ว่านฮวนรู้สึกเสียใจอย่างมากในสองวันที่ผ่านมานี้!
ใครจะคิดว่าหลังจากที่นางไปขอถอนหมั้นกับเซียวหลิงอวิ๋น เ้าขยะที่ไม่เป็โล้เป็พายอะไรใน่สิบสี่ปีที่ผ่านมา จะกลับพลิกโผได้ขนาดนี้ เขากลายเป็ที่โด่งดังขึ้นมา กลายเป็ัตัวจริงที่มีศักยภาพมากพอที่จะโบยบินขึ้นไปถึง์ชั้นเก้า!
หากรู้ว่าจะเป็แบบนี้ั้แ่แรก นางคงไม่ทำแบบนี้ลงไปแน่!
รอบแรกของการประลองรอบสิบคนวันสุดท้ายนี้ ในที่สุดเซียวหลิงอวิ๋นก็ได้พบกับคู่ต่อสู้ที่เขารอคอยมานาน นั่นก็คือจ้าวิเจี้ยน! การต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองในวันนี้ถือเป็การประลองนัดแรกของวันด้วย!
การประลองนัดแรกก็เป็การต่อสู้ที่ทุกคนต้องจับตามองแล้ว!
คนหนึ่งเป็ถึงสุดยอดอัจฉริยะที่จะปรากฏตัวสักครั้งในรอบหมื่นปี ส่วนอีกคนหนึ่งก็เป็คนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็หนึ่งในสี่อัจฉริยะของเขตใต้ั้แ่ก่อนที่เซียวหลิงอวิ๋นและเยี่ยเฟิงจะโด่งดังขึ้นมา! นอกจากนี้ ระหว่างทั้งคู่ก็ยังมีเื่ของว่านฮวน หญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นวลนางแห่ง์มาข้องเกี่ยวด้วย ดังนั้นการประลองนัดนี้จึงกลายเป็ที่น่าสนใจที่สุดของการประลองรอบสิบคนของเขตใต้ และยังเป็ที่สนใจที่สุดของการประลองทั้งหมดในสำนัก!
“ฮ่าๆ ไม่นึกเลยว่าการประลองนัดแรกของวันนี้จะเป็การประลองที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ คาดการณ์ได้เลยว่าการประลองรอบสิบคนในวันสุดท้ายนี้จะต้องเร้าใจมากเป็แน่ๆ!”
“ไม่รู้เลยว่าใครจะเป็ฝ่ายชนะในการต่อสู้ระหว่างทั้งสองคนนั้น?”
“ยังต้องถามอีกหรือ มันก็ต้องเป็เซียวหลิงอวิ๋นอยู่แล้วสิ เขาเป็คนที่สามารถผ่านชั้นที่เก้าของหอคอยิญญาเมฆา์เก้าชั้นมาได้เลยนะ ถึงจ้าวิเจี้ยนจะเก่งแต่เมื่อเทียบกับเซียวหลิงอวิ๋นที่เป็สุดยอดอัจฉริยะที่จะปรากฏตัวสักครั้งในรอบหลายพันปีแล้ว ก็ยังห่างชั้นอีกมาก!”
“อย่าเพิ่งกล่าวราวกับมันเป็เื่ที่แน่นอนขนาดนั้นไปแล้วสิ เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อได้สู้กันจริงๆ แล้วเท่านั้น!”
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนเดินขึ้นมาไปบนเวทีประลองแล้ว ผู้ชมที่อยู่รอบๆ เวทีต่างก็พากันตื่นเต้นและพูดคุยกันอย่างคึกคัก
...
เซียวหลิงอวิ๋นเองอารมณ์ดีมาก เขาตื่นเต้นมากจนกำมือทั้งสองข้างไว้แน่น กระทั่งข้อต่อนิ้วทั้งสิบนิ้วส่งเสียงดังกรอดๆ จ้องมองไปยังจ้าวิเจี้ยนที่กำลังเดินออกมาด้วยสีหน้าสงบนิ่งตรงกันข้ามกับเขา คิดในใจ คอยดูเถิด อีกเดี๋ยวข้าจะอัดเ้าให้กลายเป็ชิ้นๆ ภายในเวลารวดเร็วที่สุด จนบรรดาอาจารย์ที่อยู่ข้างสนามเข้ามาช่วยเหลือเ้าไม่ทันเลย!
ผู้ตัดสินในวันนี้เป็อาจารย์ฝึกสอนที่เป็นักยุทธ์ระดับสูง
เขาเหลือบมองไปที่ทั้งสองฝ่าย ในขณะที่กำลังจะประกาศให้เริ่มการต่อสู้ คำพูดของจ้าวิเจี้ยนก็ทำให้ทั้งผู้ตัดสินและเซียวหลิงอวิ๋นที่อยู่อีกฝั่งต้องใ!
