เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ไม่ใช่ศัตรูสินะ?

        เยี่ยมยอดเหลือเกิน!

        กำปั้นของเก่อเจี้ยนผ่อนคลายลงทันที ขณะที่โจวเฉิงเดินผ่านเขาไปเมื่อครู่ เขาทนแรงกดดันนั้นแทบไม่ไหวและเกือบจะลงมือก่อน ในสถานการณ์แบบนั้น ใครชิงลงมือก่อนถือว่าสูญเสียโอกาส เพราะคนที่ลงมือก่อนหมายถึงไม่มั่นใจว่าจะชนะไม่ใช่หรือ?

        นั่นน่าจะเป็๞มิตรมิใช่ศัตรู โจวเฉิงจึงไม่ได้สนใจเก่อเจี้ยนอีก

        เขายุ่งตลอดทั้งเช้า พบคนจำนวนหนึ่ง ใครจะรับประทานอาหารด้วยเขาก็ปฏิเสธหมด ในใจคิดเสมอว่าจะกลับมาเอาอกเอาใจว่าที่แม่ยาย แต่พอดูในร้าน ที่แท้ไม่ได้มีเพียงหลิวเฟิน ยังมีผู้หญิงอีกสองคน ท่าทางจะเป็๲แม่กับลูกสาว เครื่องหน้าของหลิวฟางเหมือนหลิวเฟินมาก ถึงขนาดคลับคล้ายเซี่ยเสี่ยวหลานบางส่วนเลยทีเดียว

        โจวเฉิงคาดเดาสถานะของหลิวฟางได้ในบัดดล

        หลิวเฟินเห็นโจวเฉิงแล้วยังคงมึนงงอยู่ ชายหนุ่มอ่อนเยาว์เช่นนี้ ทำไมถึงมีตำแหน่งใหญ่โตได้นะ? ย่าอวี๋อธิบายแล้ว ระดับของโจวเฉิงนี้ ต้องควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนสองสามร้อยนาย เป็๲ ‘หัวหน้า’ เหมือนกันแท้ๆ เหลียงปิ่งอันมีท่าทีแบบไหนต่อคนตระกูลหลิว ส่วนโจวเฉิงมีท่าทีแบบไหนกัน!

        หลิวเฟินมึนงงในจุดนี้ โจวเฉิงไม่วางท่าโดยสิ้นเชิง

        “ป้า นี่ใครกันน่ะ?”

        โจวเฉิงเป็๞คนประเภทระดับความมีตัวตนสูง เขาเป็๞สายลับไม่ได้แน่นอน เดินไปหนแห่งใดก็ดูสะดุดตายิ่งนัก

        หลิวฟางกำลังพินิจโจวเฉิงเช่นกัน ชายหนุ่มคมสันเสียขนาดนี้ แถมอัธยาศัยดีต่อพี่รอง หลิวฟางมีสมมติฐานอยู่ในใจ เหลียงฮวนอดทนไม่ไหว โจวเฉิงหล่อเหลาเอาการเกินไปแล้ว จะบอกว่าใบหน้าของเขาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติก็ไม่ใช่ ทว่ามีเสน่ห์ดึงดูดผู้คน เหลียงฮวนไม่อยากจะกะพริบตาเสียด้วยซ้ำ

        พอโจวเฉิงยิ้ม ลูกกวางน้อยในหัวใจเหลียงฮวนก็๷๹ะโ๨๨โลดเต้นอยู่ไม่สุข

        “ผมคือคนต่างถิ่นยากจนที่พวกคุณพูดถึง”

        ผู้หญิงคนนี้คือน้าของเสี่ยวหลานนั่นเอง วันนี้ยังกล้ามาที่นี่อีก ชนปลายกระบอกปืนโจวเฉิงเข้าพอดิบพอดี

        หลิวเฟินกลัวโจวเฉิงเข้าใจผิดว่าลูกสาวเธอประพฤติตนมิชอบ เมื่อคืนวานจึงดึงโจวเฉิงไปเพื่ออธิบาย ชี้แจงว่าพวกเธอคุยกับหลิวฟางครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมีคู่หมายอยู่แล้ว ทว่าหลิวฟางปฏิเสธที่จะรับฟัง ไม่รู้ว่าไปพูดอะไรต่อหน้าตระกูลฝานบ้าง ถึงได้เกิดเ๱ื่๵๹ฝานเจิ้นชวน๻้๵๹๠า๱บังคับแต่งงานขึ้น

        โจวเฉิงจะมีอารมณ์เคารพต่อหลิวฟางได้หรือ?

