บทที่ 27
...
ถึงแม้ราชันย์จะไม่อยากห่างลูกห่างเมีย แต่หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อคืนนี้เขาได้รับโทรศัพท์จากั ซึ่งติดต่อเข้ามาเื่ของมาคัส และครั้งนี้เขาคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ัเป็พี่ชายที่เก่งและฉลาด แต่อย่างว่านะ คนเราเก่งและถนัดไม่เหมือนกัน รายนั้นถ้าเื่เกี่ยวกับเกษตรและการแปรรูป เชื่อได้เลยว่าัไม่เคยแพ้ใคร
“ดูแลลูกเมียฉันให้ดี”
“เออ รู้แล้ว”
“ฝากกอหญ้ากับเ้าแฝดด้วยนะไอ้ธัน”
“คิดว่าใช้เวลาเท่าไหร่”
“คิดว่าน่าจะห้าถึงหกเดือน”
“อืม หลานกับกอหญ้ากูดูแลให้เอง”
เขาตบไหล่ธันวาสองสามทีเป็การขอบคุณ เท้าที่ก้าวยาว ๆ เดินตรงดิ่งเข้ามาในห้อง ก็เห็นเว่ยเอินกำลังตั้งหน้าตั้งตาเรียนภาษาไทยอยู่ เธอแหงนหน้ามามองราชันย์และส่งยิ้มทักทายเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงไปศึกษาตำราในหน้าหนังสือต่อ
ราชันย์เดินไปที่เตียงเล็กที่มีเด็กน้อยสองคนกำลังนอนหลับตาพริ้ม แก้มยุ้ย ๆ ของทั้งสองคนดึงดูดให้ผู้เป็พ่อก้มหน้าลงไปขโมยหอมแก้มคนละฟอดสองฟอด
ฟืดดดดด!ฟืดดดดด!
เว่ยเอินละสายตาจากหนังสือมามองราชันย์อีกครั้ง มันคงเป็ภาพที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็น มาเฟียที่เธอเคยได้ยินมานานเกือบปี ในความคิดเธอ เขาเป็ผู้ชายที่แย่มาก ไม่สนใจลูกเมีย แม้แต่เมียท้องแก่เขายังไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็น เป็คนที่ไร้ความรับผิดชอบ และคงเป็ผู้ชายที่เห็นแก่ตัวที่สุด
แต่ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เธอคิดมาตลอดกับภาพที่เห็นตรงหน้า แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเสียจริง ๆ ราชันย์ยืดตัวเต็มความสูงก่อนจะหันมามองเว่ยเอินที่กำลังทำหน้าประหลาดใจอยู่เช่นนั้น
“ฝากเธอดูแลกอหญ้ากับหลานด้วยนะ ฉันต้องกลับไปสะสางงานที่บริษัท”
“ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“ถ้ามีอะไรรีบบอกไอ้ธันได้เลยนะ หรือถ้าฉุกเฉินจริง ๆ โทรหาฉันได้ตลอด”
“ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณราชันย์สบายใจได้”
“อืม”
ราชันย์หันกลับมามองลูกอีกครั้ง ก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมอีกชั้น และเดินออกมาหากอหญ้าที่ยืนรดน้ำดอกไม้อยู่หน้าบ้าน เธอหันมามองราชันย์เล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปจดจ่อกับดอกไม้เช่นเดิม วันนี้ดอกกุหลาบยังออกออกดอกบานสะพรั่งเต็มสวนหน้าบ้านอย่างเช่นทุกวัน มีผีเสื้อบินวนหนีน้ำที่กอหญ้าฉีดรดดอกไม้เป็ระยะ
“ผมต้องกลับไปจัดการสะสางงานที่ไทย คุณอยู่คนเดียวได้ใช่ไหมกอหญ้า”
“ฉันไม่ได้อยู่คนเดียวนะคะคุณราชันย์ มีทั้งเว่ยเอิน ทั้งคุณธันวา ตาหนู ยัยหนู ทำไมฉันจะอยู่ไม่ได้ละ”
“ผมจะรีบจัดการ แล้วรีบมาหาคุณกับลูก”
“เดินทางปลอดภัยนะคะ”
ราชันย์ยิ้มให้กอหญ้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินมาที่โรงรถ ธันวาที่ยืนหล่อรออยู่แล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เมื่อเห็นราชันย์มาถึงเขาก็ประจำที่ทันที ราชันย์เดินเข้ามานั่งในรถก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ หนึ่งครั้ง ธันวาหันมามองสภาพของเพื่อนที่เป็ดั่งศพเดินได้ ก็ถอนหายใจตามมาติด ๆ
เขาสตาร์ทรถอุ่นเครื่องเพื่อที่จะไปส่งราชันย์ที่สนามบิน ั้แ่รู้จักกันมา เขาไม่เคยเห็นราชันย์ที่มองใครด้วยสายตาละห้อยราวกับลูกหมาถูกทิ้งแบบนี้มาก่อน ธันวาทำได้แค่มองราชันย์กับสลับไปมองกอหญ้าที่ตอนนี้รดน้ำดอกไม้ครบทุกต้นพอดี เธอดึงสายยางที่ใช้รดน้ำต้นไม้ไปเก็บก่อนจะเห็นว่าเธอหันมามองครั้งหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าหนีและเดินเข้าบ้านไป
ธันวาถอนหายใจเบา ๆ หนึ่งครั้งพร้อมกับเคลื่อนรถออกไป ราชันย์ยังคงมีสีหน้าซังกะตายอยู่เช่นเดิม ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมาจากทั้งคู่ เขาขับรถพาผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเพื่อน และเ้านายมาส่ง ใช้เวลาไม่นานมากนักก็ถึงสนามบิน รถยนต์คันหรูที่เขาซื้อทิ้งไว้ถูกจอดนิ่งสนิท แต่ไม่มีท่าทีว่าผู้ชายด้านข้างจะลงรถเลยสักนิด หากเป็เช่นนี้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ราชันย์ตกเครื่องแน่นอน
“ถ้าจะลีลาขนาดนี้ ทำไมไม่เอาเครื่องบินส่วนตัวมาวะ”
“...”