“การต่อสู้ครั้งนี้ ข้าขอยอมแพ้!” เสียงอันดังฟังชัดของจ้าวิเจี้ยน ดังก้องไปทั่วทั้งเวทีประลอง!
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนที่อยู่ในสนามต่างก็ต้องตกตะลึง เซียวหลิงอวิ๋นเองก็แทบไม่เชื่อหู!
หน็อยแน่ จ้าวิเจี้ยน นี่เ้ายังมียางอายเหลืออยู่หรือไม่!
วันนี้เป็การต่อสู้นัดแรก ก่อนหน้านี้สองวันเ้าก็ไม่ได้รับาเ็ใดๆ เลย สภาพร่างกายของเ้ายังสมบูรณ์ดีพร้อม แต่กลับยอมแพ้โดยไม่สู้เนี่ยนะ เ้านี่มันสุดยอดจริงๆ ความหน้าด้านหน้าทนของเ้านี่คงไม่มีใครในอาณาจักรซินโยวเทียบเคียงได้แล้ว!
ผู้ตัดสินเองก็ใเช่นกัน เมื่อเขาตั้งสติได้ก็มองไปยังจ้าวิเจี้ยนแล้วกล่าว “เ้าจะยอมแพ้จริงๆ หรือ!”
“ใช่ ข้าขอยอมแพ้!” จ้าวิเจี้ยนพยักหน้า แล้วตอบโดยไม่ลังเลใดๆ!
เซียวหลิงอวิ๋นรู้สึกหงุดหงิดจนแทบอยากจะพุ่งตัวไปต่อยไอ้ขี้ขลาดนี่สักหมัด!
ผู้ชมที่อยู่ข้างสนามเริ่มไม่พอใจ ะโออกไป “นี่เ้าคิดอะไรอยู่? ประลองนัดแรกก็ยอมแพ้แล้วหรือ จ้าวิเจี้ยน เ้านี่มันหน้าด้านจริงๆ!”
“จริงด้วย ไม่าเ็สาหัสอะไรเลย แต่กลับยอมแพ้โดยไม่สู้ ทั้งๆ ที่เป็การต่อสู้นัดแรกของวันแท้ๆ กลับประกาศยอมแพ้เสียแล้ว จ้าวิเจี้ยน เ้ายังเป็ลูกผู้ชายอยู่หรือไม่? หากเป็ลูกผู้ชายพอก็สู้กับอีกฝ่ายให้เต็มที่สิ ต่อให้ท้ายที่สุดเ้าจะแพ้ พวกเราก็ยังจะยอมรับว่าเ้าเป็ลูกผู้ชาย...”
“จ้าวิเจี้ยน ข้ามองเ้าผิดไปจริงๆ ไม่คิดว่าเ้าจะเป็คนขี้ขลาดเช่นนี้ ั้แ่วันนี้ไป ข้าจะขอติดตามเซียวหลิงอวิ๋นแทน” ศิษย์หญิงคนหนึ่งะโเสียงดัง
“ใช่แล้ว ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป พวกเราจะไม่ขอติดตามคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าต่อสู้เช่นนี้อีกแล้ว พวกเราจะไปติดตามให้กำลังใจเซียวหลิงอวิ๋นและศิษย์คนอื่นๆ แทน” ศิษย์หญิงอีกคนก็ยกมือแล้วะโขึ้นมา!
“ใช่ๆ...” ภายในเวลาอันรวดเร็ว ศิษย์หญิงหลายร้อยคนก็พากันะโวิพากษ์วิจารณ์จ้าวิเจี้ยน จะผันตัวไปเป็แฟนคลับของเซียวหลิงอวิ๋นและศิษย์ดาวเด่นคนอื่นๆ แทน!
อารมณ์หงุดหงิดของเซียวหลิงอวิ๋นดีขึ้นมาบ้าง การกระทำของจ้าวิเจี้ยนในครั้งนี้ อาจจะทำให้เขาหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายไปได้ แต่ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือที่สั่งสมมาหลายปีก็พังทลายลงในทันที การที่คนผู้นี้จะได้รับการสนับสนุนและการยอมรับจากบรรดาศิษย์ในสำนักอีกครั้งคงทำได้ยากแล้ว!
เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ให้เ้าได้ลิ้มรสความรู้สึกของการถูกมิตรสหายและพวกพ้องทิ้งไว้เื้ั แล้วข้าค่อยจัดการกับเ้าทีหลังก็ยังไม่สาย! ฮ่าๆๆ จ้าวิเจี้ยน เ้าเป็คนฉลาดแท้ๆ แต่กลับทำอะไรโง่ๆ เสียได้!
