เจิ้งหยวนเป็ประเภทคนดีมาก็ดีตอบ นับประสาอะไรกับเฝิงเจี้ยนเหวินที่ส่งของมามากมายขนาดนั้น จากการที่คู่หมั้นแสดงความเอาใจใส่ของเขาและให้ความสำคัญ เธอส่งจดหมายตอบกลับเขาเฉยๆ ไม่ได้หรอก เพียงแต่จะส่งของอะไรให้เขาล่ะ เจิ้งหยวนครุ่นคิดพลางลูบปลายคาง
คนยุคสมัยนี้ขาดแคลนหลายสิ่งหลายอย่าง เพราะฉะนั้นจะส่งอาหาร เสื้อผ้าและของใช้อะไรก็ได้ทั้งนั้น เพียงแต่เจิ้งหยวนไม่อยากเสียเงินไปซื้อที่สหกรณ์ มันสิ้นเปลืองเกินไป ของในมิติเยอะแยะ แค่ของส่วนใหญ่ไม่อาจเอามาใช้ในยุคนี้ได้ เช่น พวกลูกอมช็อกโกแลตบรรจุภัณฑ์งดงามประณีต โทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์
พอเจิ้งเฉวียนกังออกจากห้องไป เจิ้งหยวนจึงค่อยลอบเข้ามิติ
ก่อนหน้านี้เจิ้งหยวนหาโอกาสค้นโรงแรมทุกห้องเรียบร้อยแล้ว แต่น่าเสียดายที่มิติติดตัวเธอคือโรงแรม ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า ของที่มีเยอะที่สุดเลยเป็เครื่องนอนบนเตียง รวมถึงอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ ซึ่งของพวกนี้ไม่อาจส่งเป็ของขวัญให้เฝิงเจี้ยนเหวินได้ แต่ในโรงแรมใช่ว่าจะไม่มีของดีเลย ยกตัวอย่างเช่น ห้องจัดนิทรรศการห้องหนึ่ง มีการวางแสดงเครื่องประดับโดยเฉพาะอยู่ เป็โชคดีในโชคร้ายที่ครั้งเกิดแผ่นดินไหวครั้งนั้นไม่มีใครเก็บเครื่องประดับทัน จึงตามเจิ้งหยวนมาเกิดใหม่ด้วย ทว่าของทำนองนี้มอบให้ชายฉกรรจ์อย่างเฝิงเจี้ยนเหวินก็กระไรอยู่ ดังนั้น เจิ้งหยวนเลยวางแผนจะหาของที่แขกทิ้งไว้ดูว่าพอเป็ของขวัญได้ไหม
ห้องพักแขกในโรงแรมเยอะแยะ เพียงแต่ตอนเธอข้ามเวลามาเป็่นอกฤดูท่องเที่ยวพอดิบพอดี อัตราคนเข้าพักไม่สูงเท่าไร ห้องพักแขกธรรมดาส่วนใหญ่เลยว่าง ฉะนั้น จึงแทบไม่มีข้าวของที่แขกเหลือไว้ มีก็แต่จำพวกของใช้พื้นฐานในห้องพักโรงแรมเท่านั้น แต่โชคดีที่ห้องสวีตชั้นบนสุดมีของเหลืออยู่มาก อย่างห้องสวีตห้องหนึ่งน่าจะมีเศรษฐีจองอยู่ระยะยาว เลยมีของแทบทุกอย่าง ทั้งชุดสูท รองเท้าหนัง นาฬิกาและกระดุมข้อมือ วางเรียงเป็ระเบียบเรียบร้อยภายในตู้
เจิ้งหยวนค้นดูแล้ว พบว่าเสื้อผ้ายังใหม่เอี่ยม แถมเป็ชุดสูทตะวันตกสั่งทำพิเศษ โดยเรียงสีจากเข้มไปอ่อนทั้งหมด นาฬิกาก็เป็รุ่นราคาแพงหูฉี่วางอย่างประณีตอยู่ในลิ้นชักไม่ต่างกันนัก เจิ้งหยวนค่อยๆ ใช้นิ้วมือแตะบนหน้าปัดนาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์เรือนหนึ่งอย่างระมัดระวังแล้วเดาะลิ้นเสียงเบา ชาติก่อนเธอชอบนาฬิกายี่ห้อนี้มาก แต่หากให้เป็ของขวัญคงสะดุดตาเกินไป เจิ้งหยวนเลยส่ายหน้า กวาดสายตาไล่มองสิ่งของภายในตู้เสื้อผ้าต่อ