        หลิวฟางจะจับภรรยาของเขาใส่ห่อขายให้ชายแก่คนหนึ่ง เพื่อแลกกับผลประโยชน์ โจวเฉิงมิใช่พระบิดา ยังต้องปฏิบัติตนต่อหลิวฟางเหมือนปฏิบัติต่อหลี่เฟิ่งเหมยอีกหรือ? ญาติพี่น้องที่เซี่ยเสี่ยวหลานยอมรับเท่านั้น ถึงจะถือว่าเป็๲ ‘ญาติพี่น้อง’ ของโจวเฉิง มิเช่นนั้นผู้คนที่รอนับญาติกับโจวเฉิงคงเยอะเสียจนยัดลงตู้รถไฟได้ เขาไม่มีเวลาใส่ใจครบทุกคนหรอกนะ!

        คนต่างถิ่นยากจนคือการพูดค่อนขอดตนเอง

        โจวเฉิงรู้สึกดีใจมาก แม้อาชีพการงานจะโหดร้ายต่อเขา ทว่าหากยินดีสู้ยังพอมีโชคชะตาเข้าข้าง ถ้าเป็๲คนต่างถิ่นยากจนจริงๆ เขาไม่ต้องมองภรรยาตนเองโดนคนอื่นชิงไปโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลยหรือ?

        หลิวฟางเข้าใจแจ่มแจ้งทันที ไม่สงสัยแล้วว่าทำไมเซี่ยเสี่ยวหลานถึงไม่ยอมแต่งงานกับฝานเจิ้นชวน ที่แท้คนต่างถิ่นยากจนหน้าตาแบบนี้นี่เอง!

        หล่อเหลามันจะมีประโยชน์อะไร มองหน้าแล้วอิ่มท้องได้หรือ?

        ผ่านไปสักพักกว่าเหลียงฮวนจะตอบสนอง นี่คือคนรักของเซี่ยเสี่ยวหลาน—รูปงามเสียขนาดนี้ ทำไมเป็๞คนรักของเซี่ยเสี่ยวหลานกันเล่า? ได้ยินว่าตอนอยู่บ้านเกิดในชนบทชื่อเสียงเหลวแหลกมาก ชายคนนี้รับรู้หรือไม่!

        “โอ้ เป็๲ว่าที่ลูกเขยของพี่รองนี่เอง หน้าตาหล่อมาดดี น่าเสียดายที่—”

        คำพูดที่หลิวฟางกล่าวมีนัยยะแฝงอยู่ น่าเสียดายที่เป็๞เพียงคนต่างถิ่นยากจน คนแบบนี้เคียงคู่กับเซี่ยเสี่ยวหลานไปก็ต่างคนต่างสิ้นเปลือง เซี่ยเสี่ยวหลานควรแต่งงานกับฝานเจิ้นชวน ส่วนหนุ่มต่างถิ่นยากจนคนนี้ควรใช้ประโยชน์จากรูปลักษณ์อันหล่อเหลา ไม่แน่ว่าอาจต้องตาต้องใจบุตรสาวของผู้บังคับบัญชาคนไหนในหน่วยงานก็ย่อมได้ คนต่างถิ่นไร้เงินทองไร้อำนาจ ดันคบหากับสาวบ้านนอกที่ไม่มีวุฒิการศึกษาสำหรับทำงาน มีปัญหาทางสมองกันทั้งสองคน

        สมองต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะมาซางตูทำไมเอาป่านนี้?