เมื่อเห็นว่ามีคนวิพากษ์วิจารณ์มากมายเพียงนี้ ใบหน้าอันหล่อเหลาของจ้าวิเจี้ยนก็ซีดเผือดลงทันที! ตอนแรกเขาคิดว่าด้วยพลังของเซียวหลิงอวิ๋นในเวลานี้แล้ว คงยากที่จะเอาชนะได้ ดังนั้นแทนที่จะสู้จนแพ้ในนัดแรก สู้ออมพลังเอาไว้สู้ในสองนัดหลังดีกว่า ต่อให้ไม่ได้อันดับหนึ่ง แต่ได้อันดับสองก็ยังดี!
เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์จะกลายเป็แบบนี้ไปได้
ในฐานะที่ได้เกิดใหม่เป็เซียวหลิงอวิ๋น เมื่อเห็นสีหน้าของจ้าวิเจี้ยน เขาก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกว่าตนเองคิดผิดจนแทบจะกระอักเืออกมา มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มเ้าเล่ห์ออกมา เอ่ยเสียงดัง “จ้าวิเจี้ยน เ้าไม่คิดจะเปลี่ยนใจมาสู้กับข้าสักตั้งหน่อยหรือ? ถ้าหากเ้าเปลี่ยนใจ ขอเพียงเ้ารับดาบข้าได้สักสามดาบ การประลองครั้งนี้ก็จะถือว่าเ้าชนะ! ว่าอย่างไรล่ะ?”
ขณะนี้เซียวหลิงอวิ๋นได้กลายร่างเป็ปีศาจจากนรก เริ่มล่อลวงอีกฝ่าย!
“หึ สามดาบงั้นหรือ จ้าวิเจี้ยน หากเ้ายังมีความเป็ลูกผู้ชายก็รับคำท้าเสีย อย่าให้พวกเราต้องดูถูกเ้าเลย!” คำพูดของเซียวหลิงอวิ๋นจบลงไม่ทันไร ศิษย์ที่มาชมอยู่รอบเวทีก็ส่งเสียงะโออกมาทันที!
“รับคำท้า... รับคำท้า...” ไม่นานนัก เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นทั่วทั้งสนามประลอง!
คนพวกนี้ล้วนเป็พวกชอบยุ่งเื่คนอื่นเพราะไม่กลัวบานปลายทั้งนั้น!
ในเวลานี้จ้าวิเจี้ยนเหมือนคนจมน้ำที่คว้าเชือกได้ในยามที่กำลังตื่นตระหนก เงยหน้าขึ้นมองเซียวหลิงอวิ๋นแล้วกล่าว “เ้าพูดจริงหรือ?”
“ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ เ้ายังกลัวว่าข้าจะพูดไม่จริงอีกหรือ ข้าจะพูดอีกทีก็ได้ หากเ้ารับดาบข้าได้สามดาบ การประลองครั้งนี้ก็จะถือว่าข้าแพ้ หลังจากครบสามดาบแล้ว ต่อให้ข้าฟันดาบต่อไปอีกแม้ครึ่งดาบก็ถือว่าข้าแพ้!” เซียวหลิงอวิ๋นยังคงล่อลวงต่อไป!
เมื่อได้ยินคำตอบที่ชัดเจนจากเซียวหลิงอวิ๋นแล้ว ดวงตาของจ้าวิเจี้ยนก็เปล่งประกายอย่างน่าใ ความตื่นตระหนกในใจพลันสงบลงอย่างรวดเร็ว ปิดกั้นเสียงโห่ร้องรอบข้างทั้งหมด แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นะเื “ดี เช่นนั้นข้าจะสู้กับเ้า!”
เ้าโง่ยอมตกลงแล้ว! มีรูปโฉมที่งดงาม แต่ข้างในกลับเต็มไปด้วยฟางแท้ๆ! เซียวหลิงอวิ๋นแอบนึกดีใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะดูถูกอีกฝ่ายอย่างรุนแรง!
ฮ่าๆ ข้าจะฟันเ้าให้ตายในดาบเดียว หรือจะให้เ้ารับได้สักสองดาบก่อนเพื่อให้มีความหวัง แล้วค่อยเหวี่ยงเ้าลงเหวดีนะ? เซียวหลิงอวิ๋นครุ่นคิด!
ตัดสินใจได้แล้ว!
เมื่อทั้งสองยืนประจันหน้ากันอีกครั้ง!
