ๋วที่ช่วยคลอดลูกได้ไหม?”
เพื่อให้ได้ผลผลิตของไข่ไก่ที่มีคุณภาพแก่บริษัทของสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ด เ้าสัตว์ปีศาจจึงได้รับการขยายขอบเขตอำนาจความสามารถ อย่างเช่น หุ่นยนต์จิ๋วที่เข้าไปช่วยทำให้ไก่ฟักไข่ได้ ไข่ที่วางออกมาก็เป็ไข่ที่มีคุณภาพสูง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทางบริษัทวางแผนดีมาก ให้หลิวเต้าเซียงได้ไข่พันธุ์ดีไป ที่เหลือก็เอามาทำพันธุ์ ไข่พันธุ์ดีสองใบสามารถแลกลูกไก่ได้หนึ่งตัว...
ช่างเป็การจับหมาป่ามือเปล่าจริงๆ!
สัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดเขย่ากลีบใบไม้ใบเล็กๆ ของเขา “ก็พอเป็ไปได้ครับ แต่ว่า หากใช้กับคนต้องพยายามทำให้คนพัฒนาความสามารถจึงจะได้ ถ้ามีระดับถึงแล้วเื่นี้ก็ทำได้ง่ายมาก ซึ่งก็คือเงินของทางคุณ หากปริมาณถึงระดับ ก็สามารถนำไข่มาแลกได้”
มันพาหลิวเต้าเซียงจินตนาการไปถึงภาพที่น่าเย้ายวน หลอกล่อให้หลิวเต้าเซียงน้ำลายสอ
ทันใดนั้นหลิวเต้าเซียงก็รู้สึกว่าสัตว์ปีศาจศูนย์ศูนย์เจ็ดจะต้องเป็ลูกชายนอกสมรสของตระกูลนางแน่นอน มิฉะนั้น เหตุใดลูกไม้นี้จึงดูคุ้นๆ นัก!
“ไม่ทราบว่ามีใครอยู่หรือไม่?”
ขณะนั้นเองก็มีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นจากประตูบ้าน
หลิวเต้าเซียงเก็บความคิดของตนไว้ก่อน ต้องมีสักวันที่จะใช้เงินมาปูเตียง นางเลื่อนสายตาไปทางประตู และมีความสุข
ชายคนนี้นางเคยเห็น
ความทรงจำของหลิวซานกุ้ยนั้นโดดเด่นเหนือผู้คน จึงอุทาน “พ่อบ้านซุน?! ลมอะไรพัดเ้ามาที่นี่ รีบมานั่งข้างในเร็ว”
ผู้มาเยือนคือหนึ่งในพ่อบ้านของซูจื่อเยี่ย แต่ก่อนเคยมามอบของขวัญให้ตระกูลหลิว เพียงแต่ต่อมาสับเปลี่ยนให้คนอื่นมาแทน
พ่อบ้านซุนสาวเท้าเข้าไปในตัวบ้าน พร้อมกับยกมือคำนับหลิวซานกุ้ย “เกรงใจเกินไปแล้ว ฮ่าๆ นายท่านสาม ตอนนี้ทุกอย่างกำลังไปได้ดี ยังไม่ได้ยินดีกับนายท่านสามที่สอบผ่าน!”