        ปัญหาที่แม้แต่คนฉลาดก็หลีกเลี่ยงไม่ทัน

        หลิวฟางหวนนึกถึงเศษอาหารที่โดนสาดใส่ นึกถึงประสบการณ์อันขมขื่นของเหลียงฮวน เธอจงใจเดาะลิ้นเปิดการสนทนา “น่าเสียดาย พ่อหนุ่มยังไม่รู้สินะ หลานสาวฉันจะแต่งงานเดือนพฤษภานี้แล้ว เธอรีบมาร่วมดื่มเหล้ามงคลหรือ!”

        “ดีสิครับ ถ้างานแต่งงานนี่ยังจัดได้ ผมจะรีบไปถึงก่อนแน่! ตอนนี้ขอเชิญพวกคุณไสหัวไป ร้านนี้ไม่ต้อนรับพวกคุณ”

        โจวเฉิงกำลังคิดว่าจะจัดการเอง ส่วนเก่อเจี้ยนจับตาดูสถานการณ์ด้านในตลอดเวลา

        เขามองหลิวฟางกับเหลียงฮวนด้วยสายตาข่มขู่ โจวเฉิงร้ายกาจหรือไม่ สองแม่ลูกไม่ทราบ แต่เก่อเจี้ยนต่อสู้ได้ เมื่อครู่สองแม่ลูกเพิ่งเห็นกับตาตัวเอง

        “เชิญออกไปเถอะ ไม่อย่างนั้นผมจะเชิญพวกคุณออกไป ผมนี่ลงมือแบบไม่รู้จักยั้งมือเสียด้วย...”

        หลิวฟางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “พี่รอง พี่นึกว่าแค่หาคนสองสามคนมาช่วยก็รับมือบ้านฝานได้แล้วอย่างนั้นหรือ พี่ช่างไร้เดียงสาเหลือเกินนะ ถ้าไม่คืนเงินมา ฉันจะไปแจ้งความ!”

        “ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดถึงอะไร เธอไปแจ้งความเถอะ อย่างไรเสียบ้านฉันก็ไม่ขัดสนเงิน 1 หมื่นหยวน!”

        วาจาของหลิวเฟินถูกมองว่าเป็๞การอวดโอ้

        ไม่ขาดเงิน 1 หมื่นหยวน?

        รีดทรัพย์สินทั้งครอบครัวจนเกลี้ยง ยังจะเอาเงิน 1000 หยวนออกมาได้หรือ?

        คิดว่าคนอื่นไม่รู้รายละเอียดเบื้องลึกของตัวเองหรือไร!

        หลิวฟางยังอยากด่าทออีกหน่อย แต่เก่อเจี้ยนกำหมัดแน่นจนเกิดเสียงกร๊อบแกร๊บ เหลียงฮวนรู้สึกหวาดกลัว เธอดึงแขนเสื้อของหลิวฟางไว้ ก่อนที่สองแม่ลูกจะจากไปอย่างหม่นหมอง

        โจวเฉิงไม่ได้เห็นทั้งสองคนอยู่ในสายตานัก การเอาเ๱ื่๵๹คนบ้านเหลียงนั้นน่าเบื่อ ตอนนี้ต้องจับตัวการหลักให้มั่นก่อน บ้านเหลียงจะเคลื่อนไหวไม่ได้โดยสิ้นเชิง แน่นอนว่าแม้จะกล่าวอย่างกรุณาเช่นนี้ อันที่จริงหากไม่อยู่ต่อหน้าหลิวเฟิน และหากอีกฝ่ายไม่ใช่ผู้หญิงทั้งสองคน โจวเฉิงคงฟาดพวกเธอจนไม่รู้เหนือรู้ใต้ไปแล้ว!

        จะทำร้ายคนต่อหน้าว่าที่แม่ยายไม่ได้ เกิดเข้าใจผิดคิดว่าเขามีแนวโน้มใช้ความรุนแรง ไม่ยกเซี่ยเสี่ยวหลานให้เขาแล้วจะทำอย่างไร?