“จ้าวิเจี้ยน เ้าป้องกันให้ดีแล้วกัน อย่าพ่ายแพ้เพราะเ้าไม่สามารถรับได้แม้แต่ดาบเดียวล่ะ ไม่อย่างนั้นจะขายขี้หน้าเอาได้!” เซียวหลิงอวิ๋นถือดาบใหญ่เหล็กดำเอาไว้ในมือ มองไปที่อีกฝ่ายแล้วหัวเราะเบาๆ!
คิดจะใช้ดาบเดียวเอาชนะข้างั้นหรือ? ช่างอวดดีเสียจริง ต่อให้เ้าเป็สุดยอดอัจฉริยะที่ปรากฏตัวสักครั้งในรอบหมื่นปี แต่มันจะแน่สักแค่ไหนกันเชียว! จ้าวิเจี้ยนรู้สึกได้ถึงไฟแห่งความโกรธที่ลุกโชนขึ้นในใจ!
เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวหลิงอวิ๋น แม้แต่กรรมการที่อยู่ใกล้ๆ รวมถึงพวกผู้าุโหลายคนบนอัฒจันทร์ก็ยังรู้สึกว่าคำพูดของเซียวหลิงอวิ๋นนั้นออกจะเกินจริงไปบ้าง เดิมทีการใช้สามดาบเอาชนะจ้าวิเจี้ยนได้นั้นก็เรียกได้ว่าเป็ผลงานที่ยิ่งใหญ่มากแล้ว ตอนนี้กลับบอกว่าจะใช้แค่ดาบเดียวในการเอาชนะ...
ในขณะที่เหล่าผู้าุโหลายคนพากันส่ายหัวในใจ จ้าวิเจี้ยนกลับโกรธเคืองจนหัวใจแทบลุกไหม้ ชั่วขณะที่ความสงบในจิตใจกำลังถูกทำลาย เซียวหลิงอวิ๋นก็ชักดาบออกมาแล้ว และก้าวออกไปด้วยก้าวลวงิญญา ตัวของเขาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของจ้าวิเจี้ยน ฟาดลงมาด้วยดาบใหญ่เหล็กดำในมือ ดาบนี้ทั้งธรรมดาและเรียบง่ายโดยไม่ต้องอธิบาย แต่กลับแฝงไปด้วยความแปลกใหม่ ทั้งบิดเบี้ยวและไม่เป็เส้นตรงเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่เสียงดาบแหวกผ่านอากาศอันเนื่องมาจากการถ่ายเทพลังลงไปที่ดาบ!
เอ๋! เอ๋! รอบๆ เวทีต่างก็มีเสียงอุทานที่อดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ดังขึ้นพร้อมๆ กัน แม้แต่ผู้ตัดสินที่เป็นักยุทธ์ระดับสูงยังรู้สึกประหลาดใจและงุนงงเล็กน้อย มีแม้กระทั่งความรู้สึกไม่อยากเชื่อปนอยู่ด้วย สุดยอดอัจฉริยะอย่างเซียวหลิงอวิ๋นใช้ดาบที่เต็มไปด้วยช่องโหว่เช่นนี้ได้อย่างไร กระบวนดาบเช่นนี้มีเพียงศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเรียนรู้วิชาดาบและยังไม่รู้จักท่วงท่าเท่านั้นที่เลือกใช้กัน ไม่สิ แม้แต่ศิษย์ใหม่ยังใช้ดาบได้ดีกว่าเขาเสียอีก!
แต่แล้วก็มีเสียง อ๊ะ อีกเสียงหนึ่ง ดังมาจากจ้าวหนีอิ่งที่อยู่ในฝูงชน!
เด็กสาวคนนี้ได้ประกาศถอนตัวจากการประลองรอบสิบคนในเขตกลางั้แ่เช้าตรู่! ในขณะที่ฉินหรูเยียนซึ่งเป็นักยุทธ์ระดับเก้าก็เก็บตัวเพื่อบรรลุ จ้าวหนีอิ่งเข้าถึงเจตจำนงดาบสายลมแล้ว เมื่อจ้าวหนีอิ่งเผชิญหน้ากับศิษย์นักยุทธ์ระดับเก้าคนอื่นๆ ก็ไม่รู้สึกสนใจที่จะประลองกับพวกเขาอีก!
ก่อนที่ฉินหรูเยียนจะเก็บตัวฝึกวิชา นางก็ได้พูดคุยกับอีกฝ่ายอยู่สักพัก เพราะคำพูดของฉินหรูเยียน นางถึงได้แอบสะกดรอยตามหยางลู่ไป แล้วก็ได้ยินคำพูดที่เปี่ยมไปด้วยสัจธรรมและเหตุผลของเซียวหลิงอวิ๋น ทำให้เข้าสู่สภาวะเข้าฌาน เข้าถึงเจตจำนงดาบสายลมในขณะที่ยังเป็เพียงนักยุทธ์!
ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสองได้เข้าสู่สภาวะเข้าฌาน อันเป็สิ่งที่นักยุทธ์จำนวนมากไม่สามารถไปถึงได้ตลอดชีวิต ตัวหยางลู่เองก็ก้าวหน้าในวิชาดาบเช่นกัน ต้นเหตุทั้งหมดนี้ล้วนมาจากเซียวหลิงอวิ๋น!
แม้ว่าจ้าวหนีอิ่งที่ชอบทำตัวไม่เป็ที่โดดเด่น ยังอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็นความสามารถของสุดยอดอัจฉริยะอย่างเซียวหลิงอวิ๋นคนนี้เช่นกัน แอบแฝงตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนเพื่อเป็ผู้ชมั้แ่เช้าตรู่!
นาง้าดูด้วยตาตัวเอง ว่าสุดยอดอัจฉริยะในรอบหมื่นปีคนนี้มีผลงานอย่างไรในการต่อสู้!
ดาบของเซียวหลิงอวิ๋นที่ดูเหมือนจะสะเปะสะปะและไร้ระเบียบในสายตาของจ้าวหนีอิ่ง กลับเต็มไปด้วยความลึกลับ ทั้งความบิดเบี้ยว ความไม่แน่นอน และไร้พลัง สิ่งเหล่านี้แม้ดูเหมือนเป็ช่องโหว่ แต่หากพิจารณาอย่างใกล้ชิด ก็จะพบว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงพอที่จะเป็ช่องโหว่ได้เลย! ความบิดเบี้ยวและความไม่แน่นอนนี้หมายถึงการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้จะเรียกว่าเป็ช่องโหว่ได้อย่างไร? ที่ไร้พลังกลับหมายความว่ามีพลังล้นเหลือมากพอจะเตรียมพร้อมสำหรับกระบวนท่าต่อเนื่องได้ทุกเมื่อ... ดาบที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยช่องโหว่นี้ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งของวิชาดาบ!
ดาบนี้จึงดึงดูดสายตาและจิตใจของจ้าวหนีอิ่งเข้าไปทั้งหมด!
เป็วิชาดาบที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!
หยางลู่ที่อยู่ด้านนอกเวทีเองก็เบิกตากว้าง วิชาดาบนี้ช่างคล้ายกับวิชาดาบที่เซียวหลิงอวิ๋นสอนให้นางเมื่อคืนที่ผ่านมาอย่างน่าใ แต่ก็มีความแตกต่างอย่างบอกไม่ถูกแฝงอยู่ จะเรียกว่าอย่างดีนะ...! หยางลู่ครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง แล้วนึกถึงคำหนึ่งขึ้นมาได้ ‘วิธีการต่างกัน แต่ผลลัพธ์เดียวกัน’!
หืม! ดาบนี้ช่างน่าสนใจนัก!
บนอัฒจันทร์ ชายชราเคราแพะร่างสูงใหญ่เบิกตากว้าง! ช่างเป็วิชาดาบที่ลึกซึ้งถึงแก่นแท้ยิ่งนัก เรียกได้ว่าเป็กระบวนดาบที่สมบูรณ์แบบที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุดรองมาจากเจตจำนงดาบ!
วิชาดาบเช่นนี้เป็กระบวนดาบที่นักยุทธ์ในโลกมนุษย์ผู้มีความเชี่ยวชาญในวิชาดาบเท่านั้น ถึงสามารถเรียกใช้ได้!
หากสามารถก้าวไปได้อีกขั้น ก็จะเข้าถึงเจตจำนงดาบแล้ว และพลังการต่อสู้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากตามไปด้วย!
ดาบของเซียวหลิงอวิ๋นที่ในสายตาของผู้ชมจำนวนมากเป็เพียงดาบที่ทั้งธรรมดาๆ และห่วยแตก! ในสายตาของผู้ที่ตกเป็เป้าหมายอย่างจ้าวิเจี้ยน กลับกลายเป็ภาพที่แตกต่างออกไป เขารู้สึกได้ว่าดาบที่ดูธรรมดาของอีกฝ่าย กลับแฝงไปด้วยความแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่มีช่องโหว่จำนวนมาก แต่ช่องโหว่เหล่านี้กลับเปลี่ยนแปลงไปมาอยู่ตลอด ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลานี้ ทำให้ไม่อาจจับต้องได้เลย!