หลิวซานกุ้ยรีบทักทายเขา เดิมทีเซี่ยจินตัวเห็นว่าตระกูลหลิวมีแขกมาจึงเตรียมตัวเดินทางกลับ แต่เห็นว่าพวกเขากำลังต้อนรับคนอยู่จึงยังไม่ได้เอ่ยปาก แล้วยืนดูอยู่ข้างๆ
พ่อบ้านซุนกล่าวทักทายกับหลิวซานกุ้ยสองสามคํา แล้วกล่าวว่า “่นี้เ้านายข้าค่อนข้างยุ่ง จวบจนเดือนสิบเอ็ดจึงจะมีเวลาว่าง จึงตั้งใจมอบของขวัญปีใหม่ให้กับนายท่านสาม”
หลิวซานกุ้ยพูดเสียงดังฉะฉานว่า “คุณชายซูมีน้ำใจยิ่งนัก ลำบากพ่อบ้านแล้ว”
หลิวซานกุ้ยกวักมือเรียกเขาให้เข้าไปข้างใน ว่ากันว่าต้องเป็ขุนนางเจ็ดผินเป็ต้นไป พ่อบ้านซุนจึงได้ติดตามซูจื่อเยี่ยและทำงานให้เขามาโดยตลอด วิสัยทัศน์ย่อมแตกต่างจากคนทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้นเขาเองก็รู้ว่าจางอวี้เต๋อทำงานให้ซูจื่อเยี่ย เพียงแค่กวาดตามองก็รู้ว่าใครเป็คนส่งของขวัญเหล่านี้มาให้
เมื่อเห็นว่าบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยของขวัญปีใหม่ เขายิ้มและกล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับนายท่านสามที่มีปีใหม่ที่ดี”
หลิวซานกุ้ยกล่าว “มิได้ๆ ทุกคนก็เหมือนกันหมด เป็เพราะว่าเบื้องพระบาทห่วงใยราษฎร จึงทำให้ชาวบ้านอย่างพวกเรามีกิน”
หลิวเต้าเซียงอึ้งไปกับคำพูดเหล่านี้ ที่แท้บิดาของนางก็เริ่มเข้าทางเป็แล้วหรือนี่
พ่อบ้านซุนหยิบรายการของขวัญออกมา เมื่อเทียบกับจางอวี้เต๋อ ที่น้อยกว่าคงมีของทะเล และมีสมุนไพรที่มากกว่า ล้วนเป็ของบำรุงเืลม เห็นทีคงเพราะตระกูลหลิวมีคนตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน
ของต่างๆ คล้ายกับของขวัญที่ผ่านๆ มา เพียงแต่ว่าดูประณีตกว่าแต่ก่อนพอสมควร สามพี่น้องตระกูลหลิวได้เครื่องประดับทองคนละหนึ่งชุด เนื้อผ้าไม่ใช่ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียด หากแต่เป็ผ้าไหมหูโจว แล้วยังมีผ้าหลุมขนกระต่ายอีกหลายตัว หลิวชิวเซียงได้ตัวสีเขียวอ่อนลายดอกกล้วยไม้ หลิวเต้าเซียงได้ผ้าคลุมขนสีแดงสลับเขียวลวดลายดอกเหมย ส่วนหลิวชุนเซียงได้หมวกขนกระต่ายสีแดง
หลิวซานกุ้ยมองดูหีบที่วางอยู่เต็มห้อง แล้วเชิญพ่อบ้านซุนกับเซี่ยจินตัวไปนั่งในห้องตะวันออก ก่อนจะเชิญทั้งสองทานข้าวด้วยกัน
เขาเพิ่งจะเอ่ยออกมา พ่อบ้านซุนก็ยิ้มแล้วเอ่ย “ไม่รีบๆ นายท่านสามก็รู้ว่าบ้านข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้ายังต้องรีบกลับไปที่บ้านใน่ปีใหม่ คงอยู่ไม่นาน”
ขณะที่พูดก็หยิบจดหมายออกมาจากอ้อมอก ยิ้มแล้วเอ่ย “นี่คือจดหมายของเ้านายที่ให้แก่คุณหนูรอง บอกว่ามีการค้าขายอยากเจรจากับคุณหนูรอง”