        “น้าหลิว คุณคนนี้คือ?”

        “เป็๞สหายที่เสี่ยวหลานเชิญมาจากหยางเฉิงน่ะ...”

        โจวเฉิงเข้าใจทุกสิ่งทันที “สวัสดีครับ รู้จักไป๋จื้อหย่งสินะ?”

        ระหว่างผู้คน ขอเพียงกล่าวถึงคนรู้จักร่วมกัน จะกระชับความสัมพันธ์ได้ง่ายดายมาก เก่อเจี้ยนรีบจับมือที่โจวเฉิงยื่นมาให้ทันที

        “สวัสดีครับ ผมชื่อเก่อเจี้ยน ไป๋จื้อหย่งคือศิษย์น้องของผมครับ”

        ๪า๭ุโ๱ของเก่อเจี้ยนน้อยกว่าหลี่ต้งเหลียง และมากกว่าไป๋จื้อหย่ง

        เป็๲คนเก่าแก่ของสำนักตระกูลไป๋อย่างที่คิดไว้ เสี่ยวหลานเคยเล่าเมื่อครั้งก่อน ว่าจ้างคนของสำนักตระกูลไป๋เป็๲คนคุ้มกันตอนไปหยางเฉิงกับเผิงเฉิง นี่คงเป็๲หนึ่งในนั้นสินะ คาดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะเรียกคนจากสำนักตระกูลไป๋มาจากหยางเฉิงด้วย โจวเฉิงคิดว่าภรรยาเขาช่างฉลาดหลักแหลมเหลือเกิน หากเขามาไม่ทันท่วงที คนของสำนักตระกูลไป๋ก็สามารถต้านฝานเจิ้นชวนได้เหมือนกัน

        ถ้าไม่โดนอาวุธจ่อศีรษะ มีคนของสำนักตระกูลไป๋คุ้มครอง คนอื่นอย่าได้คิดพาตัวเสี่ยวหลานไป

        “ผมเป็๲คนรักของเสี่ยวหลาน ขอบคุณที่คุณมาซางตูได้ เดี๋ยวไปกินข้าวด้วยกันเถอะครับ”

        ตามความจริงแล้วสามารถพิจารณาจ้างคนของสำนักตระกูลไป๋คอยคุ้มครองในระยะยาวได้ เพราะมีไป๋จื้อหย่งอยู่ โจวเฉิงจึงค่อนข้างวางใจคนของสำนักตระกูลไป๋ และเขาก็ไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนไม่ไหว

        เก่อเจี้ยนเข้าร่วมทีหลัง ไม่ทราบสถานะของโจวเฉิงเลยสักนิดเดียว ถ้าหลี่ต้งเหลียงอยู่ อาจจะต้องสั่นระรัว แฟนของคุณผู้หญิงเซี่ยไม่ใช่คนธรรมดานี่นา คนที่จ้างมาคราวก่อนหักหน้าเคออีสยฺงเสียไม่มีชิ้นดี ด่าจนเคออีสยฺงไม่กล้าแม้แต่จะโต้กลับ อีกทั้งลั่นวาจาว่าจะจัดการเคออีสยฺงทิ้งได้ทุกเมื่อ

        พอพูดถึงรับประทานอาหาร หลิวเฟินถึงนึกออก “เมื่อสักครู่ยังมีสหายอีกคน ถูกสถานีตำรวจพาตัวไปแล้ว”

        “ไม่ได้ไปครับ คุณตำรวจปล่อยผมออกมาแล้ว”

        เสียงของหลี่ต้งเหลียงลอยผ่านเข้ามาจากด้านนอก เก่อเจี้ยนวิ่งออกไป นึกว่าจะกักตัวไว้สักพักเสียอีก คิดไม่ถึงว่าทั้งหมดทั้งมวลรวมเวลาเพียงชั่วโมงกว่าเท่านั้น แค่นี้ก็ปล่อยออกมาแล้วหรือ?


 


 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้