ในตู้เสื้อผ้านอกจากชุดสูทและเสื้อเชิ้ตแล้ว ความจริงยังมีเสื้อขนแกะอีกหลายตัว ดวงตาเธอฉายแววแน่วแน่ ของสิ่งนี้เหมือนพอจะให้ได้อยู่
เสื้อขนแกะเป็ของที่มีบ้างในยุคนี้ ยามใส่ไว้ใต้เสื้อผ้าอีกชั้น่ฤดูหนาวให้ความอบอุ่นดีทีเดียว ทั้งเสื้อขนแกะในตู้ยังดูใหม่มาก เจิ้งหยวนจำได้ว่าครั้งที่ข้ามเวลามาเพิ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ยังไม่ถึง่ที่คนมักจะใส่เสื้อขนแกะกัน ดูท่าแขกที่สามารถพักอยู่ห้องสวีตโรงแรมห้าดาวระยะยาว ทั้งยังใส่ชุดสูทสั่งทำ และใช้นาฬิกาเรือนหรู เจิ้งหยวนคิดว่าคนเช่นนี้ไม่น่าสวมเสื้อผ้าเก่าซ้ำ โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ซักแล้วเปลี่ยนทรงอย่างเสื้อขนแกะ ฉะนั้น เจิ้งหยวนถึงมั่นใจเจ็ดถึงแปดส่วนว่าเสื้อขนแกะในตู้ต้องเป็ของใหม่แน่
อันที่จริงไม่ใช่ของใหม่ก็ไม่เป็ไรหรอก ยุคสมัยนี้หากสวมเสื้อผ้าไร้รอยปะชุนก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แล้วสวมเสื้อผ้าเก่าจะมีปัญหาอะไรล่ะ คงมีแค่คนที่กลับมาเกิดใหม่จากยุคศตวรรษที่ 21 ใช้ชีวิตสุขสบายจนชินชาแบบเจิ้งหยวนเท่านั้นแหละถึงไม่ชอบใจเท่าไรนัก
เธอเลือกเสื้อสีเทาทรงธรรมดาที่สุด ไซซ์ค่อนข้างใหญ่ตัวหนึ่ง เจิ้งหยวนไม่เคยพบเฝิงเจี้ยนเหวินมาก่อน แต่ได้ยินพี่ชายเธอบอกว่าบุรุษสกุลเฝิงสูงไล่เลี่ยกัน ว่าที่พ่อสามีของเธอก็เป็ชายร่างสูงใหญ่ ประมาณร้อยแปดสิบเิเ หากเฝิงเจี้ยนเหวินสูงกว่าพ่อเขา คงต้องมีร้อยแปดสิบขึ้นไปเท่านั้น โชคดีที่เศรษฐีเ้าของห้องนี้เป็คนตัวสูง สวมเสื้อผ้าไซซ์ใหญ่ทั้งหมดเหมือนกัน เฝิงเจี้ยนเหวินเลยน่าจะใส่ได้
เจิ้งหยวนนำเสื้อขนแกะออกจากมิติ พับเก็บให้เรียบร้อย ค่อยกางกระดาษจดหมายออกแล้วเริ่มเขียน
ถึง สหายเฝิงเจี้ยนเหวิน
สวัสดี
ดีใจอย่างยิ่งที่ได้รับจดหมายจากคุณ และขอบคุณที่ส่งของขวัญมาให้ครอบครัวฉัน คุณพ่อคุณแม่ของฉันท่านชอบมาก ฉันก็ชอบเหมือนกัน ลำบากคุณแล้ว ฉันมองออกว่าคุณเป็บุรุษละเอียดอ่อนคนหนึ่ง เชื่อว่าต่อไปคุณจะเป็สามีที่ดีได้แน่นอน ส่วนฉันก็จะพยายามเข้มงวดกับตัวเอง ให้เป็ภรรยาทหารที่มีคุณสมบัติเหมาะสม หวังว่าวันเวลาข้างหน้า จะสามารถสนับสนุน เป็กำลังใจของกันและกัน ก้าวเดินไปพร้อมกับคุณได้
ว่ากันว่าทหารฝึก่หน้าหนาวลำบากอย่างยิ่ง ฉันจึงเตรียมเสื้อถักขนแกะไว้ให้คุณ ใส่ไว้ใต้เครื่องแบบทหาร หวังว่ามันจะนำความอบอุ่นมาให้คุณท่ามกลางลมหนาวได้บ้าง เพียงแต่ฉันไม่ทราบขนาดตัวคุณ ได้ยินเพียงว่าคุณตัวสูงใหญ่กว่าคุณลุงเฝิง เลยตั้งใจเลือกไซซ์ค่อนข้างใหญ่ ขอให้พอดีตัว
ลงนามท้ายจดหมาย เจิ้งหยวน
ครั้นเขียนเสร็จ เจิ้งหยวนก็เป่าหมึกบนกระดาษที่ยังไม่แห้งสนิท เมื่อคิดว่าเรียบร้อยดีแล้ว เธอจึงค่อยพับจดหมายสอดไว้ในเสื้อขนแกะ และวันรุ่งขึ้นระหว่างเธอออกไปส่งข้าวที่โรงพยาบาลในอำเภอ จึงแวะไปรษณีย์ส่งพัสดุด้วย ดังนั้นจึงถึงโรงพยาบาลช้าจนเกือบเลยเวลากินข้าว