เดิมทีหลิวซานกุ้ยรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เพราะถึงอย่างไรซูจื่อเยี่ยก็เป็ผู้ชาย แม้ว่าเกษตรกรอย่างเขาไม่ได้ถือเื่ชายหญิงมากนัก แต่เื่จดหมายส่วนตัวถึงกันเช่นนี้ก็ไม่เหมาะสม
แต่เมื่อได้ยินจุดประสงค์ที่พ่อบ้านซุนชี้แจง จึงวางใจลงมาหน่อย
หลิวเต้าเซียงมองเขาอย่างสงสัย แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรแล้วรับจดหมายไป
พ่อบ้านซุนกล่าวต่อว่า “เ้านายข้ายังสั่งไว้ว่า เื่นี้ค่อยจัดการหลังปีใหม่ หากว่าได้บทสรุปแล้วให้ส่งจดหมายไปที่สถานีรถม้าได้เลย ขอเพียงเขียนระบุชื่อผู้รับจดหมายก็พอ ทุกวันจะมีคนของจวนเข้าไปรอจดหมายที่สถานีโดยเฉพาะ”
หลิวเต้าเซียงตอบรับอย่างมีความสุข แต่ก็แอบสังเกตได้ว่าจวนอ๋องมีจดหมายเข้าทุกวัน เห็นทีคงไม่เหมือนกับคนทั่วไป
พ่อบ้านซุนดื่มชาหนึ่งถ้วย แล้วบอกว่าตนเองต้องไปที่บ้านเก่าตระกูลหลิวต่อ ส่วนเซี่ยจินตัวก็ไม่ได้อยู่ต่อเช่นกัน และบอกว่าบ้านอาศัยอยู่ที่ตัวจังหวัด ต้องรีบเดินทางข้ามคืนกลับไป
หลังจากที่ส่งคนทั้งสองเดินทางกลับ หลิวชิวเซียงก็ตามจางกุ้ยฮัวและเฉินซื่อไปจัดการของขวัญในห้องโถง ส่วนหลิวซานกุ้ยก็จัดการเกวียนลาและเตรียมนำของขวัญปีใหม่ไปมอบให้บิดามารดา
จางกุ้ยฮัวเห็นว่าเขากําลังจะออกไป จึงบอกเพียงให้เขากลับมากินอาหารกลางวันที่บ้าน
หลิวซานกุ้ยยิ้ม เพราะครอบครัวของตนได้มอบของขวัญมากมาย จึงรู้สึกว่าบิดามารดาคงต้องรั้งให้เขาอยู่ทานข้าวแน่นอน
หลิวเต้าเซียงอยู่ในห้องปีกตะวันออกได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ จากนั้นก็ฉีกซองจดหมายออก
คำเกริ่นในจดหมายนั้นธรรมดาทั่วไป จดหมายของซูจื่อเยี่ยไม่ได้ยาวนัก พูดไม่เยอะ สมกับเป็นิสัยของเขา
เพียงแค่คำพูดไม่กี่ประโยคก็ครอบคลุมเื่ธุระของเขา
ท่าทีของหลิวเต้าเซียงนั้นเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ ซูจื่อเยี่ยระบุในจดหมายอย่างง่ายดาย ตอนนี้เขาส่งคนไปค้าขายทั่วสารทิศ และคนผู้นั้นส่งข่าวมาว่า ผลงานเย็บปักของเจียงหนานได้รับความนิยม
เขาตั้งใจจะส่งคนไปรวบรวมซื้อที่เจียงหนาน ขณะเดียวกันงานเย็บปักก็มีผ้าเช็ดหน้าและกระเป๋าเงิน แม้ผลกำไรไม่ได้มาก แต่้าปริมาณเยอะ เขาจึงอยากถามหลิวเต้าเซียงว่าสนใจหรือไม่
ในตอนท้ายของจดหมายเขากล่าวอีกว่า “ข้าเห็นว่าบ้านของเ้านั้นซอมซ่อเกินไป จึงอยากให้โอกาสเ้าสักครั้งในการหาเงิน อย่าลืมสร้างบ้าน แล้วก็ตอนที่สร้างบ้านอย่าลืมเผื่อห้องไว้ให้ข้าด้วย”
หลิวเต้าเซียงรู้สึกว่าประเด็นสำคัญของจดหมายฉบับนี้คือ ต้องสร้างบ้านใหม่ ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ต้องเก็บห้องไว้ให้ชายหนุ่มคนนี้ คงไม่ใช่ว่าเขาคิดจะมาพักค้างแรมที่นี่หรอกนะ?