“จะตกเครื่องละ เลิกทำเอ็มวีแล้วไปเช็คอินเถอะเพื่อน”
“เออ ๆ ฝากดูแลหญ้ากับลูกกูด้วยนะ”
“มึงฝากหลายฝากละ ดอกเบี้ยเต็มบัญชีละ”
“ก็กูห่วง”
2 เดือนต่อมา
ราชันย์เร่งจัดการเคลียร์งานกับมาคัสในโปรเจ็กต์นี้อย่างหนัก เขากิน นอน อยู่ที่ออฟฟิศตลอดเวลาสองเดือนที่ผ่านมา ไม่ไปเที่ยว ไม่สังสรรค์ ด้วยความผิดปกตินี้ทำให้ผู้เป็พ่อและแม่วนเวียนมาดูเขาเกือบทุกวัน
“ราชันย์ แม่ว่าแกพักผ่อนหน่อยเถอะ สภาพแกเกินจะรับไหวแล้วนะ”
“ผมไม่เป็ไรครับแม่ ตอนนี้เหลือแค่ให้คุณมาคัสบินมาตรวจงานครั้งสุดท้าย”
“แต่แกควรนอนบ้างนะ ราชันย์แม่เป็ห่วง”
“ผมไม่เป็ไรจริง ๆ ครับแม่”
ถึงแม้เขาจะอายุเลยเลขสามมาหลายปี แต่การอ้อนผู้เป็แม่เขาก็ยังคงทำเช่นนั้นราวกับเด็กเหมือนเดิม ราชันย์ที่โอบรอบเอวบุพการีอย่างออดอ้อนนั้นยิ่งทำให้ผู้เป็แม่เป็ห่วงเข้าไปอีก
“เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แม่กับพ่อไปไต้หวันมา”
ราชันย์ผละออกมาตั้งใจฟังผู้เป็แม่ทันทีที่ได้ยินเื่ที่ไต้หวัน มันคงดูบาปมากที่จนลูกแฝดอายุได้สองสามเดือนแล้ว แต่เขาไม่เคยพาพ่อและแม่ไปหาหลานเลยสักครั้ง
“ขอโทษครับแม่ ที่ผมไม่ได้พาพ่อกับแม่ไปหาหลานสักที”
“ไม่เป็ไร แม่เห็นแกหักโหมงานขนาดนี้ก็พอเข้าใจ”
“กอหญ้ากับลูกสบายดีเหมือนที่ไอ้ธันบอกไหมครับแม่”
“แม่ว่าหนูกอหญ้าสบายดีกว่าตอนแกอยู่แน่ ๆ”
“ไหงงั้นอะ”
“หนูกอหญ้าเป็ผู้หญิงที่ดีนะ แล้วนี่แกจะทำยังไงต่อ”
“แม่ครับ”
“อะไร ทำไมหรือแกจะไม่ทำให้เป็เื่ที่ถูกที่ควร แม่ไม่ยอมให้หลานต้องเป็หลานนอกสมรสหรอกนะตาราชันย์”
“กอหญ้าปฏิเสธผมไปแล้วครับ”
“...”
“ผมขอเธอแต่งงานก่อนที่จะกลับมาไทยนี่เอง”
“...”
“แต่เธอปฏิเสธแบบเสียงแข็งเลย...ผมควรทำไงดีแม่”
“แกเป็เด็กอมมือหรอ…ฉันไม่รู้หรอกว่าแกจะใช้วิธีไหน แต่ลูกสะใภ้ของตระกูลเรา ต้องเป็หนูกอหญ้าเท่านั้น”
“ผมก็คิดแบบแม่นั่นแหละครับ”
“งั้นก็ดูแลตัวเองให้ดี แกมีลูกมีเมียที่ต้องดู ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะราชันย์ อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ หวังว่าแม่คงไม่ต้องสอนหรอกใช่มั้ย”
“ครับแม่ ไม่ต้องห่วงนะครับ”
เวลาล่วงเลยผ่านวินาที เป็นาที ผ่านนาที เป็ชั่วโมง ผ่านชั่วโมงเป็วัน หมุนเวียนเดินไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย และโปรเจ็กต์ที่ราชันย์อดหลับอดนอนตลอดสองเดือนครึ่งก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ธุรกิจตีตลาดกับคุณมาคัสสัมฤทธิผล ทั้งสองบริษัทเซนต์สัญญาเป็ลายลักษณ์อักษรเรียบร้อย ผ่านไปด้วยดี
“ขอบคุณ คุณราชันย์ที่ทำงานรวดเร็วและเรียบร้อยทั้งที่ปกติโปรเจ็กต์นี้ผมให้เวลาคุณถึงหกเดือน ไม่ทราบว่าคุณราชันย์มีอะไรให้ผมช่วยไหม”
“ผมต้องขอบคุณ คุณมาคัสมากกว่าครับ ที่ให้โอกาสเราได้ร่วมธุรกิจกัน ผมแค่ไม่อยากให้มันยืดเยื้อเพียงเท่านั้น”
“คุณคิดได้ไกลมากจริงๆ เช่นนั้นผมฝากทางนี้ด้วยนะครับ ผมคงต้องขอตัวก่อน”
“ไม่ต้องห่วงครับทางนี้ผมจะดูแลอย่างดี”