เจิ้งเจวียนรับตะกร้าอาหารไปและหยิบช้อนตะเกียบข้างในออกมา “ทำไมพี่มาช้านักล่ะ?” เธอลูบชามกระเบื้องเคลือบ
“ข้าวอุ่นหมดแล้ว”
เจิ้งหยวนตอบเรียบเรื่อย “ฉันแวะไปรษณีย์มาน่ะ”
“พี่ไปไปรษณีย์ทำไม?” เจิ้งเจวียนหันหน้ามาถาม
“เฝิงเจี้ยนเหวินส่งของมาให้ที่บ้าน ฉันเลยเขียนจดหมายหาเขา” เจิ้งหยวนตอบตามจริงด้วยท่าทีสบายๆ
เมื่อได้ยินพี่สาวว่าเช่นนั้น เจิ้งเจวียนพลันดวงตาเป็ประกาย “ส่งอะไรมาเหรอ?” เฉินชุ่ยอวิ๋นก็มองมาด้วยความสนใจไม่ต่างกัน
เจิ้งหยวนผู้เผชิญสายตาสงสัยใคร่รู้ของทั้งสองคนจึงตัดสินใจเอ่ยรวบรัด “ไม่มีอะไรหรอก ส่งเสื้อโคตทหารให้คุณพ่อ ส่งเครื่องแบบทหารให้ฉัน แล้วยังมีบุหรี่ คูปองชนิดต่างๆ ด้วย อ้อจริงสิ เขายังให้เงินมาอีกห้าสิบหยวน ฝากฉันซื้อของให้คนอื่นๆ ในครอบครัว ถือเป็น้ำใจของเขา”
“ว้าว!” เจิ้งเจวียนอุทาน “ห้าสิบหยวน! พี่เขยใจกว้างซะจริง!”
เฉินชุ่ยอวิ๋นเองก็ใไม่ต่างกัน “ทำไมให้เงินมาอีกเล่า? เขาให้คุณพ่อคุณแม่มอบสินสอดแล้วไม่ใช่เหรอ?”
แต่เจิ้งหยวนคิดว่าไม่มีอะไรน่าแปลกใจ “สินสอดก็ส่วนสินสอดสิ ไม่เกี่ยวกับของที่เขาให้ฉันมา เงินนี้เขาใช้เอาใจพ่อตาแม่ยายต่างหาก” สิ้นเสียง ก็ชะโงกคอมองตะกร้าอาหาร “นี่ แกรีบตักอาหารออกมาเถอะ จะกินเท่าไรก็ตักไป ฉันต้องเอาส่วนที่เหลือไปส่งให้พี่ต่อ”
“พี่ยังไม่ไปส่งให้พี่ชายเหรอ?” เจิ้งเทียนิอยู่ชั้นหนึ่ง เฉินชุ่ย
อวิ๋นอยู่ชั้นสอง
เจิ้งเจวียนเลยคิดว่าเจิ้งหยวนจะส่งอาหารให้เจิ้งเทียนิก่อนแล้วค่อยขึ้นมา
ส่วนเฉินชุ่ยอวิ๋นเมื่อคิดตกแล้วก็ขมวดคิ้ว “หยวนหยวน ฉันว่าแกไม่น่ารับเงินนี้ สกุลเฝิงให้เงินสินสอดมาไม่น้อยแล้ว แกรับเงินมาอีกห้าสิบหยวนมันสมควรเหรอ? ต่อให้ซื้อของ…
มันก็มากเกินไป!”
เจิ้งหยวนทำหน้าจนใจ “นี่ คุณแม่คะ อย่าคิดมากไปเลย รักษาตัวเองดีๆ เถอะค่ะ ใกล้จะแต่งงานเป็สามีภรรยากันอยู่รอมร่อ มาแบ่งแยกเธอๆ ฉันๆ ทำไม ยังไงต่อไปเงินของเขาก็เป็ของฉันอยู่ดี เขาให้มา ฉันแค่รับไว้ เกรงใจอะไรกัน!ฉันพูดถูกใช่ไหมคะ?” เธอว่าพลางเอาผ้าคลุมตะกร้า
ก่อนจะลุกขึ้น “แม่ ฉันจะไปส่งอาหารให้พี่แล้วนะคะ”
สิ้นเสียง เธอรีบเผ่นออกไปราวกับทาน้ำมันบนฝ่าเท้า เธอไม่อยากฟังแม่บ่นอีกรอบหลังจากพ่อเทศนามาหรอกนะ ภาพลักษณ์เห็นเงินแล้วตาลุกวาวของเธอคาดว่าจะสลัดไม่หลุดเร็วๆ นี้แล้วกระมัง
อีกอย่าง เธอไม่ได้รับเงินเขามาฟรีๆ เสียหน่อย ส่งเสื้อขนแกะกลับไปให้เขาตัวหนึ่งแล้ว มันเป็ของที่ราคาสูงลิ่วในยุคสมัยนี้เลยนะ ตัวละตั้งหลายร้อยหยวนแน่ะ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้