นางหยิบจดหมายและพลิกอ่านไม่น้อยกว่าสิบครั้ง ในที่สุดก็แน่ใจว่าที่เขาพูดมาคือเื่จริง
ทว่าผ้าเช็ดหน้า กระเป๋าเงินและถุงหอมไม่ใช่เื่ยาก
นางถือจดหมาย กำลังนั่งพินิจอยู่ใกล้หน้าต่าง
โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลิวชิวเซียงเข้ามาั้แ่เมื่อไร
“น้องรอง เ้าคิดอะไรอยู่ ข้าว่าเ้าเหม่อลอยนะ”
หลิวเต้าเซียงหันไปมองนาง บนโต๊ะสี่เหลี่ยมที่อยู่ไม่ไกลมีกล่องเครื่องประดับวางอยู่สามกล่อง
“ของข้าหรือ?”
หลิวชิวเซียงตอบด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว คุณชายซูช่างดีเหลือเกิน มอบของขวัญให้เราดีขึ้นเรื่อยๆ ท่านพ่อกับท่านแม่บอกว่าได้มอบเหล้าองุ่นปีนี้ตอบแทนให้เขา ได้ยินพ่อบ้านซุนบอกว่า ฝีมือการดองเหล้าองุ่นของท่านพ่อนั้นใช้ได้ คุณชายซูยังเอ่ยชมเชยว่าเหล้าของท่านพ่อรสชาติดีกว่าที่ขนส่งมาจากทางตะวันตกเสียอีก”
หลิวเต้าเซียงสุขใจ แล้วเอ่ย “นั่นเป็ของชอบของท่านแม่ ขนาดกำลังตั้งครรภ์น้องชายน้องสาวเรา ก็ยังอดไม่ได้แอบดื่มไปหลายอึก”
นางมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อได้ยินว่าคนที่ตั้งครรภ์ก็ดื่มเหล้าได้ เด็กที่กำเนิดมาก็จะมีความสามารถในการดื่มเหล้า มารดาจึงอดใจไม่ได้ที่จะแอบดื่มอยู่บ่อยครั้ง ต่อไปจะกำเนิดเ้าเด็กขี้เหล้ามาเป็เพื่อนบิดาหรือไม่?!
แค่คิดเื่นี้นางก็รู้สึกปวดศีรษะ!
“น้องรอง รีบมาดูเร็ว นี่คือของขวัญที่คุณชายมอบให้เ้า ส่วนนี่คือที่ท่านน้าเราให้คนส่งมาให้ ที่เหลือท่านแม่กับท่านยายกำลังจัดการ รอเมื่อแบ่งเสร็จก็จะให้พวกเรา”
หลิวเต้าเซียงวางจดหมายในมือลงและเดินไปที่โต๊ะสี่เหลี่ยม
ไข่มุกที่จางอวี้เต๋อส่งกลับมามีสองแบบ แบบที่หนึ่งคือสีขาว ไว้ทำเครื่องประดับให้เฉินซื่อกับจางกุ้ยฮัว ส่วนอีกแบบหนึ่งคือสีชมพู สำหรับสามพี่น้อง
หลิวชุนเซียงยังเด็กอยู่ เซี่ยจินตัวจึงตัดสินใจเองว่าทำเป็ของเล่นใส่กล่องเล็กๆ ไว้ให้หลิวชุนเซียงจับเล่น
ส่วนของสองพี่น้องทำเป็ต่างหู ปิ่นปักผม แล้วก็ที่มัดผมไข่มุกดอกไม้
-----
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้